ยักษ์ใหญ่จากแดนมังกรอย่าง Huawei ออกมาตอบโต้ถึงเหตุการณ์ที่ตนโดนยกเลิกสัญญากับเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในอเมริกาอย่าง AT&T โดยบอกว่านี่คือการขัดขวางโอกาสที่ผู้บริโภคจะได้เลือก “สิ่งที่ดีที่สุด”
ในวันก่อนหน้าการเปิดตัวเรือธงรุ่นใหม่ของ Huawei อย่าง Mate 10 Pro ในงาน CES 2018 ที่ Las Vegas เพียงวันเดียว สื่ออเมริกาก็มีการรายงานออกมาว่าสัญญาระหว่าง Huawei และ AT&T นั้นถือเป็นโมฆะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้ Huawei ไม่มีโอกาสที่จะขายเครื่องตัวเองผูกกับสัญญาเครือข่ายของ AT&T อีกต่อไป แต่ยังสามารถขายเครื่องเปล่าไม่ติดสัญญากับเครือข่ายใดๆ ได้อยู่ตามปกติ แต่ถึงอย่างนั้น นี่ก็ถือเป็นการเสียโอกาสเจาะกลุ่มลูกค้าที่มักนิยมซื้อเครื่องผูกสัญญาเครือข่ายซึ่งมีอยู่จำนวนมากของลูกค้าในอเมริกาไปโดยปริยาย
“ผมคิดว่านี่คือการสูญเสียครั้งใหญ่ของพวกเรา ของเครือข่าย และยิ่งใหญ่เข้าไปอีกสำหรับผู้บริโภคเพราะพวกเขาจะไม่มีโอกาสได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว” Richard Chen ซีอีโอใหญ่ประจำแผนกลูกค้าสัมพันธ์ของ Huawei กล่าว
Chen ยังกล่าวอีกว่าในช่วงหลายๆ ปีหลังนี้ Huawei ได้ยกระดับตัวเองจากแบรนด์ไม่มีชื่อมาเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก เป็นรองก็แต่ Samsung และ Apple ซึ่งเป็นตัวท็อปของโลกสมาร์ทโฟนนั่นเอง
“เราชนะใจและความเชื่อถือจากผู้ใช้บริการทั่วโลก ทั้งในยุโรปและในประเทศที่กำลังพัฒนา” Chen กล่าวบนเวทีปราศัยที่งาน CES 2018 “แต่ช่างน่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสแบบนั้นจากผู้ให้บริการในอเมริกา” ทั้งนี้ Chen ยังกล่าวอีกว่าทางด้านเรื่องความปลอดภัยจองข้อมูลและความเป็นส่วนตัวนั้น “Huawei ได้พัฒนาความปลอดภัยและมาตรการป้องกันความเป็นส่วนตัวมาโดยเสมอ” ดังนั้นนี่จึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการไม่ทำธุรกิจร่วมกับบริษัทยักษ์จากจีนแห่งนี้เลย
ณ ตอนนี้รัฐบาลอเมริกันกำลังยื่นฎีกาเพื่อของให้ภาครัฐแบนการใช้งานผลิตภัณฑ์ใดๆ ก็ตามที่มีการใช้ชิ้นส่วนและบริการจาก Huawei อยู่ ซึ่งหากฎีกาที่ว่านี้ผ่านการรับรองจริง ต้องถือว่านี่คือปัญหาใหญ่ของ Huawei ในตลาดอเมริกาจริงๆ
- สหรัฐยื่นฎีกาให้ภาครัฐยกเลิกการใช้สินค้าและบริการจากบริษัทที่ใช้งานบริการหรือชิ้นส่วนของ Huawei และ ZTE
- Huawei Mate 10 Pro สมาร์ทโฟนอัจฉริยะที่สุดแห่งปี
- เรือธง P-Series ของ Huawei รุ่นต่อไป จะใช้ชื่อว่า Huawei P20
