รีวิว Samsung Galaxy S24 FE เรือธงน้องใหม่ AI ครบ! ราคาเบาลง เก่งกาจเรื่องวีดีโอ

Samsung Galaxy S24 FE สมาร์ตโฟนเรือธงที่เป็นน้องใหม่ของซีรี่ส์ และเป็นน้องเล็กที่ราคาเบามากที่สุด ใส่สเปกสำหรับการใช้งานและใส่ฟังก์ชั่นจากกลุ่มเรือธงของ Samsung มาครบเครื่องทุกอย่าง ทั้งการรองรับการถ่ายวีดีโอระดับ 8K สามารถซูมภาพไกล 30X พร้อมมีกันสั่น OIS และซูมออฟติคัล 3X 

และแน่นอนว่าต้องมี Galaxy AI ที่เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด พร้อมใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่นที่ Samsung พัฒนาออกมาเรียบร้อย และสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังเปิดตัวออกมาพร้อมกับชิปเซ็ตใหม่ Exynos 2400e เป็นชิปขนาด 4 นาโนเมตร

แรง! ฟังก์ชั่นครบ! แต่คุมงบประมาณเอาไว้อยู่ที่ 22,900 บาทเท่านั้น ใครที่สนใจมาดูในรีวิวนี้กันว่า จะมีดีอะไรมาให้บ้างใน Samsung Galaxy S24 FE รุ่นนี้ครับ

ตัวเครื่องและชุดประมวลผล

Galaxy S24 FE ถูกวางมาให้เป็นสมาร์ตโฟน “Flagship Experience”  หรือ FE ตามชื่อของรุ่น หมายถึงเครื่องนี้จะให้ประสบการณ์การใช้งานระดับเรือธงจาก Samsung ไม่แตกต่างไปมากจาก Galaxy S24 Series ในรุ่นอื่นๆ แต่วางมาอยู่โพซิชั่นที่ราคาเบามากที่่สุดในซี่รี่ส์

ตัวเครื่องของ Galaxy S24 FE ใช้การออกแบบที่ดูเรียบง่าย ผิวเรียบไม่มีลวดลาย ขอบเครื่องตัดเหลี่ยมหน้าจอแบน ถูกผลิตมาในมาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 สามารถตกน้ำได้ลึก 1.5 เมตรได้นาน 30 นาที ลุยใช้งานกับเราได้สบายใจเพราะกันฝนได้ หรือถ้าเครื่องเลอะมากๆ ก็เอาไปล้างน้ำสะอาดได้เลยครับ

ตัวเครื่องบาง 8 มิลลิเมตร น้ำหนักรวม 213 กรัม งานประกอบแน่น แข็งแกร่งมากทีเดียว จับตัวจริงแล้วก็จะให้ฟิลลิ่งแบบเครื่องเรือธงครับ โดยในประเทศไทยทาง Samsung มีการนำเข้ามาจำหน่ายสามสี นั้นคือ สี Blue, Graphite, และ Mint

ขนาดจอแสดงผล 6.7 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X ความละเอียด FullHD+ รีเฟรชเรท 120Hz รองรับ HDR10+ ฝังกล้องหน้า 10MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ ใช้กระจกจอ Gorilla Glass Victus+ ทนต่อการเกิดรอยขีดข่วนได้ดี รองรับการสแกนนิ้วบนหน้าจอโดยตรง 

ความสว่างหน้าจอ 1900nits ใช้งานได้เห็นชัดทั้งในที่แจ้ง และมีเทคโนโลยีเพิ่มความสบายตาเมื่อใช้ในที่ร่ม ภาพสวยสีชัด แสงสว่างดี ให้มาเป็นหน้าจอคุณภาพสูงครับสำหรับ Galaxy S24 FE

เปิดเล่น Netflix ก็พร้อมรองรับ HDR ได้เลย และในด้านระบบเสียง ก็ให้มาเป็นลำโพงคู่สเตอริโอ เสียงดังชัดมีมิติ คุณภาพเสียงดีมากพอสำหรับการใช้งานทั้งดูหนังฟังเพลงโดยไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่ม

รองรับระบบเสียง Dolby Atmos สามารถปรับเสียงได้เองในการตั้งค่า แต่รุ่นนี้จะไม่มีรูหูฟังบนตัวเครื่องโดยตรงนะครับ เชื่อมต่อหูฟังผ่านทางพอร์ต Type-C หรือใช้หูฟังบลูทูธ

รองรับการใช้งาน 5G ได้ทั้งสองซิมการ์ด และสามารถใช้ eSim ได้แทนทั้งสองซิมด้วยครับ แต่จะไม่รองรับการใส่ microSD Card เพิ่มเติม

แบตเตอรี่ภายในขนาด 4700mAh รองรับการชาร์จ 25W, PD3.0, สามารถชาร์จไฟได้ 50% ในเวลาประมาณ 30 นาที ด้วยอะแดปเตอร์ 25W แต่จะไม่มีแถมมาให้ภายในกล่องครับ และรุ่นนี้รองรับระบบชาร์จไร้สาย 15W ได้ด้วยนะครับ และมีฟีเจอร์ Wireless PowerShare สำหรบการแชร์พลังงานออกไปให้กับอุปกรณ์อื่นแบบไร้สายในมาตรฐาน Qi

ชุดประมวลผลที่ถูกนำมาใช้ใน Galaxy S24 FE จะเป็นชิปเซ็ตตัวใหม่ Exynos 2400e ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 4 นาโนเมตร เป็นชิปเซ็ตแบบ 10 core ที่มีความแรงใกล้เคียงกับ Exynos 2400 ที่ถูกใช้ใน Galaxy S24 และ Galaxy S24+ เลยครับ ต่างกันเพียงเล็กน้อยในความเร็วของคอร์หลัก จะลดลงจาก 3.2GHz มาอยู่ที่ > 3.11GHz ส่วนคอร์ที่เหลืออีก 9 คอร์จะมีความเร็วเท่ากับ Exynos 2400 ทั้งหมด (2.9GHz x 2 core, 2.6GHz x 3 core, และ 1.95GHz x 4core)

ในเมืองไทยนำเข้ามาจำหน่ายสองรุ่น RAM 8GB/128GB และ 8GB/256GB มีความสามารถในการขยายแรม RAM Plus ได้อีกสูงสุด 8GB รวมเป็น 8GB+8GB

คลิปวีดีโอ Hands-On ลองจับเครื่องจริง Galaxy S24 FE

ประสิทธิภาพการใช้งาน

ความแรงของ Exynos 2400e อยู่ในระดับบนของสมาร์ตโฟน Android การใช้งานที่ลองทดสอบต่างๆ มีความว่องไว สั่งงานติดนิ้วครับ รันด้วยระบบ Android 14 ครอบทับด้วย OneUI 6.1 และแน่นอนในเรื่องของการอัปเดตหลังการขาย การันตีว่าดูแลให้อย่างน้อย 7 ปีแน่นอนหรืออาจจะมากกว่านั้น ตัวเครื่องก็ดูทนทานด้วย คิดว่าใช้กันได้ยาวๆ ครับ

มีความสามารถของเครื่องเรือธง Samsung ใส่เข้ามาครบ รวมถึงระบบ Game Booster ที่จะสามารถเปิดโหมด “เร่งประสิทธิภาพ” เมื่อเรียกเกมขึ้นมาทำงาน ทำให้การเล่นเกมบน Galaxy S24 FE เล่นได้ลื่น 100% เฟรมเรทนิ่ง เกม 3D กราฟิกสวยๆ ก็ยังเล่นได้สบายๆ ตามแบบฉบับของเครื่องเรือธงครับ

การควบคุมอุณหภูมิเมื่อลองเปิดโหมดเร่งประสิทธิภาพและเล่นเกมต่อเนื่องนานๆ ก็มีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นให้รู้สึกได้ครับ แต่ยังไม่เคยเกิดอาการผิดปกติใดๆ เกมเบาๆ อย่างแนว MOBA ก็วิ่งได้เต็มเฟรมเรทตามการตั้งค่าของเกม 120FPS แล้วก็ไม่ค่อยแกว่งในจังหวะชุลมุน

ผมมีโอกาสได้เห็นชุดระบบระบายความร้อนภายในของ Galaxy S24 FE มาแล้วครับ ต้องบอกว่ามันมีขนาดใหญ่มาก โดยตัว Vapor Chamber ของ Galaxy S24 FE มีขนาดพิเศษที่จะใหญ่กว่ารุ่นตัวท็อปอย่าง Galaxy S24 Ultra ซะอีกนะครับ ทำให้ชุดระบายความร้อนของ Galaxy S24 FE  มีขนาดใหญ่มากที่สุดจากในบรรดาสมาร์ตโฟนของ Samsung ก็จะช่วยในเรื่องระบายความร้อนได้ไวมากขึ้น ไม่ถูกลดประสิทธิภาพลงเนื่องจากอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นสูงเร็วเกินไป

 Vapor Chamber ของ Galaxy S24 FE (ซ้าย) มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นท็อปอย่าง Galaxy S24 Ultra (ขวา)

ในกรณีกลับกัน ก็จะมีโหมดการทำงานแบบถนอมพลังงาน “ไลท์” มาให้เลือกใช้ด้วย การใช้งานต่างๆ ก็ยังทำได้ดีอยู่นะครับ ในวันทำงานเบาๆ เราเปิดโหมดนี้ไว้ก็สามารถยืดอายุแบตเตอรี่ออกไปได้อีกเกือบเท่าตัว

Galaxy S24 FE มีความสามารถครบแทบทุกอย่างจาก Samsung ครับ รวมถึงความสามารถของ DeX Mode ที่จะเปลี่ยนสมาร์ตโฟนให้กลายเป็น PC เมื่อมีการเชื่อมต่อจอภายนอก รองรับทั้งแบบจอไร้สาย และแบบเสียบเคเบิลสาย USB Type-C สามารถต่อ USB Hub เพื่อต่อจอภายนอกหรืออุปกรณ์เสริมอย่างเช่น เมาส์ หรือคีย์บอร์ดได้เลย

มีระบบความปลอดภัย “Auto Blocker” หรือ “ตัวบล็อกอัตโนมัติ” ซึ่งสำคัญสำหรับยุคนี้ครับ ป้องกันการติดตั้งแอปที่มาจากแหล่งไม่ได้รับอนุญาต ป้องกันลิงก์หลอกให้ติดตั้งแอปปลอม ป้องกันการโดนแฮกจากสาย USB เป็นตัวช่วยป้องกันในจังหวะที่เราอาจจะเผลอลืมตัวไปหลงกลมิจฉาชีพได้ เป็นการป้องกันเสริมให้เราได้อีกชั้นหนึ่งครับ

รองรับการแบ่งหน้าจอทำงาน Multi window เปิดหลายแอปพลิเคชันพร้อมกัน ทั้งแบบแบ่งหน้าจอและแบบป๊อบอัพ รวมกับความสามารถของ Samsung Labs ที่สามารถทำให้ทุกๆ แอปพลิเคชั่นสามารถทำงานแบบ Multi window ได้ทั้งหมด ทุกแอป แม้ตัวแอปตามปกติจะไม่รองรับก็ยังสามารถบังคับให้ทำงานแบบแบ่งหน้าต่างทำงานได้อยู่ดีครับ

ประสิทธิภาพหายห่วงครับสำหรับเครื่องรุ่นนี้ แม้จะเปิดหลายแอปขึ้นมาทำงานพร้อมกันก็ยังตอบสนองได้ไวเช่นเดิม

แบตเตอรี่ภายใน 4700mAh สามารถใช้งานได้เต็มวันครับ จัดสรรพลังงานได้ดี ถ้าเปิดหน้าจอทำงานต่อเนื่อง ความสว่างประมาณ 50% จะดูภาพยนตร์ได้เนื่องประมาณ 8 ชั่วโมงก่อนแบตเตอรี่จะหมดครับ

การจับสัญญาณต่างๆ ไม่มีปัญหา ระยะการเชื่อมต่อไม่มีปัญหา การจับตำแหน่งทำได้ไวแม้จะไม่ได้เปิดอินเตอร์เน็ตช่วย รองรับการเชื่อมต่อ WiFi ทั้ง 2.4 และ 5.0Ghz รวมถึงรองรับเทคโนโลยี WiFi6E ด้วยครับ

Galaxy AI มาครบ จัดเต็มแบบรุ่นตัวท็อป

Galaxy S24 FE เป็นหนึ่งในซีรี่ส์ตัวท็อปของ Samsung ที่ได้รับความสามารถ Galaxy AI เข้ามาใช้แบบครบถ้วน และต้องบอกว่าในวันนี้ Galaxy AI เป็นระบบ AI ที่มีความพร้อมสมบูรณ์ในการใช้งานมากที่สุดในวงการสมาร์ตโฟน ทั้งล่ามแปลภาษา,  การสรุปเนื้อหา, การแต่งรูป, ลบรูป  รวมถึงฟังก์ชั่นใหม่อย่าง Sketch to Image, และผู้ช่วยเขียน Composer ถูกใส่มาครบใน Galaxy S24 FE

รวมถึง Circle to Search ระบบค้นหาสิ่งที่ระบุได้แบบเฉพาะเจาะจงด้วยการวง ก็พร้อมใช้งานได้แล้วแบบ 100% แค่วงกลมในสิ่งที่ต้องการค้นหาหรือคำที่ต้องการแปลภาษา ก็สามารถค้นหาสิ่งที่เกี่ยวข้องที่เราเลือกวงได้ในทันที

มีความสามารถสำหรับนักเรียนนักศึกษาและวัยทำงาน อย่างเช่น “Listening Mode “ เป็นความสามารถในการใช้ AI เพื่อถอดเสียงที่ได้ยินออกมาเป็นตัวอักษร สามารถนำไปใช้จดบันทึกการประชุม หรือจดเลคเชอร์เนื้อหาในห้องเรียนได้ โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์เองเลยครับ

หรือจะใช้ “ตัวช่วยแปล” ซึ่งเป็นล่ามแปลภาษาแบบเรียลไทม์ รองรับทั้งการสนทนาผ่านสายโทรศัพท์ หรือสนทนาแบบหน้าต่อหน้า ใช้เป็นผู้ช่วยเพื่อไปท่องเที่ยวหรือคุยกับคนประเทศอื่นได้พอเข้าใจ และเป็นเครื่องป้องกันคนอื่นนินทาเราเป็นภาษาต่างประเทศได้ด้วยครับ ^^

Galaxy AI มีความสามารถในการการแปลหน้าเอกสารจากไฟล์ต่างๆ รวมถึงเอกสาร PDF เราสามารถนำเข้าไปเปิดด้วยแอป Samsung Notes แล้วกดแปลภาษาบนเอกสารนั้นได้เลยครับ

รวมถึงเราสามารถใช้ AI สรุปย่อสิ่งที่เรากำลังอ่านอยู่ได้ทั้งหมดด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นจากเนื้อหาเอกสาร, หรือจากเนื้อหาที่เราถอดเสียงออกมา

รวมถึงการสรุปจากเนื้อหาบนหน้าเว็บก็ได้เช่นกันครับ เพื่อให้ได้เนื้อหาที่กระชับมากขึ้น ทำความเข้าใจแบบคร่าวๆ ใช้ในกรณีที่เราต้องการจะประหยัดเวลาในช่วงเร่งด่วนหรือยังไม่อยากอ่านเนื้อหาแบบเต็มๆ เรียกใช้ได้ในหลายกรณีมากๆ

รุ่นนี้มีความสามารถของ “ผู้ช่วยเขียน Composer” ใส่เข้ามาให้แล้ว เป็นความสามารถที่ฝังอยู่ในแป้นพิมพ์ของ Samsung จะช่วยเราปรับคำพูดง่ายๆ ของเราให้ออกมาดูเหมาะสม ใช้ช่วยแก้ไขคำผิด ตรวจเช็คไวยากรณ์

เราไม่ต้องคิดคำเพื่อพิมพ์เองแล้วครับ เช่นการจะเขียนจดหมายหาใครสักคน แค่พิมพ์โดยใช้คำง่ายๆ ที่เหลือให้ AI ปรับเป็นรูปแบบที่เหมาะสม โดยเลือกรูปแบบสไตล์การเขียนได้ เช่น การเขียนจดหมายอย่างเป็นทางการ หรือจะเขียนโพสลงบนโซเชี่ยลในฟิลแบบเป็นกันเอง เราแค่ระบุแนวสไตล์ที่ต้องการเพียงเท่านั้น

จะเห็นว่าการจัดการเอกสารและงานต่างๆ เมื่อมี Galaxy AI ก็ช่วยได้เยอะเลยครับ และยังมีความสามารถในด้านการจัดการรูปภาพ แม้แต่การทำภาพประกอบเพื่อใส่ลงบนไฟล์ PDF เราทำขึ้นด้วยตัวเองได้ง่ายมากครับ แค่วาดลายเส้นง่ายๆ ที่เหลือ AI จะสร้างออกมาเป็นภาพสวยๆ ให้เราเลือกได้หลายแบบเลย แล้วก็นำไปวางยังตำแหน่งที่เราต้องการบน PDF ได้ทันที

Sketch to Image ก็เป็นอีกความสามารถในด้านการปรับแต่งภาพ อยากวาดอะไรก็วาดด้วยลายเส้นแบบง่ายๆ ลงบนภาพ แล้วตัว AI จะทำการสร้างวัตถุนั้นขึ้นมาตามสีปากกาที่เราวาด เช่นถ้าเราวาดร่มอยู่ใกล้บุคคล AI ก็จัดการภาพใหม่กลายเป็นคนถือร่มให้เราได้อัตโนมัติเลยครับ

หรือถ้าเราวาดผึ้งอยู่ใกล้ดอกไม้ ก็จะได้ผึ้งในโทนสีและแสงเงาเข้ากันกับภาพดอกไม้ จะสังเกตว่าการทำงานของ Sketch to Image ไม่ใช่สักแต่จะใส่วัตถุ แต่มันสามารถแยกแยะสไตล์ภาพพื้นฐาน แสงเงา และโทนสีของภาพ แล้วค่อยใส่วัตถุลงไปในแบบที่เข้ากับองค์ประกอบเดิมของภาพให้เนียนมากที่สุดด้วยครับ มันจึงไม่ได้ถูกคิดมาแบบง่ายๆ ที่ใครจะพัฒนาระบบเดียวกันมาใส่แล้วก็ใช้งานได้ในระดับนี้เลย

ความสามารถ “ลบวัตถุบนภาพ” ลบได้ทุกอย่างไม่ใช่แค่คนนะครับ แค่วงเลือกสิ่งที่ต้องการแล้วกดลบ AI จะจัดการให้เนียนๆ ครับ แม้วัตถุที่จะลบนั้นเป็นวัตถุหรือบุคคลหลักของภาพที่กินพื้นที่ขนาดใหญ่ก็ตาม

หรือนำวัตถุในภาพออกมาทำเป็นสติ๊กเกอร์ เพื่อเอาไปส่งใช้ในแอปแชตภายหลังได้ด้วย เป็นการสร้างสติ๊กเกอร์ใช้งานเองได้แบบง่ายๆ

มีความสามารถในการหมุนภาพด้วย AI จะช่วยเติมส่วนที่ขาดไปได้ ไม่ต้องครอปภาพให้แคบลงเหมือนการหมุนภาพด้วยฟังก์ชั่นหมุนภาพแบบปกติ

และตัวเด็ด Instant Slow-mo เป็นความสามารถด้านวีดีโอ ที่เราจะใช้ AI มาสร้างวีดีโอแบบสโลว์โมชั่นแยกจากไฟล์วีดีโอตัวเดิม ด้วยวิธีที่เราแค่กดค้างไว้ตอนเล่นวิดีโอในช่วงเวลาที่เราต้องการจะให้ออกมาเป็นวีดีโอแบบสโลว์

และเมื่อเราปล่อยนิ้ว วีดีโอในช่วงเวลาดังกล่าวก็จะถูกสร้างขึ้นมาเป็นวีดีโอแบบสโลว์โมชั่นให้กับเราได้ทันที ซึ่งนี้เป็นความสามารถใหม่ล่าสุดที่จะมีอยู่แค่ในรุ่นเรือธงของ Samsung เท่านั้นครับ

กล้องถ่ายภาพ

Galaxy S24 FE ให้กล้องหลังมีคุณภาพมา 3 ตัว โดย 2 ใน 3 นั้นเป็นกล้องที่มีกันสั่น OIS ในตัวเอง รองรับการซูมภาพแบบออฟติคัลที่ 3X และซูมดิจิทัลได้สูงสุดที่ 30X รองรับการถ่ายวีดีโอในความละเอียดสูงสุดที่ 8K เลยทีเดียวครับ

• กล้องหลักความละเอียด 50MP รูรับแสง f/1.8, ระยะ Wide 24mm ,เทคโนโลยี dual pixel, การโฟกัส PDAF, ติดตั้งกันสั่น OIS
• เลนส์เทเลโฟโต้ 8MP , รูรับแสง f/2.4,ระยะ telephoto 75mm, รองรับการซูม 3X Optical Zoom, การโฟกัส PDAF, ติดตั้งกันสั่น OIS,
• เลนส์มุมกว้างพิเศษ 12MP, รูรับแสง f/2.2, มุมมองรับภาพ 123 องศา

คุณภาพกล้องสูงมาก เป็นสมาร์ตโฟนที่เรียกได้ว่าสามารถชูด้านกล้องออกมาเป็นจุดขายหลักได้เลย ภาพคม สีสวย ให้ความรู้สึกแบบกล้องสมาร์ตโฟนราคาแพงแบบเต็มตัว ภาพดูมีมิติ มีความลึก และฟังก์ชั่นกล้องเยอะมากซะด้วยครับ ถ้าซูมภาพในระยะไม่เกิน 3X คมพอๆ กับเดินเข้าไปจ่อถ่ายใกล้ๆ ด้วยตัวเอง

เด่นในด้านการซูม รองรับการซูมภาพตั้งแต่ 0.6X ไปจนถึงระดับ 30X พร้อมมีระบบล็อคโฟกัสด้วยกันสั่น OIS ช่วยให้เราสามารถโฟกัสวัตถุระยะไกลได้ง่ายมากๆ จะมีกรอบไกด์เป็นภาพขยายให้เราดู เมื่อภายในกรอบมีความนิ่งมากพอจะแสดงออกมาเป็นเส้นโฟกัสสีเหลืองเพื่อให้เรากดชัตเตอร์ในจังหวะนั้น ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับการถ่ายภาพระยะซูมไกลได้มากเลยครับ

เทียบภาพการซูม ระยะไม่เกิน 3X ถือว่าคมมากอยู่แล้ว แต่ในระยะ 10X ก็ยังดูดีอยู่เลยนะครับ เพราะกันสั่น OIS กับกรอบไกด์ช่วยโฟกัสที่ทาง Samsung ออกแบบมา ช่วยเราได้มาก

ถ่ายง่าย ไม่ว่าจะแสงจ้า แสงน้อย หรือย้อนแสง ติดตัวเอาไปเที่ยวได้เลยครับ เพราะการถ่ายภาพในที่แสงน้อย และโหมดถ่ายภาพกลางคืนภาพก็ยังสวยอยู่ครับ

โหมดมีมาครบทุกโหมด ถ่ายภาพอาหารก็มีมาให้ใช้ เลือกขนาดจุดโฟกัสสายตาได้เอง ปรับโทนอุณหภูมิสีภาพอาหารให้ดูน่ากินสวยงามตามที่เราต้องการ

ฟืลเตอร์ภาพคู่สีใส่สวยๆ มาให้เยอะครับ เอาไปปรับถ่ายสร้างแนวภาพของตัวเองกันได้

ไม่ใช่แค่เรื่องการถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น แต่เก่งมากๆ ในเรื่องการถ่ายวีดีโอด้วย มาครบทั้งความละเอียด ฟังก์ชั่น และคุณภาพเลย ใครมองหาสมาร์ตโฟนสายถ่ายวีดีโอผมว่ารุ่นนี้เป็นตัวเลือกระดับต้นๆ ในงบประมาณสองหมื่นบาทได้เลยครับ

การถ่ายวีดีโอแบบบุคคล ที่สามารถละลายหลังได้เหมือนกับการถ่ายภาพนิ่ง ทำงานแบบเรียลไทม์ ทั้งการละลายหลัง, การสร้างโบเก้เม็ดใหญ่ หรือการละลายสีฉากหลังให้กลายเป็นขาวดำ ตัดคนได้คมและผิดพลาดน้อยมากแม้จะมีการเคลื่อนไหว

ความละเอียดในการถ่ายสูงสุดที่ 8K 30fps ถ่ายก่อนแล้วนำมาครอปตัดใช้บางส่วนได้ภายหลัง ถ่ายคนมาทั้งตัว แต่มาเลือกใช้เฉพาะจุดรายละเอียดในคลิปก็ยังคมชัดครับ

เทียบภาพวีดีโอหลังขยายดูด้วยทีวีความละเอียด 8K จะเห็นว่าถ่ายมาในความละเอียดที่ 8K จะคมชัดกว่าการถ่าย 4K ชัดเจนเลยทีเดียว

คุณภาพของภาพวีดีโอสวยงาม สีสันสวย แสงดูสดใส สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียด UHD 60fps ได้แบบเบาๆ ไม่สะดุดหรือสะอึกให้เห็นเลย เป็นความละเอียดและเฟรมเรทที่กำลังดีสำหรับสายทำคอนเทนต์เลยครับ

ทุกโหมดการถ่ายวีดีโอจะมีกันสั่น OIS เข้ามาช่วยลดความสั่นไหวให้อยู่แล้ว แต่จะมีโหมด “Super Steady กันสั่นแบบพิเศษ” ที่จะทำตัวเองเป็นกล้องกิมบอล เป็นการทำงานของตัวกันสั่น OIS คู่กันกับระบบ EIS ลดกันสั่นได้นิ่งมากๆ แม้จะถ่ายในขณะเดินหรือวิ่ง

โดยปกติแล้วมือถือที่สามารถถ่ายวีดีโอในโหมดลักษณะนี้ได้ จะรองรับความละเอียดที่ค่อนข้างต่ำมาก แต่ใน Galaxy S24 FE สามารถถ่ายโหมดแบบกันสั่นพิเศษในความละเอียด QHD 60fps ได้ครับ ซึ่งถือว่าเป็นความคมชัดและระดับเฟรมเรทสำหรับการนำไปใช้ต่อที่กำลังดีเลย

สรุปท้ายรีวิว

เรือธงรุ่นใหม่ ที่สอดแทรกเข้ามาในตลาดช่วงราคาสองหมื่นต้นๆ ของ Samsung เปิดตัวพร้อมชิปเซ็ต Exynos 2400e ประสิทธิภาพโดยรวมยังคงสูงอยู่ในระดับเรือธงเช่นเดิม และภายในระบบยังได้ใส่ Galaxy AI ที่เป็นเวอร์ชั่นสมบูรณ์เข้ามาให้ด้วย ทำได้ทุกอย่างที่ตัวท็อปของแบรนด์สามารถทำได้

ซึ่งในวันนี้ Galaxy AI นับเป็นตัวช่วยทำงานที่น่าสนใจมาก เพราะเป็น AI ที่มีความพร้อมมากที่สุดในวงการสมาร์ตโฟน ณ ปัจจุบัน

ด้านกล้องถ่ายภาพก็มีคุณภาพที่ดีจนต้องนับว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นได้เลย ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและการถ่ายวีดีโอ โดยเฉพาะการถ่ายวีดีโอโดดเด่นมาก รองรับการถ่ายวีดีโอระดับ 8K แถมยังมีฟังก์ชั่นเยอะ และใช้งานได้ดีทุกฟังก์ชั่น ติดตัวไปท่องเที่ยวหรือทำคอนเทนต์ได้สบายสำหรับสายครีเอเตอร์ คุณภาพงานวีดีโอทำได้ดีมากๆ

ก็เป็นรุ่นที่ Samsung เลือกคัดความสามารถเด่นที่สำคัญใส่เข้ามาให้ครบ ใช้วิธีลดบางอย่างที่พอลดจะได้โดยไม่กระทบการใช้งานส่วนใหญ่ของผู้ใช้ เช่นลดความไวในการชาร์จแบตลงเล็กน้อย ลดความละเอียดของกล้องหน้าลงเล็กน้อย แต่ที่เหลือคือของคุณภาพสูง ทั้งชิปเซ็ตประมวลผล, กล้องถ่ายภาพ, ระบบปฏิบัติการภายใน และฟังก์ชั่น Galaxy AI พร้อมวัสดุตัวเครื่องและงานผลิตที่ยังคงคุณภาพแบบจัดเต็ม เพื่อให้สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ให้ประสบการณ์การใช้ในระดับกลุ่มเรือธงของ Samsung แต่มาในราคาไม่แพง เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมนั้นเองครับ

ราคาและโปรโมชั่น

Samsung Galaxy S24 FE มีให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สี Blue, Graphite, และ Mint ราคาจำหน่ายรุ่นความจุ 8GB/128GB ราคา 22,900 บาท และความจุ 8GB/256GB ราคา 25,900 บาท

พิเศษ! โปรโมชั่นช่วงเปิดตัว วันที่ 3-20 ตุลาคม 2567

• อัปเกรดความจุ 2 เท่าฟรีทันที มูลค่า 3,000 บาท
• ลดเพิ่มสูงสุด 2,000 บาท เมื่อนำเครื่องเก่ามาแลกใหม่
• Samsung Finance+ ดาวน์เริ่มต้น 0 บาท เฉพาะ Samsung Experience Store และร้านค้าที่เข้าร่วมรายการ

รายละเอียดเพิ่มเติม : Samsung.com