รีวิว HONOR X9c 5G ถึกเกินคุ้มในราคาแค่หมื่นเดียว!

HONOR X9c 5G มือถือสุดแกร่งเกินมาตรฐาน ที่มาพร้อมกล้อง AI และแบตเตอรี่ที่ใหญ่สุด! ด้วยแบตขนาด 6600mAh ถึกเกินคุ้มในทุกด้าน เพราะเปิดราคามาแค่หมื่นเดียวเท่านั้นเอง

HONOR X9c 5G เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นท็อปสุดของ X Series จาก HONOR ที่มีการนำเข้ามาวางจำหน่ายในไทยเรียบร้อยแล้ว เป็นกลุ่มสมาร์ตโฟนที่เน้นความอึดถึกทน ที่จะทนได้ในทุกสถานการณ์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการตกกระแทก กระทบของแข็ง หรือการกันน้ำกันฝุ่นในทุกสภาพ นับเป็นจุดขายของรุ่นเลยครับ

HONOR X9c 5G ยังเป็นเครื่องที่มีกล้องคุณภาพดีครับ รองรับการทำงานกับ AI ความละเอียดสูงสุด 108MP มีกันสั่น OIS และ EIS ทำงานร่วมกัน ที่สำคัญคือมาพร้อมกับขนาดแบตเตอรี่ใหญ่สุดๆ เพราะใส่เข้ามาให้ใหญ่ถึง 6600mAh เลยทีเดียว ซ่อนรูปอยู่ในตัวเครื่องสวยๆ ขนาดบางๆ ที่ดูภายนอกจะนึกไม่ถึงเลยว่ามีขนาดแบตที่ใหญ่ และมีความทนทานมากขนาดนี้

เปิดราคาขายมาคุ้มค่ามากๆ เพียง 10,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษที่น่าสนใจ ใครกำลังมองหาเครื่องที่ใช้งานได้ครบครัน ในงบประมาณหมื่นเดียว ต้องไม่พลาดบทความรีวิวนี้ครับ

คลิปรีวิว HONOR X9c 5G แบบเจาะลึก

ทนทานระดับ IP65M กันน้ำ กันกระแทกรอบด้าน 360°

HONOR X9c 5G ถูกออกแบบมาในมาตรฐานกันน้ำ IP65M หมายถึงมันสามารถกันฝุ่นผงได้แบบสมบูรณ์ และรองรับการกันน้ำจากการฉีดใส่ได้รอบด้าน ซึ่งมาตรฐานระดับ IP65 มักจะเป็นมาตรฐานที่ถูกใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ติดตั้งอยู่นอกบ้าน ต้องตากแดดตากฝน แทนต่อสภาพอากาศภายนอกบ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนตัว M ที่ใส่เข้ามาต่อท้ายของ IP65M หมายถึงคุณสมบัติการกันน้ำของอุปกรณ์รุ่นนี้ สามารถทนได้แม้จะมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลาในขณะที่โดนน้ำ การเคลื่อนไหวไปในทิศทางต่างๆ ไม่ส่งผลลดทอนต่อคุณสมบัติการกันน้ำของตัวอุปกรณ์ตัวนี้ลงนั้นเองครับ

สรุปได้ว่ามาตรฐาน IP65M ของ HONOR X9c 5G เหมาะกับการลุยน้ำในสภาวะแบบชีวิตประจำวัน นำไปลุยฝน เขย่าล้างในน้ำ หรือจะจุ่มลงไปในน้ำลึกสัก 25 ซม. นานไม่เกิน 5 นาทีก็ยังอยู่ในมาตฐานที่ทนได้สบายครับ

รวมถึงการใช้เทคโนโลยี HONOR Anti-Drop ซึ่งเป็นการออกแบบโครงสร้างทั้งภายนอกและภายใน ให้ทนทานต่อการตกจากที่สูงไม่เกิน 2 เมตร ฉะนั้นหายห่วงเรื่องการเกิดอุบัติเหตุ ทำหล่นหลุดมือ ตกจากที่สูง หรือถือไปกระทบกระแทกมุมโต๊ะ แทบจะเกิดความเสียหายได้ยากมากๆ ครับ

กระจกจอนิรภัยพิเศษและแผงป้องกันฝาหลังจะทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันแรงกระทบจากภายนอก และภายในทั้งเมนบอร์ดและชุดโมดูลกล้องซึ่งเป็นสองส่วนประกอบสำคัญจะถูกหุ้มไว้ด้วยวัสดุกันกระแทกที่ครอบคลุมเอาไว้รอบมุม เพื่อการป้องกันเครื่องได้แบบ 360 องศา

เทคนิคการออกแบบนี้ของ HONOR ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ครับ ทำให้ HONOR X9c 5G เป็นสมาร์ตโฟนที่มีความทนทานสูงมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนที่มีความทนทานมากอยู่แล้ว ก็ยังมีความทนทานที่มากขึ้นถึง 166% เลยทีเดียว

มั่นใจได้ในทุกการใช้งาน แม้จะต้องเผชิญกับพื้นผิวแข็งๆ เช่นพื้นปูน พื้นหิน พื้นยางมะตอย ไม่แตกหักเสียหายได้ง่ายๆ อย่างแน่นอน อีกทั้งยังผ่านการรับรองจาก SGS ระดับห้าดาว ซึ่งเป็นการยืนยันคุณภาพที่เชื่อถือได้มาเรียบร้อยครับ

ทนทานแต่บางเบาสวยงาม

HONOR X9c 5G ไม่ใช่แค่ทน แต่สวยมากด้วยครบ เป็นสมาร์ตโฟนที่หน้าตาเครื่องจริงดูออกไปทางสายนางงามมากกว่าจะเป็นสายเพาะกายที่ขายความถึกทน โดยเฉพาะสีม่วงไทเทเนียมที่เห็นในรีวิวนี้ สวย หรู ดูแพง คนไม่รู้อาจจะคิดไม่ถึงว่าจะมีความทนทานได้มากขนาดนี้

ทาง HONOR มีการนำเข้ามาจำหน่ายในไทยสามสีครับ นั้นคือ Titanium Purple, Titanium Black และ Jade Cyan ตัวเครื่องพกพาง่าย มีน้ำหนักเพียง 189 กรัม และมีความบางเพียง 7.98 มม. ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าภายในตัวเครื่องแค่นี้ จะมีแบตเตอรี่ขนาด 6600mAh ใส่เข้ามาให้

กล้องหลังออกแบบมาได้สวยมาก เป็นจุดโชว์เอกลักษณ์การออกแบบของ HONOR X9c เลยครับ ใช้ดีไซน์แบบ Rolex Fluted Bezel คล้ายการออกแบบของหน้าปัดนาฬิกาหรู มีการเก็บรายละเอียดเล็กๆ เอาไว้อย่างประณีต ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ดูจะเกินราคาขายแค่หมื่นเดียวของเครื่องรุ่นนี้ไปอย่างชัดเจนอีกหนึ่งเรื่องเลยครับ

กระจกหน้าจอและกระจกด้านหลังใช้เป็นกระจกแกร่งรอบตัวเครื่องทั้งหมด รวมถึงกระจกครอบเลนส์กล้องก็ใช้เป็นกระจก Super Double Tempered Glass AGC DT Star2 Plus ฉะนั้นความแกร่งจึงมีรอบตัวเครื่องไม่ว่าจะไปกระทบกับของแข็งในจุดใด ก็หายห่วง

ในด้านหน้าจอแสดงผล ใช้เป็นจอสบายสายตา Eye-Comfort ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว  ความละเอียด 1.5K พร้อมอัตรารีเฟรชสูง 120Hz รองรับการแสดงผล 1.07 พันล้านสี มีเทคโนโลยีการหรี่แสงในความถี่ระดับถึง 3840Hz PWM ทำให้สบายสายตาแม้จะใช้งานในที่แสงน้อยมากๆ (แต่ควรหลีกเลี่ยงอยู่ดีนะ ^^) รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง และรองรับการสแกนใบหน้าด้วยกล้องหน้า 13MP ได้ด้วยเช่นกัน

ขอบจอเล็กมากๆ เพราะเป็นหน้าขอบโค้งด้วย ภาพแสดงผลจึงดูเต็มพื้นที่ ให้ความสว่างของจอสูงสุดถึง 4000nits เลยทีเดียว ใช้งานกลางแจ้งได้สบายๆ เลยละครับ สำหรับระบบเสียงมาพร้อมกับลำโพงคู่สเตอริโอ เสียงดังชัดมากๆ เพราะสามารถเร่งเสียงให้ดังได้มากกว่าปกติถึง 300% เปิดในที่เงียบๆ อาจจะดังเกินไปด้วยซ้ำครับ แต่มีไว้ใช้ในกรณีที่เราอยู่ในที่เสียงอึกทึกและอาจจะไม่ได้ยินเสียงลำพังตามปกติ

ตรงบริเวณพื้นที่ข้างกล้องหน้า มีการใช้เป็นพื้นที่พิเศษสำหรับ Magic Capsule หรือการแสดงข้อมูลในระหว่างการใช้งานเช่นการเล่นเพลง หรือการอัดบันทึกเป็นต้น เราสามารถกดเข้าไปควบคุมการทำงานได้จากในช่อง Magic Capsule ได้ทันทีโดยไม่ต้องสลับแอป เป็นทางลัดที่ดูสวยงามดีครับ

ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. บนตัวเครื่องโดยตรง รองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ดแบบ Dual Stand-by เป็นถาดใส่ซิมแบบสองสล็อต ไม่รองรับการใส่ micro SDcard เพิ่มเติมครับ

อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีที่ชาร์จ 66W Honor SuperCharge แถมมาให้เลย พร้อมเคสใสซิลิโคน และสายดาต้า USB Type-C

แบตเตอรี่ใหญ่พิเศษ 6600mAh พร้อมชาร์จไว 66W SuperCharge 

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่ควรมองข้ามคือแบตเตอรี่ซิลิคอนคาร์บอนขนาดความจุ 6600mAh ซึ่งถือว่าใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนช่วงราคานี้ สามารถใส่เข้ามาได้ในเครื่องขนาดความบางแค่ 7.98 มม. ยอดเยี่ยมมากครับ จากการทดสอบเราสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันครับ ย้ำว่า “ใช้งานทั้งวัน” ไม่ใช่การสแตนด์บาย

ดูหนังดูวิดีโอใช้แบตเตอรี่เฉลี่ยแค่ชั่วโมงละ 5% เปิดไปเลยอย่างน้อยๆ ดูได้เกือบ 20 ชั่วโมง และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จไว 66W SuperCharge ให้ด้วย สามารถชาร์จแบตเตอรี่ก้อนยักษ์ของรุ่นนี้ได้เร็ว ใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่กลับมาครึ่งก้อนแล้วครับ

การใช้งานภายใน

HONOR X9c 5G มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 6 Gen 1 เป็นชิประดับ 4 นาโนเมตร ตัวประมวลผลระดับกลางที่อาจจะไม่หวือหวามากนัก แต่การรันด้วยระบบ MagicOS 8.0 ของ HONOR ทำให้ประหลาดใจกับความลื่นไหลได้เลย (ครอบทับบน Android 14)

ซอฟท์แวร์ทำมาได้เนียนมาก การตอบสนองเร็ว ระบบเบา สั่งงานอะไรทำได้ทันใจ รู้สึกได้ตั้งแต่หน้าโฮมไปจนถึงการสลับแอป ด้วยเพราะมี RAM ขนาดใหญ่ด้วย รุ่นที่ผมได้มารีวิวเป็นรุ่น RAM 12GB ที่สามารถขยายได้อีกสูงสุด 12GB เยอะเกินจะพอ

จากการใช้งานมา ตัวเครื่องไม่มีความร้อนสะสมให้ต้องเป็นกังวลเลย ภายในระบบมีการป้องกันอยู่หลายชั้น มีการตรวจสอบอุณหภูมิแบบเรียลไทม์เพื่อปรับการทำงานภายในตามการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเพื่อความปลอดภัย พวกนี้จะไม่ปล่อยให้ตัวเครื่องร้อนเกินไปครับ ระบบทำมาได้ดี ไม่เจอปัญหาค้าง ช้า รีสตาร์ทให้เห็นเลยตลอดการใช้งาน

ตัวระบบมีการกำหนดระดับประสิทธิภาพมาเราเลือกใช้ได้หลายโหมดครับ โดยสามารถเข้าไปกำหนดค่าเองได้ในการตั้งค่า “แบตเตอรี่” ภายในจะมี “โหมดเพิ่มประสิทธิภาพ” ที่จะทำให้ตัวเครื่องทำงานได้เต็มที่ โดยอาจจะเพิ่มการกินพลังงานแบตเตอรี่มากขึ้นสักหน่อย และอาจจะมีความร้อนที่สูงขึ้นกว่าปกติ แต่จากที่ทดสอบเปิดใช้งานด้วยแบตเตอรี่ที่เยอะขนาดนี้ เรื่องกินแบตไม่รู้สึกเลยครับสามารถเปิดได้เลย ส่วนเรื่องของความร้อน ถ้าไม่ได้ไปใช้งานในที่กลางแจ้งหรือที่อับซึ่งมีอุณหภูมิสูงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ เพราะที่ใช้งานในอุณหภูมิห้องถือว่าปกติทุกอย่าง

รวมถึงโหมดประหยัดพลังงาน ที่สามารถยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่คงเหลือ ให้สามารถทำงานได้นานกว่าปกติถึง 3 เท่า โดยจะปรับเปลี่ยนตัวเองให้อยู่ในโหมดถนอมแบตเตอรี่ ลดการทำงานเบื้องหลัง ตัดสิ่งที่กินพลังงานทิ้งไป และเหลือแค่การทำงานบนแอปพลิเคชั่นที่เราเลือกเอาไว้เท่านั้นครับ

ระบบของ HONOR มีตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้อยู่เยอะ รวมถึงการใช้ AI เข้ามาช่วยในการทำงาน เช่นระบบ Magic Portal ซึ่งจะเป็นการแนะนำแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เรากำลังคัดลอกโดยการลากวาง เช่น ถ้าเรากำลังคัดลอกรูปภาพสินค้า ก็จะมีแอปช้อปปิ้งขึ้นมาให้เราลากไปวางที่ขอบหน้าจอทั้งด้านซ้ายและขวา เพื่อค้นหาสินค้าที่เกี่ยวข้อง หรือถ้าเราคัดลอกข้อความก็จะมีแอปโซเชี่ยลหรือแชตแสดงขึ้นมาให้เราเลือกที่จะนำข้อความที่เราคัดลอกไปใช้ได้ทันที โดยจะเปิดแอปพลิเคชั่นนั้นขึ้นมาในรูปแบบของหน้าต่างป๊อบอัพ เราไม่ต้องสลับออกแอปเพื่อไปใช้งานเลยครับ

รวมถึงสามารถลากไปวางยังตำแหน่ง “รายการโปรด” ซึ่งเป็นพื้นที่จัดเก็บส่วนตัวให้เราสามารถนำเนื้อหาภายในไปใช้งานได้ในภายหลัง ซึ่งรองรับทั้งการจัดเก็บข้อความโปรด เอกสาร และรูปภาพโปรด เอาไว้เรียกใช้ภายหลังได้จากที่เดียวกันครับ

รวมถึงระบบการใช้ AI เข้ามาช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงสนทนาของเราก็มีใส่เข้ามาให้นะครับ แต่ว่าอาจจะมีการซ่อนไว้ที่เราต้องเข้าไปเปิดในการตั้งค่า “ฟีเจอร์การเข้าถึง” และไปที่ “การเพิ่มประสิทธิภาพการโทร” เราจะเห็นความสามารถในการตัดเสียงรบกวนด้วย AI ซึ่งจะช่วยลดการรบกวนจากเสียงพื้นหลังในระหว่างการโทรสนทนา เหมาะสำหรับคนที่ใช้ชีวิตในที่เสียงอึกทึกสักหน่อยครับ

ระบบของ MagicOS 8.0 สามารถเรียกการทำงานแบบหลายหน้าต่างขึ้นมาใช้ได้ง่ายมากๆ แค่สไลด์จากด้านข้างหน้าจอเพื่อเปิดแอปที่สองขึ้นมาใช้งาน ซึ่งรวมถึงแอปที่สามที่จะสามารถเปิดได้ทั้งแบบแบ่งครึ่งหน้าจอ หรือแบบป๊อบอัพ เราสามารถเลือกสลับการวางแอปไปมาได้ค่อนข้างอิสระเลยครับ และสามารถพักแอปเปิดไว้ในรูปแบบของไอคอนรอเรียกใช้ได้

และด้วยขนาดแรมที่เยอะมากพอ ทำให้การทำงานหลายแอปก็สามารถเปิดปิดได้ไวไม่มีปัญหาอะไรครับ มีความสามารถในการล็อคแอปพลิเคชั่น และตู้นิรภัยเอาไว้เก็บไฟล์ที่เราต้องการล็อคเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง

และยังมีความสามารถเด็ดในการเพิ่มความเป็นส่วนตัวของเราที่เหนือไปกว่าการล็อคเอาไว้แบบปกติ นั้นคือระบบ Parallel Space เป็นคุณสมบัติที่ช่วยให้มีพื้นที่พิเศษซ่อนอยู่ในตัวเครื่องเดียวกันเหมือนเป็นโทรศัพท์ลับ ปกป้องความเป็นส่วนตัวเอาไว้อีกชั้นหนึ่ง แยกการใช้งานทุกอย่างออกมาได้ในอีกบัญชีหนึ่ง

สามารถเรียกใช้ได้ง่ายมากแต่เข้าได้ยาก เพราะจะถูกล็อกเอาไว้ด้วยรหัสที่แยกจากกันกับพื้นที่ปกติ ในการใช้งานครั้งแรกเราต้องไปเปิดความสามารถนี้ที่การตั้งค่าซะก่อนครับ โดยการเข้าไปเสิร์ชหา “Parallel Space” ในเมนูตั้งค่าและกำหนดรหัสพิเศษขึ้นมาอีกหนึ่งชุดที่ไม่เหมือนกับรหัสปลดล็อคเครื่องตามปกติเพื่อเปิดการทำงาน ทำเพียงครั้งแรกครั้งเดียว

หลังจากนั้นเราจะได้พื้นที่พิเศษขึ้นมา ซึ่งเนื้อหาภายในทั้งไฟล์ภาพ เสียง วีดีโอ และแอปพลิเคชั่นต่างๆ จะแยกออกจากโหมดปกติเป็นเหมือนสมาร์ตโฟนอีกเครื่องหนึ่ง (ต้องล็อคอิน GoogleID ใหม่ด้วย จะเป็นไอดีเดิมหรือเป็นอีกหนึ่งไอดีกับโหมดปกติก็ได้เช่นกัน)

ซึ่งความเก๋ของ Parallel Space คือการเรียกใช้งานครับ เราสามารถเข้า Parallel Space แค่ถ่างนิ้วออกในขณะอยู่บนหน้าหลัก แล้วจะมีอนิเมชั่นเหมือนการเปิดประตูเข้าสู่พื้นที่ Parallel Space ที่ออกแบบมาได้อย่างสวยงาม เรียกใช้ได้สะดวกมากๆ เราสามารถติดตั้งแอปโดยใช้ไอดีใหม่ เก็บไฟล์ต่างๆ และใช้งานได้แบบเหมือนมีเครื่องใหม่อีกเครื่อง แต่ความพิเศษคือมันยังสามารถย้ายไฟล์ต่างๆ ไปยังโหมดปกติได้ และสามารถดึงไฟล์ต่างๆ มาใช้ในโหมด Parallel Space ได้ครับ แต่ในทางกลับกันสำหรับผู้ใช้ที่เข้าโหมดปกติจะไม่สามารถมายุงกับข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ใน Parallel Space ได้เลยถ้าไม่รู้รหัสเข้าใช้งาน

ด้านการถ่ายภาพ HONOR X9c มาพร้อมกล้องหลัก Ultra-Clear 108MP เทคโนโลยี Pixel Binning 9-in-1 และติดตั้งกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) มาให้เรียบร้อย ทำงานคู่กับกล้อง Ultra-Wide 5MP และกล้องหน้ามีความละเอียด 13MP สามารถซูมภาพได้ตั้งแต่มุมกว้าง 0.6x ไปจนถึง 3x ในแบบที่ลดการสูญเสียรายละเอียด ซึ่งภาพจะยังคมชัดเหมือนเดินเข้าไปถ่ายตามปกติ และสามารถซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุดที่ 10x

ตัวกล้องมี AI คอยช่วยในการใช้งาน ตรวจจับสิ่งที่ถ่ายเพื่อปรับแสงและตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมอัตโนมัติ รวมถึงแนะนำซีนการถ่ายภาพที่อาจจะเหมาะสมมากกว่าให้กับผู้ใช้ได้สลับไปมาได้อย่างรวดเร็วในคลิ๊กเดียวได้ด้วย มีระบบ “จับภาพไฮไลค์” สำหรับการจับภาพอัตโนมัติเมื่อตรวจพบการยิ้ม, การวิ่ง, การกระโดด หรือภาพการเคลื่อนไหวของสุนัขและแมวได้อย่างอัตโนมัติ ช่วยให้กล้องเก็บภาพในจังหวะที่เราอาจจะพลาดไปได้เอง

รองรับการถ่ายภาพบุคคล มาพร้อมกับการปรับระยะชัดลึกชัดตื้น และโหมดบิวตี้ปรับความเนียนใสและเค้าโครงของใบหน้า ซึ่งรองรับทั้งกล้องหลังและกล้องหน้าเลยครับ และในโหมดการถ่ายภาพบุคคลใน HONOR X9c รองรับการซูมภาพได้สามระดับด้วยนะครับ 24mm, 48mm และ 72mm ยืนถ่ายอยู่ที่เดิมแต่ได้ภาพบุคคลสามระยะที่แตกต่างกันได้ครับ

กล้องวีดีโอรองรับการถ่ายความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30Fps โดยมีโหมดบิวตี้สำหรับการทำหน้าเนียนใสในการถ่ายบุคคลใส่เข้ามาให้ด้วย แต่ถ้าเปิดโหมดบิวตี้จะรองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดได้ที่ 1080p 30Fps เท่านั้น ตัวกล้องมีกันสั่นช่วยในการถ่ายภาพและวิดีโอ แม้ในโหมดการถ่ายวิดีโอจะไม่มีโหมดลดการสั่นให้เราเปิดใช้งานแบบชัดเจน แต่จะรู้สึกถึงการทำงานของ OIS ได้ตลอดในขณะที่เรากำลังถ่ายครับ

รองรับการถ่ายวิดีโอแบบกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกัน ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ และในขณะที่ถ่ายเราสามารถซูมภาพกล้องหลังในขณะถ่ายวิดีโอได้ด้วยครับ

นอกจากนี้ยังมี HONOR ยังใส่ AI Eraser ซึ่งเป็นความสามารถที่ใช้ AI ลบสิ่งรบกวนในภาพได้อย่างง่ายดาย แค่วงไปบนสิ่งที่ต้องการลบ แล้วตัว AI จะทำการลบวัตถุบนภาพ พร้อมกับใส่รายละเอียดในฉากหลังให้ภาพกลับมาดูสมบูรณ์ได้ทันที ทำออกมาได้เนียนดีมากครับ

สรุปท้ายรีวิว

HONOR X9c 5G ไม่ใช่แค่สมาร์ทโฟนธรรมดา แต่เป็นอุปกรณ์ที่มีความทนทานสูงพิเศษสำหรับคนที่ต้องการความอุ่นใจในการใช้งาน ไม่ว่าจะตก หล่น โดนน้ำ หรือกระทบกระแทกโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ได้มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP65M และเทคโนโลยีหน้าจอ Anti-Drop ป้องกันความเสียหายจากการตกหล่นในระดับ 2 เมตร ลดโอกาสเกิดความเสียหายในระดับรุนแรงได้แบบชัดเจน ไม่ว่าจะใช้งานเองหรือให้เด็กใช้ก็อุ่นใจได้ในด้านความทนทาน

และตัวเครื่องยังคงสวยงามตามที่ควรจะเป็น ตัวบาง เบา แต่กลับใส่แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 6600mAh เข้ามาให้ได้ เป็นเครื่องที่แบตอึดอย่างมาก ใช้งานได้นานแบบที่ผู้รีวิวไม่เคยเจอมาก่อน และยังรองรับการชาร์จไวระดับ 66W ในราคาแค่นี้ถือว่าสุดยอดมาก

หน้าจอใหญ่ ภาพคมชัด ความสว่างสูง 4000nits ลำโพงคู่สเตอริโอที่สามารถเร่งเสียงให้ดังได้ 300% กล้องถ่ายภาพมีคุณภาพ คมชัดภ่ายภาพได้สวยทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ มีความลื่นไหล ตัวระบบทำมาได้นิ่งและเสถียรมาก รู้สึกได้ถึงความว่องไวในการตอบสนอง

ครบหมดทุกด้านสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันของทุกสาขาอาชีพครับ และยังโดดเด่นที่อุ่นใจได้มากกว่าด้วยความทนทานเกินมาตรฐานสมาร์ตโฟน แถมราคายังประหยัดอีกด้วย

ราคาและโปรโมชั่นพิเศษ

สำหรับการเปิดตัว HONOR X9c มีโปรโมชั่น Pre-order วันที่ 8-17 มกราคม นี้ ราคา 10,990 บาท แถมหูฟังไร้สาย HONOR Earbud X6 และสายรัดข้อมือ HONOR Band 9 รวมมูลค่า 3,398 บาท! 🎁
ลิงก์ช่องทางการสั่งซื้อ : https://tinyurl.com/mr4ce34h