หลังจากที่ซัมซุงได้นำ Google Gemini มาใช้งานบนสมาร์ทโฟน Galaxy S25 และรุ่นก่อนหน้า Apple กำลังมองหาทางทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากฟีเจอร์ AI ของตนเองยังไม่สมบูรณ์ กูเกิลและ Apple ได้เจรจากันมาเป็นเวลาประมาณหนึ่งปี และล่าสุด CEO ซันดาร์ พิชัย ได้เปิดเผยว่าทั้งสองบริษัทใกล้จะสรุปความร่วมมือกันแล้ว
Apple นอกเหนือจากระบบ Apple Intelligence ของตนเอง ยังได้นำเสนอ OpenAI’s ChatGPT เพื่อขับเคลื่อนฟีเจอร์ AI บางส่วนบนซีรีส์ iPhone 16 บริษัทได้สัญญาถึงเครื่องมือ AI ใหม่ๆ มากมาย แต่กลับประสบปัญหาในการส่งมอบตามกำหนดเวลา ดังนั้นข้อตกลงในการนำ Google Gemini มาใช้บนอุปกรณ์ Apple จึงมีความสำคัญมากกว่าที่เคย
เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง AI ของซัมซุงและ Apple Intelligence จะเห็นได้ชัดว่าเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย Gemini ของซัมซุงล้ำหน้ากว่าซอฟต์แวร์ของ Apple มาก แม้ว่าการใช้ Gemini อาจทำให้ Apple สูญเสียความเป็นเอกลักษณ์บางส่วน แต่ก็จะช่วยยกระดับ AI บน iPhone ให้ทัดเทียมกับคู่แข่งได้
คาดว่าเมื่อ Apple สามารถจัดการกับการปรับปรุง Siri และฟีเจอร์อื่นๆ ที่สัญญาไว้ได้แล้ว บริษัทอาจกลับไปใช้เครื่องมือของตนเองเป็นหลัก ข้อตกลงนี้เกี่ยวข้องกับการนำเสนอ Gemini เป็นตัวเลือกเพิ่มเติมบน iPhone ไม่ใช่การแทนที่ฟีเจอร์ AI ที่มีอยู่ทั้งหมด
Apple ให้ความสำคัญกับ AI อย่างจริงจัง แต่ก็ทำผิดพลาดด้วยการกระโดดเข้าสู่กระแสเร็วเกินไปโดยที่ยังไม่มีสิ่งที่เป็นรูปธรรมมากพอ การใช้ Google Gemini ช่วยให้ Apple สามารถมอบฟีเจอร์ AI บางอย่างให้กับผู้ใช้ได้ในเวลานี้ ขณะที่ยังคงพัฒนาชุดเครื่องมือ AI ของตัวเองสำหรับอนาคต
Google Gemini ปัจจุบันเป็นหนึ่งในโมเดล AI ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในตลาด คู่แข่งรวมถึง ChatGPT โดย OpenAI, Llama โดย Meta และ DeepSeek AI จากจีนที่มีข้อถกเถียง ในขณะที่ Apple กำลังมองหาการนำ Gemini มาใช้ในตลาดส่วนใหญ่ บริษัทยังคงพยายามสร้างข้อตกลงกับบริษัท AI ของจีนเพื่อนำ Apple Intelligence เข้าสู่ตลาดจีน
พิชัยได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อตกลงของบริษัทกับ Apple ระหว่างการพิจารณาคดีเกี่ยวกับเบราว์เซอร์ Safari ที่ใช้กูเกิลเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น หากข้อตกลงสำเร็จ – ซึ่งดูเหมือนจะเป็นไปได้สูง – ก็อาจจะมีการประกาศในเดือนมิถุนายนที่งาน WWDC ของ Apple พร้อมกับ iOS 19
Advertisement