
Infinix NOTE 30 5G เกมมิ่งสมาร์ตโฟนที่น่าสนใจในกลุ่มราคาไม่เกิน 8,000 บาท เป็นสมาร์ตโฟนในกลุ่มใช้งาน 5G ได้สเปคเครื่องที่ดี เมื่อดูจากราคาจำหน่าย และมีความพิเศษกว่า เพราะมาในคอนเซ็ปต์ “5G Speed Gameplay หนึ่งเดียวที่มาพร้อม RoV Edition” ตั้งแต่แพ็กเกจอุปกรณ์ที่มีลวดลายจากคาแรกเตอร์ตัวละคร ROV และภาพพื้นหลังพิเศษ Wallpaper Limited Edition Infinix x RoV ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกเลยครับ ที่มีโปรดักส์สมาร์ตโฟนซึ่งได้รับการออกแบบร่วมกับเกม ROV ออกมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ตั้งแต่แพ็กเกจภายนอก ก็เหมาะสมกับการเป็นสมาร์ตโฟนด้านเกมมิ่ง นับเป็นเครื่องอีดิชั่นพิเศษที่มาในราคาไม่แพงเลยด้วย
การออกแบบภายนอก
Infinix NOTE 30 5G มาพร้อมกับกล่องสองชั้น ที่ใช้ลวดลายลิขสิทธิ์จาก ROV สกรีนลายตัวละคร “Bright ผู้สืบทอดแห่งแสง” พร้อมสติ๊กเกอร์ Limited จาก ROV
อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ครบ ทั้งเคสใสตรงรุ่นสกรีนลาย JBL Sound ซึ่งเป็นระบบเสียงที่สมาร์ตโฟนรุ่นนี้เลือกนำมาใช้ พร้อมฟิล์มกระจกแถมมาให้หนึ่งแผ่น (มีฟิล์มที่ติดหน้าจอมาให้จากโรงงานเรียบร้อยแล้วอีก 1 แผ่น) สายชาร์จ USB Type C และที่ชาร์จพลังไฟ 45W ซึ่งเป็นตัวอะเดปเตอร์สำหรับการชาร์จไวให้กับ Infinix NOTE 30 5G
อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ครบ แต่จะขาดตรงไม่ได้แถมชุดหูฟังมาให้ภายในกล่องนะครับ
Infinix NOTE 30 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่ให้หน้าจอมาใหญ่ครับ เป็นหน้าจอความละเอียด FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว ความสว่างสูงสุด 580nit มีอัตราการรีเฟรชสูง 120Hz เป็นหน้าจอเกรดดีมีคุณสมบัติสำหรับการใช้เล่นเกมมาครบ
เจาะรูวางกล้องหน้าความละเอียด 16MP ขอบจอเล็ก ลำโพงสเตอริโอคู่เสียงดังชัดเจนครับ มีมิติและเนื้อเสียง เป็นลำโพงเสียงดีที่ถูกปรับแต่งมาโดย JBL มีช่องเชื่อมต่อหูฟัง 3.5มม. รองรับระบบเสียง DTS, Hires นำมาใช้ด้านความบันเทิง เล่นเกม, ดูหนัง, ฟังเพลง ไม่ต้องต่อลำโพงภายนอกเพิ่มเติมในการใช้งานในห้องส่วนตัวครับ
การออกตัวเครื่องตัดเหลี่ยม เป็นทรงเครื่องสมาร์ตโฟนสมัยใหม่ สีสันสวยเล่นกับแสงที่มากระทบเป็นสีสันได้หลายเฉด ผิวสัมผัสแบบด้านไม่เกิดครายรอยนิ้วมือในการใช้งาน ผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP53 กันความชื้นหรือน้ำกระเซ็นได้ไม่เกิดความเสียหายง่ายๆ
รองรับที่สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่องตรงปุ่มพาวเวอร์ สแกนได้ไว ไม่มีปัญหาใดๆ รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน
ตัวเครื่องแน่นหนาครับ แบรนด์ Infinix ผลิตเครื่องมาได้ดี รองรับ 2 ซิมการ์ดเชื่อมต่อ 5G ได้ทั้งสองสล็อตซิม และรองรับการใส่ micro SD Card เพิ่มหน่วยความจำได้ในสล็อตซิมที่สามครับ
Infinix NOTE 30 5G ตัวเครื่องไม่ใหญ่แม้หน้าจอจะใหญ่ เพราะทำขอบจอมาได้บาง ตัวเครื่องมีความหนาโดยรวมที่ 8.45มม. เท่านั้น น้ำหนัก 204.7 กรัม โดยภายในใส่แบตเตอรี่มาให้ 5,000mAh แบตใหญ่เต็มมาตรฐานเครื่องในยุคนี้
พร้อมกับรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 45W เป็นเทคโนโลยีการชาร์จเร็วแบบ Dual-channel เป็นการรับไฟสองทางแบบคู่ขนาน เพื่อสร้างความเร็วในการรับไฟเข้า พร้อมยังควบคุมอุณหภูมิเครื่องในขณะชาร์จไปด้วย ซึ่งเป็นระบบชาร์จไวที่ให้มาโดดเด่นมากเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่ขายในเรทราคาเดียวกัน
โดย Infinix NOTE 30 5G รองรับเทคโนโลยี All-Round FastCharge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยที่ชาร์จไว 45W ที่แถมมาภายในกล่องได้ค่อนข้างเร็วมาก ในเวลาแค่ประมาณ 30 นาที จะชาร์จแบตเตอรี่ได้มากถึง 75% และเทคโนโลยี All-Round FastCharge จะรองรับการชาร์จไวหลายระบบด้วยนะครับ เพราะเราสามารถใช้ที่ชาร์จ PD 3.0 มาใช้เพื่อการชาร์จเร็วได้ด้วยเช่นกันโดยจะรองรับสูงสุดที่ 35W
Infinix NOTE 30 5G ยังถูกใส่ความสามารถที่นับเป็นคุณสมบัติของเครื่องเกมมิ่งโดยตรงมาให้ นั้นคือการใช้ไฟในโหมด Bypass โดยการให้ตัวเครื่องใช้พลังงานจากแหล่งจ่ายไฟโดยตรงแบบที่ไม่ต้องผ่านแบตเตอรี่ เพื่อยืดอายุของตัวแบตเตอรี่ในกรณีใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ และยังลดความร้อนของเครื่องเพื่อให้ตัวอุปกรณ์สามารถรันบนความเร็วระดับสูงได้เต็มที่ โดยไม่ถูกลดประสิทธิภาพลงเพราะความร้อนสะสมในระหว่างการชาร์จพลังงาน
กล้องถ่ายภาพด้านหลัง เป็นกล้องความละเอียดสูงเกินราคามาให้เลยครับ กล้องหลังตัวหลักความละเอียด 108MP ทำงานคู่กับกล้อง Depth 2MP และสุดท้ายคือกล้อง QVGA ช่วยในการจับโฟกัส
ตัวเครื่องรองรับสัญญาณ Wi-Fi ทั้ง 2.4 และ 5.0Ghz รวมถึงการติดตั้งเสาสัญญาณเทคโนโลยี UPS (Ultra Powerful Signal) เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Infiniป เป็นตัวปรับปรุงการเชื่อมต่อสัญญาณในสถานการณ์ที่ตัวเครื่องจับสัญญาณได้อ่อน เช่น กำลังอยู่ในชั้นใต้ดิน หรืออยู่ในลิฟต์ หรืออยู่นอกระยะสัญญาณที่เริ่มมีความเสถียรต่ำ ตัวอัลกอริทึ่มจะสามารถสลับเสาอากาศรับสัญญาณได้ด้วยตัวเองทันที เพื่อจูนหามุมและจุดที่จะรับสัญญาณได้เข้มข้นมากขึ้น
โดยสามารถรวมเอาสัญญาณ Wi-Fi และสัญญาณเครือข่าย 5G รวมไว้เป็นหนึ่ง เพื่อเพิ่มความเร็วดาวน์โหลดและความเสถียรในการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้มากขึ้นด้วยนะครับ เป็นคุณสมบัติที่ไม่ค่อยมีให้มากนักในตลาด และดูจะเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะของสมาร์ตโฟนในสายเกมมิ่งเท่านั้นอีกด้วย
การใช้งานภายใน
Infinix NOTE 30 5G จะรันด้วยระบบ XOS 13 ครอบทับบน Android 13 ซึ่งภายในจะมาพร้อมกับวอลเปเปอร์และธีมพิเศษที่มาจากการเป็นเครื่อง RoV Edition โดยใส่วอลเปเปอร์สวยๆ จากสามตัวละครหลัก Bright, Violet และ Tulen รวมถึงการติดตั้งธีมพิเศษ ROV ที่จะมีเฉพาะเครื่อง RoV Edition เท่านั้น ใส่เข้ามาให้ใช้งานกันได้ทันทีโดยไม่ต้องติดตั้งเพิ่มเติมครับ
แต่เรายังสามารถดาวน์โหลดและเปลี่ยนธีม, วอลล์เปเปอร์ ที่ยังมีให้เลือกใช้งานอยู่อีกมากมายในสโตร์ของ XOS และส่วนใหญ่ยังให้ใช้บริการได้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย
จุุดเด่นของ Infinix NOTE 30 5G คือการให้ชิปเซ็ต 5G ที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างดีเลยครับ MediaTek Dimensity 6080 เป็นชิปเซ็ตในเทคโนโลยีระดับ 6nm ภายในใช้คอร์ประมวลผลหลักเป็น Arm Cortex-A76 ความเร็ว 2.4GHz ทำงานร่วมกับ RAM ขนาดใหญ่ครับ 8GB ที่สามารถขยายเพิ่มได้อีก 8GB จากหน่วยความจำภายในที่ยังไม่ได้ใช้งาน จึงสามารถทำแรมเสมือนได้รวมมากสุดถึง 16GB นับว่าใหญ่มากทีเดียว
ชิปเซ็ทอย่าง 5G MediaTek Dimensity 6080 สามารถให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้ดีแล้วครับ สามารถเล่นเกมกราฟิกสวยๆ หรือเกม 3D ได้ไม่แลค ไม่ช้า หรือกระตุกในระดับที่ทำเอาหงุดหงิดใจ เป็นเครื่องระดับกำลังดีในการนำมาใช้เล่นเกมสำหรับเครื่องราคาเริ่มต้น
การทำงานลื่นไหลครับ ตอบสนองไวดี เข้าออกแอพได้เร็ว ให้พื้นที่หน่วยความจำภายใน (ROM) มาในสองขนาดตัวเลือก 129GB/และ 256GB สเปคโดยรวมถึอว่าดีมากทีเดียวกับราคาจำหน่ายเริ่มที่ 7,499 บาทเท่านั้นเอง
สิ่งที่ทำให้ Infinix NOTE 30 5G ดูจะเหมาะสมกับการเล่นเกมและความบันเทิงมีมากกว่าแค่เรื่องของสเปคกับราคานะครับ เพราะเขามีเทคโนโลยีหลายอย่างที่ใส่เข้ามาเสริมให้การใช้งานตามปกติชีวิตประจำวันของเรา มีประสิทธิภาพมากขึ้น
อย่างเช่นการออกแบบเทคโนโลยีเสารับสัญญาณ UPS ที่จะคอยปรับปรุงการเชื่อมต่อ สลับเสารับสัญญาณอัตโนมัติเมื่อตรวจพบระดับการรับสัญญาณอ่อน หรือความสามารถ “สมาร์ทดูอัลแชนเนล” ที่เป็นการใช้สัญญาณ 5G จับรวมกับสัญญาณ WiFi เพื่อเสริมกันสร้างการเชื่อมต่อที่เสถียรมากขึ้ย หรือช่วยกันเพื่อเร่งความเร็วดาวน์โหลดให้เร็วมากขึ้นได้ด้วยนั้นเอง
เทคโนโลยีชาร์จไว 45W และโหมด Bypass ก็เป็นความสามารถที่สำคัญนะครับ โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมบ่อยๆ เราจะเสียบสายชาร์จไฟพร้อมกับการใช้งานเครื่องแทบจะตลอดเวลา และโหมด Bypass จะเข้ามาช่วยเราได้ครับ เพราะโหมด Bypass จะช่วยให้กระแสไฟที่เข้ามาได้ข้ามตัวแบตเตอรี่เพื่อส่งตรงไปยังเมนบอร์ด ซึ่งจะช่วยลดความร้อนที่จะสูงมากขึ้นในขณะชาร์จและเล่นมือถือไปพร้อมกัน การลดความร้อนลงได้นั้น นอกจากจะช่วยคงประสิทธิภาพในการทำงานให้อยู่ในระดับสูงได้นานต่อเนื่องแล้ว ยังช่วยลดความเสื่อมของตัวแบตเตอรี่ในระยะยาวได้อีกด้วย
และฟังก์ชันการชาร์จแบบ Bypass ยังถูกออกแบบให้ทำการปรับเปลี่ยนเองโดยอัตโนมัติ เมื่อพบว่าระดับแบตเตอรี่ของเครื่องต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด มันจะทำการชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่เอาไว้ให้เราด้วยครับ โดยสามารถตั้งค่าระดับเกณฑ์แบตขั้นต่ำได้เองในการตั้งค่า (30% ตามค่าเริ่มต้น)
ใช้งานได้เต็มอรรถรสแน่นอน หน้าจอใหญ่ถนอมสายตา FHD+ ขนาด 6.78 นิ้ว ความลื่นไหลของรีเฟรชเรทสูง 120 Hz ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดังชัด ด้านความบันเทิงเหมาะสมสุดๆ ครับ
ระบบ XOS ก็มีความสามารถช่วยเหลือผู้ใช้ในด้านอื่นๆ มาหลายด้านครับ ด้านความปลอดภัยก็มีความสามารถในการล็อกแอป ซ่อนไฟล์ และระบบการสแกนเครื่อง จำกัดไฟล์ขยะและตรวจหาการทำงานของแอพที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งหมดรวมไว้ให้ใช้ได้ง่ายๆ ในแอพเดียว
ด้านความสะดวกก็จะมีเกมโหมด ที่จะให้เราเรียกใช้งานเมนูเกี่ยวกับเกมได้ตลอดเวลาจากการสไล์เมนูเข้ามาจากด้านข้างหน้าจอ เป็นเมนูสำคัญเช่น ปิดการแจ้งเตือน, เปลี่ยนเสียงพูดจากไมค์ รวมถึงการเปิดโหมดการชาร์จแบบ Bypass ก็เปิดได้จากหน้าเมนูของเกมโหมดเช่นกัน
มีความสามารถในการแม็ปปิ้งปุ่ม เพิ่มเสียง/ลดเสียง เพื่อใช้แทนการทัชบนหน้าจอได้ด้วย เช่น เราอาจจะตั้งให้ปุ่มเพิ่มเสียง เป็นปุ่มกดออกท่าไม้ตายของเกมที่กำลังเล่นเป็นต้นครับ ^^
รองรับโหมดการทำงานแบบ Multi Window เปิดหลายหน้าต่างทำงานพร้อมกัน ซึ่งสำหรับ XOS ใน Infinix NOTE 30 5G สามารถเปิดได้พร้อมกันมากถึง 3 แอปโดยที่ตัวเครื่องยังคงทำงานได้ปกติ ไม่แลคหรือช้า ไม่การรีสตาร์ตของแอปที่ปิดลงไปเองครับ ด้วยเพราะ RAM ขนาดใหญ่ จึงมีประสิทธิภาพในการทำงานได้หลายแอปที่คล่องตัวดีทีเดียว
แบตเตอรี่ของ Infinix NOTE 30 5G สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 8 ชั่วโมงครับ จากการทดสอบใช้งานต่อเนื่องไม่เกิดความร้อนให้ต้องกังวล มีอุณหภูมิสูงขึ้นให้พอรู้สึกเล็กน้อยถ้าใช้งานภายในอาคาร แต่ถ้าอยู่กลางแจ้งก็คงไม่รอดทั้งคนเล่นทั้งเครื่องสมาร์ตโฟนสำหรับเมืองไทย ^^ แบตเตอรี่อึดใช้งานได้เต็มวันอยู่สบายครับ
มีโหมดฉุกเฉินสำหรับการประหยัดพลังงานขั้นสุด ยืดอายุของแบตเตอรี่คงเหลือได้มากขึ้นถึง 3 เท่า โดยตัวเครื่องจะปิดการทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องลงไปทั้งหมด คงเหลือไว้เพียงแค่แอปที่เราเลือกไว้ได้สูงสุดเพียง 6 แอป เอาไว้สำรองพลังงานเพื่อการติดต่อสำคัญ เช่นติดต่อรถเพื่อเดินทางกลับบ้านในตอนกลางคืนเป็นต้นครับ
Infinix NOTE 30 5G มีระบบ PC Connect สามารถเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับเครื่อง PC Windows ได้ โดยจะสามารถสะท้อนภาพหน้าจอ ควบคุมสมาร์ตโฟนผ่านหน้าจอของ PC โอนย้ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้โดยการลากไฟล์แล้ววางบนหน้าต่างโปรแกรมเท่านั้น
ผู้ใช้ Infinix NOTE 30 5G สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม: PC Connect เพื่อติดตั้งลงบนอุปกรณ์ Windows ได้ที่ลิงก์นี้
กล้องถ่ายภาพ
Infinix NOTE 30 5G ให้กล้องหลังที่รองรับโหมดความละเอียดสูงถึง 108MP พร้อมกับกล้อง Depth 2MP และกล้อง QVGA ช่วยจับโฟกัส ทำงานภายใต้ AI และ HDR ที่จะช่วยเกลี่ยแสง ปรับสี ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่กำลังถ่ายให้เราได้อัตโนมัติ และติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 16MP ซึ่งรองรับการถ่ายเซลฟี่พอร์ตเทรตละลายหลังได้ด้วยเช่นกั
กล้องหลังสามารถซูมภาพได้สูงสุด 10x แบบดิจิทัล จากการทดสอบสามารถซูมภาพได้ 2x โดยที่ภาพยังไม่สูญเสียรายละเอียดครับ กล้องโฟกัสได้ดี มีความละเอียดสูง มีฟิลเตอร์ปรับสีสันภาพมาใช้ พร้อมมีโหมดถ่ายภาพกลางคืน สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย แต่ที่ขาดไปคือเลนส์อัลตร้าไวด์มุมกว้างจะไม่มีนะครับ
โดยจะมีโหมดภาพความละเอียดสูง 108MP มาให้ ไฟล์ภาพที่ได้จะมีขนาดใหญ่มากๆ เหมาะสำหรับในโอกาสที่เราต้องการภาพขนาดใหญ่เพื่อนำไปพิมพ์หรือขยายใช้บางส่วนของภาพในภายหลัง
มีโหมดที่ทำมาได้โดดเด่นคือ “โหมดถ่ายภาพบุคคล” จะเป็นโหมดที่สามารถปรับค่า f จำลอง เพื่อกำหนดระยะชัดลึกชัดตื้นได้เองตั้งแต่ f 1 ไปจนถึง f 16 และยังมีโหมด “บิวตี้” ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโหมดแยก ที่เหมาะนำเอามาถ่ายภาพบุคคลเช่นกันครับ โดยในโหมดบิวตี้จะใช้ตัว AI เพื่อจับโฟกัสใบหน้าและให้กล้องทำงานภายใต้โหมดถ่ายภาพบุคคลได้เองอัตโนมัติ พร้อมระยะการซูมภาพพอร์ตเทรตได้ 1x และระยะ 2x
และยังมีความสามารถปรับความเนียนใสของใบหน้านางแบบ รวมถึงสามารถปรับหุ่นและรูปร่างของแบบได้อย่างละเอียดด้วยนะครับ
กล้องหน้าความละเอียด 16MP ก็สามารถถ่ายภาพโหมดบุคคลและโหมดบิวตี้ได้เช่นกัน แต่ในการปรับแต่งของโหมดบิวตี้กล้องหน้า จะเปลี่ยนจากการปรับรูปร่างของนางแบบ ไปเป็นการปรับโทนผิวหน้าให้กับเราแทน ปรับโทนแต่งหน้าเหมือนนางแบบไปเติมเมคอัพมาใหม่ โดยจะมีเฉดการแต่งหน้าให้เลือกใช้หลายแบบครับ ^^ AI จัดการให้ทั้งความเนียนและแนวการแต่งหน้าในสไตล์ที่ต้องการ
ผลลัพท์ของความสามารถในการถ่ายภาพคนใน Infinix NOTE 30 5G ต้องบอกว่าทำได้สวยงามดีครับ พกไปท่องเที่ยวได้คุณภาพสมราคา ใบหน้านางแบบเนียน หน้าสวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
ในงานวิดีโอก็สามารถถ่ายวิดีโอในความละเอียดสูงสุดได้ที่ 2K 30Fps มีโหมดกันสั่นสำหรับลดการสั่นไหวในขณะถ่ายวิดีโอที่มีการเคลื่อนไหวขณะถือกล้อง พร้อมโหมดการถ่ายภาพยนตร์แบบคลิปสั้น ที่ทำมาเป็นพรีเซ็ตให้เลือกใช้ตามแนววิดีโอที่ต้องการได้หลากหลายแม่แบบครับ
สรุปท้ายรีวิว
ราคาดี สเปคดี Dimensity 6080 5G กับ RAM 8GB+8GB ให้ประสิทธิภาพการใช้งานได้สูงกว่าระดับราคา คุณสมบัติครบถ้วนและมีฟังก์ชั่นที่เหมาะสำหรับงานด้านความบันเทิงอยู่มากมาย หน้าจอใหญ่ รีเฟรชเรทสูง ลำโพงคู่เสียงดังชัด กล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 108MP มาพร้อมแบตเตอรี่ใหญ่ 5,000mAh ที่รองรับระบบชาร์จไว 45W ซึ่งยังรองรับการชาร์จไวด้วยหัวชาร์จโปรโตคอล PD ได้ด้วยอีกเช่นกัน
มาพร้อมโหมด Bypass สำหรับจ่ายไฟเข้าเมนบอร์ดโดยตรงไม่ผ่านตัวแบต ช่วยลดความร้อนและลดความเสื่อมของแบตเตอรี่ได้ในระยะยาว เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องมาราธอนเช่นการเล่นเกมหรือการดูภาพยนตร์หลายๆ ชั่วโมงติดต่อกัน โดยตัวเครื่องจะไม่ถูกลดทอนประสิทธิภาพด้วยความร้อนสะสมที่เกิดจากการชาร์จแบตไปพร้อมกับการใช้งานด้วยนั้นเอง
ตัวเครื่องสวย กันน้ำกันฝุ่น IP53 งานประกอบแน่นหนา พร้อมการออกแบบเสารับสัญญาณแบบเฉพาะของตัวเองที่ปรับสลับได้เองเมื่อตัวเครื่องจับสัญญาณได้อ่อนลง รองรับ 5G และ WiFi 5.0 สามารถจับสองสัญญาณได้พร้อมกันเพื่อเสริมความเร็วและรักษาความเสถียร
มาพร้อม RoV Edition มีกลิ่นอายความเป็นเกมมิ่งโฟนตั้งแต่แพ็กเกจภายนอกไปจึง UI ภายใน และมีฟังก์ชั่นต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดีครับ
Infinix NOTE 30 5G RoV Edition เปิดจำหน่ายมาในสองระดับราคา
- NOTE 30 5G (256+8GB) เปิดตัวในราคา 7,999 บาท
- NOTE 30 5G (128+8GB) ราคา 7,499 บาท
ซื้อได้ผ่านทางร้านค้าออนไลน์บน Shopee, Lazada, TikTok Shop และสำหรับร้านค้าออฟไลน์สามารถสั่งซื้อได้ที่ BaNANA และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
: https://cutt.ly/MweSD5dO หรือ Link: https://cutt.ly/TweSFd04
สเปคดี Dimensity 6080 5G กับ RAM 8GB+8GB
กล้องถ่ายภาพหลักความละเอียด 108MP
แบตเตอรี่5,000mAh ระบบชาร์จไว 45W ซึ่งรองรับการชาร์จไวด้วยโปรโตคอล PD ได้ด้วยเช่นกัน
มาพร้อมโหมด Bypass จ่ายไฟเข้าเมนบอร์ดโดยตรงไม่ผ่านตัวแบต ลดความร้อนในการใช้งานต่อเนื่อง และลดการเสื่อมของตัวแบตในระยะยาว
ตัวเครื่องสวย กันน้ำกันฝุ่น IP53 งานประกอบแน่นหนา พร้อมการออกแบบเสารับสัญญาณแบบเฉพาะของตัวเอง
RoV Edition มีกลิ่นอายความเป็นเกมมิ่งโฟน ตั้งแต่แพ็กเกจภายนอกไปจึง UI ภายในกับการร่วมมือกับ ROV
หน้าจอใหญ่ รีเฟรชเรทสูง 120Hz ลำโพงคู่เสียงดังชัดจาก JBL
ไม่มีชุดหูฟังแถมมาให้ภายในกล่อง
ในสิ่งที่เรารู้และเข้าใจ มันก็ยังมีระดับความลึกของความเข้าใจที่แตกต่างกัน ลึกบ้าง บางบ้าง แต่ประโยชน์ในการส่งผ่านสิ่งที่รู้ออกไปให้กับผู้อื่นนั้นไม่ต่างกัน มีประถม มีมัธยม มีอุดมศึกษา ไม่มีใครเริ่มต้นเรียนรู้จากในระดับปริญญา ฉะนั้นจะมากจะน้อยเชื่อเถอะว่า ความรู้ของทุกคนมีประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้ เท่าๆ กัน
ครั้งแรกที่คุณเลือกเข้าสู่ระบบกับบัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณนั้น เราจะมีการร้องขอข้อมูลทั่วไป เช่นอีเมลและชื่อผู้ใช้งานจากโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เราใช้ข้อมูลเพื่อการสร้างบัญชีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ APPDISQUS.COM เท่านั้น และเมื่อคุณสร้างบัญชีเรียบร้อยแล้ว คุณจะเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีดังกล่าวโดยอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่สมบูรณ์
การตอบคอมเมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับเว็บไซต์จะทำให้คุณได้ แต้มคะแนนสะสม AD$ เพื่อใช้สำหรับการแลกของรางวัลที่เรามีจัดเตรียมไว้ให้คุณมากมายต่อไป
ครั้งแรกที่คุณเลือกเข้าสู่ระบบกับบัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณนั้น เราจะมีการร้องขอข้อมูลทั่วไป เช่นอีเมลและชื่อผู้ใช้งานจากโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เราใช้ข้อมูลเพื่อการสร้างบัญชีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ APPDISQUS.COM เท่านั้น และเมื่อคุณสร้างบัญชีเรียบร้อยแล้ว คุณจะเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีดังกล่าวโดยอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่สมบูรณ์
การตอบคอมเมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับเว็บไซต์จะทำให้คุณได้ แต้มคะแนนสะสม AD$ เพื่อใช้สำหรับการแลกของรางวัลที่เรามีจัดเตรียมไว้ให้คุณมากมายต่อไป