รีวิว OPPO A73 สมาร์ทโฟนฝาหลังสัมผัสหนัง เพรียวบาง น้ำหนักเบา พร้อม Snapdragon และชาร์จไว 30W VOOC 4.0 ราคาดี! เพียง 6,999 บาท

ก็คิดถึงพอสมควรเลยครับ สำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้การออกแบบให้ฝาหลังมีความคล้ายกับวัสดุหนังแบบรุ่นนี้ OPPO A73 เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่ออกแบบมาด้วยความเพียวบาง และน้ำหนักเบาเป็นจุดเด่น พร้อมราคาเบา เข้าถึงง่าย แค่เพียง 6,999 บาท มีขายแบบ Exclusive เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น

OPPO A73 ให้สเปคเครื่องที่น่าสนใจครับ ระดับกลางๆ แต่มีเทคโนโลยีที่สูงกว่าระดับตลาดตัวเองมาให้เป็นเซอร์ไพรส์ อย่างระบบชาร์จไว 30W VOOC Flash Charge 4.0 ก็ถูกใส่เข้ามาในรุ่นนี้ด้วย เป็นระบบชาร์จไวที่ไวมาก และมีความปลอดภัยสูงมากด้วยขั้นตอนการตรวจสอบ 5 ขั้นตั้งแต่ที่ชาร์จจนถึงตัวแบตเตอรี่ ไม่เกิดความร้อนขณะใช้งานและชาร์จ มั่นใจได้ไม่ว่าจะใช้เองหรือให้เด็กและผู้ใหญ่ในบ้านใช้ครับ

ตัวเครื่องบางมากเพียง 7.45 มม. และน้ำหนักเบาเพียง 163 กรัม งานดีไซด์เท่ใช้ได้เลยครับ บาง แต่สันเครื่องโค้งแบบ 2.5D ไม่คมไม่เจ็บมือ ถือจับง่าย ใช้ฝาหลังที่ออกแบบมาคล้ายหนังแต่เป็นวัสดุพลาสติกนะครับ แต่ทำมาได้ดีสัมผัสและลวดลายคล้ายหนังเลย

วัสดุดีครับ เป็นรอยนิ้วมือน้อยมาก และเกิดรอยขีดข่วนได้ยาก โดย OPPO A73 จะมีเข้ามาให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีส้ม Dynamic Orange และสีน้ำเงิน Navy Blue ที่เห็นในรีวิวนี้ครับ ดูมีความเป็นแฟชั่นแบบวัยรุ่น

การวางกล้องหลังหรูดีครับ เป็นแนวการวางแบบ 2×2 Array design สี่เหลี่ยมสมมาตร ใช้รอบนอกเป็นโลหะล้อมกรอบ คล้ายลักษณะของนาฬิกาข้อมือ ภายในมีวงแหวนตกแต่งรอบเลนส์กล้องอีกชั้นหนึ่ง กรอบกล้องหลังสวยมาก

กล้องสี่ตัว ความละเอียด 16ล้านพิกเซล พร้อมกล้องมุมกว้างพิเศษ wide-angle กว้าง 119 องศา 8ล้านพิกเซล อีกตัวเป็นกล้อง Monochrome 2ล้านพิกเซล และสุดท้ายกล้องฟิลเตอร์สี retro 2ล้านพิกเซล โหมดถ่ายภาพครบพร้อมฟังก์ชั่นที่เล่นกับสีสันของภาพมีเยอะจากชุดกล้องของรุ่นนี้ครับ

ด้านหน้าเป็นจอภาพ Water Drop Full Screen ขนาด 6.44 นิ้ว Full HD+ 2400 x 1080 พิกเซล คมชัดสูง 408 PPI เป็นจอชนิด AMOLED พร้อมขอบจอที่แคบมากๆ ครับคิดเป็นสัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องด้านหน้าสูงถึง 90.7% เลยทีเดียวครับ ใช้เทคโนโลยีหน้าจอแบบ Sunlight Screen ช่วยเพิ่มการเห็นภาพหน้าจอ เพื่อให้มองเห็นได้แม้อยู่ภายใต้แสงแดดครับ ใช้งานกลางแจ้งภาพไม่มืด และ Moonlight Screen สำหรับการถนอมสายตาในตอนกลางคืน โดยจะหรี่แสงหน้าจอพร้อมกรองแสงสีฟ้าให้อัตโนมัติ โดยค่าแสงต่ำสุดอยู่ที่ 2 nits ถึง 10 nits ทำให้หน้าจอของเครื่องรุ่นนี้ สามารถใช้งานแบบสบายตาได้ทั้งวันเช้าจรดค่ำเลยครับ

และเป็นเครื่องที่รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรงด้วยครับ In-Display Fingerprint Unlock 3.0 สแกนไวและแม่นยำครับ แค่แตะนิ้วลงก็เข้าใช้งานได้เลย รวมถึงรองรับการสแกนใบหน้าด้วยกล้องหน้าขนาดเล็กที่อยู่ด้านบนหน้าจอ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมี AI และรองรับการถ่ายภาพเซลฟี่ในยามกลางคืนได้ด้วยครับ

รองรับสองซิมการ์ดแบบ 3 สล็อต สามารถใส่ Micro SD card ได้เพิ่มเติม

เครื่องบางแค่นี้แต่ก็ยังมีรูหูฟัง 3.5มม. มาให้เช่นเดิมครับ พร้อมพอร์ทชาร์จแบบ USB Type C ที่รองระบการชาร์จแบตแบบ 30W VOOC Flash Charge ชาร์จไวมากกกกกกกก ชาร์จแบตเตอรี่ 4015 mAh ของเครื่องได้เต็มในเวลาเพียง 56 นาทีเท่านั้นครับ หรือแค่เสียบทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมง แบตก็กลับมาเกินกว่า 70% แล้วละครับ ไวมาก  แทบควบคุมความปลอดภัย เมื่อตรวจจับเจออาการผิดปกติหรือความร้อนสูงเกิน ตัวระบบชาร์จก็จะหยุดจ่ายไฟในทันทีครับ เรียกว่าไวและปลอดภัยสุดแล้ว ชื่อ VOOC เชื่อถือได้ ^^

อุปกรณ์ภายในกล่องมีมาให้ครบเลยรุ่นนี้ ทั้งเคสใส ชุดหูฟัง 3.5mm และที่ชาร์จ 30W VOOC Flash Charge พร้อมสาย USB Type-C

การใช้งาน OPPO A73

ใช้หน่วยประมวลผลตัวกลางแบรนด์ดี Qualcomm Snapdragon 662 ใช้ RAM แบบ LPDDR4x ขนาด 6GB หน่วยความจำภายในขนาด 128GB ใช้ระบบ ColorOS 7.2 ครอบทับ Android 10

ระบบ ColorOS 7.2 ของ OPPO ภายในเทคโนโลยีพัฒนามาเพียบเลยครับ มี Hyper Boost 2.1 ตัวนี้ช่วยดูแลประคองให้แอปและเกมให้ราบรื่น เพิ่มความไวและการตอบสนองในการใช้งาน โดยการจัดสรรทรัพยากรล่วงหน้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด อีกนึงตัวคืออัลกอริธึม Anti-Lag โดยตัวอัลกอริธึมนี้จะคอยตรวจจับ RAM และคอยล้างข้อมูล ในกรณีที่มันตรวจพบข้อผิดพลาดและอาจจะส่งผลให้สะดุดในระหว่างการใช้งาน นอกจากนี้ด้วยระบบช่วยเหลือใหม่เหล่านี้ มันยังส่งผลให้ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลทำได้เร็วมากขึ้นด้วยครับ

จากที่ทดลองใช้งานสมาร์ทโฟน OPPO มาหลายรุ่น ผมบอกได้เลยว่าแบรนด์นี้ไม่ค่อยได้เจออาการค้างในระบบเลย จะค่อนข้างนิ่งและเสถียรมากครับ

OS ค่อนข้างจะปรับแต่งได้เยอะด้วย และมีฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ใช้หลายอย่าง ตัวไอคอนใหม่ใน ColorOS 7.2 จะมีความบางของเส้นขอบมากขึ้น ไอคอนดูเบาลง มีให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบไอคอน และยังสามารถปรับแต่งไอคอนได้เองอย่างอิสระ

รวมถึงมีธีมสโตร์สำหรับการดาวน์โหลดธีม วอลล์เปเปอร์ และฟอนต์ตัวอักษรมาใช้งานได้

ปรับแต่งได้แม้แต่เอฟเฟ็กต์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอครับ เลือกได้หลายรูปแบบ

ทดสอบการใช้งานทั่วไป ไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับสเปคระดับนี้ ลื่นๆ ทดสอบการเล่นเกมเอฟเฟ็กต์สวย ก็ยังเล่นได้ลื่นครับ ไม่สะดุดหรือแลคค้างช้า การเข้าออกแอพได้เร็วดีครับ เรื่องประสิทธิภาพไม่ต้องห่วง แค่อาจจะไม่ลื่นแรงเร็วสุดแบบเครื่องระดับเรือธง แต่การใช้งานทุกอย่างจากที่ทดสอบแล้วไม่เป็นปัญหาแน่นอนครับ

เวลาใช้งาน OPPO A73 เราจะรู้สึกว่าตัวมันเล็กมากครับ บาง ขอบจอก็บาง เหมือนทั้งเครื่องจะมีแต่หน้าจอแล้วก็ฝาหลังเลย ^^ ความรู้สึกจากเครื่องขนาดมินิแต่จอไม่มินิ

หน้าจอสีสวยครับ เป็น AMOLED ความละเอียดดี ลำโพงเสียงดังดีมากด้วย

แต่ทาง OPPO ก็ใส่ฟังก์ชั่นในด้านการถนอมสายตามาให้นะครับ มีสามโหมดที่ผมใช้งานประจำและอยากแนะนำให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่รองรับเเปิดใช้งานไว้ เป็นโหมดเพื่อการถนอมสายตาและทำให้เราได้เข้านอนตามนาฬิกาชีวิตได้ง่ายขึ้นครับ

โหมดถนอมสายตาลดแสงสีฟ้า เราสามารถตั้งค่ากำหนดวันเวลา ให้มันเปิดทำงานโดยอัตโนมัติได้ในแต่ละวัน รวมถึงโหมดกลางคืนที่จะเปลี่ยนหน้าเมนูและการใช้งานต่างๆ ให้เป็นธีมสีดำ และสุดท้ายคือ “โหมดเข้านอน” เป็นโหมดที่ค่อนข้างใหม่ครับ เมื่อเปิดการทำงานแล้ว ตัวเครื่องจะปรับลดโทนแสงสีฟ้า และปิดการแจ้งเตือนที่ติดต่อเข้ามา เหมือนการผสมระหว่างโหมดถนอมสายตา และโหมดห้ามรบกวนเข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็นเวลาที่เราเตรียมเข้านอนได้อย่างเต็มที่นั้นเองครับ เราสามารถตั้งค่าให้มันทำงานได้ตามเวลาที่เรามักจะเข้านอนได้ทุกๆ วัน

OPPO มีทีม R&D ที่พัฒนาระบบใหม่ๆ เข้ามาอยู่ตลอดเวลาครับ เราสามารถเข้าไปลองใช้ผลงานที่ถูกพัฒนาขึ้นได้ใน OPPO LAB ซึ่งมีฟังก์ชั่นช่วยเหลือผู้ใช้เยอะเลยครับ

เช่นโหมดโฟกัส ที่จะเป็นการบอกเครื่องถึงช่วงเวลาที่เราต้องการสมาธิในการทำงาน หรือต้องการพักตัวเองจากโลกการติดต่อสื่อสารออนไลน์ และสร้างบรรยากาศจำลองด้วยเสียงธรรมชาติ

LAB Ringtone สามารถกำหนดเลือกริงโทนที่จะใช้งาน ได้ตามกราฟแผนผังอารมณ์ที่เราต้องการ แค่ลากไปยังจุดที่อารมณ์เราพาไป ก็จะได้เสียงเรีบกเข้าในระดับความรู้สึกนั้นๆ ออกมาใช้งานครับ ^^

มีระบบ Gesture ที่ใช้การวาดสัญลักษณ์นิ้วเพื่อสั่งงานได้โดยตรง เช่นการลากสามนิ้วลงบนหน้าจอเพื่อเซฟภาพหน้าจอได้ทันที หรือการลากสามนิ้วลงเพื่อแบ่งหน้าจอทำงานได้สองแอพพร้อมกัน หรือการวาดสัญลักษณ์เพื่อเรียกการทำงานได้ตั้งแต่หน้าจอยังล็อก เช่นการวาดวงกลมเพื่อเรียกใช้งานกล้องถ่ายภาพ หรือการวาดตัว V เพื่อเปิดใช้งานไฟฉาย รวมถึงการทัชหน้าจอสองครั้งเพื่อปลุกเครื่องแทนการกดปุ่มพาวเวอร์

โหมด Game Space เพื่อช่วยสนับสนุนคนชอบเล่นเกมครับ เคลียแรม เคลียการทำงานต่างๆ เพื่อรีดประสิทธิภาพมาให้เราได้เล่นเกมในระดับประสิทธิภาพสูงสุดของเครื่อง พร้อมกำหนดให้ปิดกั้นการแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้มารบกวนขณะเล่นเกม

มีความสามารถที่เรียกว่า Quick Return Bubble ช่วยนับเวลาถอยหลังการรอเข้าสนามรบของเกม โดยที่เราไม่ต้องรอกอยู่หน้าเกม สามารถออกมาทำอย่างอื่นได้และให้ตัวระบบคอยดูเวลาให้โดยจะแสดงเป็นไอคอนนับถอยหลังบนหน้าจอ และเมื่อถึงเวลาก็สามารถกลับเข้าสนามได้ด้วยการแตะไอคอนเพียงครั้งเดียว

เล่นเกมแบบ FPS สบายๆ ครับรุ่นนี้ เครื่องเบาด้วย ถือง่าย เล่นนานๆ ไม่เมื่อยไม่ปวดนิ้ว ^^ แล้วที่สำคัญ ผมเคยมีความคิดว่าสมาร์ทโฟนเครื่องบางๆ จะเกิดความร้อนได้ง่าย แต่สำหรับตัวนี้ไม่ใช่ครับ แม้ตัวบางและราคาไม่แพง แต่ก็ควบคุมความร้อนได้ดี สุดท้ายการแก้ปัญหาความร้อนก็อยู่ที่เทคโนโลยีของใครของมันจริงๆ

การใช้งานของแบตเตอรี่รุ่นนี้ สามารถใช้งานได้เต็มวันครับ ระบบค่อนข้างดี จัดสรรพลังงานได้ดี และยังมีโหมดถนอมแบตเตอรี่พิเศษ ที่จะยืดอายุการใช้งานของแบตได้สองเท่าตัวเลยครับ ด้วยการจำกัดการใช้งานให้เหลือเพียง 6 แอพพลิเคชั่นสำคัญที่เราระบุเลือกได้ ไว้ใช้ในกรณีต้องการถนอมแบตเตอรี่ไว้เป็นสำคัญจริงๆ

ด้วยการใช้ระบบชาร์จ 30W VOOC Flash Charge เราไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องแบตให้มากเลยครับ เพราะเสียบชาร์จเผลอๆ แบตก็เกือบเต็มแล้ว เสียบประมาณ 30 นาที แบตก็กลับมาอย่างน้อย 70% กว่าๆ ชาร์จไวมาก แถมเครื่องไม่ร้อน เสียบไปใช้งานไปได้เลย

ผลทดสอบต่างๆ

สเปคดี ราคาดี การเชื่อมต่อสมบูรณ์ดีครับ ใช้งาน 4G ได้ทั้งสองซิม และรองรับ WI-Fi 5.0 การเชื่อมต่อและการจับตำแหน่งไม่มีอะไรผิดพลาดให้เห็นระหว่างทดสอบ

กล้องถ่ายภาพ

กล้องรุ่นนี้ก็จัดเต็มกล้องหลังมาสี่ตัวเลย ถ่ายภาพมุมกว้าง ถ่ายภาพบุคคลพร้อมฟิลเตอร์สีโมโนโทนและสีสันต่างๆ ถ่ายภาพวิวพอใช้ได้ เด่นที่ถ่ายคนได้ดีครับ ใครชอบท่องเที่ยว หรือเซลฟี่ นำพกพาติดตัวไปใช้งานหวังพึ่งได้ครับ

กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม AI Beautification 2.0 เซลฟี่สวยงามครับ ปรับจับโทนสีผิวและสภาพแสง หน้าผู้ถ่ายจะสวยและยังดูเป็นธรรมชาติครับ แต่งภาพไม่หลอกตาเกินไป แม้จะเป็นกล้องหน้าตัวเดียว แต่ด้วยซอฟท์แวร์ของ OPPO ก็ทำผลงานออกมาได้ดีตามมาตรฐานเจ้าแม่แห่งการเซลฟี่อย่าง OPPO

และยังมี Night Mode สำหรับการเซลฟี่ในเวลากลางคืนได้ด้วย หน้าแบบไม่มืดครับ

กล้องหลังสี่ตัวมาพร้อม AI และโหมด AI Dazzle Color สำหรับการตรวจจับสิ่งที่จะถ่าย แล้วเติมแต่งสีสันให้เข้ากับสิ่งนั้นอย่างเหมาะสมเป็นธรรมชาติ

กล้องหลักความละเอียด 16ล้านพิกเซล พร้อมกล้องมุมกว้างพิเศษ wide-angle กว้าง 119 องศา 8ล้านพิกเซล ซูมภาพได้สูงสุด 10x ครับ จากที่ทดสอบหวังผลชัดสุดในระดับไม่เกิน 5x

อีกสองตัวเป็นกล้อง Monochrome 2ล้านพิกเซล มาพร้อมฟังก์ชั่นสำหรับการถ่ายภาพบุคคล และสามารถเล่นกับฟิลเตอร์สีสันของภาพได้ ถ่ายภาพบุคคลได้ดีครับรุ่นนี้ ใช้ฟิลเตอร์เลือกใส่เข้าไป ให้ได้ภาพหลายอารมณ์

และถ่ายภาพบุคคลกลางคืนได้ด้วย หน้าแบบไม่มืดภาพไม่วุ้น ถือถ่ายคนหรือวิวได้ด้วยมือเปล่าเลยในยามกลางคืน

มีโหมด ExtraHD เพิ่มความละเอียดภาพ จากกล้อง 16 ล้านพิกเซล ให้สามารถถ่ายภาพความละเอียดระดับ 108 ล้านพิกเซลเลยครับ ถ่ายภาพขนาดใหญ่เพื่อจะนำไปใช้พิมพ์ภาพขนาดใหญ่ หรือนำมาครอปตัดใช้ในภายหลังครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายหลายๆ โหมด

สรุปท้ายรีวิว

ด้วยราคาจำหน่ายแค่เพียง 6,999 บาท แต่ได้สมาร์ทโฟนแบรนด์ OPPO ในสเปคระดับนี้ถือว่าคุ้มมากครับ ไม่ได้สเปคสูงส่งมากอะไร แต่เมื่อดูจากราคาจำหน่าย และองค์ประกอบที่ได้ หน้าจอสวย เครื่องสวยและบางเบามาก สเปคการใช้งานกำลังดี และระบบชาร์จแบตเตอรี่ 30W VOOC Flash Charge กินขาดกลุ่มราคาเดียวกันในตลาดทั้งในด้านความเร็วและความปลอดภัย

กล้องคุณภาพใช้ได้ มีฟังก์ชั่นครบ วัยรุ่นวัยทำงานใช้ถ่ายภาพพอร์ทเทรตหรือเซลฟี่ได้สวย ไม่ต้องจ่ายแพง และมีความปลอดภัยสูง จึงเหมาะสำหรับเอาไว้ให้เด็กหรือผู้ใหญ่ใช้งานได้ด้วย เป็นความอุ่นใจที่ปกติไม่ค่อยจะได้เจอในกลุ่มระดับราคาขนาดนี้ครับ

แต่ OPPO A73 เป็นเครื่องที่ทำตลาดแค่เพียงช่องทางออนไลน์เท่านั้น ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปจับจองได้เลยในหลายช่องทางออนไลน์ด้านล่าง มาพร้อมโปรโมชั่นที่ทำให้ผมรู้สึกว่า “คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม” ^^ แต่จะไม่มีจำหน่ายหน้าร้านค้าแบบออฟไลน์นะครับรุ่นนี้

ราคา 6,999 บาท พร้อมรับส่วนลดทันที 500 บาท, E-VIP Card ประกันหน้าจอแตก 1 ปี มูลค่า 3,000 บาท

-ของสมนาคุณ เมื่อซื้อที่ Lazada, Shopee, JD Central และ Thisshop หรือ สามารถซื้อแพ็คคู่พร้อมกับ OPPO Enco W11 ได้ในราคาพิเศษ 7,998 บาท จากราคาปกติ 8,298 บาท ที่ OPPO Online Official ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563

– หรือ สามารถเป็นเจ้าของในราคาเริ่มต้นเพียง 2,690 บาท เมื่อซื้อที่ผู้ให้บริการเครือข่าย ดีแทค ตั้งแต่วันนี้ – วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมของแต่ละช่องทางได้ที่

Lazada: https://bit.ly/34jCPct
Shopee: https://bit.ly/3m4s6si
JD Central: https://bit.ly/34CoJTs
Thisshop: https://bit.ly/2HuBfeY
ดีแทค: https://bit.ly/327kFJo
OPPO Online Official: https://bit.ly/2HluuMw