หลังจากที่ Nokia ตัดสินใจร่วมหัวจมท้ายกับ Windows Phone 8 อย่างเป็นทางการ เราก็จะเห็นว่าทั้ง Nokia และ Microsoft ต่างก็ช่วยเหลือและผลักดันซึ่งกันและกัน ให้พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เมื่อ Microsoft ได้พัฒนา Windows Phone 8 มาถึงเวอร์ชั่น GDR2 ที่มีความสมบูรณ์และลงตัวมากยิ่งขึ้น ทาง Nokia ก็ออก Nokia Lumia 925 ออกมาเพื่อรองรับโดยเฉพาะ กับราคาเปิดตัวในประเทศไทย 18,500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอดและพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์ต่อจาก Nokia Lumia 920 ได้อย่างงดงาม
สำหรับ Windows Phone 8 GDR2 นั้นอีกไม่นาน สมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบ Windows Phone 8 จะช้าจะเร็วทุกรุ่นก็คงได้รับการอัพเดทเช่นกัน แม้จะอดปลื้มใจกับมันไม่น้อย แต่การรีวิวนี้จะไม่กล่าวถึงรายละเอียดหรือนำมาเป็นข้อดีของ Nokia Lumia 925 มากนัก เราจะมาดูเพียงว่า Nokia Lumia 925 มันจะมีข้อดี ข้อเสีย อะไรอยู่ในตัวบ้าง มันน่าใช้เพียงใด เหมาะกับเราหรือไม่ ? มาดูกันครับ
การรีวิว Nokia Lumia 925 จะแบ่งหัวข้อต่างๆ ไว้ ดังต่อไปนี้
- แกะกล่อง Nokia Lumia 925
- ตัวเครื่องและงานประกอบ
- สเปค Nokia Lumia 925
- การใช้งานที่มาพร้อมกับ Amber GDR2
- การถ่ายภาพและวีดีโอ
- สรุปการรีวิวและประสบการณ์การใช้งาน
ในบทความนี้
[box_info]1. แกะกล่อง Nokia Lumia 925[/box_info]
สำหรับการแกะกล่องนั้น เราจะขอกล่าวถึงก็เพื่อให้เพื่อนๆ ได้ทราบว่า เมื่อเราซื้อเครื่องมาแล้วนั้นจะได้อุปกรณ์อะไรติดมาบ้าง รวมถึงเมื่อเปิดกล่องออกมาแล้วนั้น ลักษณะภายในและแพ็คเก็จเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งจะได้ใช้ในการสังเกตว่า มีการแกะกล่องนั้นโดยบุคคลอื่นมาก่อนหรือไม่ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องการให้เพื่อนๆ ได้สัมผัสก็คือ ประสบการณ์ความประทับใจที่ได้สัมผัสกับเครื่องครั้งแรกครับ ^ ^
คลิปวีดีโอแกะกล่อง Nokia Lumia 925
ตัวกล่องนั้นยังคงใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้ 100 % เช่นเดิม แล้วก็แกะกล่องออกมาก็จะพบกับตัวเครื่องที่แพ็คอยู่ในพลาสติกอย่างมิดชิด ด้านล่างจะมีถาดรองตัวเครื่อง ซึ่งมี “อุปกร์สำหรับจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด” ที่ถูกปิดด้วยพลาสติกอย่างเรียบร้อยวางเอาไว้ด้วย เมื่อนำถาดรองออกก็จะพบกับคู่มือ ใต้คู่มือก็จะมี ที่ชาร์จแบตเตอรี่ซึ่งแยกออกจากสายชาร์จที่เป็นดาต้าลิงค์ในตัว ส่วนหูฟังจะมาพร้อมกับจุกสำรอง 1 คู่ และจุกขนาดเล็กอีก 2 คู่ ไว้สำหรับเปลี่ยน โดยจะได้หูฟังสีขาวหากซื้อเครื่องสีขาว และหูฟังจะเป็นสีดำหากซื้อเครื่องสีเทาหรือสีดำ
[box_info] 2. ตัวเครื่องและงานประกอบ[/box_info]
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ Nokia Lumia 925 ก็คือ ตัวเครื่องและงานประกอบที่พัฒนาต่อยอดมาจาก Nokia Lumia 920 ได้อย่างลงตัวมาก ลบจุดด้อยเรื่องน้ำหนักและความหนาของ Nokia Lumia 920 โดยแลกกับฟีเจอร์การชาร์จไร้สายที่หลายคนลงความเห็นว่า “ไม่จำเป็น” ออกไป
Nokia Lumia 925 เพิ่มความหรูหราและคงทนของตัวเครื่องด้วยโครงสร้างภายในและขอบด้านข้างเป็นอะลูมิเนียมชิ้นเดียวกันทั้งหมด แต่ฝาหลังยังคงเป็นพลาสติกเช่นเดิม คาดว่าคงต้องการหลีกเหลี่ยงความร้อนจากตัวเครื่อง ซึ่งจากการทดสอบใช้งานจริงแล้ว เนื่องจากตัวเครื่องมันบาง จึงพบว่ามีความร้อนที่ขอบอะลูมิเนียมเร็วมาก หากฝาหลังเป็นอะลูมิเนียมคงตัวใครตัวมันหละครับ ร้อนมากแน่ๆ
ลำโพง และ 3 Pin ด้านหลัง สำหรับเชื่อมต่อกับฝาหลังที่เพิ่มฟังก์ชันการชาร์จไร้สายได้ อ่านรายละเอียด
ปุ่มกดได้เปลี่ยนจากแร่ที่มีความแข็งและทนต่อการกัดกร่อนสูงที่เรียกว่าแร่เซอร์โคเนียม(Zirconium) มาเป็นอะลูมิเนียม ที่แม้ความคงทนจะไม่ต่างกันมากนัก แต่เรื่องรอยขีดข่วนคงต้องระมัดระวังกันให้มากขึ้นนะครับ ส่วนเรื่องโครงสร้างและหน้าที่ของปุ่มกดทั้งสามปุ่มก็เหมือนเดิมครับ ไล่จากบนลงล่าง ก็มี ปุ่ม เพิ่ม-ลด เสียง, ปุ่ม เปิด-ปิด เครื่อง และปุ่มชัตเตอร์ ตามลำดับ
หน้าจอผลิตจาก Gorilla Glass ที่มีความโค้งของกระจก 2.25D ซึ่งน้อยกว่า Nokia Lumia 920 ที่มีความโค้งกระจก 2.5D ช่วยให้ดีไซน์บางลง ครอบทับจอแสดงผล AMOLED ClearBlack PureMotion HD+ ที่มีความคมชัดสูง
[box_info]3. สเปค Nokia Lumia 925 (คุณสมบัติเฉพาะ)[/box_info]
เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาที่ครบถ้วน ดังนั้นเราจึงขอระบุรายละเอียดสเปคของ Nokia Lumia 925 ให้ครบทุกด้าน ดังต่อไปนี้
ระบบปฏิบัติการ
- Windows Phone 8 GDR2
ด้านการออกแบบ
ขนาด: 129 X 70.6 X 8.5 มิลลิเมตร
น้ำหนัก: 139 กรัม
หน้าจอ:
- ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว
- ความละเอียดจอแสดงผล WXGA (1280 x 768)
- PureMotion HD+, ClearBlack, การควบคุมความสว่าง, เซ็นเซอร์หลัก, โหมดความสว่างสูง, อัตรารีเฟรช 60 Hz, กระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 2, กระจกแบบ Sculpted, ทำความสะอาดได้ง่าย, หน้าจอ Nokia Glance, ปรับสีรูปแบบสีหน้าจอได้, การมองแบบมุมกว้าง, การปรับปรุงความสามารถในการอ่านขณะมีแสงจ้า
- สีที่แสดง TrueColor (24-bit/16M)
- อัตราส่วนหน้าจอ 15:9
- ความละเอียดของหน้าจอ 334 ppi
- เทคโนโลยีการแสดงผล AMOLED
- เทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส Super-sensitive touch
- เซ็นเซอร์วัดระดับแสงโดยรอบ, Accelerometer, Gyroscope, เซ็นเซอร์วัดระยะห่าง, มาตรวัดความเข้มสนามแม่เหล็ก
คุณสมบัติภายใน
หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon™ S4 Dual-core 1.5 GHz
หน่วยความจำ: ความจำภายใน 16GB(ใช้งานได้จริงประมาณ 12.7GB) ไม่รองรับ SD card แถมพื้นที่เก็บข้อมูลบน Skydrive ขนาด 7GB
การจัดการพลังงาน:
- แบตเตอรี่ BL-4YW ความจุ 2000 mAh
- แรงดันแบตเตอรี่ 4.2 โวลต์
- ระยะเวลาสนทนาสูงสุด 2G: 18.3 ชม.
- ระยะเวลาสนทนาสูงสุด3G: 12.8 ชม.
- ระยะเวลาเปิดเครื่องรอรับสาย (3G): 440 ชม.
- เวลาใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโครงข่ายมือถือสูงสุด 6 ชม.
- เวลาใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi สูงสุด 7.2 ชม.
- ระยะเวลาเล่นเพลง: 55 ชม.
- ระยะเวลาการเล่นวิดีโอต่อเนื่องสูงสุด 6.6 ชม.
- การชาร์จแบบไร้สาย: รองรับด้วยฝาครอบที่เป็นอุปกรณ์เสริม
การเชื่อมต่อ:
- ชนิดของซิมการ์ด Micro SIM (ไมโครซิม)
- การเชื่อมต่อสำหรับชาร์จ Micro-USB
- หัวต่อ AV ช่องต่อสัญญาณเสียงขนาด 3.5 มม.
- การเชื่อมต่อข้อมูล Micro-USB-B
- USB 2.0
- Bluetooth 3.0
- คุณสมบัติ Bluetooth: Object Push profile (OPP) 1.1, Hands-free profile (HFP) 1.5, Advanced Audio Distribution Profile (A2DP) 1.2, Audio/Video Remote Control Profile (AVRCP) 1.4, Phone Book Access Profile (PBAP) 1.1
- Wi-Fi: WLAN IEEE 802.11 a/b/g/n
- การรักษาความปลอดภัย: WPA2 (AES/TKIP), WPA, WPA-Personal, WEP, WPA2-Personal, WPA-Enterprise, WPA2-Enterprise, PEAP-MSCHAPv2, EAP-SIM, EAP-AKA
- NFC แบบเข้ารหัสสำหรับการชำระเงิน, การแชร์, การจับคู่อุปกรณ์, การแท็ก
- การเชื่อมต่อไร้สายแบบอื่นๆ: การผนวกช่องสัญญาณ Wi-Fi
เครือข่ายข้อมูล:
- โครงข่าย GSM: 850 MHz, 900 MHz, 1,800 MHz, 1,900 MHz
- ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด GSM: EGPRS 236.8 kbps
- ความเร็วการอัพโหลดสูงสุด GSM: EGPRS 236.8 kbps
- ย่านความถี่ของโครงข่าย LTE: 1, 3, 7, 8, 20
- ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด LTE: 100 Mbps
- ความเร็วการอัพโหลดสูงสุด LTE: 50 Mbps
- โครงข่าย WCDMA: 900 MHz, 2,100 MHz, 1,900 MHz, 850 MHz
- ความเร็วการดาวน์โหลดสูงสุด WCDMA: HSDPA – 42.2 Mbps
- ความเร็วการอัพโหลดสูงสุด WCDMA: HSUPA – 5.76 Mbps
การถ่ายภาพ
กล้องหลัก:
- ขนาดเซ็นเซอร์มาตรฐาน 8.7 ล้านพิกเซล
- เทคโนโลยี PureView
- ซูมดิจิตอล 4x
- เลนส์ Carl Zeiss Tessar
- ขนาดเซ็นเซอร์: 1/3 นิ้ว
- ค่ารูรับแสง (F number/aperture): f/2.0
- ความยาวโฟกัสของกล้อง: 26 มม.
- ระยะโฟกัสต่ำสุดของกล้อง: 8 ซม.
- รูปแบบภาพ: JPEG/Exif
- ประเภทแฟลช: Dual-LED Flash
- ช่วงปฏิบัติการแฟลช: 3.0 ม.
- โหมดแฟลช: ปิด, อัตโนมัติ, เปิด
กล้องหน้า:
- ความละเอียด 1280 x 960 pixels
- ค่ารูรับแสงกล้องหน้า: f/2.4
- คุณสมบัติอื่นๆ: การบันทึกวิดีโอ, ถ่ายภาพนิ่ง, โทรศัพท์ด้วยวิดีโอ, HD 1.2 MP พร้อมเลนส์มุมกว้าง
การถ่ายวีดีโอ
กล้องวิดีโอหลัก:
- ความละเอียด: 1080p (Full HD, 1920 x 1080)
- อัตราเฟรมกล้องวิดีโอ: 30 เฟรมต่อวินาที
- ซูมกล้องวิดีโอ: 4x
- อัตราการแสดงภาพ: 30 เฟรมต่อวินาที
- รหัสสัญญาณเล่นวิดีโอ: VC-1, วิดีโอบน Windows, H.264/AVC, H.263, MPEG-4
- รูปแบบไฟล์เล่นวิดีโอ: MP4, WMV, AVI, 3GP, 3G2, M4V, MOV
- รูปแบบไฟล์การบันทึกวิดีโอ: MP4/H.264
- โหมดปรับสมดุลสีขาว: เมฆมาก, ฟลูออเรสเซนต์, อินแคนเดสเซนต์, อัตโนมัติ, เดย์ไลท์
กล้องวิดีโอด้านหน้า:
- ความละเอียด: 720p (HD, 1280 x 720)
- รูปแบบการบันทึก: MP4/H.264
เพลงและระบบเสียง
เพลง:
- แอพเพลง: Mix Radio
- สนับสนุน DRM: PlayReady
- คุณสมบัติด้านเสียง: แสดงภาพอัลบั้มในเครื่องเล่นเพลง, Audio Streaming, ชุดหูฟังดอลบี, เครื่องเล่นเพลง, เล่นเพลงออฟไลน์จากคลาวด์, เครื่องเล่นมีเดีย, ตัวปรับระดับสัญญาณแบบกราฟิก, พอดแคสท์, เล่นเพลงจากคลาวด์
รูปแบบเพลง:
- รหัสสัญญาณ: MP3, AMR-NB, WMA 10 Pro, GSM FR, WMA 9, AAC-LC, AAC+/HEAAC, eAAC+/HEAACv2
- รูปแบบไฟล์เสียง: ASFH, MP4, AAC, AMR, MP3, M4A, WMA, 3GP, 3G2
วิทยุ:
- วิทยุทางอินเทอร์เน็ต, วิทยุ เอฟเอ็ม(ออฟไลน์)
เสียงและการบันทึกเสียง:
- บันทึกเสียงใน MMS, การบันทึกเสียงใน OneNote
- รูปแบบไฟล์บันทึกเสียง: AMR
- รหัสสัญญาณการบันทึกเสียง: AMR-NB, GSM FR
- บันทึกเสียงแบบไดนามิกสูง
[box_info]4. การใช้งานที่มาพร้อมกับ Amber GDR2[/box_info]
สมาร์ทโฟน Nokia Lumia 925 ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ซึ่งมีความเสถียรและปลอดภัยสูง สำหรับวิธีการใช้งานนั้น สามารถอ่านบทความแนะนำการใช้งาน Windows Phone 8 ทั้งหมดได้ที่นี่ครับ
1. แนะนำการใช้งาน Windows Phone 8
2. แนะนำเกมและแอพพลิเคชั่นบน Windows Phone 8
สำหรับ Nokia Lumia Amber หรือ Windows Phone 8 GDR2 เป็นระบบที่มาพร้อมกับ Nokia Lumia 925 เป็นตัวแรก การใช้งานที่เพิ่มเติมเข้ามาใหม่ที่น่าสนใจ ได้แก่
- วิทยุออฟไลน์ ช่วยให้เราสามารถฟังวิทยุ FM ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ช่วยประหยัดดาต้าได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจะฟังได้ก็ต่อเมื่อเสียบหูฟังแล้วเท่านั้น
- หน้าจอ Nokia Glance ทำให้ที่หน้าจอแสดงเวลาได้ ซึ่งเราสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงลักษณะการแสดง หรือปิดการทำงานของการแสดงเวลานี้ได้(ประหยัดแบตเตอรี่ด้วย) ที่ Settings >> display+touch >> glance
- การเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเรียกหน้า Lock Screen ขึ้นมา ก็ช่วยถนอมปุ่มกดได้มากขึ้น แต่หากต้องการปิดฟังก์ชันนี้ ก็เข้าไปที่ Settings >> display+touch >> touch >> เอาติ๊กถูกที่คำว่า Double tap to wake up phone ออก
- Data Sense สามารถบอกปริมาณการใช้ข้อมูลทั้งผ่านเครือข่ายมือถือและ Wi-Fi แยกเป็นตามแอพพลิเคชั่นทำให้เราทราบได้ว่าแอพตัวไหนกินดาต้าบ้าง และจำกัดการใช้งานดาต้าได้ด้วย
- Lumia Color Profile ที่สามารถปรับแสงสีของหน้าจอได้ตามใจชอบ โดยเข้าไปตั้งค่าได้ที่ Settings >> display+touch >> display >> Lumia Color Profile >> adjust
นอกจากนี้ Windows Phone 8 GDR2 ก็ยังมาพร้อมการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ แต่เราไม่ขอกล่าวถึง ณ ที่นี้ นะครับ สามารถอ่านพรีวิวได้ ที่นี่
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, NFC, Bluetooth และการแชร์อินเทอร์เน็ตก็ทำงานได้สมบูรณ์ครับ หลังจากที่เคยมีปัญหาในการส่งข้ามระบบเมื่อก่อน Nokia Lumia 925 ถือว่าทำได้ดีขึ้นมากครับ
ความบันเทิงด้านต่างๆ นอกจากเรื่องการฟังวิทยุออฟไลน์ที่กล่าวถึงไปแล้ว ยังสามารถฟังเพลงจากไฟล์ และจากคลาวด์ได้ด้วย ซึ่งรูปแบบเพลงที่เล่นได้ คือ MP3, AMR-NB, WMA 10 Pro, GSM FR, WMA 9, AAC-LC, AAC+/HEAAC, eAAC+/HEAACv2 และไฟล์เสียงที่เล่นได้คือ ASFH, MP4, AAC, AMR, MP3, M4A, WMA, 3GP, 3G2
การชมวิดีโอแบบสตรีมมิ่ง ก็ยังมีหน้าตาแบบเดิมๆครับ ไม่ต่างกับ Nokia Lumia รุ่นอื่นๆ
การเล่นเกม: สำหรับเกมที่ใช้ทดสอบ คือ Temple Run ซึ่งทำให้เข้าใจเลยว่าทำไมเกมนี้จึงต้องการแรมมากถึง 1GB เพราะว่าขนาดเจ้า Nokia Lumia 925 มีแรม 1GB แล้วยังไม่ไหลลื่นเท่าที่ Temple Run ควรจะเป็น(เปรียบเทียบกับระบบอื่น) อันนี้ไม่แน่ใจว่าต้องโทษผู้พัฒนาเกมหรือตัวระบบ Windows Phone แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่าเกม Temple Run สามารถใช้เป็นตัวทดสอบการใช้งานเกมได้
การทดสอบด้วยแอพพลิเคชั่น hardware test ได้ผลดังต่อไปนี้
[box_info]5. การถ่ายภาพและวีดีโอ[/box_info]
กล้องหลังมีความละเอียด 8.7 ล้านพิกเซล มาพร้อมเทคโนโลยี PureView สามารถถ่ายในพื้นที่แสงน้อยได้ดี มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS เช่นเดียวกับ Nokia Lumia 920 พร้อมด้วยซูมดิจิตอล 4x ใช้เลนส์ Carl Zeiss Tessar 6 ชิ้น ค่ารูรับแสง f/2.0
คุณสมบัติกล้อง: Touch Focus, ภาพ Landscape, การชดเชยแสง, การเปิดแบบอัตโนมัติและด้วยมือ, การตั้งค่าสมดุลแสงสีขาวแบบอัตโนมัติและด้วยมือ, แก้ไขภาพนิ่ง, ซอฟต์แวร์ตรวจจับใบหน้า, ช่องมองภาพเต็มจอ, การแท็กสถานที่อัตโนมัติ, ระบบลดการสั่นไหวของภาพ, เซ็นเซอร์ขนาดภาพ 16:9 แท้จริง, PureView, เซ็นเซอร์แบบ BSI และสามารถปรับค่า ISO ได้สูงถึง ISO 3200
โปรแกรมเสริมสำหรับกล้องดิจิทัล: Nokia Smart Camera, Cinemagraph, Panorama, Bing vision แต่แอพที่น่าสนใจที่สุดก็คือ Nokia Smart Camera ครับ ที่ตอนนี้มีอยู่เฉพาะ Nokia Lumia 925 เท่านั้น ซึ่งสามารถบันทึกภาพการเคลื่อนไหวต่อเนื่องได้ในครั้งเดียว จะเลือกภาพเดียวที่ดีที่สุด หรือจะเอาทุกการเคลื่อนไหวมารวมกันในภาพเดียว และยังใช้เอฟเฟกต์พิเศษเพื่อเน้นการเคลื่อนไหวในภาพได้อีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติ Erase สามารถลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกจากภาพได้โดยง่าย หรือเลือกหน้าที่ดีที่สุดในภาพ เพื่อให้เป็นภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบที่สุด
สามารถเลือกใช้งานแอพ Nokia Smart Camera เป็นการใช้งานเริ่มต้นของกล้องได้
ตัวอย่างภาพถ่ายขนาดเต็ม
ทดสอบการแตะโฟกัส(รูปย่อขนาด)
ปัญหาความเพี้ยนของ White Balance ในโหมดอัตโนมัติยังมีให้เห็นอยู่เช่นเดิม(รูปย่อขนาด)
แม้ Nokia Lumia 925 จะอ้างว่าปรับปรุงเรื่องคุณภาพการถ่ายรูปให้ดียิ่งขึ้น แต่จากการทดสอบการใช้งานจริงนั้น เราให้ได้แค่คำว่า “ดีขึ้นพอประมาณ” เท่านั้น Nokia ยังต้องปรับปรุงอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องการเพี้ยนของสมดุลแสงขาว (White Balance) ในโหมดอัตโนมัติครับ ดังตัวอย่างข้างล่างนี้
ตัวอย่างภาพถ่ายอื่นๆ(รูปย่อขนาด)
ส่วนเรื่องการถ่ายวีดีโอนั้น ระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS เป็นฟังก์ชันที่ทำให้การถ่ายวีดีโอด้วย Nokia Lumia 925 มีความสามารถและถ่ายออกมาได้ดีกว่าคู่แข่งมากครับ ทั้งกลางวันและกลางคืน
คลิปตัวอย่างภาพถ่ายวีดีโอ(กลางวัน)
คลิปตัวอย่างภาพถ่ายวีดีโอ(กลางคืน)
[box_info]6. สรุปการรีวิวและประสบการณ์การใช้งาน[/box_info]
เราสามารถพูดได้เลยว่า Nokia Lumia 925 เป็นสมาร์ทโฟนที่รันด้วยระบบ Windows Phone 8 ที่ดีที่สุดในตอนนี้ มีความโดดเด่นที่ วัสดุอะลูมิเนียมชั้นดี ความบางเบาของตัวเครื่อง การออกแบบที่สวยหรู การพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์อีกหลายอย่าง การถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม และมาพร้อมกับ Windows Phone 8 GDR2 ที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
แต่ก็มีข้อเสียด้านความร้อนที่มักจะมาพร้อมกับวัสดุอะลูมิเนียม การถ่ายภาพในโหมดอัตโนมัติยังเพี้ยนเรื่องสมดุลแสงขาว แบตเตอรี่หมดไว ต้องเรียนรู้จักการประหยัดแบตเตอรี่ไว้ด้วยครับ
แต่หากนำไปเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่น แล้วหละก็ Nokia Lumia 925 จะมีข้อเสียหลักๆที่การแจ้งเตือนยังทำได้ช้าเหมือนเดิม ไม่มี Notification Center การควบคุมเสียงรวมไว้ที่จุดเดียว จะเพิ่มเสียงก็ต้องเพิ่มทุกอย่าง หากจะลดก็ต้องลดทุกส่วน ซึ่ง Windows Phone เป็นเช่นนี้มาตลอดยังไม่สามารถแก้ไขได้ ส่วนเรื่องอื่นๆไม่ต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่ Nokia Lumia 925 เหนือกว่าสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการอื่น นั่นก็คือ เรื่องการถ่ายภาพและวีดีโอ ระบบแผนที่ของ Nokia และระบบเอกสารของ Microsoft ซึ่งยังมีการพัฒนาให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ
^____^
[gradeA]
