Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Android » ดูหนัง ฟังเพลง เปลือง 4G และ 3G กันสักเท่าไหร่ มาดูกัน!
Android

ดูหนัง ฟังเพลง เปลือง 4G และ 3G กันสักเท่าไหร่ มาดูกัน!

5 กรกฎาคม 2017Updated:7 มิถุนายน 20183 Mins Read

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนี้สมาร์ทโฟนได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเราไปเป็นที่เรียบร้อย เพราะนอกจากที่มันจะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่สุดที่ช่วยเชื่อมเรากับโลกภายนอกแล้ว (โทร ข้อความ เล่นเน็ต) มันยังทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์บันเทิงส่วนตัวที่เรานิยมใช้กันเป็นอย่างมาอีกด้วย เพราะตั้งแต่ที่ไทยเราเปิดรับเอาสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มต่างๆ เข้ามา เริ่มจาก Joox ที่เป็นแอพพลิเคชั่นใช้งานฟังเพลงอันดับหนึ่งของไทย ณ ตอนนี้ หรือสาย Apple เองก็ยังมี Apple Music อีก ส่วนสายเน้นดูหนังดูวิดีโอนั้นก็มี Youtube ที่เป็นผู้ให้บริการฟรีรายหลัก รวมไปจนถึง NetFlix และ iFlix สำหรับความบันเทิงที่เน้นฝั่งตะวันตก หรืออย่าง Viu เพื่อนแฟนซีรีส์เกาหลีอีก เรียกได้ว่าในปัจจุบันนี้แทบไม่มีเวลาไหน (นอกจากเวลานอน) ที่เราจะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการใช้งานดาต้าบนมือถือกันเลยทีเดียว

mobile-tablet-apps

พอพูดถึงเรื่องดาต้าบนมือถือ อีกหนึ่งสิ่งที่หลายๆ คนรู้กันเป็นอย่างดีก็คือมันมาพร้อมค่าใช้จ่ายที่เราต้องเสียให้กับผู้ให้บริการมือถือ ซึ่งเมื่อบวกรวมไปกับค่าใช้จ่ายรายเดือนหรือรายปีที่เราต้องจ่ายให้กับผู้ให้บริการทางฝั่งสตรีมมิ่งอีก รวมกันก็เรียกได้ว่าหลายตังค์ต่อเดือนทีเดียว แต่ยังถือเป็นโชคดีกับชาวไทยที่สำหรับประเทศไทยนั้นขึ้นชื่อลือชาเหลือเกินในเรื่องความถูกของราคาดาต้าทั้งกับฝั่ง Boardband Internet และฝั่ง Mobile Data แต่ถึงแม้ว่าจะถูกอย่างไร มันก็ยังคงเป็นค่าใช้จ่ายของเราอยู่ดี ดังนั้นในยุคที่ค่าครองชีพโดยรวมสูงขึ้นแบบนี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าการใช้บริการสตรีมมิ่งแต่ละแบบนั้นมีอัตราการกิน Mobile Data (4G / 3G / Edge / GPRS) ของเรามากน้อยเพียงใด เพื่อที่เราจะได้เลือกใช้โปรโมชั่นการใช้งานดาต้าที่เหมาะสมกับเรามากที่สุดได้


การฟังเพลงออนไลน์

(Joox / Apple Music / Tidal / Spotify / Deezer / Fungjai และแอพพลิเคชั่นค่ายวิทยุต่างๆ)

Advertisement
Advertisement
Advertisement

logos_back-music

ในขณะที่บางบริการในบ้านเราอย่าง Joox, Tidal, Spotify มีออฟชั่นให้สมาชิกเลือกที่จะฟังเพลงในระดับ Super-HQ ได้ (ในกรณีของ Joox จะต้องสมัครสมาชิกแบบ VIP) หลายๆ บริการจากผู้ให้บริการทั่วไปเช่น Apple Music, Fungjai หรือ Deezer นั้นยังคงมีให้เลือกสูงสุดถึงแค่ระดับคุณภาพเสียงแบบ High เท่านั้น โดยมีไล่มาตั้งแต่ Low (คุณภาพเสียงต่ำสุด), Normal (คุณภาพเสียงปกติ), High (คุณภาพเสียงระดับสูง) และ Super-HQ (คุณภาพเสียงสูงสุดสำหรับเหล่า Audiophile) แถมบางทียังมายาวไปถึงลูกเล่นของระบบเสียงที่อาจมี DTS มากำกับอีกที ซึ่งในแต่ละระดับขั้นความคมชัดของเสียงนั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ให้บริการแทบทั้งหมดจะใช้ Bitrate มาเป็นตัวกำหนด โดย Bitrate คือจำนวน Bit ที่สามารถส่งออกมาในรูปแบบดิจิตอลได้ในเวลาหนึ่งวินาที ซึ่งเจ้า Bitrate นี้เองที่เป็นตัวกำหนดคุณภาพของเสียงเพลงที่เราฟัง รวมไปจนถึงกำหนดความมากน้อยของดาต้าการใช้งานอินเตอร์เน็ต (4G/3G) ของเราที่ต้องสูญเสียไปจากการฟังเพลงด้วย และนี่คือค่าเฉลี่ยโดยประมาณของการกินดาต้าในการฟังเพลงแต่ละรูปแบบ

  • Low Quality นั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไฟล์บิตเรต 96kbps ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะเสียดาต้าเวลาที่ใช้งานอยู่ที่ประมาณ 0.72MB ต่อนาที หรือ 43.2MB ต่อชั่วโมงนั่นเอง
  • Normal Quality จะอยู่ที่ 160kbps ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะเสียดาต้าเวลาที่ใช้งานอยู่ที่ประมาณ 1.20MB ต่อนาที หรือประมาณ 72MB ต่อชั่วโมง
  • High Quality จะอยู่ที่ 320kbps ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะเสียดาต้าเวลาที่ใช้งานอยู่ที่ประมาณ 2.40MB หรือประมาณ 115.6MB ต่อชั่วโมง
  • Super-HQ Quality จะค่อนข้างแตกต่างกันไปในแต่ละผู้ให้บริการ โดยสำหรับ Joox นั้นจะมีการแจ้งเตือนว่าอาจมีการเสียดาต้าการใช้งานถึงประมาณ 30MB ต่อเพลงเลยทีเดียว

ในทีนี้ขอให้โน็ตคำว่า “โดยประมาณ” เอาไว้นะครับ เนื่องจากหลายๆ บริการเช่นบริการอย่าง Apple Music และ Beats Music นั่น ผู้ให้บริการจะมีการปรับคุณภาพบิตเรตตามรูปแบบการเชื่อมต่อของผู้ใช้บริการ เช่นในกรณีของ Apple ว่ากันว่าหากใช้ Mobile Data (4G /3G) คุณภาพเพลงจะถูกปรับให้อยู่ในระดับ 128kbps ในขณะที่หากใช้งานผ่าน WiFi นั้นคุณภาพเสียงจะอยู่ที่ 256kbps AAC แต่อีกหลายๆ บริการเช่น Spotify และ Google Play Music นั้นจะใช้พรีเซ็ตที่เราแจกแจงไว้ด้านบนเป็นตัวแปรในการแบ่งแยกคุณภาพเสียงแต่ละคุณภาพออกจากกัน เว้นแต่จะมีการปรับเปลี่ยนเองโดยผู้ใช้งานในการตั้งค่าของแอพพลิเคชั่นต่อไป

 

การดูหนัง ดูวิดีโอ ดูซีรีส์ออนไลน์

(Youtube / Netflix / iFlix / Viu / Prime / HBO / AIS Play / TrueVision และบริการดูหนังออนไลน์อื่นๆ)

streaming-services

อย่างที่พอจะคาดเดากันได้นั่นล่ะครับ การสตรีมมิ่งวิดีโอนั้นกินดาต้า 4G/3G ของเรามากกว่าการฟังเพลงเยอะมากๆ อย่างแน่นอน เพราะไฟล์วิดีโอนั้นมีภาพเป็นส่วนประกอบหลักของไฟล์ด้วย ซึ่งเมื่อมีภาพซึ่งเป็นไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มากมาเป็นส่วนประกอบแบบนี้ ความเร็วในการดาวน์โหลดที่พัฒนาโดยค่ายมือถือแต่ละค่ายนั้นจึงถือเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยให้บริการสตรีมมิ่งวิดีโอไม่สะดุดนั่นเอง เพราะเหตุนี้ผู้ให้บริการมือถือจึงมีการออกแพคเก็จที่แตกต่างกันออกไป โดยหลายๆ แพ็คเกจจะถูกพ่วงด้วยคำว่า Unlimited หรือไม่จำกัดปริมาณการใช้งานเมื่อใช้งานถึงจุดๆ หนึ่งที่ความเร็วสูงสุดแล้ว โดยส่วนใหญ่จะห้อยท้ายการใช้งานเมื่อเกินปริมาณดาต้ากันเอาไว้ที่ 384kpbs ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานเข้าอินเตอร์เน็ตและฟังเพลงทั่วไป แต่ไม่เพียงพอต่อการรับชมวิดีโอคุณภาพสูง ทำให้ประสบปัญหาที่เจอกันคือดูวิดีโอแล้วกระตุกเมื่อหมดโควต้าเน็ตเต็มความเร็วนั่นเอง

ทั้งนี้โดยปกติแล้วผู้ให้บริการทางฝั่งวิดีโอสตรีมมิ่งจะมีการตั้งค่าระบบให้มีการสตรีมไฟล์ในคุณภาพที่ต่างกันออกไปโดยขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้บริการใรขณะนั้น เพื่อให้ประสบการณ์การรับชมของผู้ใช้บริการไม่ติดขัด ยกตัวอย่างเช่นหากเพื่อนๆ ใช้โปรโมชั่นอินเตอร์เน็ตเต็มสปีดได้จำนวน 20GB หลังจากนั้นจะถูกปรับลงเหลือ 384kbps แบบไม่จำกัด แอพพลิเคชั่นอย่าง Youtube, Netflix, iFlix, Viu และอื่นๆ ก็จะให้เพื่อนๆ ได้ชมวิดีโอที่คุณภาพสูงระดับ HD ได้เรื่อยๆ จนหมดโควต้า 20GB ก่อนจะปรับคุณภาพวิดีโอลงมาเหลือต่ำสุดเมื่อเกินจากนั้นไป เพื่อให้สามารถสตรีมบนความเร็ว 384kbps ได้อย่างดีที่สุดนั่นเอง

เกาะประเด็น:  Epic Games เสนอยุติข้อพิพาททางกฎหมายทั้งหมด ถ้า Apple ยอมยกเลิกค่าคอมมิชชัน 27% ตามคำตัดสินของศาล

เพื่อการประเมินการใช้งานและเลือกแพ็คเกจที่เหมาะสมกับเรา ลองมาดูกันดีกว่าว่าคุณภาพวิดีโอในแต่ละแบบนั้นมีอัตรากันกินเน็ต 4G/3G ของเราประมาณเท่าไหร่

  • Low Quality Video นั้นถือเป็นวิดีโอที่มีคุณภาพต่ำสุด ต่ำชนิดที่บ่อยครั้งหน้าเบลอเป็นแผ่นกระเบื้องกันเลยทีเดียวเมื่อดูผ่านหน้าจอมือถือที่มีความชมชัดสูงอย่างในยุคปัจจุบัน โดยจะมีความคมชัดอยู่ที่ประมาณ 240p – 320p ซึ่งจะกินดาต้าที่ประมาณ 0.3GB (300MB) ต่อชั่วโมง
  • SD Quality Video หรือ Standard Definition Video นั้นก็ตามชื่อเลย เป็นไฟล์วิดีโอที่มีคุณภาพบิตเรตในระดับมาตรฐาน ซึ่งความคมชัดจะอยู่ที่ 480p โดยจะกินดาต้าประมาณ 0.7GB (700MB) ต่อชั่วโมง
  • HD Quality Video หรือ High Definition Video จะเป็นวิดีโอที่มีความคมชัดอยู่ที่ 720p – 2K ขึ้นอยู่กับความเร็วของอินเตอร์เน็ตในขณะที่ใช้งานซึ่งจะถูกประเมินโดนตัวแอพพลิเคชั่นเอง โดยคุณภาพวิดีโอแบบ HD Quality นี้จะกินดาต้าการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 0.9GB (900MB บนความคมชัด 720p), 1.5GB (1500 – 1600MB บนความคมชัดระดับ 1080p Full HD) และ 3GB (3072MB บนความคมชัดระดับ 2K) ต่อการรับชมเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  • UHD Quality Video หรือ Ultra High Definition Video เป็นความคมชัดในระดับ 4K ซึ่งกินการใช้งานดาต้าสูงสุด โดยจะกินอยู่ที่ประมาณ 7.2GB (7373MB) ต่อการรับชมเป็นเวลา 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว

เช่นเดียวกันกับการฟังเพลงออนไลน์ จำนวนดาต้าที่ใช้งานในวิดีโอแต่ละรูปแบบนี้เป็นเพียงแค่ค่าเฉลี่ยประมาณการเท่านั้น โดยอ้างอิงค์จากเอกสารชี้แจงของ Netflix ต่อรูปแบบคุณภาพของวิดีโอในแต่แบบ ซึ่งในส่วนของการชมวิดีโอสตรีมมิ่งนั้น แต่ละผู้ให้บริการจะมีการบีบอัดไฟล์และการตั้งค่าพรีเซ็ตของไฟล์ที่แตกต่างกันออกไปตามคุณภาพและความเร็วของอินเตอร์เน็ตของผู้ใช้งานในขณะนั้น รวมไปจนถึงคุณภาพการเก็บแคชไฟล์ของตัวมือถือที่ใช้งานในการรับชมเองด้วย

 

สรุปปริมาณความบันเทิงที่คุณสามารถทำได้ในแพ็คเกจอินเตอร์เน็ตที่ตามจำนวนดาต้าการใช้งานที่มีให้เลือกในตลาดบ้านเราในหลายๆ ค่ายผู้ให้บริการในปัจจุบันนี้

หากคุณเลือกแพ็คเกจดาต้าใช้งานได้ความเร็วสูงสุดได้เต็ม 8GB

  • 190 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ low-quality
  • 114 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ normal-quality
  • 71 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ high-quality
  • 27 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ low-quality
  • 11 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ standard definition
  • 9 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 720p
  • 5 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 1080p
  • 2.6 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 2K
  • 1.1 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 4K

หากคุณเลือกแพ็คเกจดาต้าใช้งานได้ความเร็วสูงสุดได้เต็ม 20GB

  • 474 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ low-quality
  • 284 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ normal-quality
  • 177 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ high-quality
  • 68 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ low-quality
  • 29 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ standard definition
  • 22.5 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 720p
  • 13 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 1080p
  • 6.6 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 2K
  • 2.7 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 4K

หากคุณเลือกแพ็คเกจดาต้าใช้งานได้ความเร็วสูงสุดได้เต็ม 30GB

  • 711 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ low-quality
  • 426 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ normal-quality
  • 265 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ high-quality
  • 102 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ low-quality
  • 43.5 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ standard definition
  • 34 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 720p
  • 20 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 1080p
  • 10 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 2K
  • 4.1 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 4K

หากคุณเลือกแพ็คเกจดาต้าใช้งานได้ความเร็วสูงสุดได้เต็ม 50GB

  • 1,185 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ low-quality
  • 711 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ normal-quality
  • 177 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ high-quality
  • 170 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ low-quality
  • 73 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ standard definition
  • 56 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 720p
  • 34 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 1080p
  • 16.6 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 2K
  • 6.9 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 4K

หากคุณเลือกแพ็คเกจดาต้าใช้งานได้ความเร็วสูงสุดได้เต็ม 75GB

  • 1,777 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ low-quality
  • 1066 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ normal-quality
  • 664 ชั่วโมงสำหรับการฟังเพลงแบบ high-quality
  • 256 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ low-quality
  • 109.5 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ standard definition
  • 85 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 720p
  • 51 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 1080p
  • 25 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 2K
  • 10.4 ชั่วโมงสำหรับการดูวิดีโอแบบ 4K

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลดีๆ ที่ APPDISQUS นำมาฝากกันครั้งนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ช่วยให้เพื่อนๆ เลือกแพ็คเกจดาต้าที่เหมาะสมกับการใช้งานของตนเองกันมากขึ้นนะครับ แล้วอย่าลืมติดตามเราไว้เพื่อพบกับสาระดีๆ แบบนี้กันต่อไป เพื่อนๆ จะได้ไม่พลาดทุกการอัพเดตในแวดวง IT ไทยไปไกลยัง

3G 4g AIS Android apple Data DTAC featured iflix JOOX Netflix TRUE
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
Alex
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)
  • Instagram

อเล็กซ์ หรือ เอ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบเอามือถือหรือ iPad ข้างกายตนมาจับๆ จิ้มๆ ตามประสาคนมีงานแต่ชอบเล่นเกม คุณสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจเอได้เสมอผ่านทางการคอมเมนต์ในบทความนี้

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Android

Google ใช้ AI ป้องกันภัยออนไลน์: ตรวจจับสแกมใน Search, Chrome และ Android

9 พฤษภาคม 2025
Apple

นักพัฒนาโต้กลับ! ยื่นฟ้อง Apple เพิกเฉยคำสั่งศาลเก็บค่าธรรมเนียม App Store

7 พฤษภาคม 2025
News

AIS รายงานผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1/2568

6 พฤษภาคม 2025
Apple

Google ทำโฆษณาแซว iPhone 17 แบบขำ ๆ “กล้องบาร์แนวนอนนี่…คุ้น ๆ นะ”

6 พฤษภาคม 2025
Your Updates

Epic Games เสนอยุติข้อพิพาททางกฎหมายทั้งหมด ถ้า Apple ยอมยกเลิกค่าคอมมิชชัน 27% ตามคำตัดสินของศาล

2 พฤษภาคม 2025
iPhone Updates

Apple ใกล้จบการเจรจากับ Google เพื่อนำ Gemini มาใช้บนอุปกรณ์ iPhone

1 พฤษภาคม 2025
What Score?
8.5
Devices

รีวิว Infinix Note 50 Pro+ 5G+ สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม สเปคแรง! ชาร์จไว 100W กล้อง 50MP OIS ซูม 100X

By Noppinij1 พฤษภาคม 2025250 Views
7.7
Devices

รีวิว vivo V50 Lite และ vivo Watch GT สมาร์ตโฟน+สมาร์ตวอทช์ “คู่หูแบตอึด” บางเบา จอคมชัด จัดเต็มเกินราคา

By Noppinij22 เมษายน 2025219 Views
8.9
Devices

รีวิว OPPO Find N5 สมาร์ตโฟนจอพับบางที่สุดในโลก แข็งแรง เทคโนโลยีล้ำ! พร้อมสำหรับการทำงาน และกล้องระดับโปร

By Noppinij8 เมษายน 2025291 Views
7.2
Devices

รีวิว vivo Y39 5G จัดเต็ม เครื่องสวยสายลุย! “เอาอยู่ ทุกความท้าทาย”

By Noppinij3 เมษายน 2025

On AppDisqus Channel

รีวิว Alldocube iPlay60 Pad Pro แท็บเล็ตลูกครึ่งโน๊ตบุ๊ค หน้าจอ 12.1 นิ้ว แบต 10000mAh สเปกคุ้มๆ ราคาไม่ถึงเก้าพัน

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Android

Helio ไปต่อ! MediaTeK เปิดตัว Helio G200: รีแบรนด์ G100 พร้อมแต่งหน้าใหม่เล็กน้อย

By Noppinij10 พฤษภาคม 2025

Huawei เปิดตัวโน้ตบุ๊ก HarmonyOS แทน Windows อย่างเป็นทางการ

10 พฤษภาคม 2025

Galaxy S25 Edge จะมาพร้อมกระจกกันรอยใหม่ Corning Gorilla Glass Ceramic 2 เป็นรุ่นแรกของโลก

9 พฤษภาคม 2025

Nintendo เตือนผู้ใช้ Nintendo Switch ที่ดัดแปลง อาจถูกแบนหรือเครื่องพังถาวร

9 พฤษภาคม 2025

Google ใช้ AI ป้องกันภัยออนไลน์: ตรวจจับสแกมใน Search, Chrome และ Android

9 พฤษภาคม 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Android

Helio ไปต่อ! MediaTeK เปิดตัว Helio G200: รีแบรนด์ G100 พร้อมแต่งหน้าใหม่เล็กน้อย

10 พฤษภาคม 2025
WINDOWS

Huawei เปิดตัวโน้ตบุ๊ก HarmonyOS แทน Windows อย่างเป็นทางการ

10 พฤษภาคม 2025
Android

Galaxy S25 Edge จะมาพร้อมกระจกกันรอยใหม่ Corning Gorilla Glass Ceramic 2 เป็นรุ่นแรกของโลก

9 พฤษภาคม 2025
Nintendo World

Nintendo เตือนผู้ใช้ Nintendo Switch ที่ดัดแปลง อาจถูกแบนหรือเครื่องพังถาวร

9 พฤษภาคม 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo