สมาร์ทโฟนสองเรือธงสเปคสูง Xiaomi 13 Pro และ OnePlus 11 5G ที่ไม่ได้มีดีแค่ด้านการประมวลผล แต่ใส่เต็มมาในเรื่องของกล้องถ่ายภาพ เมื่อสมาร์ทโฟนเลือกที่จะทำตลาดด้วยการวิจัยและพัฒนาระบบถ่ายภาพร่วมกับแบรนด์ระดับโลกระดับตำนานด้านกล้อง อย่าง Leica และ Hasselblad

Xiaomi 13 Pro มากับการปะยี่ห้อแบรนด์ Leica บริษัทกล้องสัญชาติเยอรมัน ผู้ผลิตกล้องถ่ายภาพ, เลนส์, กล้องติดปืนไรเฟิล, กล้องจุลทรรศน์ ก่อตั้งแต่ปี 1869 สร้างตำนานมามากมายจนคนทั้งโลกจดจำตราสัญลักษณ์ตุ่มแดงได้ขึ้นใจ

อีกฝั่งมุมน้ำเงิน OnePlus 11 5G แบรนด์สมาร์ทโฟนที่เปิดบริษัทต้อนรับพาร์ทเนอร์ที่เข้ามาร่วมพัฒนากล้องไปด้วยกัน นั้นคือ Hasselblad บริษัทผู้ผลิตกล้องสัญชาติสวีเดน เจ้าของตำนานกล้องยานอวกาศอพอลโล 13 ผู้พาสายตามนุษย์ไปสัมผัสดวงจันทร์และนำมากลับมาให้รับชมด้วยความคมชัดเป็นครั้งแรกของมนุษยชาติ โดยทั้งคู่เป้นเรือธงสเปกสูงที่นับเป็นหนึ่งในด้านการถ่ายถาพทั้งสองรุ่น

วันนี้ #Appdisqusพกเครื่องเที่ยว ได้หยิบสมาร์ทโฟนทั้ง 2 รุ่นพกเครื่องเที่ยวไปประเทศเกาหลี เก็บภาพมาให้ดูกันในหลายสภาพแสง และเพื่อเทียบสไตล์เอกลักษ์ของภาพ เราจึงเคารพการถ่ายแบบจบหลังกล้องในโหมดอัตโนมัติ ไม่มีการแต่งภาพเพิ่มเติมหลังการถ่าย เพื่อให้เป็นไปการปรับแต่งของตัวเครื่องให้มากที่สุด แน่นอนว่าในการใช้งานจริงไม่มีข้อบังคับใดที่จะห้ามไม่ให้นำภาพไปปรับแต่งภายหลังการถ่าย แต่นั้นจะกลายเป็นเอกลักษณ์สไตล์ของผู้ปรับแต่งไปซะมากกว่า

เครื่องไหนจะให้โทนภาพออกมาถูกใจทุกคน เชิญรับชม

รายละเอียดของกล้องทั้งสองรุ่น

Xiaomi 13 Pro : พัฒนาระบบถ่ายภาพร่วมกับ Leica กล้องหลัง 3 ตัว

โหมดการถ่ายภาพหลัก : AI Leica Authentic Look

• Wide 50 MP, IMX989 เซนเซอร์ขนาด 1″ f/1.9, 23mmDual Pixel PDAF, Laser AF, OIS
• Telephoto 50 MP, f/2.0, 75mm PDAF, 3.2x optical zoom
• Ultrawide 50 MP, f/2.2, 14mm, 115˚ , AF
• กล้องหน้า 32 MP

OnePlus 11 5G : พัฒนาระบบถ่ายภาพร่วมกับ Hasselblad กล้องหลัง 3 ตัว

โหมดถ่ายภาพหลัก : AI Hasselblad Calibration

• Wide 50 MP,IMX890 f/1.8, 24mm, เซนเซอร์ขนาด 1/1.56″, multi-directional PDAF, OIS
• Telephoto 32 MP, f/2.0, 48mm, PDAF, 2x optical zoom
• Ultrawide 48 MP, f/2.2, 115˚, AF
• กล้องหน้า 16 MP

ภาพชุดแรก เราลองมาดู WB ในที่กลางแจ้งและในที่ร่ม เริ่มด้วยน้ำทะเลและท้องฟ้า วันนี้ฟ้าเปิดแสงดีทีเดียว *จากที่เราสังเกตลักษณะของ Leica จะให้เม็ดสีดำและคอนทราสที่เข้มข้นกว่า Hasselblad ในทุกโหมด

ภาพในที่ร่ม มีเงาและแสงต่างค่อนข้างเยอะ จะเห็นว่าการปรับความสว่างของสองค่าย จูน AI มาในการเกลี่ยแสงต่างกันพอสมควร

ลองถ่ายกลางแดดแรง แสงแข็งเข้าหน้าด้านเดียว ดูว่าถ้าเป็นสาวๆ น่าจะถูกใจภาพของ Hasselblad มากกว่า หรือเปล่า?

อันนี้ภาพบุคคลกลางคืน อาศัยแสงหน้าร้านสะดวกซื้อ
ให้อารมณ์ภาพต่างกัน ภาพนึงเหมือนหนังรักเกาหลี อีกภาพเหมือนหนังดราม่า Cinematic

ลองกล้องหน้ากันสักภาพครับ
ความละเอียดกล้องหน้า Xiaomi 32MP ส่วน OnePlus 11 5G ความละเอียด 16MP

ชอบภาพจาก Leica ในจังหวะที่ต้องการอยากดึงอีโมชั่นออกมาจากภาพมากๆ เพราะให้โทนเข้มและดูลึกมีมิติ
ส่วนนางแบบจะชอบแบบไหน เข้มหรือขาว อันนี้คงแล้วแต่คน

ภาพกลางคืน

ทดสอบ HDR ออกมาต่างกันอย่างชัดเจน บางคนอาจจะชอบภาพที่ถ่ายออกมาแล้วสว่างเห็นรายละเอียดทั้งภาพ กล้อง OnePlus 11 5G จะเด่นมากในการเพิ่มความสว่างของภาพในส่วนที่มืด เกลี่ยแสงเพิ่มรายละเอียดในส่วนภาพที่มืดได้แม่นและสว่าง
แต่บางคนก็ชอบความมีคอนทราสแสงเงาให้เห็นความต่างอยู่บ้าง ก็คงจะถูกใจสายของ Leica มากกว่า

อีกหนึ่งภาพที่ลองกับแสงและส่วนเงามืด
อยากให้สังเกตนางแบบที่อยู่สุดปลายตึกและรายละเอียดสิ่งของในอาคาร Hesselblad ของ OnePlus 11 ดึงแสงเน้นรายละเอียดภาพในส่วนเงาได้ดีจริง
ชอบภาพออกมาในโทนไหน?

ชุดต่อไป มาลองเลนส์มุมกว้างกันบ้าง ระยะ 23mm
ทั้งสองเครื่องก็ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองได้คงเส้นคงวาครับ

คัดมาเพื่อคุณ

OnePlus จะเปิดตัวสมาร์ตโฟนพับหน้าจอได้ในช่วงปลายปีนี้

สำหรับจุดเด่นซึ่งขอยกให้เป็นท่าไม้ตายประจำแต่ละเครื่อง เราขอเริ่มจาก OnePlus 11 5G กันก่อน มีโหมดกล้องที่เราคิดว่าน่าสนใจมากที่สุดบน OnePlus 11 5G ก็คือ “XPAN”

โหมดที่จำลองลักษณะพิเศษของเลนส์คลาสสิคในอดีต Hasselblad XPAN เป็นภาพที่มีความกว้างพิเศษ ด้วยสัดส่วน 65:24 และสามารถปรับเปลี่ยนโทนภาพได้หลายสไตล์ รวมถึงเป็นปรับเป็นโทนภาพขาวดำ

ด้วยสัดส่วนที่เหมือนภาพพาโนรามา แต่ถ่ายได้การกดชัตเตอร์ครั้งเดียว และไม่มีการบิดเบือนของภาพ ทำให้ภาพออกมาแปลกตาและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่นที่น่าสนใจมากครับ

สำหรับตัวเด็ดของ XIaomi 13 Pro ก็คงจะเป็นฟังก์ชั่น Master-Lens System ระบบการจำลองเลนส์ฟิกยอดนิยม 4 ตัวให้มาใช้งาน มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเลนส์ที่แตกต่างกันเอาไว้

เวลาใช้งานโหมดนี้ ก็จะเหมือนกับเราพกกล้องไปถ่ายภาพพร้อมกับเลนส์ฟิก 4 ตัว ซึ่งแต่ละตัวก็ให้ลักษณะภาพที่แตกต่างกัน ระยะโฟกัสที่ต่างกัน

ใครเคยใช้กล้องกับเลนส์ฟิกในระยะเหล่านี้น่าจะเข้าใจดี 35mm, 50mm, 75mm, 90mm, เป็นระยะนิยมทุกตัว และความคลาสสิคขากโบเก้หมุน, โบเก้โดนัท หรือเลนส์ระยะ Normal ขาวดำ เลนส์รุ่นนิยมของ Leica มีมาให้เลือกหยิบใช้ตรงนี้หมดแล้ว แต่พกไว้ในสมาร์ทโฟนของเรานั้นเอง

สุดท้ายเราเอามาราคามาให้ดู OnePlus 11 5G ราคาเริ่มต้น 29,990 บาท แต่เราขอแนะนำตัว RAM 16GB เพิ่มเงินอีก 3,000 บาท จะได้ทั้งแรมและรอมมากขึ้นเป็นสองเท่า รายละเอียดเพิ่มเติมของ OnePlus 11 5G ดูได้ที่ลิงก์หน้าข่าวนี้ของ Appdisqus : https://www.appdisqus.com/oneplus-11-5g-bus-pro-2-launch-in-thai/

Xiaomi 13 Pro มีเข้ามาจำหน่ายความจุเดียวราคาเดียว 39,990 บาท ซึ่งจะให้ระบบกล้องแตกต่างกับตัว Xiaomi 13 รุ่นปกติ โดยความแตกต่างของ Xiaomi 13 กับ 13 Pro ดูได้จากในหน้าบทข่าวรายละเอียดสเปคด้านล่างนี้ได้เลย : https://www.appdisqus.com/xiaomi-13-series-pro-leica-launch/