รีวิว Xiaomi 11 Lite 5G NE สมาร์ทโฟนสเปคแรงเครื่องบางเบา ดีไซน์ใหม่จากเสียวหมี่

Xiaomi 11 Lite 5G NE  สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ที่เสียวหมี่เลือกใช้งานออกแบบใหม่ ปรับโฉมมาในทรงที่บางและเบา ด้วยความบางตัวเครื่องเพียง 6.81 มิลลิเมตร และหนักแค่ 158 กรัมเท่านั้น นับเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่บางเบามากที่สุดของเสียวหมี่เลยครับ

สีสันของตัวเครื่องสดใส ออกแบบมาได้สวยงาม มีความเป็นวัยรุ่นมากทีเดียวครับสำหรับรุ่นนี้

Xiaomi 11 Lite 5G NE เป็นสมาร์ทโฟนที่ออกมาในกลุ่มสเปคดีครับ มีความสามารถครบ แต่สิ่งที่โดดเด่นที่เราเห็นได้ตั้งแต่ภายนอกมันคือการออกแบบใหม่ครับ ตัวเครื่องมาในสีที่สดใส การออกแบบเรียบง่ายดูสะอาดตา และมีความบางเบาของตัวเครื่อง ผิดกับรุ่นอื่นๆ ของ Xiaomi ที่ผ่านมา

เน้นการออกแบบตามคอนเซ็ปต์ “Own Your Style” ใส่ความเป็นแฟชั่นเข้าไปให้รู้สึกภูมิใจในการถือใช้ มีเข้าไทยมาทั้งหมด 4 สีครับ มีสีดำ Truffle Black, สีชมพู Peach Pink และสีพิเศษสีขาว Snowflake White ที่มีพื้นผิวคล้ายกับกระจกเคลือบด้านพร้อมประกายระยิบระยับ และสีฟ้า Bubblegum Blue คือเครื่องที่เห็นอยู่ในรีวิวนี้ ดูสะอาดตา สดใส และเป็นสีที่ดูมีความสนุกที่สุดในสีทั้งสี่ของ Xiaomi 11 Lite 5G NE ครับ ^^ สีกำลังน่ารักทีเดียว

ผิวสัมผัสแบบด้าน สีตัวเครื่องมีเหลือบเงาเวลามีแสงมากระทบ สกรีนโลโก้ Xiaomi 5G สีเงินสะท้อนแสง

การผลิตผิวตัวเครื่องแบบนี้ช่วยเรื่องลดการเกิดครายรอยนิ้วมือได้อย่างดีครับ เกิดรอยนิ้วมือน้อย

เก็บงานมาดีมาก ไม่มีเหลี่ยมคมให้รู้สึกเลย งานประกอบปุ่มกดต่างๆ แน่นหนา รองรับการสแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง เป็นปุ่มพาวเวอร์และที่สแกนนนิ้วในตัว ออกแบบให้รับกับสันขอบเครื่องที่โค้ง ทำงานได้ไวสแกนได้แม่นยำ เป็นเครื่องที่ใส่ระบบสแกนนิ้วด้านข้างเครื่องที่มีความบางมากๆ ปกติเครื่องที่ใส่ที่สแกนนิ้วแบบนี้มักจะมีความหนาพอสมควร ยังคงใส่ IR Blaster เอาไว้ให้ใช้ สามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นรีโมทได้ มีแอพพลิเคชั่นมาให้ภายในพร้อมใช้

ด้านหลังออกแบบกล้องมาไม่นูนสูงมากด้วยครับ เป็นกล้องหลังสามตัว กล้องหลักความละเอียดสูง 64ล้านพิกเซล กล้องมุมกว้าง Ultra-Wide ความละเอียด 8ล้านพิกเซล และกล้อง TeleMacro ความละเอียด 5ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายภาพวัตถุระยะใกล้ได้ 4เซนติเมตร และช่วยในการถ่ายภาพระยะไกลและภาพบุคคลด้วยครับ

ตัวเครื่องมีความบางแค่ 6.81 มม. บางมากครับ เวลาถือจับเข้ามือไม่ต้องเกร็ง แม้หน้าจอของเครื่องจะใหญ่ถึง 6.55 นิ้ว จอกว้างแต่ถือจับไม่ยากเพราะขอบเครื่องมันบางนี้แหละครับ และมีน้ำหนักที่เบาด้วย แค่ 158 กรัมเท่านั้นเอง ทำให้ Xiaomi 11 Lite 5G NE  เป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่บางและเบาที่สุดของเสียวหมี่ในปัจจุบันเลยครับ

ให้หน้าจอระดับเกรดดีมา เป็น AMOLED Display ขนาด 6.55 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080 พิกเซล) รองรับ Dolby Vision, และเทคโนโลยีแสดงผล TrueColor ระดับ 10-bit  ทำให้จอแสดงผลรุ่นนี้สามารถแสดงเฉดสีได้ถึง 1.07 พันล้านเฉดสี เน้นความแม่นยำของการแสดงผลสีครับ รองรับขอบเขตสีทั้งแบบ sRGB และ DCI-P3 จึงเหมาะสมสำหรับการรับชมภาพยนตร์ด้วย แล้วแต่จะเลือกใช้งานได้เลยครับ

อัตรารีเฟรชเรท 90 Hz แต่มีความไวในการตอบสนองต่อคำสั่งการทัชสูงกว่ามาตรฐานจอ 90Hz อัตรา Touch Sampling Rate สูงถึง 240Hz เล่นเกมกันสบายครับหน้าจอใหญ่ รีเฟรชเรทและตอบสนองเร็วแบบนี้

ฝังกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซลเอาไว้บนหน้าจอ กล้องมีขนาดเล็กครับ ไม่เกะกะรำคาญตาเวลาใช้งาน

มาครบทั้งภาพและเสียงครับ ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดี เสียงดัง มีเนื้อเสียงทั้งสองลำโพง แต่รุ่นนี้จะไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. ใส่เข้ามาให้นะครับ ใช้การเชื่อมต่อหูฟังผ่านพอร์ม USB Type C โดยตรง หรือใช้หูฟังแบบไร้สาย และภายในกล่องจะมีตัวแปลง Type-C ให้เป็น 3.5มม. สำหรับการเสียบหูฟังมาให้ครับ

รองรับ 2 ซิมการ์ดแบบไฮปริด เปลี่ยนใส่ micro SD Card ได้ในสล็อตซิมที่สอง รองรับ 5G ทั้งสองซิมการ์ด และที่สำคัญรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 ด้วยนะครับ ^^

แบตเตอรี่ภายใน 4,250mAh รองรับการชาร์จไว 33W fast-charging โดบใช้ที่ชาร์จที่มาให้ภายในกล่อง ให้เป็นที่ชาร์จ 33W มาเลย พร้อมสายดาต้า USB Type-C และเคสใส พร้อมตัวแปลงพอร์ท USB Type-C ให้เป็นรูหูฟัง 3.5มม. แต่จะไม่มีหูฟังแถมมานะครับ

ตัวเครื่องรุ่นนี้ออกแบบมาได้บาง เบา ถือใช้สบายมือมากครับ หน้าจอใหญ่แต่ไม่เกะกะ ขอบเครื่องสันโค้งไม่มีมุมคมใดๆ เลย ลูบแล้วเนียนมือมากๆ สีสันแนวสดใส ดูต่างจากเครื่องรุ่นอื่นๆ ของ Xiaomi ค่อนข้างชัดเจนครับ

การใช้งานภายใน

Xiaomi 11 Lite 5G NE ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 778G ชิปเซ็ต 5G ตัวนี้แรงไม่ใช่เล่นครับ เป็นชิปเซ็ตที่ผลิตในเทคโนโลยี 6 นาโน มาพร้อมกับ Qualcomm AI Engine รุ่นที่ 6 สามารถทำงานต่างๆ ได้ทั้งหมดในระดับที่ดีแม้แต่การเล่นเกมกราฟิกหนักๆ ก็เล่นได้ แม้จะไม่ใช่ชิปเซ็ตตัวเรือธงรุ่นใหญ่ แต่ในเรทราคานี้ก็ถือว่าแรงเกินตัว และใช้งานได้ดีในระดับที่น่าพึงพอใจแล้วครับ

มีรุ่นแรมมา 6GB และ 8GB ให้เลือก รันบนระบบ Android 11 ครอบทับด้วย MIUI 12.5 ความไหลลื่นตอบสนองไว

จุดเด่นในการใช้งานผมว่าอยู่ที่ภาพและเสียง หน้าจอ AMOLED ขนาด 6..55 นิ้ว ถือว่าใหญ่เต็มตา ความละเอียด FHD+ รองรับ Dolby Vision และ HDR 10+ เวลารับชมคลิปที่รองรับ HDR ภาพสวย สีสันสด ดูดีเลยครับ และลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดี ไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่มก็ใช้งานรับชมภาพยนตร์ ฟังเพลง เล่นเกมได้เต็มอารมณ์แล้วครับ

แบตเตอรี่ 4,250mAh ใช้งานได้เช้าถึงค่ำแบบวันต่อวัน เปิดหน้าจอต่อเนื่องใช้แบตเตอรี่เฉลี่ยชั่วโมงละ 14% แต่รองรับการชาร์จไว 33W fast-charging สามารถชาร์จแบตจาก 20% กลับมาเกือบเต็มได้ภายในประมาณ 50 นาทีครับ

หน้าจอแสดงผลเราสามารถปรับตั้งได้เยอะครับ เพิ่มลดอัตรารีเฟรชเรทได้ 60Hz เพื่อประหยัดพลังงาน และ 90Hz สำหรับภาพที่ดูลื่นไหลกว่า แนะนำว่าเปิดที่ 90Hz ไว้ครับ ละมุนตาน่าใช้กว่าเยอะ เปลืองแบตมากกว่านิดเดียวไม่ค่อยมีผลกับชีวิตครับ แวะชาร์จแป๊บเดียวก็ได้ไฟกลับมาใช้ได้ครึ่งวันสบายๆ เปิดแบบเต็มประสิทธิภาพจะดีกว่า

ปรับโทนสีหน้าจอได้สี่ระดับตามระดับความเข้มข้นที่อยากได้ และเลือกโหมดขอบเขตสีได้ทั้ง sRGB และมาตรฐานสีแบบ DCI-P3

หน้าจอมีโหมดถนอมสายตามาให้สำหรับการใช้งานในเวลากลางคืน หรือต้องการใช้มองจอเป็นเวลานานๆ เช่นการอ่านหนังสือ จึงมีโหมดการอ่านที่ปรับภาพหน้าจอให้มีลักษณะเลียนแบบกระดาษ จะลดแสงสีฟ้าและปรับความสว่างและโทนภาพที่ทำร้ายสายตาลงไป มองจอได้นานโดยลดอาการเมื่อยล้าของสายตาได้ดีกว่าแค่การลดแสงสีฟ้าเพียงอย่างเดียวครับ

โหมดสำหรับคนเล่นเกม Game Turbo จะเป็นหน้าโหมดทีเอาไว้รวมไอคอนเรียกใช้เกม เป็นการบอกเครื่องว่าเราต้องการประสิทธิภาพและทรัพยากรเครื่องอย่างเต็มที่เพื่อใช้ในการเล่นเกมนี้ทันทีที่เราเปิดเกมจากใน Game Turbo ครับ

พร้อมกับมีเครื่องมือที่จะทำให้เราเล่นเกมได้สนุกขึ้น เช่นการปรับเปลี่ยนเสียงพูดของเราผ่านไมค์ การเปิดหน้าต่างป๊อบอัพของแอพพลิเคชั่นอื่นขึ้นมาใช้ไปพร้อมกัน และเครื่องมือในการปิดกั้นการติดต่อที่อาจจะเข้ามาขัดจังหวะการเล่นเกมของเราช่วงจริงจังด้วยครับ

รองรับการเล่นเกมหรือการทำงานสองแอพพลิเคชั่นพร้อมกันแบบหน้าต่างลอยได้ด้วยครับ ประสิทธิภาพรันการทำงานสองแอพพร้อมกันได้อย่างสบายๆ เปิดเกมไป ดูหนังหรือดูคลิปไป ก็สบายๆ ^^

การเชื่อมต่อไร้สายต่างๆ ทำได้ดี ไม่เจอปัญหาใดๆ ในขณะทดสอบใช้งาน รองรับ Wi-Fi 6 ซึ่งถือว่าดีเพราะเป็นมาตรฐานที่ต้องมีต่อจากนี้ไปครับ การจับตำแหน่งก็ทำได้ไวมากแม้จะไม่เปิดอินเตอร์เน็ตช่วยก็ตาม ยอดเยี่ยมครับสำหรับการเชื่อมต่อสัญญาณต่างๆ ของ Xiaomi 11 Lite 5G NE

กล้องถ่ายภาพ

Xiaomi 11 Lite 5G NE มาพร้อมกับกล้องหลัง AI สามตัว กล้องหลักความละเอียด 64ล้านพิกเซล ทำงานคู่กับกล้องมุมกว้าง Ultra-Wide 8ล้านพิกเซล และสุดท้ายคือกล้องเทเลมาโคร ซึ่งเป็นกล้อง 2 in 1 ความละเอียด 5ล้านพิกเซล เอาไว้ใช้ทั้งภาพมาโครระยะใกล้และช่วยในการซูมภาพรวมถึงช่วยจับโฟกัสบุคคล สามารถช่วยกันในการซูมถ่ายภาพ ตั้งแต่มุมกว้าง 0.6x ไปจนถึงซูมภาพ 10X ได้แบบดิจิทัล

มีโหมดภ่ายถาพครบเลยครับ ทั้งภาพถ่ายบุคคล, ภาพกลางคืน และภาพมาโครในระยะ 4เซนติเมตร มี HDR และ AI ช่วยในการตรวจจับซีนที่กำลังถ่ายและปรับแสงและโทนภาพให้เหมาะสมกับสิ่งที่ถ่ายได้อย่างอัตโนมัติ

การถ่ายภาพบุคคลมาพร้อมกับฟิลเตอร์หลากหลายอารมณ์ เปลี่ยนบรรยากาศกรุงเทพให้ดูเป็นต่างประเทศได้ด้วยโทนสีของภาพ และมีเอฟเฟ็กต์แสงแฟร์ให้เลือกใช้ในการถ่ายภาพด้วย แสงรอดแสงรั่วสวยๆ แบบจงใจใส่ ปรับระดับความชัดลึกชัดตื้นด้วยการจำลองรูปรับแสงได้แบบเรียลไทม์ครับ เห็นผลลัพท์ก่อนการถ่าย ทั้งหมดมีให้ในกล้องของ Xiaomi 11 Lite 5G NE ครับ ^^

ปรับระดับความ “ฟรุ้งฟริ้ง” เพิ่มความน่ารักและสดใสให้กับบุคคลได้ 100 ระดับ ^^ เลือกระดับความฟรุ้งฟริ้งที่ต้องการได้เลยครับ ภาพบุคคลออกมาคมกริบ

การถ่ายภาพวิว ภาพบุคคล ผลลัทพ์ออกมาสวยครับกล้องรุ่นนี้

โหมดภาพกลางคืน สามารถถ่ายภาพวิวและบุคคลไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง แต่ถ่ายคนต้องบอกให้แบบอยู่นิ่งๆ ก็สามารถถ่ายได้คมอยู่ครับ

โหมดการถ่ายวีดีโอก็มีให้เล่นเยอะเช่นกันครับ ในยุคที่เสพและใช้สื่อวีดีโอกันเยอะขึ้นทุกวัน ทางเสียวหมี่ก็พัฒนาโหมดแปลกๆ สวยๆ ออกมาเพียบเลย

เช่นการถ่ายวีดีโอเอฟเฟ็กต์แบบภาพยนตร์ ที่เราสามารถใช้มือถือถ่ายวีดีโอมุมมองแบบมืออาชีพได้ ด้วยความสามารถต่างๆ อย่างเช่นโหมดซูมเมจิก จะเหมือนการถ่ายวีดีโอดอลลี่ภาพโดยการซูมเลนส์ไปพร้อมกัน เกิดภาพการซูมแบบที่ตัวบุคคลกับฉากหลังเคลื่อนเหลื่อมกัน

หรือโลกคู่ขนาน ที่ตัวกล้องทำงานให้เห็นเลยแบบเรียลไทม์ แปลกตาและสวยงาม เป็นเทคนิคที่กองถ่ายภาพยนตร์ใช้งานกันอยู่บ่อยๆ แต่เราสามารถถ่ายได้ด้วยสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว

ยังมีโหมดการถ่ายเอฟเฟ็กต์แบบภาพยนตร์สวยๆ อีกหลายแบบให้ใช้ครับ แปลกตาและสวยงามทั้งนั้น

โหมดการถ่ายภาพและวีดีโอแบบโคลน สามารถแยกแบบหนึ่งคนให้กลายเป็นหลายคนได้ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ทำได้ด้วยการเครื่องด้วยมือเปล่าด้วยครับ ทำฟังก์ชั่นมาได้ดีและใช้งานง่ายมากๆ สามารถภาพที่แตกต่างไปจากสมาร์ทโฟนปกติได้หลายอย่าง

วีดีโอแบบกล้องคู่ ถ่ายหน้าหลังพร้อมกัน สำหรับใช้ในการถ่ายวีดีโอเก็บภาพบรรยากาศไปด้วย หรือใช้ในการรีวิวสินค้าก็ได้นะครับ แล้วแต่เอาไปใช้ประโยชน์ ปรับมุมมองได้ สลับกล้องหน้าหลังได้ครับในโหมดนี้

กล้องถ่ายวีดีโอมีฟังก์ชั่นเยอะมากครับ รองรับทั้งโหมดกันสั่น โหมดถ่ายภาพสโลว์โมชั่น และโหมดไฮเปอร์แลปเร่งความเร็ว ก็มีหมดครับ

และสำหรับใครที่ชอบถ่ายวีดีโอสั้นแบบสวยๆ เท่ๆ ในกล้องรุ่นนี้ก็มีฟังก์ชั่น VLOG สำหรับการสร้างคลิปสั้นในรูปแบบเวอร์ชันใหม่ โดยตัวระบบจะเป็นไกด์นำให้เราถ่ายวีดีโอไปทีละขั้นตอน เพื่อเก็บภาพมาทำเป็น Video LOG

โดยตัวระบบจะทำการรวมคลิปที่เราทำการถ่ายไปที่ละขั้นและสร้างเอฟเฟ็กต์ในวีดีโอขึ้นมาเองได้ในทันทีครับ แค่เราถ่ายตามทีละขั้นตอนไปเท่านั้น เลือกแนวคลิปที่ตัวเองต้องการ แล้วถ่ายตามเวลาที่ระบบกำหนด ที่เหลือรอดูผลลัพท์ ผมจะบอกว่าเท่ๆ ทุกคลิป ^^

กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับระบบ AI และ HDR ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นถ่ายง่ายครับไม่ต้องกลัวย้อนแสงหรือหามุมแสงที่ถูกต้องไม่เป็น ตัวระบบกล้องหน้าจัดการให้ได้เช่นกล้องหลังเลย

กล้องหน้ามาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพบุคคลละลายหลังได้เหมือนกล้องหลัง ปรับระดับความชัดลึกชัดตื้นได้แบบเรียลไทม์เช่นกัน

มีความสามารถในการช่วยแต่งหน้าเต็มรูปแบบครับ ^^ ลืมแต่งหน้าออกจากบ้านตัวกล้องก็ยังช่วยได้ด้วยการเพิ่มสีสันบนหน้าให้ดูไม่ซีดจาง รองรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ ปรับแต่งศัลยกรรมใบหน้าได้ทีละส่วนด้วยกล้องหน้าได้ด้วยเช่นกันครับ เพิ่มตาให้โต เหลาคางให้แหลม ไม่ต้องไปผ่าจริงก่อนลองกับกล้อง Xiaomi 11 Lite 5G NE ได้หน้าที่คิดว่าสวยพอใจแล้วค่อยถ่าย ^^

เพิ่มเอฟเฟ็กต์แสงแฟร์และฟิลเตอร์ภาพได้เหมือนกล้องหลังเช่นกัน

ตัวอย่างภาพจากล้องหน้า

สรุปท้ายรีวิว

ครบเครื่อง สวยงาม ราคาเบา คุณภาพการใช้งานรอบตัวอยู่ในเกรดดีเยี่ยมโดยเฉพาะเมื่อดูจากราคาจำหน่าย และในรุ่นนี้ก็ทำตัวเครื่องมาได้สวยมากด้วย มีความบาง และงานออกแบบที่มีความเป็นวัยรุ่น สีสันสนุกสดใส ดีไซน์เรียบง่ายดูสะอาดตา ถือจับใช้งานถนัดเพราะเครื่องเบาและบาง

Xiaomi 11 Lite 5G NE มีแยกจำหน่ายออกมา 3 รุ่น

• 6GB+128GB ราคา 10,990 บาท
• 8GB+128GB ราคา 11,990 บาท
• 8GB+256GB ราคา 13,990 บาท