พรีวิว realme GT Neo 2 5G การออกแบบที่ผสานธรรมชาติเข้ากับเทคโนโลยีสเปคแรง Snapdragon 870 5G หน้าจอ E4 AMOLED 120Hz

realme GT Neo 2 5G มาในสีสันงานออกแบบที่โดดเด่นมาก และสเปคเครื่องภายในที่ให้มาแรง พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ใส่เข้ามาทั้งภาพและเสียงครบครับ สเปคแรง ชาร์จไวแบตใหญ่ เรามาลองรู้จักมันกันคร่าวๆ ก่อน เพราะกำลังจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันที่ 3 พฤศจิกายนนี้แล้วครับ ใครเป็นแฟน realme และสนใจสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ตัวนี้ ก็รอกันได้เลย

realme GT Neo 2 5G เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ในหลายด้านเลยครับ ตั้งแต่หน้าจอแสดงผล ที่มาในมาตรฐานใหม่สุด E4 AMOLED ความสว่างสูงขึ้น คมชัดกว่าเมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิมในตลาดที่ยังใช้จอ E3 AMOLED จะพบว่ามาตรฐานจอ AMOLED E4 จะมีค่า Contrast Ratio ขยับจาก 80000:1 ไปเป็น 5,000,000:1 เลยทีเดียวครับ ความจัดเจนคมชัดของภาพสูงมาก ดีขึ้นและยังประหยัดแบตมากกว่าด้วย ลดารใชพลังงานจากเดิมไปมากกว่า 15%

ขนาดจอใหญ่ครับ 6.62 นิ้ว FullHD+ รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR 10+ ค่าความสูงสุดที่ 1300nits ขอบจอเล็ก หน้าจอใหญ่ ฝังกล้องหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซลมาให้ รองรับทั้งการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานและการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง สัดส่วนหน้าจอต่อพื้นที่ด้านหน้าตัวเครื่องสูงถึง 92.6%

เรียกว่าคมกว่า สว่างกว่า และยังใช้ไฟน้อยกว่า ภาพสวยจอใหญ่ นอกจากค่ารีเฟรชเรทที่สูง 120Hz แล้ว ยังมีที่สูงไปยิ่งกว่าคืออัตราตอบสนองการสัมผัส (Samling Rate) ที่อัพมาถึง 600Hz !! หรือสมาร์ทโฟนรุ่นนี้รองรับการทัชได้ 600 ครั้งใน 1 วินาทีเลยทีเดียวครับ เราเล่นเกมแบบรัวหน้าจอกันขนาดไหน realme GT Neo 2 5G ก็รับได้ทันหมดแล้วละครับระดับนี้

ไม่ใช่เด่นแค่เรื่องของภาพ แต่มากับระบบเสียงที่ดีมากด้วย เป็นลำโพงสเตอริโอคู่ระบบ Dolby Atmos จากที่ลองฟังทิศทางเสียงดี มีมิติซ้ายขวาชัดเจนครับ แต่รุ่นนี้จะไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. บนตัวเครื่องโดยตรงมาให้นะครับ รับชมหนัง ฟังเพลง เสียงดังฟังชัด

สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างที่ใครเห็นต้องสะดุด คือการออกแบบ ^^ แบรนด์นี้ใจวัยรุ่นครับ กล้าคิดกล้าออกแบบ และกล้าแตกต่าง ฝาหลังรุ่นนี้เด็ดดวงมาก โดยเฉพาะสีที่ผมได้มาพรีวิว คือสี NEO Green เป็นการออกแบบที่มีนิยม “ความลงตัวระหว่างโลกของดิจิทัลและความเป็นธรรมชาติ” ใช้สีเขียวตัดเส้นดำการออกแบบที่ไม่มีใครเหมือน เป็นการฝังเนื้อวัสดุสองพื้นผิวลงในฝาหลัง ดูสวย เด่น มีความเป็นวัยรุ่นสูง ทนทานต่อการรอยขีดข่วนในการใช้งาน และยังไม่เกิดครอบรอยนิ้วมือใดๆ ขึ้นมาด้วยครับ เข้าไทยมาพร้อมกับอีกสองสีครับ คือ Neo Blue และ Neo Black

กล้องหลัง 3 ตัวความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล ทำงานกับกล้องเลนส์อัลตร้าไวด์ 119 องศาความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเลนส์มาโคร 2 ล้านพิกเซล รองรับโหมดการถ่ายภาพใหม่ๆ อย่างเช่น Street Photography หรือการถ่ายภาพแบบแนวสตรีท ที่ปรับแต่งสีสันและฟิลเตอร์มาให้ตามโทนสีที่อยู่ในเทรนด์การถ่ายภาพสตรีทกันครบเลยครับ ^^ ใครชอบโทนสีแบบอาร์ทและเอิร์ธโทนน่าจะชอบเลย มีเพียบ เราจะตัวอย่างภาพถ่ายมาให้ดูกันในรีวิวแบบเต็มๆ นะครับ ติดตามได้ที่ Appdisqus เช่นเคย

งานออกแบบรุ่นนี้ มีที่มาจากดีไซน์เนอร์ของ realme Design Studio ครับ เขาต้องการใช้สีที่สื่อถึงความมีชีวิตชีวาของสีเขียวจากธรรมชาติ ปรับแต่งให้มีความสดใสและนำมาตัดกับเส้นสีดำด้านที่วางเลเอาท์ในการออกแบบสมัยใหม่ ผสมผสานความเป็น “ดิจิทัลและธรรมชาติ” ตามความตั้งใจของทีมออกแบบครับ

ผลิตด้วยเทคโนโลยีขัดและเคลือบแบบนาโนถึง 7 ชั้น ผสานกันอย่างลงตัวเนียนกริ๊บคล้ายการออกแบบของรถสปอร์ต ตัวเครื่องจริงสวยในทุกมุมเลย ^^ เท่มากๆ

ภายในใส่ X-axis Linear Motor หรือมอเตอร์สั่นเชิงเส้นแกน X ที่ได้รับการพัฒนาการตอบสนองแบบใหม่ ให้รู้สึกแตกต่างถึงการตอบสนองการสั่งงาน และการสั่นขณะเล่นเกมได้หลากหลายและแตกต่างความรู้สึกกันได้ดีกว่าเดิมครับ

ตัวเครื่องดูบางขอบเครื่องโค้ง งานออกแบบสวย เบา 200 กรัม บาง 8.6 มม. ภายในใส่แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh มาให้ครับ พร้อมระบบชาร์จไว 65W SuperDart Charge เทคโนโลยีนี้สามารถชาร์จแบตขนาด 5,000 mAh ได้เต็ม 100% ภายใน 36 นาทีเท่านั้น และยังมีความปลอดภัยสูง และไม่มีความร้อนสะสมด้วยครับ

พูดถึงระบบระบายความร้อน เจ้า realme GT Neo 2 5G ตัวนี้มากับระบบระบายความร้อนขั้นเทพเลยนะครับ ภายในใส่ชุด Stainless Steel Vapor Cooling Plus แผงระบบความร้อนขนาดใหญ่ ที่ใช้วัสดุผสมระหว่างแผ่นโลหะและทองแดง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและยังระบายความร้อนได้ดีด้วย เพราะมีคุณสมบัตินำความร้อนสูงเป็นพิเศษ 190 W/(mK) ในขณะที่สแตนเลสทั่วไปนำความร้อนเพียง 110 W/(mK)

และยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ใช้ซิลิโคนนำความร้อนชนิด Diamond Thermal หรือซิลิโคนเกรดสูง ที่มีส่วนผสมของอนุภาคเพชร ราคาสูงแต่คุณสมบัติส่งผ่านความร้อนเกรดระดับพรีเมี่ยม เขานำมาใช้ในชุดระบายความร้อนของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ด้วยครับ

การที่เครื่องไม่มีความร้อนสะสมมันส่งผลดีทั้งในระยะสั้นและในระยะยาวนะครับ ชิปเซ็ตที่มีความเร็วของการประมวลผลสูงๆ ก็มักจะเกิดความร้อนได้ง่าย มันส่งผลให้เกิดภาวะเสื่อม และระบบมักจะลดประสิทธิภาพการทำงานของตัวเองลงเมื่อตรวจพบความร้อนที่สูงถึงเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อนเร็วก็ใช้งานได้ไม่เต็มที่ ใช้งานได้ไม่นาน ถ้าคุมอุณหภูมิได้ดีก็จะใช้งานได้เต็มที่กันได้นานขึ้น อายุการใช้งานนานขึ้น และมีความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้นในอีกทางหนึ่งด้วยครับ

สเปคเครื่องของ realme GT Neo 2 5G ก็อยู่ในระดับเรือธงตัวแรงระดับพรีเมี่ยม ใช้ชุดชิปเซ็ตหน่วยประมวลผลตัวใหม่ Qualcomm Snapdragon 870 5G ให้หน่วยความจำเทคโนโลยีเร็วสุดตอนนี้ UFS 3.1 ขนาดพื้นที่จัดเก็บใหญ่ 256GB

และให้ RAM มาสูงสุดถึง 12GB ขนาดแรมใหญ่มากครับ และยังมีความสามารถ Extra Virtual RAM หรือการขยายขนาดแรมชั่วคราวด้วยหน่วยความจำที่ยังไม่ได้ใช้งาน เราเพิ่มเข้าไปได้อีกถึง 7GB! รวมกับแรมพื้นฐานอีก 12GB ใช้งานกันเต็มที่เลยครับแรมเยอะขนาดนี้ เหมือนรถที่วิ่งบนทางด่วนที่มีเลนส์ถนนขนาด 19GB เหลือกินเหลือใช้ การเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายรองรับ 5G ทั้งสองซิมการ์ด และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ด้วย

ประสิทธิภาพสูงครับจากสเปคที่ให้มา ระบบภายในก็ดูจะพร้อมใช้งานด้านความบันเทิงกันเต็มที่ด้วย หน้าจอใหญ่ สีสันดี เทคโนโลยีสูง ลำโพงคู่สเตอริโอ Dolby Atmos แบตเตอรี่อึด ชาร์จไว ระบบระบายความร้อนยอดเยี่ยม และตัวเครื่องสวยงามครับ น่าถือใช้น่าลองมากๆ

ระบบภายในใช้ Android 11 ครอบทับด้วย realme UI 2.0 และแน่นอนเมื่อเป็นสมาร์ทโฟนใน GT Series ก็จะมีฟังก์ชั่น GT Mode มาให้ และรุ่นนี้เป็นเวอร์ชั่น 2.0 แล้วครับ โหมดพิเศษที่กดคลิ๊กแค่ครั้งเดียว ตัวเครื่องก็จะปลดปล่อยพลัง GT เต็มพิกัด โดนในเวอร์ชั่น GT Mode 2.0 ตัวระบบจะทำการเพิ่มพลัง CPU และเพิ่มค่า Refresh Rate และ Sampling Rate ของหน้าจอขึ้นไปในระดับสูงสุด เปิดเอฟเฟ็กต์เสียงและระบบการสั่นที่รองรับกับตัวเกมโดยทันที เป็นโหมดที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์เล่นเกมในระดับสูงสุดแก่ผู้ใช้ในทันทีนั้นเองครับ ^^ คลิ๊กเดียวเพื่อเปิด และคลิ๊กเดียวเพื่อปิดจะได้ประหยัดพลังงานโดยไม่ต้องไปกดเปิดปิดฟังก์ชั่นอะไรเยอะแยะทีละตัวในการตั้งค่าครับ

realme GT Neo 2 5G พร้อมเปิดตัววันที่ 3 พฤศจิกายนครับ ในงาน ‘Everything in NEO’ จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของทาง realme  YouTube และ Facebook  ตั้งแต่เวลา 14.00 – 15.00 น.