วันนี้ OPPO ได้ประกาศเปิดตัวชุดชาร์จรุ่นใหม่ของบริษัทยกขบวนมาทั้งกลุ่มมีสายและไร้สาย โดยกำลังไฟสูงสุดอยู่ที่ 125W เลยทีเดียว
125W Flash charge: การชาร์จที่เร็วและแรงยิ่งกว่าในยุคการเชื่อมต่อ 5G
เทคโนโลยี 125W Flash charge ของ OPPO ใช้เทคโนโลยีการชาร์จที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh ได้สูงถึง 41% ในระยะเวลาเพียง 5 นาที และชาร์จแบตเตอรี่เต็มโดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีในอัตราการชาร์จที่เร็วที่สุด ในขณะเดียวกันยังสามารถใช้งานร่วมกับ SuperVOOC และ VOOC flash charge protocols (FCP) รุ่นก่อนหน้านี้ได้อีกด้วย อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่เป็นโปรโตคอลหลัก ได้แก่ มาตรฐานการจ่ายไฟแบบ 65W PD และมาตรฐานการจ่ายไฟแบบ 125W PPS โดยในปัจจุบันถือว่าเทคโนโลยีการชาร์จเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีการชาร์จที่ทันสมัยและก้าวหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม
การออกแบบในด้านเทคนิคของ SuperVOOC มีวิวัฒนาการจากการอัพเกรดโครงสร้างฮาร์ดแวร์แบบครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งสามารถรองรับรูปแบบการชาร์จที่กระแส 20V 6.25A ได้ รวมถึงมีการพัฒนาความหนาแน่นของกำลังไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อลดระยะเวลาในการชาร์จให้มีประสิทธิภาพโดยที่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดของที่ชาร์จ ทั้งนี้ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นถูกบรรจุมาพร้อมกับแบตเตอรี่เซลล์คู่ 6C ที่มีระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างโลหะของแบตเตอรี่ วงจรอัดประจุ และการทำงานประสานกันของ MCU เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของการชาร์จให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่อยู่ใน 125W flash charge นั้น ยังได้มีการเสริมสร้างฟีเจอร์ป้องกันความปลอดภัยด้วยการเพิ่มเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิถึง 10 ตัวเพื่อใช้ในการตรวจสอบสถานะการชาร์จและให้ความปลอดภัยสูงสุดระหว่างการชาร์จ อีกทั้ง ยังมีการใช้ฟิวส์สำหรับการป้องกันแรงดันที่สูงมากเกินไป รวมไปถึงการใช้พอร์ตการเชื่อมต่อแบบ Type-C และอัลกอริทึมที่ใช้ในกระบวนการการแปลงข้อมูลสูงสุด 128 บิต เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ชาร์จไร้สาย 65W AirVOOC wireless flash charge: ผู้นำด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สาย
เนื่องจาก ผู้ใช้ต้องการหลีกเลี่ยงความยุ่งยากและความไม่สะดวกที่เกิดจากการใช้สายชาร์จแบบทั่วไป แต่ยังต้องการอุปกรณ์ชาร์จที่ให้ขีดความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่ที่รวดเร็วที่สุด ดังนั้น คำตอบสำหรับปัญหานี้ คือ เทคโนโลยีการชาร์จแบบไร้สายที่เป็นผู้นำของตลาดอย่าง 65W AirVOOC wireless flash charge ซึ่งใช้เทคโนโลยีแบบวงจรอัดประจุที่พัฒนาขึ้นเองควบคู่ไปกับการออกแบบคอยล์คู่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการชาร์จแบบไร้สาย
65W AirVOOC wireless flash charge สามารถชาร์จแบตเตอรี่ความจุ 4000mAh ได้เต็ม ในเวลาเพียง 30 นาที พร้อมลดการรบกวนจากความถี่ไฟฟ้าและสามารถเปิดใช้งานการชาร์จแบบไร้สายให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้ง เทคโนโลยีนี้ยังมีมาตรการป้องกันความปลอดภัยถึงห้าเท่า ฟังก์ชั่นตรวจจับวัตถุแปลกปลอม และสอดคล้องกับมาตรฐานการเชื่อมต่อ Qi standard เพื่อมอบประสบการณ์การชาร์จที่รวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องใช้สายชาร์จแบบเดิมอีกต่อไป
นอกจากนี้ OPPO ยังได้เปิดตัวแนวคิดของอุปกรณ์การชาร์จแบบไร้สายใน 65W AirVOOC wireless flash charge ที่มาพร้อมรูปลักษณ์กระจกแกะสลักอย่างสวยงามด้วยเทคโนโลยี Rapid Prototype (RP) ซึ่งเป็นการสร้างชิ้นงานต้นแบบด้วยความรวดเร็วโดยไม่ใช้แม่พิมพ์ โดยครั้งนี้ เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีประเภทนี้ครั้งแรกในตลาดอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับด้านล่างของที่ชาร์จมาพร้อมกับชุดระบบระบายความร้อน semiconductor cooler เพื่อระบายความร้อนที่มีการเข้าและออก เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าในระหว่างการชาร์จโทรศัพท์มือถือของคุณจะไม่ร้อนจนเกินไป ในกรณีนี้ อุณหภูมิบริเวณด้านหลังของโทรศัพท์จะมีอุณหภูมิต่ำลงกว่า 2°C ซึ่งต่ำกว่าการใช้เพียงพัดลมเพื่อกระจายความร้อนออกไปจากอุปกรณ์เท่านั้น โดยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์นี้ ทำให้การชาร์จโทรศัพท์มือถือของคุณมีความสะดวกสบาย มีประสิทธิภาพ และทรงพลังมากยิ่งขึ้น
ด้วยฟีเจอร์ที่เป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ ทำให้ 65W AirVOOC wireless flash charge สามารถมอบประสบการณ์การชาร์จที่ไม่เหมือนใครและไม่เคยมีมาก่อนให้กับผู้ใช้งาน และอาจกลายเป็นตัวเลือกแรกในการเลือกใช้งานที่ชาร์จของผู้ใช้ในยุค 5G อีกด้วย
เครื่องชาร์จขนาดเล็กกำลังไฟสูง : มาในรูปทรงขนาดเล็กและพกพาสะดวก
OPPO ยังได้เปิดตัว 50W mini SuperVOOC charger และ 110W mini flash charger ที่มีขนาดเล็กและบางที่สุดในโลก ด้วยฟีเจอร์ dual-level architecture ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
50W mini SuperVOOC charger ของ OPPO ได้รับการพัฒนาผ่านกระบวนการ multi-radian curve ที่ทำให้ที่ชาร์จมีขนาดใกล้เคียงกับที่ใส่นามบัตร ซึ่งมีความหนาเพียง 1.05 ซม. ทำให้ผู้ใช้สามารถเก็บที่ชาร์จไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าเสื้อคลุมได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเหมาะแก่การพกพาเป็นอย่างยิ่งในระหว่างการเดินทางไปยังที่ต่างๆ โดย 50W mini SuperVOOC charger นี้ทำงานร่วมกับ VOOC protocols พร้อมรองรับเทคโนโลยี VOOC protocols ได้แก่ มาตรฐานการจ่ายไฟแบบ 27W PD และมาตรฐานการจ่ายไฟแบบ 50W PPS นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จกับอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือแล็ปท็อปได้อีกด้วย
โดยวิศวกรของ OPPO ออกแบบโครงสร้างของ 50W mini SuperVOOC charger ด้วยการลดขนาดของชิ้นส่วนที่ใช้พื้นที่มากที่สุด พร้อมการออกแบบโครงสร้างของชิ้นส่วนหรือวัสดุแบบใหม่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานสูงสุด ด้วยการถอดตัวเก็บประจุแบบอิเล็กโทรไลต์ออก รวมถึงการนำวงจร pulse charging เข้ามาใช้เป็นรายแรกในอุตสาหกรรม และการใช้ไดโอดแคลมป์พลังงานสูงแบบ aviation-grade และเทคโนโลยีแหล่งจ่ายไฟ GaN ความถี่สูงแบบ switching power เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดขนาดของเครื่องชาร์จพลังงานสูงให้เล็กลงให้ได้มากที่สุด
สำหรับการสร้าง 110W mini flash charger ของ OPPO มีการจำกัดขนาดและประสิทธิภาพการใช้อะแดปเตอร์กำลังไฟสูง โดยอิงจากการสร้าง 50W mini SuperVOOC charger ที่นอกจากจะใช้ dual-level architecture ที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อให้ได้การแปลงพลังงานที่มีประสิทธิภาพสูงและการควบคุมอุณหภูมิที่แม่นยำแล้ว ในส่วนของการสร้าง 110W mini flash charger นั้น ยังมีการผสมผสานกันระหว่างโครงสร้างของคอมแพคลามิเนต ซึ่งทำให้ขนาดลดลงเหลือเพียง 35.76 ลูกบาศก์เซนติเมตร เท่านั้น อีกทั้งยังมีรูปทรงและขนาดที่ใกล้เคียงกับที่ชาร์จปกติแบบ 18W อีกด้วย
โดยในยุคของการเชื่อมต่ออัจฉริยะ Ultra-small charger series ของ OPPO จะมอบประสบการณ์การชาร์จที่เร็วและแรงในทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการชาร์จโทรศัพท์มือถือในระหว่างการเดินทางหรือไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตาม คุณก็สามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คุณมีที่ชาร์จของ OPPO คุณก็สามารถชาร์จกับอุปกรณ์ได้หลากหลายตามที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ ในเดือนมิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา OPPO ยังได้ยื่นจดสิทธิบัตรด้าน flash charging แล้วมากกว่า 2,800 รายการ และมีสมาร์ทโฟนกว่า 30 รุ่นที่สามารถรองรับเทคโนโลยี VOOC flash charge ที่พร้อมมอบประสบการณ์การชาร์จที่รวดเร็วและแรงเป็นพิเศษแก่ผู้ใช้กว่า 157 ล้านคนทั่วโลก โดยจากการเติบโตด้านเทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วและแรงอย่างมากในยุคของการเชื่อมต่ออัจฉริยะนี้ ทำให้ OPPO ยังคงพัฒนาและอัปเกรดแพลตฟอร์ม VOOC flash charge อย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบประสบการณ์การชาร์จที่เข้ากับการใช้งานในทุกสถานการณ์แก่ผู้ใช้ทั่วโลกอีกด้วย
