วันนี้แอดมินได้เครื่อง LG G3 มาทดสอบเรียบร้อยแล้วครับ ก่อนหน้านี้ก็ได้ไปร่วมงานรอบ Blogger เพื่อทดลองเล่น LG G3 กันแบบส่วนตัวสุดๆได้รับฟังถึงจุดเด่น ความสามารถของรุ่นนี้โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญจาก LG เอง แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเพราะงานจบก็อดเล่น เพราะมีเวลาน้อยจริงๆประมาณครึ่งชั่วโมง T^T ในวันนั้นผมมีโอกาสได้ทดลองฟีเจอร์ต่างๆและถ่ายรูปของตัวเครื่องมาทำพรีวิวไปแล้วก่อนหน้านี้ครับ โดยส่วนตัวผมคิดว่า LG G3 เป็นสมาร์ทโฟนที่มีจุดเด่นหลากหลายแต่วันนี้ที่จะมาพูดถึงกันก็คือส่วนของกล้องหลัง เป็นหลัก โดยได้ถ่ายรูปมาจากหลายๆสภาพแสงเพื่อทดสอบว่ากล้องของ LG G3 ดีสมคำร่ำลือจากเว็บเมืองนอกหรือไม่? เชิญชมได้ ณ บัด Now
ในบทความนี้
สภาพแสงถ่ายกลางแจ้ง
Comment : ชัด แจ่ม สวยที่สุดแล้ว
สภาพแสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ : ถ่ายภายในห้อง
Comment : เป็นสภาพแสงที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับกล้องของ LG G3 มากที่สุดแล้วล่ะเพราะสามารถให้สีที่สมจริงที่สุด และให้ความชัดของภาพได้คมที่สุดเท่าที่ลองมาแล้วนะ
สภาพแสงจากภายนอก + โหมด HDR : ถ่ายออกนอกหน้าต่างเวลาตอน 5โมงครึ่ง
Comment : ถ้าไม่เปิดโหลด HDR บริเวณขอบหน้าต่างจะมืดกว่านี้อีก แทบจะดำเลยก็ว่าได้แต่ด้วยความเจ๋งของโหมดนี้ช่วยให้ภาพสว่างขึ้น และเมื่อดูรูปจากตัวเครื่องของ LG G3 เองแล้วจะพบว่ามันสวยจริงๆ สวยกว่าดูจากจอคอมซะอีก (ความละเอียดหน้าจอ+คุณภาพก็ต่างกันแล้ว)
สภาพแสงน้อย ไม่เปิดแฟลชและ HDR
Comment : จริงๆแล้วสถานที่จริงมืดกว่านี้เยอะครับ แต่ว่าภาพที่ได้สว่างกว่าความเป็นจริงเยอะเลย โดยมีจุดที่แสงสว่างผ่านเข้ามาได้จะมาจากด้านบนบันไดของภาพนี้ ข้อด้อยของกล้องหลัง LG G3 อย่างแรกเลยคือแพ้สภาพแสงแบบนี้ สังเกตุได้เลยว่าความคมชัดหายไปเยอะ แล้วก็มีน้อยส์(Noise)เยอะด้วย
Comment : ภาพนี้ถ่ายตอนเวลา 1ทุ่มครึ่งครับ สถานที่จริงมืดกว่าในรูปนี้ค่อนข้างมากเลย แต่ด้วยกล้อง LG G3 สามาถทำให้ภาพที่ได้สว่างกว่าความเป็นจริงโดยจุดที่สว่างแบบเห็นได้ชัดคือท้องฟ้าด้านหลังตรงกลางของภาพ จะสว่างขึ้น สถานที่จริงๆจะมืดกว่นี้แบบว่าพระอาทิตย์จะตกดินอยู่แล้ว
Comment : ถ่ายตอน 2ทุ่มครึ่งครับ สังเกตุว่าจะได้ภาพที่สวง่ากว่าความเป็นจริง (สถานที่จริงมืดมาก มองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่ก้อนเมฆ) แต่นี่ทำให้มองเห็น ปัญหาคือ น้อยส์ (Noise) เยอะ
สภาพแสงน้อย,ห้องมืด + เปิดแฟลช
Comment : สถานที่จริงตอนนี้เวลา 1ทุ่มในห้องจริงมืดมาก ไม่มีแสงใดๆจากภายนอกเลยนอกจากแสงแฟลชของกล้อง LG G3 สีของภาพจะออกอมเหลืองนิดๆ
Comment : ต่อยอดจากด้านบนที่เดียวกัน เวลาเดียวกันแต่เปิดแฟลช เห็นได้ชัดว่าน้อยส์ (Noise) เยอะอีกแล้ว แถมภาพที่ได้สีซีดอีกด้วย
Comment : ไร้คำบรรยายครับ คมชัดด้วย สวยด้วย มีไฟจากหลอดไฟสีเหลืองส้ม ช่วยนิดเดียวจริงๆแล้วใช้ไฟแฟลชของ LG G3 ช่วยด้วย
Comment : คมชัดแจ๋ว แต่สีที่ได้จากแฟลชทำให้ดอกไม้ค่อนข้างซีดกว่าความเป็นจริง
Comment : สวนหน้าบ้านสถานที่จริงมืดมาก มีแสงช่วยจากธรรมชาติและบ้านรอบข้างนิดเดียว เปิดแฟลชป๊าป สว่างวาบ + น้อยส์(Noise)กระจาย
สภาพแสงที่ถ่ายหลอดไฟแบบต่างๆโดยตรง ไม่ใช้แฟลชช่วย
Comment : ต้องเอากล้อง LG G3 ยื่นไปใกล้ๆหลอดไฟหน่อยถึงจะได้รายละเอียดที่ชัดเจน ไม่งั้นถ้าถ่ายไกลๆจะเห็นแค่ไฟขาวๆสว่างไปหมด แต่ไม่เห็นถึงรายละเอียดภายในตัวแก้วที่ครอบหลอดไฟอยู่
Comment : สมจริงดีครับ สีซีดกว่าความเป็นจริงเล็กน้อยสำหรับสีส้ม แต่ภาพยังคมชัดดี
Comment : ผมชอบรูปนี้มากที่สุดเลย คมชัดดีมากๆ โทนสีก็สมบูรณ์แบบไม่เพี้ยนเลย
สรุป : กล้องหลังของ LG G3 น่าสนใจมากๆมีการพัฒนาจาก LG G2 แบบเห็นได้ชัด โดยเฉพาะมีไฟแฟลชแบบ 2 โทนอีกด้วยช่วยให้สีที่ได้สมจริงมากขึ้น แต่ว่าทุกครั้งที่เปิดแฟลช (Flash) กว่าจะถ่ายได้ต้องใช้เวลารอยิงแฟลชครบ 2 สีประมาณ 3-4 วินาที จากที่สังเกตุคือยิงไฟแแฟลชสีขาวก่อนสีส้ม (ยิง2จังหวะ) และแฟลชจะมีโหมดให้เราเลือกต่อเมื่อสถานที่นั้นมืดจริงๆ ถ้าสถานที่มีแสงเยอะโหลดเปิดแฟลชจะไม่ทำงาน (เราเลือกเปิดไม่ได้ว่างั้นเถอะ) / ส่วนถ่ายสภาพแสงเยอะหรือปานกลางจะได้คุณภาพภาพที่แจ่มที่สุด คมชัดที่สุด ส่วนกล้องหน้าจะยกยอดมาพูดถึงในรีวิวตัวเต็มแล้วกันนะครับ ^^
