รีวิว ZTE Blade A35e มือถือประกันนาน! จอใหญ่ แบตอึด ราคาแค่ 1,999 บาท

ZTE Blade A35e สมาร์ตโฟน 4G ราคาประหยัดที่สุดในตลาดที่มีการรับประกันให้นานถึง 18 เดือนจากการดูแลของ VST ECS ประเทศไทย ได้หน้าจอขนาดใหญ่ 6.52 นิ้ว HD+, ชิปเซ็ต Octa-core 1.6GHz, แบตอึด 5,000mAh และกล้อง AI 8MP

สำหรับกลุ่มผู้ใช้ในงานในระดับเริ่มต้น เปลี่ยนจากฟีเจอร์โฟนมาใช้เป็นสมาร์ตโฟน หรือเอาไว้ให้ผู้สูงอายุและเด็กเพื่อติดต่อสื่อสาร, แชต หรือลองเล่นแอปโซเชียล และใช้แอปพลิเคชันพื้นฐานทั่วไป โดยเน้นที่ด้านของราคาเป็นหลัก เพราะราคาขายถูกมากๆ โดยที่ยังมีประกันดีๆ เอาไว้ให้อุ่นใจด้วยนั้นเอง

 ดีไซน์และหน้าจอ

ZTE Blade A35e มาพร้อมดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Silvery Gray และ Ice Green ผิววัสดุเป็นพลาสติก เก็บงานลบเหลี่ยมมุมได้ดี ตัวเครื่องจริงดูดีถ้าเทียบกับราคาจำหน่าย น้ำหนักเบา ตัวบางแค่ 8.5 มม.

หน้าจอแสดงผลขนาด 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1280×576 พิกเซล) ออกแบบหน้าจอแบบ Waterdrop Display จอภาพใหญ่ สีสันและแสงสว่างสามารถพอใช้ในที่แจ้งได้ไม่แย่ครับ ส่วนใช้งานในที่ร่มไม่มีปัญหาอะไร เห็นได้ชัดสบายๆ ติดตั้งกล้องหน้า 5MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งาน

ลำโพงเสียงดังชัดเจน ค่อนข้างดังทีเดียว สามารถต่อกับชุดหูฟังเพื่อใช้เป็นเสาอากาศรับฟังวิทยุ FM ได้นะครับรุ่นนี้ แต่จะไม่มีหูฟังแถมมาให้ภายในกล่องนะ

รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบ 4G และมีช่องใส่ micro SDcard เพิ่มหน่วยความจำในสล็อตที่ 3 ได้ครับ สามารถเพิ่มหน่วยความจำเพื่อไว้เก็บไฟล์ภาพ เพลง หรือคลิปวิดีโอ เสริมหน่วยความจำให้กับตัวเครื่อง เพราะรุ่นที่ผมนำมารีวิวเป็นรุ่นที่หน่วยความจำ 64GB อาจจะไม่เพียงพอสำหรับคนชอบถ่ายคลิปหรือถ่ายภาพบ่อยๆ แต่ถ้าไม่ได้เป็นสายชอบถ่ายภาพคิดว่าหน่วยความจำในระดับนี้ใช้พอครับ เพราะสเปกเครื่องก็ไม่ได้เหมาะที่จะใช้ติดตั้งเกมที่มีขนาดไฟล์ใหญ่ๆ อยู่แล้ว

ข้อดีของ ZTE Blade A35e ก็คือเรื่องของความอึดของแบต ด้วยารที่ตัวเครื่องไม่กินพลังงานมากนัก และก็ให้แบตใหญ่ตามมาตรฐาน 5000mAh มาให้ รุ่นนี้จึงสามารถอยู่ได้เช้าถึงค่ำสบายๆ หรือวันไหนใช้งานน้อยๆ ก็อยู่ได้สองวันโดยไม่ต้องชาร์จพลังงานเลยครับ

อุปกรณ์ภายในกล่องมีเคสใสแถมมาให้ด้วย และสายชาร์จพร้อมที่ชาร์จแบบ 10W ส่วนฟิล์มกันรอยแปะมาให้แล้วตั้งแต่ภายในกล่อง จากที่ลองทดสอบชาร์จแบตจากตัวอะเดปเตอร์ 10W ที่แถมมาให้ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 นาทีต่อพลังงานแบตเตอรี่ 1% ครับ ถ้าวันไหนแบตเตอรี่หมดก็ใช้เวลาชาร์จ 2 ชั่วโมงโดยประมาณ

ประสิทธิภาพการทำงาน

ZTE Blade A35e ใช้ชิปเซ็ต Unisoc SC9863A1 Octa-Core 1.6GHz สามารถรองรับการใช้งานทั่วไปได้ เช่นแอปพลิเคชันพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับทุกคนในยุคนี้ที่ควรต้องมีสมาร์ตโฟนติดตัว อย่างแอปพลิเคชันธนาคาร หรือแอปจากทางภาครัฐต่างๆ ทั้งเป๋าตัง, ทางรัฐ, ThaID รวมถึงการเล่นโซเชียล, ดูคลิปวิดีโอขนาดความละเอียด 720p พวกนี้ทำได้สบายๆ และทำได้ดีเพราะกินพลังงานน้อยครับ

แต่ไม่ได้มีความแรงมากนัก จึงไม่ได้เหมาะสำหรับการเล่นเกม ถ้าจะใช้เล่นเกมก็เป็นเกมสำหรับเด็กๆ หรือเกมเบาๆ แนวพัซเซิล แต่ระบบก็นิ่ง ทดสอบใช้งานมายังไม่เจอปัญหาค้าง, รีสตาร์ท หรืออาการผิดปกติใดๆ

รันด้วยระบบ Android 14 ให้ RAM 2GB (ขยายได้ +4GB รวมเป็น 6GB ) หน่วยความจำภายใน 64GB ระบบเรียบๆ ง่ายๆ ไม่มีอะไรมากนัก แอปฝั่งมาในระบบน้อยดีครับ ประหยัดพื้นที่และไม่รกเครื่อง

แต่ก็มีแอปจัดการพื้นที่หน่วยความจำเครื่องมาให้ สำหรับใช้ในการสแกนไฟล์ขยะหรือไฟล์ขนาดใหญ่

ในด้านกล้องถ่ายภาพ ให้กล้องหน้าความละเอียด 5MP กล้องหลังความละเอียด 8MP AI Camera ไม่มีโหมดถ่ายภาพพิเศษอะไรครับ  รองรับระบบโฟกัสอัตโนมัติ (Auto Focus) สามารถซูมภาพได้สูงสุด 4x และมีความสามารถในการปรับใบหน้าเนียนใสได้

การเชื่อมต่อของเครื่องรองรับ 4G LTE, WiFi 2.4GHz (ไม่รองรับ 5.0GHz), เชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, และมีพอร์ต USB Type-C พร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.

สเปกโดยรวมของ ZTE Blade A35e

• หน้าจอ: 6.52 นิ้ว HD+ (1280×576 พิกเซล) Waterdrop Display
• ชิปเซ็ต: Unisoc SC9863A1 Octa-Core 1.6GHz
• RAM:  2GB+4GB Dynamic RAM)
• ROM: 64GB (รองรับ microSD Card)
• กล้องหลัง: 8MP AI Camera
• กล้องหน้า: 5MP
• แบตเตอรี่: 5,000mAh พร้อม Smart Power-saving Technology
• ระบบปฏิบัติการ: Android U / U Go
• การเชื่อมต่อ: 4G LTE, WiFi 2.4GHz, Bluetooth 5.2, VoLTE
• พอร์ต: USB Type-C, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
• สีที่มีจำหน่าย: Silvery Gray, Ice Green
• การรับประกัน: 18 เดือน
• ราคา: 1,999 บาท

สรุปท้ายรีวิว

ZTE Blade A35e เป็นสมาร์ตโฟนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือราคาประหยัด จุดเด่นของรุ่นนี้คือ หน้าจอใหญ่ แบตอึด ประสิทธิภาพเอาไว้ใช้งานทั่วไป เช่นการติดต่อสื่อสาร, เล่นแชตและโซเชียล หรือรับชมคลิป, ฟังเพลง แอปที่จำเป็นสำหรับคนยุคนี้เช่นแอปธนาคาร หรือแอปจากภาครัฐ อย่างเป๋าตัง, ทางรัฐ, ThaID ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทุกคนควรจะมีสมาร์ตโฟนเอาไว้ใช้เป็นของตัวเครื่องสักเครื่องหนึ่ง

และรุ่นนี้ก็มาในราคาที่ประหยัดที่สุด พร้อมกับได้รับการรับประกันนานถึง 18 เดือน ซึ่งเป็นจุดขายของรุ่นเลย และยังเป็นบริการหลังการขายที่อำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค โดยมีบริการรับส่งเครื่องซ่อมถึงหน้าประตูบ้าน (Door-to-Door Service) สำหรับลูกค้าในพื้นที่เขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีกด้วยครับ

มีวางจำหน่ายทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Ice Green และ Silver Gray วางจำหน่ายที่ร้านตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าพันธมิตร ของ วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) กว่า 5,500 ร้านค้า ทั่วประเทศ และแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เข้าร่วมรายการ