รีวิว OPPO R5: บาง งาม ฉลาด แกร่ง

รีวิว OPPO R5: บาง งาม ฉลาด แกร่ง

คือความพยายามที่จะนำนวัตกรรมการผลิตใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยมีใครทำได้ออกมาจำหน่ายอีกครั้ง OPPO R5 สมาร์ทโฟนที่บางเพียงแค่ 4.85 มิลลิเมตร และใช้วัสดุที่ไม่ใช่แค่เป็นโลหะอะไรก็ได้ แต่เป็น Stainless Steel เกรดสูงค่าความแข็งระดับ 400HV ซึ่งแกร่งกว่าอลูมิเนียมอัลลอยหรือสมาร์ทโฟนโลหะทั่วไปถึง 5 เท่า

แรกสัมผัสรับรู้ถึงความบางที่คล้ายสันมีดในเวลาถือ ด้วยเป็นโลหะเย็นและแปลกมือ ขอบเครื่องล็อกกับข้อนิ้วทำให้ไม่รู้สึกว่าจะลื่นหลุดมือง่ายๆ สรุปสุดท้ายสำหรับตัวเครื่อง คือ “ความพรีเมี่ยม” เป็นเครื่องที่ถือใช้แล้วดูมีราคานั้นเองครับ

ราคาเปิดตัวมา 15,990 บาท ถือว่าต่ำกว่าที่ลือกันไว้ประมาณ 1,000 บาท ทำราคาได้ดี ตัวนี้ OPPO R5 มีต้นทุนในเรื่องของการผลิตสูงครับ ส่วนสเปคอยู่ในระดับ Mid-end ไปค่อนข้างสูง ใช้หน่วยประมวลผลของทาง QUALCOMM ที่เป็น 8 หัว 64-bit ตัวแรก Snapdragon 615 1.5GHz

ทดสอบประสิทธิภาพ

เรามาเริ่มคุยกันที่หน้าจอแสดงผลก่อน หน้าจอ OPPO R5 มีขนาด 5.2 นิ้วครับ สีสันอยู่ในระดับกลาง เหมาะกับการรับชมรูปภาพอยู่เหมือนกัน ความละเอียดกำลังดี 1080p มุมมองกว้าง ตกลงว่าหน้าจอ OPPO R5 เป็นหน้าจอที่มีคุณภาพครับ

รองรับ Smart Cover หรือเคสที่มีช่องมองภาพในอนาคตแน่นอน

เรื่องของประสิทธิภาพการใช้งาน รันบนระบบ Android 4.4 มาจากโรงงานและใช้หน้า UI เป็น Color 2.0 เต็มรูปแบบ ไม่มีหน้ารวมไอคอนแอพ (Appdrawer) อีกต่อไปแล้ว เพราะจะมีแต่หน้าโฮมสไลด์ซ้ายขวาเพียงอย่างเดียวเป็นเทรนด์นิยมใหม่ของแบรนด์จากแดนมังกรเขาแหละครับ แอพพลิเคชั่นทุกๆ ตัว จะมาแสดงอยู่รวมกันกับ Widget ที่เราจัดวาง สามารถแยกหน้า แบ่งแอพใส่โฟลเดอร์ต่างๆ ได้ เพื่อจัดความเป็นระเบียบ

Status Bar ด้านบนเลื่อนลงมาแสดงการแจ้งเตือนและ Toggle เปิดปิดฟังชั่นต่างๆ สามารถยืดรายละเอียดแสดง Toggle เพิ่มเติมได้เพื่อการเรียกใช้งานแบบฉับไว

หน้าการตั้งค่า แบ่งแยกสามหน้าเพื่อความเข้าใจง่ายๆ

โดยรวมถือว่าเป็นเครื่องที่เร็ว แต่ความลื่นไหลยังไม่ 100% มีกระตุกบ้างบางครั้งในการทำงาน แรม 2GB ที่เยอะแล้วยังพอใช้ แต่ตอนนี้ก็เริ่มปริ่มๆ สำหรับระบบแอนดรอยด์กับชุดประมวลผลในทุกวันนี้ใช้แรมกันเยอะ สรุปให้สำหรับประสิทธิภาพการทำงาน เกรด B+ “ดีพอตัว” ยังมีช่องเหลือให้ไปอัพเดทซอฟแวร์รีดประสิทธิภาพให้ดีกว่านี้ได้ในอนาคต

ทดสอบประสิทธิภาพเสียง สังเกตกันหรือยัง OPPO R5 ไม่ใช่พอร์ตใส่หูฟัง 3.5 มิล นั้นเพราะการออกแบบเครื่องให้บางนั้นเอง แต่ไม่น่าเป็นกังวล ในกล่องจะมีตัว Adaptor สำหรับเปลี่ยนพอร์ต Micro USB ใต้เครื่องให้ใช้งานกับแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรได้ครับ รองรับระบบเสียง Dirac HD มาให้ด้วย

รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่ผลิตมาเพื่อ OPPO R5 อย่าง O-Ring ที่เป็นเครื่องควบคุมเพลงและชุดเชื่อมต่อหูฟังผ่านบลูทูธ สวย และฉลาด เพราะทำงานได้มากกว่าการฟังเพลง มันสามารถใช้งานเป็นชัตเตอร์ลั่นไกกล้องในระยะไกลให้กับเครื่อง OPPO R5 ได้ด้วย เอ็กคลูซีฟครับตัวนี้ เพราะทาง OPPO ยืนยันมาว่า ใช้งานได้กับ R5 เท่านั้นครับ (อุปกรณ์นี้ไม่มีในกล่องพร้อมขาย ต้องซื้อแยกครับ)

ตัวเสียงจากลำโพง OPPO R5 ไม่ต้องพลิกหาไปไหน มันอยู่ใต้ลำโพงสนทนาด้านหน้านั้นเองครับ ข้อดีมีมากมายเพราะเสียงไม่โดนบังเวลาวางหงาย อย่ามามุขว่าชอบวางคว่ำกันนะ ^^ ส่วนคุณภาพเสียงก็ทั่วไปครับมาตรฐานลำโพงโทรศัพท์ แค่ ไม่แตก เสียงไม่เบา ถือว่าเสมอตัว ไม่ใช่รุ่นที่เน้นลำโพงเครื่องกระหึ่มมากมายอะไร

ประสิทธิภาพการรับชมวีดีโอ 1080p ลื่นปริ้ด จอสวยอยู่แล้ว ใหญ่ดีด้วย 5.2 นิ้ว แม้ไม่ใหญ่โตอลังการแต่ก็พอรับชมได้เต็มตา อ่านตัวหนังสือเห็น เข้าเว็บอ่านข่าว เข้าแอพดิสคัสหาความรู้ ทำได้สบายๆ ครับ เล่นเว็บลื่นไหลไม่มีปัญหา ประสิทธิภาพการประมวลผลเพียงพอต่อการใช้งานครับ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยพอใจกับเบราว์เซอร์ของทาง OPPO ที่มีมาให้ ความสามารถไม่ถูกใจ แต่ไม่เป็นไรครับ เอา Google Chrome หรือเบราว์เซอร์อื่นๆ มาใช้แทนได้อยู่แล้วจากใน Playstore

ทดสอบการจับสัญญาณ GPS โดยไม่เปิด Wi-Fi ใช่แต่สัญญาณมือถือ GPS และ 3G ไม่มีปัญหา ใช้ในการนำทางได้ครับ

มัลติทัช 10 จุด

เซ็นเซอร์ที่มีอยู่ภายใน OPPO R5 มีตัวสำคัญมาให้ครบ

คะแนนทดสอบ Benchmark

แบตเตอรี่ขนาด 2,000 mAh ไม่อึด ใช้งานได้แค่เช้าถึงเย็น ถ้าหนักจริงๆ อาจจะหมดได้ก่อนถึงบ้านครับ

แต่ OPPO R5 มาพร้อมกับเทคโนโลยีสะท้านวงการอย่าง VOOC การชาร์จพลังงานที่ไวที่สุดในโลกของสมาร์ทโฟน แค่แวะชาร์จไม่กี่นาที ก็สามารถกลับไปใช้งานเครื่อง R5 ได้อีกหลายชั่วโมงเลยครับ แถมที่สำคัญ ตัวชาร์จ VOOC ยังมาในเวอร์ชั่นใหม่ เล็กลงได้ขนาดนี้่แล้วสำหรับ Adaptor ตัวชาร์จไฟ และในอนาคตจะมีสำหรับ VOOC ที่เป็นแบตเตอรี่เสริมพกพา และแบบใช้ในรถยนต์มาจำหน่ายด้วยครับ

หน่วยความจำภายในเครื่องมีมาให้ 16GB (ใช้จริงได้ 11.56GB ) และไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้ อันนี้เป็นเรื่องต้องพิจารณาในความเหมาะสมสำหรับแนวการใช้งานของตัวเราเองครับ ถ้าไม่ได้นิยมเล่นเกมอะไรใหญ่ๆ อลังการ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา พอได้อยู่

แอพพลิเคชั่นและความสามารถที่น่าสนใจใน OPPO R5

Appcenter– OPPO พยายามช่วยเหลือผู้ใช้งานในการหาแอพพลิเคชั่นตัวเด่น จำเป็น น่าใช้ มาแนะนำกันในแอพพลิเคชั่นนี้ครับ ที่สำคัญเหมือนกับว่าไม่จำเป็นที่เราจะต้องล็อกอิน ID ใดๆ ก่อนด้วยซ้ำ ก็เหมาะดีสำหรับผู้เริ่มใช้ที่ยังไม่เข้าใจอะไรเลย

NearMe Cloud– บริการดีๆ ที่มีให้ผู้ใช้เครื่องสมาร์ทโฟนของ OPPO ทุกคน บริการสำรองรายชื่อและสำรองข้อความ SMS ไปเก็บไว้ให้ในเซิฟเวอร์ รวมถึงการค้นหาโทรศัพท์ผ่านบริการระยะไกลในกรณีสูญหาย แม้อาจจะยากในการได้คืน แต่ก็เพิ่มโอกาสในการตามหาได้เช่นกันครับ

ศุนย์รักษาความปลอดภัย- ด้วยแอพพลิเคชั่นนี้ ทำให้เครื่อง OPPO ถูกใจชาวแอนดรอยด์มานักต่อนักครับ เพราะเป็นแอพที่ทำให้เราเข้าถึงระบบการทำงานของเครื่องได้มากขึ้น ปรับตั้งให้เป็นอย่างที่เราต้องการได้มากขึ้น เช่นการควบคุมการทำงานของแอพพลิเคชั่นที่ชอบทำงานเองเบื้องหลัง หรือการบล็อคเบอร์ติดต่อที่เราไม่ต้องการ รวมถึงควบคุมการแจ้งเตือนและการใช้งานต่างๆ ของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เราเป็นต้น เป็นการทำงานที่ฉลาดและหลากหลายมาก ซึ่ง OPPO มักจะใส่มาให้สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ของเขาทุกรุ่น รวมถึง R5 ตัวนี้ด้วยครับ

ธีมและลูกเล่นปลดล็อกหน้าจอ- OPPO เป็นเจ้าแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทยด้วยจุดขายในความน่ารักของ UI ใช้งานที่สามารถปรับแต่งได้มากมายหลายหลากแนวแฟชั่น ด้วยธีมที่มีมาให้เลือกใช้งานแบบฟรีๆ กดดาวน์โหลดมาติดตั้งเปลี่ยนแปลงหน้าตาและไอคอนของระบบยกแผง มีมากหลายสิบแบบ รวมถึงลูกเล่นการปลดล้อกหน้าจอที่มีมาให้เลือกใช้งานเช่นกัน แตกต่างกันไม่ใช่แค่การเปลี่ยนภาพพื้นหลัง แต่แตกต่างกันทั้งการใช้งานและคุณสมบัติที่จะได้รับเลยครับ เป็นเรื่องน่าสนุกของผู้ใช้ที่จะสามารถเลือกได้ว่าตัวเองต้องการแบบไหนครับ

การเลือกล็อกรหัสโดยการกำหนดเวลา– สำหรับผม ผมนิยมใช้มากครับ เพราะส่วนใหญ่ผมจะล็อกเครื่องด้วยรหัสหรือรูปแบบ PIN เอาไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ใช้งานทั้งวัน บางครั้งก็รู้สึกว่าน่ารำคาญมากไป เพิ่งปิดหน้าจอและเปิดใหม่ ก็ถามหารหัสใช้งานแล้ว แต่ด้วยคุณสมบัติที่ OPPO R5 ให้เรากำหนดได้ว่า จะให้ล็อกเครื่องด้วยรหัสเมื่อไม่ได้ใช้งานนานกี่นาที กำหนดไว้กว้างๆ หน่อยสัก 5นาทีค่อยล็อกรหัส เครื่องหายใครเอาไปก็น่าจะใช้เวลาเกินกว่านั้นอยู่ครับ

โหมดจัดการแบตเตอรี่– เดี่ยวนี่นิยมใส่ให้มาใช้กันครับ กับฟังชั่นที่เราสามารถกำหนดได้ว่าในแต่ละวัน เราต้องการประสิทธิภาพความแรงของตัวเครื่องอย่างเต็มที่ หรือต้องการใช้งานชิวๆ แต่มีอายุของพลังงานให้ใช้ได้ยาวนานตลอดทั้งวัน

การใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหวอัจฉริยะ

การทำงานในรูปแบบของ “สมาร์ท” ฟังชั่นฉลาดๆ ที่บางอันก็ยังไม่รู้ประโยชน์จนกว่าจะได้ใช้ และบางอันก็มีประโยชน์มากจนน่าเสียดายที่ไม่รู้จักใช้ครับ

ท่าทางหน้าจอปิด– การสั่งงานเครื่อง OPPO R5 ในขณะที่เครื่องปิดพักหน้าจออยู่ เราก็สามารถสั่งงานเครื่องได้แล้วครับ เช่นการดับเบิ้ลคลิกเพื่อเปิดจอ หรือการวาดรูปบนหน้าจอด้วยนิ้วเพื่อเข้าการทำงานที่ต้องการโดยตรง ซึ่งเรากำหนดเองได้ เช่น การวาดรูปทรงกลมเพื่อเข้าโหมดการถ่ายภาพโดยตรงจากหน้าจอปิด หรือการวาดลูกศรชี้ขึ้นเพื่อเปิดแอพพลิเคชั่นก็สามารถกำหนดได้เช่นกันครับ

ท่าทางหน้าจอเปิด- คือการใช้สัญลักษณ์มือ การเคลื่อนไหว และการวาดบนหน้าจอเพื่อสั่งงานตัวเครื่องให้ทำงานตามที่เราต้องการได้โดยตรง เช่นการสไลด์นิ้วสองนิ้วขึ้นลงบนหน้าจอแทนการปรับระดับความดังเสียงของเครื่อง การขยุ้มนิ้วเข้าด้วยกันบนหน้าจอเพื่อเปิดกล้อง หรือการดับเบิ้ลคลิ๊กที่ปุ่มโฮมเพื่อล็อกเครื่อง ทั้งหมดเป็นความสามารถที่น่าจะนำมาใช้กันมากๆ ครับ ไว แถมเท่อีกต่างหาก

การโทรอัจฉริยะและการสั่งงานแบบไม่ใช้มือ– การทำงานที่อาศัยเซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์แสงของตัวเครื่องให้เป็นประโยชน์ เช่นการพลิกหน้าเครื่องลงเพื่อปิดเสียงการแจ้งเตือนชั่วคราว หรือการยกเครื่องมาแนบหูเพื่อโทรออกอัตโนมัติไปยังหมายเลขที่แสดงอยู่บนหน้าจอขณะนั้นโดยไม่ต้องกดโทรออกมา หรือการเลื่อนหน้าจอเพื่อรับชมภาพโดยไม่ต้องสัมผัส แค่โบกมือผ่านเป็นต้นครับ

ป้องกันการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ- เมื่อ OPPO ใส่โหมดควบคุมการทำงานมามากมายจนซะใจขนาดนี้ แทบทุกการเคลื่อนไหวของเราอาจจะส่งผลให้เกิดการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมาได้เองโดยไม่ตั้งใจ โหมดตัวเลือกนี้จึงมีไว้เพื่อป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเองครับ เครื่องจะไม่ทำงานตราบใดมันรู้ว่า ไม่ได้อยู่ในสถานะการใช้งานตามปกติ เช่นอยู่ในกระเป๋า หรืออยู่ในกล้องเก็บของเป็นต้นครับ ฟังชั่นสมาร์ทๆ ทั้งหลายก็จะทำงานไม่ได้แม้มีอะไรมาสัมผัสหน้าจอ

 คุณสมบัติด้านการถ่ายภาพ

มาพูดกันเรื่องฟังชั่นก่อน “จัดเต็ม” มาเยอะมากครับ หลากหลายโหมดจนน่าสนุก ทั้งโหมดเพื่อคนถ่ายภาพไม่เป็น จนถึงโหมดที่น่าจะถูกใจสำหรับคนที่อยากได้การเข้าถึงลูกเล่นตัวกล้องได้มากกว่าเดิม โหมดที่เด่นๆ ก็ได้แก่โหมด Ultra HD ที่สามารถสร้างสรรค์ภาพความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซลได้ด้วยกล้องเซนเซอร์ขนาด 13 ล้านพิกเซล

และซูมดิจิตอล 4X ที่ให้ผลลัพท์แตกต่างกับการซูมภาพแบบดิจิตอลเดิมๆ ที่แทบหาประโยชน์ไม่ได้ พราะซูมเข้าไปเพื่อถ่ายภาพทีไร ภาพก็จะเน่าซะทุกทีไปด้วยความที่เป็นระบบการซูมภาพด้วยซอฟแวร์ไม่ใช่จากตัวฮาร์ดแวร์โดยตรง

แต่ OPPO R5 มากับการซูมภาพด้วยซอฟท์แวร์แบบใหม่ ที่ให้ผลลัพท์น่าพอใจทีเดียว จากตัวอย่างภาพด้านล่าง จะเห็นระยะของจุดที่ผมยืนกับวัตถุทีต้องการโฟกัสบนภาพ ก่อนการซูมและหลังการซูม ผลลัพท์ที่ได้จากการซูมดิจิตอลถือว่าทำได้ดีกว่ากล้องมือถือตัวอื่นๆ มากครับ

ยังมีโหมดอื่นๆ ที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานกันได้ฟรีๆ จากในตัวเครื่อง รวมถึงโหดมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่งกล้องเอง สามารถตั้งแค่ชดเชยแสง แมนนวลโฟกัส และความเร็วชัตเตอร์ได้ครับ

ภาพจากกล้อง OPPO R5 โหมดอัตโนมัติ

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด ซุปเปอร์มาโคร เป็นการถ่ายภาพวัตถุในระยะใกล้ ตามตัวอย่างภาพถ่ายเราถ่ายในระยะใกล้ตามแนวภาพมาโครปกติของมือถือ และสามารถลึกเข้าไปให้ใกล้กว่าได้ด้วยโหมดซุเปอร์มาโคร ซึ่งเป็นโหมดที่ใช้การถ่ายภาพมาโครและการขยายภาพมาทำงานร่วมกันครับ

ภาพจากกล้องถ่ายภาพด้วยหน้าขนาด 5 ล้านพิกเซล สาวๆ ชอบกันแน่นอนละครับ (หนุ่มๆ ก็ชอบละนะ)

เรื่องถ่ายภาพ สำหรับ OPPO R5 ดีงามมากในเวลากลางวัน ฟังชั่นเยอะ ทำงานไว มีลูกเล่นมากมาย สนุกเลยครับ ส่วนในเวลากลางคืน แสงน้อย ก็นอยส์กระจาย การควบคุมนอยส์ยังไม่ฉลาด แต่ยังดีที่มีโหมดถ่ายภาพในที่แสงน้อยมาชดเชยด้วยการปรับแต่งด้วยซอฟแวร์

ข้อสังเกตอีกอย่าง ตัวเครื่อง OPPO R5 จะมีความร้อนมากถ้ามีการเปิดการถ่ายภาพต่อเนื่องกันนานๆ แต่แค่ร้อนยังไม่เจออาการผิดปกติจากกรณีนี้ครับ

สรุปท้ายรีวิว

OPPO R5 เป็นหนึ่งรุ่นที่ OPPO ไม่ได้ขายแต่เครื่อง แต่ขายนวัตกรรมและฟังชั่นการทำงานมาอย่างเต็มที่ เยอะ ใช้สนุก และเครื่องมีความหรูหราได้มากกว่าเครื่องราคาแพงๆ อีกหลายรุ่น รวมทั้งวัสดุที่แค่สัมผัสก็รู้ถึงคุณภาพ ในส่วนนี้นับว่าสอบผ่านได้อย่างน่าใช้ แต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่ฟลูออฟชั่น แบตไม่อึด และยังไม่ลื่นไหลเท่าแอนดรอยด์รุ่นใหญ่ๆ 100%

[gradeB]