[บทความแปล] 6 ฟีเจอร์ใหม่ๆใน Android M ที่มีอยู่ใน iOS มาก่อนแล้ว

Advertisements

หากพูดถึง Android และ iOS ทั้งคู่นั้นถือเป็นคู่แข่งกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วจริงไหมครับ เพราะเจ้า 2 ระบบปฏิบัติการนี้ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมที่สุดในตลาดสมาร์ทโฟนนั่นเอง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้ง 2 OS นี้จะหลีกเลี่ยงการปะทะกันทั้งในด้านของธุรกิจ รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆที่ปล่อยออกมาครับ เพราะแน่นอนว่าทั้ง 2 OS นี้ต่างต้องการที่จะทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการใหม่ๆในการใช้งาน จนบางครั้งบางทีฟีเจอร์ที่ปล่อยออกมาใหม่ๆของแต่ละ OS จึงอาจจะคล้ายกันหรือเหมือนกันไปบ้าง ทั้งนี้ก็น่าจะเพื่อประโยชน์ของตัวผู้ใช้นั่นเองครับ

อย่างที่เราทราบกันดีว่าตอนนี้ทางฝั่ง Android ที่พัฒนาโดย Google นั้นกำลังจะปล่อยอัพเดทใหม่ออกมาในอีกไม่นานนี้ โดยเจ้า Android ตัวใหม่ที่กำลังจะมานั้นมีชื่อว่า M ซึ่งเป็นอักษรย่อที่บอกใบ้เราว่า Android เวอร์ชั่นใหม่จะขึ้นต้นด้วยตัว M นั่นเองครับ แต่นอกจากที่เวอร์ชั่นใหม่ของ Android จะมาด้วยชื่อใหม่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นนั่นก็คือ พวกฟีเจอร์ต่างๆที่นอกจากจะได้รับการปรับปรุง ยังมีการเสริมเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆเข้าไปด้วย แต่ทว่าฟีเจอร์ใหม่ๆที่จะเข้ามาใน Android M นั้นกับดูคับคล้ายคับคลากับฟีเจอร์ต่างๆที่มีอยู่ใน iOS มาสักพักนึงแล้วครับ วันนี้เราเลยถือโอกาสนำฟีเจอร์ต่างๆดังกล่าวมาให้ดูกันว่า มันมีอยู่ใน iOS มาก่อนแล้วจริงๆหรือไม่ครับ

6 ฟีเจอร์ใหม่ใน Android M ที่มีอยู่ใน iOS มาก่อนแล้ว

1. App Permission

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ใน Android M อย่าง App Permission จะเป็นฟีเจอร์ที่เด้งขึ้นมาถามเราครับว่า เราจะอนุญาติให้แอพใช้ข้อมูลต่างๆในอุปกรณ์ของเราหรือไม่ ซึ่งหากเราจะทำการติดตั้งแอพใดๆเจ้าแอพดังกล่าวก็จะทำการขออนุญาติเราก่อนในทันทีก่อนทีจะติดตั้ง ซึ่งสำหรับฟีเจอร์นี้มีมานานมากแล้วครับใน iOS

2. Floating text selection menu

ก่อนหน้านี้สำหรับ Android นั้นหากว่าผู้ใช้ต้องการจะเลือกและ Copy ข้อความต่างๆ จะมีเมนูโผล่ขึ้นมาด้านบนของหน้านั้นๆ แต่สำหรับ Android M ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะมีการปรับปรุงใหม่ให้เป็นแบบ Floating Text ครับ เป็นกล่องข้อความที่โผล่ขึ้นมาถามบนข้อความที่เราเลือกเลยครับว่า เราจะออกคำสั่งอะไรกับข้อความที่เราเลือกไว้ ลองเดากันดูสิครับว่าฟีเจอร์แบบนี้หน้าตาแบบนี้นั้นมาจากไหนกันนะ? ใช่แล้วครับฟีเจอร์หน้าตาแบบนี้มีอยู่ใน iOS มาก่อนแล้ว

3. Native fingerprint sensor support

สำหรับฟีเจอร์อย่างการสแกนนิ้วมือนั้นต้องบอกเลยว่าเข้ามาใน iOS ตั้งแต่ปี 2013 แล้วครับ และตอนนี้ฟีเจอร์นี้ก็ใกล้จะเข้ามาใน Android แล้วเช่นกัน ใน Android M ที่จะมาถึงนั้นจะมีการใส่ฟีเจอร์สแกนลายนิ้วมือเข้าไปแล้วครับ ทั้งนี้ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้มีผู้ผลิตสมาร์ทโฟนหลายๆเจ้าพยายามที่จะใส่ฟีเจอร์อย่างการสแกนลายนิ้วมือเข้าไป แต่ก็ถูกทางผู้พัฒนา Android ปฏิเสธที่จะทำการใส่ฟีเจอร์นีเข้าไปแบบ Built-in ครับ

4. Doze

สำหรับฟีเจอร์ Doze ที่จะเข้ามาใน Android M นั้นอธิบายง่ายๆก็คือ ฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่มากขึ้นนั่นแหละครับ โดยมันจะทำให้เจ้าสมาร์ทโฟนของเราหลับได้ลึกขึ้น ซึ่งจะทำการปิดการทำงานเบื้องหลังของแอพต่างๆทั้งหมดครับ ทั้งนี้ต้องบอกว่าฟีเจอร์นี้เหมือนจะมีอยู่ใน iOS มาเป็นปีแล้วครับ เพียงแต่จะมีบางแอพอย่างนาฬิกาปลุกและการแจ้งเตือนสำคัญๆเท่านั้นที่จะทำการปลุกเจ้าสมาร์ทโฟนของเราได้ ซึ่งนี่ก็เป็นความลับที่มีอยู่ใน Apple มาช้านานแล้วครับ

5. Repeat caller alerts in Do Not Disturb mode

สำหรับฟีเจอร์อย่าง Do Not Disturb Mode ใน iOS นั้น นอกเหนือจากการปิดเสียงทุกอย่างรวมทั้งนาฬิกาปลุกแล้ว มันยังสามารถที่จะปิดเสียงริงโทนโดยอัตโนมัติอีกด้วย สำหรับใครที่โทรหาเราติดๆกัน 2 ครั้งภายใน 3 นาที ซึ่งฟีเจอร์นี้เหมือนว่าทาง Google เองก็จะทำออกมาคล้ายๆกันครับ หลังจากที่ทาง Android M มาถึงในปีนี้

6. MIDI support

สำหรับตอนนี้ Android นั้นไม่ได้รองรับกับการเชื่อมต่อกับ MIDI หรือพูดง่ายๆก็คือไม่รองรับกับการใช้งานร่วมกับเหล่าเครื่องดนตรีต่างๆ ขณะที่ iOS นั้นรองรับกับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เครื่องดนตรีมาหลายปีแล้วครับ แต่สำหรับการมาของ Android M นั้นจะจะสามารถทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับเครื่องดนตรีอิเล็กโทรนิกส์ต่างๆในกาที่จะเล่นเสียงออกมาจากสมาร์ทโฟนโดยตรงได้เลยนั่นเองครับ