
กระแส Smart Watch หรือ นาฬิกาอัจฉริยะในตอนนี้ดูเหมือนจะมาโดนเด่นเสียเหลือเกิน เพราะล่าสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Sony และ Samsung ต่างก็ขนเอา Smart Watch ของตัวเองมาเปิดตัวในนาม Sony SmartWatch 2 และ Samsung Galaxy Gear และจากข่าวแล้ว เร็วๆ นี้เราอาจได้เห็นค่ายยักษ์จากอีกระบบปฏิบัติการอย่าง Apple ที่พร้อมร่วมกระโดนมาแจมตลาดสมาร์ทวอชท์กับเจ้า iWatch (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) ของตัวเองอีกด้วย ผมเองเชื่อแน่ว่าเพื่อนๆ หลายๆ คนน่าจะกำลังตื่นเต้นกับกระแสนี่อยู่ไม่น้อย และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วยครับ สารภาพจากใจเลย
เพราะเหตุนี้จึงอดไม่ได้ที่จะซุกซนออกตามหาข่าวแสดงความเห็นหลังการได้ทดลองใช้งานนาฬิกาอัจฉริยะทั้งสองตัวนี้จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และในวันนี้เราก็ได้พบกับแหล่งข่าวแหล่งนั้นพร้อมบทความที่สุดแสนจะยาวและมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังสนใจนาฬิกาอัจฉริยะที่ถือเป็นแก็ตเจ็ตยุคใหม่ของโลกตัวนี้ แหล่งข่าวที่ว่านั้นก็คือ Cnet จากการายงานของนาย Briann Bennet นั่นเอง
ก่อนจะไปอ่านกัน เตือนก่อนอีกครั้งว่าบทความนี้ยาวมากทีเดียว แต่ถึงแม้จะยาว คุณภาพที่อยู่ภายในนั้นถือว่าคุ้มค่ากับการอ่านมาก และยิ่งหากคุณเป็นคนที่กำลังสนใจสมาร์ทวอชท์สักตัวอยู่แล้วด้วย การจับเอา Samsung Galaxy Gear และ Sony SmartWatch มาวิเคราะห์ในฐานผู้ที่ได้ทดลองใช้งานแล้วของ Cnet ในครั้งย่อมก่อให้เกิดประโยชน์กับคุณเป็นอย่างมากแน่นอน หากพร้อมแล้วก็ขอเชิญมาอ่านกันได้เลยครับ
[divider]Sony SmartWatch ปะทะ Samsung Galaxy Gear: สงคราวใหญ่ครั้งแรกแห่งวงการอุปกรณ์สวมใส่ไฮเท็ค
Sony เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะ SmartWatch 2 ที่มาพร้อมกับการออกแบบที่โดดเด่นน่าหลงไหล พร้อมความสามารถในการกันน้ำ รวมไปจนถึงความสามารถในการใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นทางฝั่งกีฬาอีกมากมายหลากหลาย ตลอดจนธีมนาฬิกาเองที่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ดังใจนึกเช่นเดียวกัน ในขณะที่ Samsung นั้นเองก็เปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะของตนภายใต้ชื่อ Samsung Galaxy Gear ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android ที่ถูกพัฒนามาพิเศษบนซีพียู 800MHz โดยมีหน้าจอเป็นหน้าจอแสดงผลแบบสีหลอด OLED ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือมันมาพร้อมไมโครโฟนและกล้องถ่ายรูปด้วยนะเออ
แต่เจ้านาฬกาอัจฉริยะทั้งสองตัวนี้จะใช้ประโยชน์จริงได้มากน้อยแค่ไหน หรือเมื่อเอามาเปรียบเทียบกันแบบหมัดต่อหมัดแล้วใครจะอยู่ใครจะไป ขอเชิญผู้สนใจอ่านต่อได้เลยเพราะงานนี้เราจับเอานาฬิกาอัจฉริยะของ Samsung และ Sony มานั่งยางเผาสดกันอย่าเมามันแน่นอน
การออกแบบ
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนอาทิตย์อุทัย Sony SmartWatch 2
หากคุณรู้จักหรือคุ้นเคยกับ SmartWatch ตัวแรกของ Sony เป็นอย่างดี คุณก็คงไม่รู้สึกประหลาดใจหรือตื่นเต้นกับหน้าตาของ SmartWatch 2 ตัวใหม่นี้มากมายนัก ก่อนหน้านี้ผมเคยชมว่าแก็ดเจ็ตก่อนหน้านี้ของ Sony นั้นถือเป็นสิ่งประดิษฐ์สำหรับวงการเวลาที่เซ็กซี่ที่สุดสำหรับผม และจนถึงตอนนี้ผมก็ยังคงย้ำคำเดิมของตัวเองอย่างหนักแน่น เพราะมันทั้งเล็ก ทั้งเบา และที่สำคัญคือออกแบบมาได้น่าหลงไหลมาก
นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับสายรัดข้อมือแบบซิลิโคนยืดหยุ่นได้ซึ่งถือว่ายืดหยุ่นได้เพียงพอที่จะให้ความรู้สึกสบายในการสวมใส่และยึดข้อมือได้อย่างแน่หนาพอที่จะไม่หลุดไปไหน แม้ในตอนนี้ Sony จะยังไม่ประกาศเฉดสีที่จะมีมาให้ในเจ้า SmartWatch 2 นี้ แต่หากมองจากประวัติที่ผ่านมาแล้วเชื่อแน่ว่าเจ้า SmartWatch 2 นี้น่าจะมาพร้อมสีสายรัดข้อมือที่หลากหลายเหมือนอย่างรุ่นพี่ก่อนหน้าของมันอย่าง Sony SmartWatch แน่นอน
Sony ยังคงการออกแบบเหมือนตัวก่อนหน้าเอาไว้ด้วยการใช้สายซิลิโคนและตัวเรือนเครื่องเป็นอลูมิเนียม ด้วยขนาดที่วัดออกมาได้เป็นความยาว 1.65 นิ้ว ตามด้วยความกว้าง 1.61 นิ้ว และความหน้าอีก 0.35 นิ้ว นั่นทำให้เจ้า SmartWatch 2 มาพร้อมทรวดทรงองอิงค์ที่น่าสนใจมาก ทั้งนี้เจ้านี่ยังมาพร้อมน้ำหนักที่เบามากมายเพียง 0.8 ออนซ์เท่านั้น
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนโสม Samsung Galaxy Gear
หากเปรียบเทียบกับ SmartWatch 2 จาก Sony แล้วต้องถือว่าเจ้า Galaxy Gear จาก Samsung นั้นมาพร้อมทรวดทรงที่อวบอั๋นกว่าหน่อย โดยวัดตามสเป็กหน้ากระดาษได้เป็นยาว 1.45 นิ้ว กว้าง 2.2 นิ้ว และหน้า 0.44 นิ้ว แน่นอนว่าสเป็กแบบนี้เห็นได้ชัดว่าเจ้า Galaxy Gear นั้นมีขนาดใหญ่กว่า SmartWatch 2 ชัวร์ และเมื่อว่ากันที่น้ำหนักของตัวนาฬิกาแล้ว Galaxy Gear นั้นหนักกว่า SmartWatch 2 อยู่มากด้วยน้ำหนักตัวที่ 2.6 ออนซ์
แต่ที่น่าแปลกใจคือในตอนที่ผมมีโอกาสได้ลองสวมเจ้า Galaxy Gear ลงบนข้อมือนั้น ผมกลับพบว่าน้ำหนักของมันเบากว่าที่คาดการณ์เอาไว้มากทีเดียว และถึงแม้ว่าสายรัดข้อมือแบบยางของ Galaxy Gear จะสวมใส่แล้วไม่เข้าข้อมือเหมือนอย่างสายของ SmartWatch จาก Sony แต่ก็ยังให้ความรู้สึกสบายในการสวมใส่ได้อยู่ ตัวเครื่องมาพร้อมความเก๋ไก๋ยูไรก้าที่ดูหรูหราอย่างมีระดับของโลหะชุบเงินที่เรียกได้ว่าน่าจะได้เรียกความสนใจจากแต่ละสายตาได้ไม่ยากเลยทีเดียว
ในวันเปิดตัวนั้น Samsung ได้บอกไว้ว่าจะมีการเปิดขายเจ้า Galaxy Gear ด้วยสีที่หลากหลายถึง 6 เฉดสีด้วยกัน นั่นรวมไปถึงสีดำ สีเทา และส้ม สีโอ็ตมีล สีทองกุหลาย และสีเขียวมะนาวนั่นเอง
ฝั่งที่ได้เปรียบ: Sony SmartWatch 2
หน้าจอแสดงผล
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนอาทิตย์อุทัย Sony SmartWatch 2
สิ่งที่ต้องแลกมากับขนาดตัวที่เล็กลงของ SmartWatch 2 นั้นคือขนาดหน้าจอที่ก็พาเล็กลงไปด้วย ถึงแม้ว่าหากเอาตามขนาดวัดแนวขวางแล้วจะได้ขนาดหน้าจอที่ 1.6 นิ้ว แต่หน้าจอของ SmartWatch 2 ก็ยังดูไม่กว้างพอเมื่องเทียบกับเจ้า Galaxy Gear ที่มีขนาดหน้าจอ (แบบวัดหน้าจอแสดงผลเพียวๆ) ที่ 1.63 นิ้ว นอกจากนี้พิกเซลหน้าจอยังด้อยกว่านาฬิกาอัจฉริยะของ Samsung อยู่เล็กน้อย โดยความละเอียดของหน้าจอของเจ้า SmartWatch 2 นั้นอยู่ที่ 220×176 พิกเซลเท่านั้น ในขณะที่เจ้า Samsung Galaxy Gear นั้นอยู่ที่ 320×320 พิกเซล
สิ่งที่ Sony ตั้งใจทำในเจ้า SmartWatch 2 นั้นคือการขจัดปัญหาสำคัญที่เคยเกิดขึ้นกับ SmartWatch ตัวก่อนหน้า ซึ่งก็คือปัญหาเรื่องหน้าจอ OLED ที่ยากต่อการมองเห็นภายใต้สภาพแสงอาทิตย์จ้า ซึ่งในเจ้า SmartWatch 2 นี้ Sony เลือกที่จะใช้หน้าจอ LCD แบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อความคมชัดแม้ในสภาพแสงอาทิตย์มากก็ตาม
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนโสม Samsung Galaxy Gear
หากว่ากันในเรื่องของขนาดและความละเอียดของหน้าจอแล้ว ต้องยอมรับเลยว่า Galaxy Gear นั้นชนะ SmartWatch 2 ขาดเลยทีเดียว ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าที่ 1.63 นิ้วบนจอ OLED ที่มาพร้อมความละเอียดสูงกว่าในระดับ 320×320 พิกเซล ตอนที่ผมได้เห็น Gear กับตาตัวเองนั้นต้องบอกว่าหน้าจอแสดงผลรูปภาพและตัวหนังสีด้วยสีที่คมชัดและมีความเข้มข้นที่สูงทีเดียว นอกจากนี้หน้าจอของ Galaxy Gear ยังสว่างสุดๆ สว่างมากในระดับที่สร้างปัญหากับกล้องถ่ายรูปของผมตอนที่จะจับหน้าจอของมันเลยทีเดียว
แน่นอนว่าผมไม่มีโอาสที่จะเอาเจ้านาฬิกาอัจฉริยะนี้ออกไปทดสอบกลางแสงแดดจ้าได้ เพราะอย่างนั้นเลยได้แต่สรุปโดยอ้างอิงจากปากคำของ Samsung ว่าเจ้านาฬิกาตัวนี้หน้าจอจ้าเพียงพอที่จะยังคงจรัสแสงอยู่แม้สภาพแสงภายนอกอาคาร
ฝั่งที่ได้เปรียบ: Samsung Galaxy Gear
ฟีเจอร์และหน้าตาของระบบปฏิบัติการ
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนอาทิตย์อุทัย Sony SmartWatch 2
เมื่อว่ากันถึงคุณสมบัติทางการใช้งานและอินเตอร์เฟซผู้ใช้ของตัวนาฬิกาแล้วคงต้องบอกว่าการถือกำเนิดใหม่ภายใต้ชื่อ SmartWatch 2 จาก Sony นั้นแทบไม่ได้ต่างจากตัวก่อนหน้าสักเท่าไหร่นัก สิ่งที่คุณจะได้มากับเจ้าตัวนี้คือ UI ที่รองรับหน้าจอสัมผัส เลื่อนวิดเจ็ตไปมาเพื่อการเปิดดูพยากรณ์อากาศ เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อ่านอีเมลหรือข้อความแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือข้อความอื่นๆ ได้เหมือนอย่างที่นาฬิกาอัจฉริยะตัวก่อนหน้าจาก Sony เองก็สามารถทำได้ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเจ้า SmartWatch 2 นั้นสามารถทำงานได้กับอุปกรณ์ Android หลากหลายยี่ห้อ หาใช่เพียงกับอุปกรณ์ของ Sony ด้วยกันแต่อย่างใด
การหุบนิ้วบนหน้าจอจะเป็นการเรียกเอาหน้ารวมแอพพลิเคชั่นขึ้นมาซึ่งจะแสดงแอพพลิเคชั่นเล็กๆ ที่เจ้า SmartWatch 2 ติดตั้งอยู่เอาไว้ และหากคุณต้องการเปลี่ยนหน้าตาของเจ้า SmartWatch 2 ก็สามารถทำได้โดยการเปลี่ยนผ่านแอพพลิเคชั่น SmartWatch Companion บนมือถือสมาร์ทโฟนที่ใช้เชื่อมต่อได้ ซึ่งไอ้อย่างหลังนี้แอบน่าขัดใจหน่อยตรงที่ว่าทำไมเราถึงไม่สามารถเปลี่ยนหน้าตาการแสดงผลของนาฬิกาของเราได้เอาจากตัวนาฬิกาเองเลยไปซะให้รู้แล้วรู้รอด
และนอกจากความสามารถในการส่งสัญญาณเตือนจากมือถือของคุณมาที่ข้อมือได้แล้ว เจ้า Samsung SmartWatch 2 ยังมาพร้อมแป้นตัวเลขสัมผัสสำหรับการสั่งโทรออกโดยตรงจากตัวนาฬิกาเองเลยด้วย แต่เราต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าเจ้า SmartWatch 2 นั้นไม่มีลำโพงหรือไมโครโฟนแยกมากับตัวมันนะครับ ดังนั้นการจะคุยสายได้ คุณต้องอาศัยความสามารถของหูฟังบลูทูธอีกอันที่เอามาเชื่อมต่อไปควบคู่กับเจ้านาฬิกาตัวนี้หรือไม่ก็ต้องยกโทรศัพท์ออกมาแนบหูแล้วคุยตามปกติ นอกจากนี้ SmartWatch 2 ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการแสดงชื่อผู้โทรเข้าบนตัวเครื่องนาฬิกาและฟังก์ชั่นการปฏิเสธสายโทรเข้าด้วยข้อความผ่านทางนาฬิกาโดยตรงเลยอีกด้วย
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนโสม Samsung Galaxy Gear
เนื่องจากตัวเครื่องที่ใหญ่กว่าคู่แข่งอีกตัว จึงไม่แปลกอะไรเลยหากคุณจะคาดหวังให้มันสามารถทำอะไรต่อมิอะไรได้มากกว่าคู่แข่งด้วย และก็ต้องถือว่าคุณคิดถูกแล้วล่ะ เพราะเจ้า Galaxy Gear สามารถทำการพุชการแจ้งเตือนและข้อความต่างๆ ตามที่ SmartWatch 2 สามารถทำได้เด๊ะๆ แต่อย่างหนึ่งที่ต้องจำไว้คือเจ้า Gear นั้นหลุดคอนเซ็ปท์ดีไวซ์ประหยัดใช้พ่วงได้กับเครื่องทุกตัวของ Samsung ไปสักหน่อย เพราะในขั้นต้นนี้ Samsung Galaxy Gear จะสามารถใช้ได้กับ Galaxy Note 3 เท่านั้น ซึ่งต้องถือว่าสร้างความผิดหวังให้กับกลุ่มรู้ค้าที่มีกำลังซื้อหลักบนระบบ Android ไปอย่างใหญ่หลวงทีเดียว
แต่ถึงอย่างนั้นความสามารถของเจ้า Gear ต้องเรียกได้ว่าน่าทึ่งมากทีเดียว เจ้านี่มาพร้อมไมโครโฟนแบบฝังมากับตัวนาฬิกาและลำโพงติดกับตัวเครื่องมาด้วย นั่นทำให้ผู้ใช้งานสามารถโทรศัพท์ได้จริงบนข้อมือของตัวเองเลย ความสามารถของมันมาในแนวทางเดียวกับคู่แข่งตัวสำคัญบนตลาดอย่างนาฬิกา Martian Passport และ Hot Watch และก็ถือเป็นความสามารถที่มีประโยชน์แต่อาจไม่รู้จะจำเป็นไหมไปสักนิดในคลังมือถือของคุณ บางครั้งคุณก็ต้องกลับมาหวนคิดดีๆ ก่อนจะตัดสินใจซื้ออุปกรณ์ไอทียั่วตายั่วใจแบบนี้สักเครื่อง
ที่แปลกไปกว่านั้นคือเจ้า Galaxy Gear ยังมาพร้อมกล้องถ่ายรูปความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซลบนข้อมือของคุณด้วย โดยเจ้าตัวกล้องนี้จะส่องเข้ามาในตำแหน่งเมื่อคุณยกหน้าปัดนาฬิกาของคุณขึ้นมาในมุมมองที่มองเห็นได้ตรงหน้าเด๊ะ และนอกจากจะสามารถถ่ายภาพในแล้ว เจ้า Gear ยังถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดระดับ HD Reader 720p ได้อีกต่างหาก…แม้จะว่าไปนั้น ตอนนี้ก็ยังนึกภาพไม่ค่อยจะออกจริงๆ ว่าความสามารถด้านการถ่ายภาพและวิดีโอของ Galaxy Gear ตัวนี้จะเกิดประโยชน์อะไรกับผู้ใช้งานได้นอกจากน้ำไปใช้กันเพื่อการแอบถ่ายภาพสยึ๋มกึ๋ยต่างๆ เท่านั้นเอง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังถือเป็นฟังก์ชั่นที่น่าสนใจที่ทาง Samsung ใส่เข้ามาละนะ
เขาได้มีโอกาสทดสอบฟังก์ชั่นนี้ด้วยตัวเองและพบว่า Galaxy Gear สามารถถ่ายรูปได้อย่างรวดเร็วมาก เพียงแค่แตะลงไปที่บนตัวเรือนเครื่องเท่านั้น แต่คุณภาพของรูปที่ถ่ายออกมาจะดูไม่คมชัดสักเท่านั้นหนักแม้บนหน้าจอที่สวยสดของตัวนาฬิกา และอีกอย่างที่ต้องเสริมคือหากคุณไม่พยายามบิดข้อมือให้ตรงหน้าคุณได้ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยจะสบายเท่าไหร่นักจริงๆ ภาพที่ได้จะเป็นภาพผู้คนที่ถูกถ่ายในมุมมองที่ดูประหลาดๆ ไปเลย
แต่สิ่งที่เจ้า Galaxy Gear โดดเด้งน่าฟาดออกมาเลยนั้นคือในเรื่องของการออกแบบยูเซอร์อินเตอร์เฟซของมัน ด้วยช่องไทล์ขนาดใหญ่และฟอนต์สวยสะอาดตาทำให้เราอดคิดไปถึง UI แบบเมโทรบน Windows Phone 8 ไม่ได้ที่การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ สามารถทำได้เพียงแค่ก้มดูหน้าจอนาฬิกาและสามารถควบคุมตัว UI ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย ซึ่งเมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับ UI ของ SmartWatch 2 ที่ออกแนวคร่ำครึ เรียบเกิ๊นแล้ว UI ของ Galaxy Gear นั้นกลายเป็น UI ที่เหมือนถอดออกมาจากหนังแนวไซไฟโลกอนาคตเลยทีเดียว
ฝั่งที่ได้เปรียบ: Samsung Galaxy Gear
แบตเตอร์รี่
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนอาทิตย์อุทัย Sony SmartWatch 2
SmartWatch ตัวก่อนหน้าเคยระบุไว้ว่าแบตเตอร์รี่ของตัวเองนั้นอยู่ได้ที่ 3 – 4 วันในการใช้งานแบบปกติทั่วไป และ 14 ชั่วโมงสำหรับการใช้งานแบบต่อเนื่อง แต่จากประสบการณ์ของผม ผมพบว่าการใช้งานจริงนั้น เจ้านาฬิกาตัวก่อนนี้ทำได้น่าอายเพียงครึ่งวันเท่านั้น หรืออย่างดีสุดก็หนึ่งวันเต็ม จากนั้นคุณจำเป็นต้องชาร์จแบตเตอร์รี่ของไอ้ตัวดูดนี่วันต่อวันอย่างแน่นอนหากไม่อยากเสี่ยงเจอการใช้งานแบบไม่ค่อยจะสมประกอบนัก มาครั้งนี้สำหรับ SmartWatch 2 ทาง Sony เองก็ยังคงประกาศออกมาเช่นเดิมว่าแบตเตอร์รี่ของเจ้านี่จะอยู่ได้ 3 – 4 วัน เพราะเหตุนี้ผมเลยอดไม่ได้ที่จะคาดหวังว่าตัวเองคงได้ผิดหวังอีกครั้งกับเวลาการใช้งานของนาฬิกาอัจฉริยะ SmartWatch 2 เมื่อว่ากันถึงการใช้งานจริง บางทีการเปลี่ยนหน้าจอเป็น LCD อาจส่งผลอะไรต่อแบตเตอร์รี่บ้างก็จริง แต่ก็คงไม่มากพอที่จะทำให้มันเห็นผลทางบวกอะไรสักเท่าไหร่นัก
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนโสม Samsung Galaxy Gear
Samsung เองก็ประกาศระยะเวลาแบตเตอร์รี่ออกมาได้น่าผิดหวังพอๆ กัน โดยประกาศว่าเจ้า Galaxy Gear นั้นจะใช้งานได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ทั้งนี้ยังไม่ชัวร์ว่าความหมายของ 24 ชั่วโมงของ Samsung คืออะไรระหว่างการใช้งานแบบหนักหน่วงหรือการใช้งานในแบบเบาๆ เท่านั้น แต่เจ้า Galaxy Gear นี้มาพร้อมการเชื่อมต่อบลูทูธเวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งก็คือเวอร์ชั่น 4.0 ซึ่งเป็นอัพเดตที่มาพร้อมคำมั่นสัญญาที่เป็นไปได้จริงว่ามีการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกอย่างเต็มที่ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วผลสุดท้ายเรื่องแบตเตอร์รี่ก็คงเหมือนกันกับ SmartWatch 2 ของ Sony นั่นก็คือชาร์จวันต่อวันไว้ได้เป็นดีที่สุด
ฝั่งที่ได้เปรียบ: Samsung Galaxy Gear
ลูกเล่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนอาทิตย์อุทัย Sony SmartWatch 2
สงสัยจะเป็นเรื่องจริงที่เขาว่ากันว่า Sony นั้นให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี NFC มากเหลือเกิน เพราะว่าเจ้า SmartWatch 2 นั้นมาพร้อมชิปเซ็ต NFC เพื่อให้สามารถเชื่อต่อบลูทูธได้ไวมากยิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อกับมือถือที่มี NFC เช่นเดียวกัน ว่ากันตรงๆ แล้วนั้นการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ที่รองรับและเจ้า SmartWatch 2 นั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงการสัมผัสมันพร้อมกันเท่านั้น (แต่ต้องจ่อ NFC และคลื่นสัญญาณ Bluetooth เข้าหากันด้วยนะ)
เช่นเดียวกับเจ้า SmartWatch ก่อนหน้านี้ เจ้า SmartWatch 2 นั้นมาพร้อมฟังก์ชั่นการตามหาโทรศัพท์ของคุณหากคุณลืมว่าวางมันเอาไว้ที่ไหน นอกจากนี้เจ้ามือถืออัฉริยะนี้ยังจะเตือนคุณอีกด้วยหากมือถือและโทรศัพท์ของคุณอยู่ห่างกันเกินขอบเขตมาสักหน้อย เจ้า SmartWatch 2 ยังเอื้อให้คุณสามารถควบคุมเพลงบนมือถือของคุณได้และยังแสดงรูปอัลบัมเพลงบนหน้าปัดนาฬิกาของมันได้อีกด้วย
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนโสม Samsung Galaxy Gear
แม้ว่า Samsung จะฝังชิป NFC เอาไว้ในอุปกรณ์ Galaxy รุ่นหลังๆ ของตัวเองแทบทั้งหมด แต่เจ้า NFC กลับไม่ได้มีปรากฏบนเจ้า Galaxy Gear นี้แต่อย่างใด แต่ตัวนาฬิกามาพร้อมฟังก์ชั่นอื่นที่น่าสนใจมากไม่แพ้กันอย่างการโทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีและการถ่ายรูปและถ่ายวิดีโอได้แทน
เช่นเดียวกับ Hot Watch และ SmartWatch 2 เจ้า Galaxy Gear นั้นสามารถสั่งให้โทรศัพท์ของคุณร้องได้หากคุณลืมว่าวางมันเอาไว้ที่ไหน นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้มือถือ Samsung ของคุณในการสั่งงานให้ลำโพงของเจ้านาฬิกา Gear ส่งเสียงร้องได้หากคุณกลับตกอยู่ในสถานการณ์ที่หานาฬิกาไม่เจอแทน แต่อย่างไรก็ตาม คุณต้องจำไว้ว่าทั้งมือถือและนาฬิกายังจะต้องอยู่ในระยะบลูทูธเดียวกัน (30 ฟุต) ถึงจะสามารถใช้งานฟังก์ชั่นนี้ได้
Samsung Galaxy Gear ยังมีพร้อมหน่อยความใจภายใน 4 กิ๊กที่เอื้อให้คุณสามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นเวอร์ชั่นย่อมเยาลงบนตัวนาฬิกาได้แบบโดยตรงเลย และในวันเปิดจำหน่าย เจ้านาฬิกาจะมาพร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่บรรจุมาพร้อมสำหรับรอการใช้งานของคุณแล้ว นั้นรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นที่น่าสนใจของ Samsung เองเช่น S Voice (สำหรับการใช้คำสั่งเสียงเพื่อสั่งการโทรออก และการสั่งค้นหาอะไรสักอย่าง) แอพพลิเคชั่น Voice Memo และแอพแชตที่เป็นที่นิยม (พอประมาณ) อย่าง Chat On ด้วย นอกจากนี้ตัวควบคุมเพลงบน Gear ยังช่วยให้ Gear ควบคุมตัวเล่นเพลงบนมือถือของคุณได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่นจากผู้พัฒนาอื่นๆ ที่ตบเท้ากันเข้ามาเตรียมพร้อมลงให้ Galaxy Gear ในช่วงต้นนี้แล้วอย่าง Tripit ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นทางด้านการท่องเที่ยว รวมไปจนถึง RunKeeper และ MyFitnessPal จากฝั่งการออกกำลังการ และยังมี Evernote แอพพลิเคชั่นจดโน็ตยอดนิยมอีกด้วย และที่น่าสนใจคือเจ้าแอพ Vivino Wine Scanner ที่จะดึงเอาความสามารถของกล้องของเจ้า Gear มาใช้เป็นตัวสแกนบาร์โค๊ดไวน์เพื่อค้นหาและดูรายละเอียดเพิ่มเติมอีกด้วย
ฝั่งที่ได้เปรียบ: Samsung Galaxy Gear
ความทนทาน
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนอาทิตย์อุทัย Sony SmartWatch 2
Sony ทุ่มเทเวลาในการออกแบบอุปกรณ์พกพาของตัวเองมาเป็นระยะเวลานานมากแล้ว โดยหากต้องนับไล่หลังกลับไปจริงๆ คงต้องร่ายยาวมาตั้งแต่ยุคอารยธรรม Sony Walkman เลยทีเดียว และเมื่อไม่นานมานี้ Sony ก็เพิ่งจะเปิดตัว Xepria Z และ Z1 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนที่กันน้ำกันฝุ่นได้ออกมาอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยหาก SmartWatch 2 เองจะสามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ดีอย่างรุ่นพี่ของตน
และจากการที่ตัวนาฬิกาเองได้รับมาตรฐานสากล IP57 นั่นยิ่งเป็นการย้ำเตือนว่าเจ้านี้ไม่ได้เพียงสามารถทนฝุ่นละอองหรือน้ำได้ในราคาคุยหรือแบบแบๆ เท่านั้น หากแต่มันยังสามารถทนการจมน้ำลึกได้ถึง 3 ฟุตหรืออยู่ในน้ำได้ 30 นาทีติดต่อกันโดยไม่มีปัญหาอะไรเลยอีกด้วย
นาฬิกาอัจฉริยะจากแดนโสม Samsung Galaxy Gear
Samsung Galaxy Gear เองก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน โดย Samsung ประกาศว่าเจ้านี่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับมาตรฐาน IP55 ซึ่งสามารถทนน้ำทนฝุ่นได้ แต่ก็ยังไม่เท่า IP57 ของ SmartWatch 2 โดยเจ้า Gear นั้นสามารถทนได้เพียงละอองน้ำเท่านั้น ไม่ใช่น้ำแบบทั้งผืนเหมือนอย่างเจ้า SmartWatch 2 ว่ากันง่ายๆ แล้วก็คือคุณห้ามอาบน้ำหรือว่ายน้ำทั้งๆ ที่ยังสวมเจ้า Gear เอาไว้อยู่ แต่หากต้องโดนเพียงน้ำลดหรือฝนตกใส่ก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ฝั่งที่ได้เปรียบ: Sony SmartWatch 2
แล้วจะเอาไงดี?
ถึงแม้ว่าจะเอาความสามารถและฟีเจอร์ของ Sony Smartwatch 2 และ Samsung Galaxy Gear มากางตรงหน้าคุณ แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนได้อย่างง่ายดายขนาดนั้นเมื่อคุณต้องเลือกสักทาง หากว่ากันแบบดื้อๆ แล้ว Galaxy Gear นั้นเป็นฟลิตภัณฑ์จาก Samsung ที่มาพร้อมค่าตัวระดับ $299 หรือประมาณร่วมๆ หมื่นบาทไทย ซึ่งคงไม่ได้เรียกความสนใจให้เกิดขึ้นกับนักพัฒนาหรือผู้ใช้งานในขั้นต้นนี่สักเท่าไหร่นัก แต่หากว่ากันเรื่องของสไตล์ในแบบ Samsung แล้ว เจ้า Gear นั้นก็ถึงพร้อมไปด้วยทั้งหน้าจอที่น่าหลงไหลอย่าง OLED และความสามารถอื่นๆ แบบจัดเต็มเท่าที่จะใส่มาได้จริงๆ
แต่หากมองไปที่คู่แข่งอย่าง Sony SmartWatch 2 เจ้านี่ก็มาพร้อมความหล่อเหลาแบบน่าหลงไหลเลยทีเดียว ดีไซน์ของมันดูโดดเด้งและกระแทกใจมากกว่าเจ้า Samsung Galaxy Gear และความทนทานเองก็ดูเหมือนจะเหนือกว่าอีกเจ้าด้วย แต่ถึงอย่างนั้นซอฟท์แวร์ของ SmartWatch 2 และ UI ของมันก็ยังดูไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปมากจากตัวก่อนหน้านี้ ซึ่งนั่นทำให้ Galaxy Gear ดูน่าสอยมาชื่นชมมากกว่าหากว่ากันที่ความสามารถและการใช้งาน
แต่อุปสรรคใหญ่หลวงอย่างหนึ่งที่ผมไม่อาจมองข้ามไปได้เลยก็คือเรื่องจริงที่ว่า Galaxy Gear นั้นรองรับเพียงแค่ Samsung Galaxy Note 3 เท่านั้น นั่นถือเป็นเนื้อร้ายก้อนใหญ่ที่ยากจะรู้สึกดีด้วยจริงๆ ยิ่งเมื่อมาเทียบกับ SmartWatch 2 ของ Sony ที่เปิดตัวมาเป็นอุปกรณ์สำหรับ Android ทุกตัวแล้วด้วย นอกจากนี้ผมยังคาดการณ์ว่าราคาของ SmartWatch 2 นั้นยังน่าจะต่ำกว่าคู่แข่งด้วย โดยน่าจะเปิดจำหน่ายที่ประมาณ $199 เหรียญหรือตีเป็นเงินบาทที่เกือบๆ 7000 บาท เพราะราคานี้คือราคาที่ Sony เคยเปิดตัวเจ้า SmartWatch ตัวก่อนหน้านี้มาแล้ว สิ่งเหล่านี้รวมกันทำให้ SmartWatch 2 จาก Sony ดูน่าสนใจกว่าไปอีกขั้น แน่นอนว่าในตอนนี้ผมคงตัดสินอะไรไม่ได้จนกว่าที่จะได้เจ้าสองตัวนี้มาครอบครองและเปรียบเทียบมันแบบหมัดต่อหมัดจริงๆ ซึ่งนั่นก็คงต้องรอไปจนถึงเดือนตุลาคมซึ่งเป็นวันที่ทั้งสองตัวนี้เตรียมออกวางตำหน่ายในตลาดวงกว้างนั่นเอง
[divider]อ่านมาจนถึงตอนนี้แล้ว ผมเองอยากถามเพื่อนๆ เหลือเกินว่าคุณกำลังสนใจตัวไหนอยู่ อย่าลืมทิ้งข้อความไว้ด้านล่างนี้พร้อมกับความคิดเห็นสักหน่อยว่าตัวที่ใช่เลยสำหรับคุณระหว่าง Samsung Galaxy Gear และ Sony SmartWatch 2 นั้นคือตัวไหนกันแน่ โดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างมีประสบการณ์ไม่ดีกับสมาร์ทวอชท์ของทาง Sony ไล่มาตั้งแต่ LiveView ยัน SmartWatch ตัวแรก แต่กับ Samsung เองก็น่าผิดหวังที่เปิดตัวมาให้ใช้งานได้กับ Galaxy Note 3 เท่านั้น ดังนั้นเป้าหมายของผมคงอยู่ที่รอดูการมาของ iWatch จาก Apple เลยทีเดียวก็แล้วกัน ^^
ที่มา – Cnet
อเล็กซ์ หรือ เอ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบเอามือถือหรือ iPad ข้างกายตนมาจับๆ จิ้มๆ ตามประสาคนมีงานแต่ชอบเล่นเกม คุณสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจเอได้เสมอผ่านทางการคอมเมนต์ในบทความนี้
ครั้งแรกที่คุณเลือกเข้าสู่ระบบกับบัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณนั้น เราจะมีการร้องขอข้อมูลทั่วไป เช่นอีเมลและชื่อผู้ใช้งานจากโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เราใช้ข้อมูลเพื่อการสร้างบัญชีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ APPDISQUS.COM เท่านั้น และเมื่อคุณสร้างบัญชีเรียบร้อยแล้ว คุณจะเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีดังกล่าวโดยอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่สมบูรณ์
การตอบคอมเมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับเว็บไซต์จะทำให้คุณได้ แต้มคะแนนสะสม AD$ เพื่อใช้สำหรับการแลกของรางวัลที่เรามีจัดเตรียมไว้ให้คุณมากมายต่อไป
ครั้งแรกที่คุณเลือกเข้าสู่ระบบกับบัญชีโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณนั้น เราจะมีการร้องขอข้อมูลทั่วไป เช่นอีเมลและชื่อผู้ใช้งานจากโซเชียลเน็ตเวิร์คของคุณโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้เราใช้ข้อมูลเพื่อการสร้างบัญชีผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ APPDISQUS.COM เท่านั้น และเมื่อคุณสร้างบัญชีเรียบร้อยแล้ว คุณจะเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีดังกล่าวโดยอัตโนมัติเพื่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ที่สมบูรณ์
การตอบคอมเมนต์ และการทำกิจกรรมร่วมกับเว็บไซต์จะทำให้คุณได้ แต้มคะแนนสะสม AD$ เพื่อใช้สำหรับการแลกของรางวัลที่เรามีจัดเตรียมไว้ให้คุณมากมายต่อไป
สุดยอดดดดดด ละเอียดยิบ และยาวจริงๆครับ 555+
น่าจะเป็นบทความที่ยาวลำดับต้นๆของเว็บเลยรึเปล่าเนี่ย….
เดี๋ยวผมจะเขียนยาวๆมั่ง :)
ส่วนตัวผมชอบ Sony เพราะมันดูใช้งานแบบโดดๆได้ไม่ต้องพึ่งมือถือได้มากกว่า gear ในหลายๆด้าน
แต่ว่าก็ดูเหมือนยังต้องการมือถืออยู่ดี..อยากได้ smart watch ที่ใช้งานได้โดดๆอ่ะ
เอ๊ะ หรือรอ Windows phone smart watch ดี :) 555+
อย่างหลังนี่จะมีโอกาสไหมครับเนี่ยคุณต้น 5555+
เป็นผมคงรอรุ่นที่จะพัฒนามาในภายหลังมากกว่า เพราะเท่าที่ดูทั้งสองตัวยังไม่ตอบโจทย์ได้ดีเท่าไหร่ ซึ่งหากรออีกสักปีหรือสองปี อาจจะเห็นอะไรที่มีการพัฒนา และน่าใช้งานมากกว่านี้
อยากรู้ว่า sonyเวลามีสายเข้า นาฬิกาจะสั่นเตือนได้ ของsamsungมันสั่นด้วยไหมครับ เพราะชอบฟังชั่นนี้มาก เนื่องจากมือถือสั่นไม่ค่อยรู้สึกเวลาเดินไปไหน เลยพลาดรับสายบ่อยๆ
เรากะว่าจะซื้อ note 3 อยู่แล้ว งั้น gear ก็คงไม่เป็นปัญหาสำหรับเราค่ะ
อยากได้เกียร์น่ะ
Wow, this article is nice, my younger sister is analyzing
such things, so I am going to let know her.
ซื้อ Sony ครับ
sony
sony
sony แจ่มกว่าหลายขุม แต่ยอดขายเมืองไทย ถ้าเอามาขายจริงๆ ยอดคงสู้ เจ้า gear ไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
gear
เคยใช้sony ตั้งแต่เป็น live viewมา smart watch
ประทับใจมากครับ มันสั่นเวลามีสายเข้าด้วย
ที่ผมชอบใช้คือ
แอฟ สั่งถ่ายรูปโดยกดชัตเตอร์จากนาฬิกา กดอัดเสียง gps trakker ปฎิทิน
ทางที่ดีควรซื้อหูฟังบลูทูธเพิ่มอีกครับ
ใช้แล้วหล่อเลยครับ
ผมเทใจให้sony เลยครับ
สรุป ผู้ทำบทความนี้ได้ลองใช้ Sony SmartWatch 2 เเล้วหรือ ยัง บอกว่าเเบตใช้เเค่วันเดียว พูดจากความนึกคิดของตัวเองนี่นา
มีคนรีวิวบอกว่า smartwatch2 ไม่รองรับภาษาไทย
อยากทราบว่า smartwatch 2 อ่านภาษาไทยได้ไหมคะ
Sony SMW2 ผมใช้ปกติ เปิดดู ปัดแอพ เปิด BT ยังไงก็มากกว่า 2 วันนะฮะ อย่างน้อย ๆ ก็ 2 วันที่แบบมาขีดแดงแว้วนะฮะ ส่วนเรื่องภาษาไทย มันก็ก้ำกึ่งอะคือ อ่านได้บางแอพฮะ เช่น ปฏิทินได้ แต่ FB, tw ไม่ได้ฮะ รออัพเดท XD แต่ถ้ามองว่าใช้มันเป็นนาฬิกาเป็นหลักแล้วผม happy ฮะ ^^
App มาตรฐานของ SmartWatch 2 ไม่รองรับภาษาไทยครับ
แต่ลง App เพิ่มให้แสดงภาษาไทยได้ครับ ลองดูรายละเอียดตามลิงค์ http://watchkzy.blogspot.com/2013/11/sony-smartwatch-2.html
ผมรอ iwatch