รีวิว HUAWEI MatePad SE 11 แท็บเล็ตคุณภาพสูง แข็งแรงบางเบา มาพร้อม Kids Corner โหมดสำหรับเด็ก

HUAWEI MatePad SE 11 แท็บเล็ตที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสายบันเทิง เหมาะทั้งผู้ใช้งานที่เป็นเด็กและผู้ใหญ่ ด้วยการใช้หน้าจอคุณภาพสูงขนาด 11 นิ้ว มีความคมชัด สีสดใส ติดตั้งระบบเสียง 4 ลำโพงดังกระหึ่มรอบตัวเครื่อง และยังเป็นแท็บเล็ตที่รองรับปากกา HUAWEI M-Pen lite สำหรับการใช้ในการวาดเขียนสำหรับเด็ก และจดบันทึกสำหรับงานผู้ใหญ่ หน้าจอผ่านการรับรองด้านการลดแสงสีฟ้าและการกระพริบจาก TUV Rheinland มาเรียบร้อยแล้วว่าปลอดภัยต่อสายตา

ตัวเครื่องวัสดุเกรดดีเป็นโลหะแข็งแรง สวยงามคุณภาพสูงเกินราคา เพราะเปิดจำหน่ายมาแค่ 7,990 บาทเท่านั้นเองครับสำหรับรุ่นรองรับ 4G LTE และยังแถมมาปากกา HUAWEI M-Pen lite มาเรียบร้อยแล้วในราคานี้

FullView HUAWEI จอขนาด 11 นิ้วสบายตา ลดแสงสีฟ้าและลดการกระพริบ 

หน้าจอขนาดใหญ่ 11 นิ้ว สีสันสดใสมีความคมชัด FHD+ แสงสว่าง 400nits อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 85% ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 5MP รองรับการสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ รองรับการบันทึกได้หลายใบหน้า

เป็นหน้าจอที่สามารถใช้งานร่วมกับปากกา HUAWEI M-Pen lite ที่แถมมาด้วยกันได้ (แถมในรุ่น LTE) จอภาพจะสามารถแยกสัมผัสระหว่างตัวปากกากับผิวมนุษย์ได้ เราจึงวางมือบนหน้าจอในขณะที่เขียนหรือวาดได้อย่างเต็มที่

เป็นหน้าจอคุณภาพสูงกว่าระดับราคาจำหน่าย ผ่านมาตรฐานการรับรองจาก TÜV Rheinland ทั้งด้านการลดแสงสีฟ้าและการกระพริบมาเรียบร้อยแล้ว ถ้านำไปให้เด็กหรือผู้สูงอายุใช้งานเป็นเวลานานๆ ก็จะช่วยลดภาระของสายตาและลดอาการปวดตาได้มากขึ้นเยอะเลยครับ

ภาพสวย ขอบจอเล็ก ใช้ดูหนังได้เต็มอรรถรสครับ และ ติดตั้งลำโพง 4 ตัว เป็นลำโพงเกรดดี เสียงมีคุณภาพแบบแท็บเล็ตราคาแพงเลยครับ มีเนื้อเสียงดีมากไม่ต่างไปจากการต่อกับลำโพงพกพาภายนอกเพิ่มเติม นำไปใช้งานในห้องส่วนตัว หรือนั่งดูภาพยนตร์ร่วมกันในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน ภาพสวยเสียงดี มีความดังมากเกินพอครับ

ใช้ระบบเสียง Histen 9.0 ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความหนักและแน่นของเสียงเมื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง ปรับแต่งพรีเซ็ตเสียงได้ตามรูปแบบที่เราอยากใช้ เช่น อยากเพิ่มความมิติของเสียง, หรืออยากลดน้ำหนักของเสียงเพื่อให้เป็นธรรมชาติ สามารถเข้าไปปรับแต่งได้ครับ แต่จะใช้งานได้เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟังเท่านั้น

ปากกา HUAWEI M-Pen lite สะดวกทั้งการทำงาน และการใช้สำหรับเด็กใน Kids Corner

HUAWEI MatePad SE 11 ในรุ่น LTE จะแถมฟรีปากกา HUAWEI M-Pen lite มาให้ด้วย ซึ่งเป็นปากการุ่นใหม่ครับ ขนาดเท่าปากกาจริงแต่เป็นทรงกระทัดรัด เพื่อให้จับถือถนัดได้ทั้งผู้ใหญ่ในการจดบันทึก, วาดภาพ รวมถึงที่จะให้เด็กๆ ได้ใช้กันได้แบบถนัดมือด้วย

เพราะทาง Huawei ได้ออกแบบระบบภายในที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเด็กและผู้ปกครองมาโดยเฉพาะ เป็นโหมดผู้ช่วยในการดูแลเด็กที่เรียกว่า Kids Corner โหมดนี้ใส่ความสามารถมาได้อย่างเหมาะสมอย่างมาก สำหรับการมอบแท็บเล็ตไปให้เด็กใช้เล่นกันครับ

Kids Corner ถูกออกแบบหน้าตามาให้เป็นมิตรสำหรับเด็กๆ ด้วยลายเส้นการ์ตูน ดนตรีประกอบ แต่แอบปิดกั้นและใส่ฟังก์ชั่นควบคุมเอาไว้ในแบบที่เป็นมิตรกับความรู้สึกของเด็ก โดยที่ผู้ปกครองจะสามารถเปลี่ยนค่ากำหนด, ติดตั้งแอปเพิ่ม, เมื่อเริ่มเข้าสู่โหมดนี้ตัวแท็บเล็ตจะกลายเป็นของที่ออกแบบมาสำหรับเด็กไปอย่างเต็มตัว สลับเข้าออกมาง่ายๆ เหมือนเปิดแอปแต่การปิดหรือออกจากโหมดต้องใช้รหัสผ่านเท่านั้น

ฉะนั้นเด็กจะเรียนรู้ขอบเขตไปพร้อมๆ กับการใช้งาน และรู้จักการขออนุญาตจากผู้ปกครองเมื่อต้องการอะไรเพิ่มเติม

ผู้ปกครองสามารถกำหนดเวลาในการใช้งานของเด็กในแต่ละวันเอาไว้ได้, กำหนดเวลาโดยรวมที่จะให้เด็กสามารถใช้ได้ในแต่ละวัน, กำหนดช่วงเวลาในการเล่นต่อเนื่องแต่ละครั้ง แลยังะกำหนดระยะเวลาในการพักช่วงการเล่น ว่าต้องการให้เด็กเว้นว่างจากแท็บเล็ตเป็นเวลากี่นาทีก่อนที่เขาจะมีสิทธิ์กลับมาใช้งานได้ใหม่

เพื่อเป็นการสร้างระเบียบวินัย และยังเป็นการสอนให้เด็กเรียนรู้กติกาที่มีร่วมกันกับผู้ปกครอง โดยที่ผู้ปกครองไม่ต้องไปคอยเฝ้าถามหรือจุกจิกตามจี้ จนเด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมาใส่ผู้ปกครอง เป็นการป้องกันเด็กจะมีอาการเสพติดเกมหรือเสพติดอุปกรณ์มากเกินไป

มีความสามารถในการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยให้สำหรับเด็ก เช่น แจ้งเตือนเด็กให้ย้ายสถานที่ใช้งานเมื่อพบว่าสภาพแสงโดยรอบมีความสว่างน้อยเกินไป, การปิดกั้นการใช้งานเมื่อตรวจพบว่าเด็กกำลังเล่นในท่าทางที่ไม่ปลอดภัย เช่นนอนเล่น หรือเล่นในขณะที่กำลังนั่งรถวิ่งอยู่บนเส้นทางที่ขรุขระ

มีแอปพลิเคชั่นที่แนะนำเอาไว้สำหรับเด็กให้แล้วใน Kids Corner และไม่ได้มีแค่เกม แต่จะมีแอปสำหรับพัฒนาความรู้ความเข้าใจของเด็กๆ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการอ่าน การสะกดคํา การเรียนรู้คําศัพท์ การจดจําสัตว์, สิ่งของ และการศิลปะ ที่จะมีการอัปเกรดแอปใหม่ๆ เข้ามากันทุกสัปดาห์ สามารถกดติดตั้งให้เด็กใช้งานได้เลยครับ มีหลายแอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานร่วมกับปากกาที่แถมมาได้ด้วยครับ

ตัวปากกา HUAWEI M-Pen lite ก็ไม่มีอะไรซับซ้่อน ใช้พลังงานจากถ่ายขนาด AAAA ไม่มีการชาร์จแบต สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่องกว่า 150 ชั่วโมงต่อถ่าน 1 ก้อน หรือสแตนด์บายไม่ใช้งานได้นานกว่า 10 เดือนเลยครับ

เป็นปากกาด้ามโลหะน้ำหนักเบา ไม่มีปุ่มกดใดๆ บนตัวด้าม แยกสัมผัสได้จากร่างกายมนุษย์จึงสามารถวางมือบนหน้าจอแท็บเล็ตเพื่อวาดภาพได้ สามารถนำไปใช้วาดภาพกับแอประดับโปรอย่าง SketchBook, iBis Paint X หรือ MediBang Paint ได้ครับ ลายเส้นตอบสนองไว ไม่แลคช้าหน่วง แต่ตัวปากการุ่นนี้จะไม่ได้รองรับแรงกดที่แตกต่างกันของมือได้นะครับ จะลงได้แค่น้ำหนักเดียว แต่ประสิทธิภาพแค่นี้ก็มากพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป และการนำมาวาดรูปเล่นสำหรับเด็กๆ

หัวปากกาเปลี่ยนได้ถ้ามีการสึกหรอ ภายในกล่องของปากกาจะมีหัวปากกาแถมมาให้อีก 1 ชิ้นครับ

เหมาะสำหรับทุกเพศ ทุกวัย แม้แต่ผู้ใหญ่สูงอายุ

ไม่ใช่แค่เด็กเท่านั้นที่นิยมใช้งานแท็บเล็ตนะครับ ในยุคนี้ผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สูงอายุเองก็นิยมชมชอบไม่ต่างกัน ^^ เอาไว้ใช้ทั้งการอ่านหนังสือ เอาไว้ดูภาพยนตร์ หรือเอาไว้ใช้ติดต่อสื่อสารกับลูกหลาน เพราะรุ่นนี้ใส่ซิมโทรเข้าโทรออกได้เหมือนมือถือปกติได้ด้วย รองรับการใส๋ซิมการ์ดเพื่อเชื่อมต่อ 4G (สล็อตซิมเดียว) สามารถโทรออกรับสายเหมือนสมาร์ตโฟนผ่านลำโพงได้เลย แถมแบตอึดมาก หมดปัญหาต้องชาร์จกันบ่อยๆ

หน้าจอยังมีความสามารถในการปรับการแสดงผลตัวอักษรในหน้าการใช้งานให้มีขนาด “มโหฬาร” ให้ด้วยนะครับ ใหญ่แบบเห็นได้ชัดแม้ผู้ใหญ่จะไม่ได้สวมแว่นก็ตาม

มีโหมดผู้สูงอายุ โหมดถนอมสายตาที่เราสามารถเปิดทิ้งเอาไว้ให้ระบบคอยปรับแต่งได้เองตลอดทั้งวัน ลดความเมื่อยล้าของสายตาคนสูงวัย และยังมีโหมด eBook ที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้คล้ายกับกระดาษ เพื่อใช้ในการอ่านหนังสือแบบจริงจังได้ด้วยนะครับ

ตัวเครื่องแข็งแรง ทนทาน วัสดุโลหะน้ำหนักเบา ไม่มีขอบคม

เป็นแท็บเล็ตที่ตัวเครื่องแข็งแรง ดูแข็งแกร่งมีราคามากครับ ติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 8MP ใช้วัสดุอลูมิเนียมอัลลอยด์ซีรีส์ 5 มีการพ่นทรายที่ผิวฝาหลังให้ถือได้กระชับ จับไม่ลื่นมือ มาในสีเทาเนบิวลา

รุ่นที่นำมารีวิวเป็นรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ LTE เป็นแท็บเล็ตเซลลูล่าร์รุ่นแรกที่มีดีไซน์แบบ Double-slit เราจะเห็นการออกแบบเส้นเสาอากาศแบบ Metaslot ที่ขอบด้านบนของตัวเครื่อง

มีน้ำหนักแค่ 475 กรัม และบางเพียง 6.9 มม. นำไปใส่เคสแล้วตัวเครื่องก็ยังไม่หนาไม่หนักจนเกินไปครับ พกง่าย ถือง่าย มีความทนทานสูงอีกด้วย

แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานได้ข้ามวัน รองรับการชาร์จเร็ว 22.5W 

ตัวเบา บาง แต่แบตเตอรี่ภายในก้อนใหญ่มากครับ ขนาด 7700mAh ใช้งานกันได้แบบข้ามวัน หรือเปิดสแตนด์บายก็อยู่ได้นานกว่า 21 วันเลยทีเดียว ตัวเครื่องซ่อนรูปมากๆ

มีระบบที่คอยจัดสรรพลังงานให้กับตัวเครื่องได้แบบสองทาง

• “โหมดประหยัดพลังงาน” -ที่จะประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าปกติ แต่ประสิทธิภาพจะลดลง
• “โหมดประสิทธิภาพ” -ประสิทธิภาพความแรงจะเพิ่มขึ้น แต่จะใช้พลังงานมากกว่าปกติ

มีความสามารถในการดูแลสุขภาพของแบตเตอรี่ให้มีอายุยืนยาว ลดการเสื่อมสภาพจากการชาร์จไฟ เป็นการตั้งค่าเอาไว้ล่วงหน้าให้ระบบชาร์จเก็บไฟเข้าแบตเตอรี่เอาไว้แค่ 80% ก่อนที่จะชาร์จให้เต็มก่อนเราจะตื่นนอนมาใช้งาน วงจรการชาร์จในลักษณะนี้จะส่งผลให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่มีความยาวนานมากขึ้นได้เยอะครับ

HUAWEI MatePad SE 11 จะรองรับระบบชาร์จเร็ว 22.5W สามารถชาร์จแบตเตอรี่ก้อนขนาดใหญ่ของมันให้เต็มได้ในเวลาประมาณ 140 นาที ซึ่งถือว่าเรื่องของขนาดแบต และความเร็วในการชาร์จ ดีกว่าแท็บเล็ตในกลุ่มเดียวกันหลายรุ่นเลยครับ

Kirin 710A และระบบ HarmonyOS 2.0 เร็ว แรง ลื่นไหล ยิ่งใช่ยิ่งเข้ามือ

ความลื่นไหลในการทำงานจะประกอบไปด้วย 2 สิ่งครับ นั้นคือ ฮาร์ดแวร์+ซอฟท์แวร์ ซึ่งผมจะบอกว่าระบบปฏิบัติการของ HAUWEI เป็นระบบที่ทำมาดีมาก ตอบสนองได้ไว กินสเปคน้อย ทำงานได้ไหลลื่นมากกว่าที่คาดไว้จากตัวเลขสเปคบนหน้ากระดาษ

HiSilicon Kirin 710A เป็นชิปประมวลผลที่นำมาใช้ใน HUAWEI MatePad SE 11 ตามประสิทธิภาพที่ได้จากการทดสอบ Benchmark จะเห็นว่าไม่ได้เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงมาก จัดอยู่ในกลุ่ม Mid-End สำหรับอุปกรณ์ที่ราคาไม่แพง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมันถูกปรับจูนให้มาอยู่ในระบบของแท็บเล็ตจาก HUAWEI ในการใช้งานจริงแล้ว เป็นเครื่องแท็บเล็ตที่มีความคล่องตัวลื่นไหลสูงมาก เมื่อเทียบกับแท็บเล็ตในกลุ่มราคาเดียวกัน และยังมีความสเถียรสูง ใช้งานมาไม่เจออาการ แลค ค้าง ช้า หรือรีสตาร์ทเลยครับ

ในส่วนของ RAM และหน่วยความจำ สำหรับรุ่นรองรับ LTE, Wi-Fi จะนำเข้ามาจำหน่ายในขนาด RAM 8GB+128GB และสำหรับรุ่นรองรับเพียง Wi-Fi จะนำเข้ามาในขนาด RAM 6GB+128GB

ประสิทธิภาพแรงมากพอในการนำมาใช้เล่นเกมกราฟิก 3D ภาพสวยๆ ได้เลยนะครับ แม้อาจจะไม่ไหลลื่นแบบเครื่องรุ่นใหญ่ราคาแพงก็ตาม แต่ไม่เป็นรองแท็บเล็ตรุ่นไหนในเรทราคาเดียวกันแน่นอน เปิดดูหนังไปพร้อมกับเล่นเกมก็ยังไหวครับ

ระบบภายในรันด้วย HarmonyOS 2.0 ของทาง HUAWEI เอง มีแอปพลิเคชั่นให้ดาวนโหลดผ่าน AppGallery ที่คนไทยนิยมใช้กันค่อนข้างครบ จากการทดลองติดตั้ง Google Play Store เพื่อใช้งานบนเครื่องด้วยตัวเอง ก็สามารถติดตั้งได้ครับ เป็นการทำงานผ่าน GBox อีกทีนึง สามารถติดตั้งแอปของ Google ได้ปกติ ล็อคอินด้วย GoogleID ได้

ติดตั้ง Netflix มาใช้งานก็ไม่มีปัญหาใดๆ ครับ อุปกรณ์มาในมาตรฐาน Widevine L1 สามารถเล่นภาพยนตร์ FullHD ได้ปกติไม่มีปัญหา

ประสิทธิภาพมากพอที่จะเปิดทำงานสองแอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้แบบลื่นๆ ซึ่งเป็นความสามารถที่เหมาะมากสำหรับการใช้งานบนอุปกรณ์หน้าจอขนาดใหญ่อย่างแท็บเล็ตครับ เรียกใช้งาน ทำได้ทั้งแบบแยกแสดงผลเป็นป๊อบอัพ และแบบแบ่งครึ่งหน้าจอ

และยังมีความสามารถที่เรียกว่า App Multiplier (ตัวคูณแอป) ซึ่งเป็นความสามารถที่จะเรียกใช้แอปพลิเคชั่นเดียวในแบบสองหน้าต่างในโหมดแนวนอน เพื่อการทำงานหลายอย่างไปพร้อมกันบนแอปเดียว เช่นในแอป Huawei Health เราสามารถกดดูข้อมูลร่างกายให้แสดงออกมาเป็นหน้าต่างด้านขวา โดยที่หน้าต่างด้านซ้ายยังคงแสดงข้อมูลในหน้าหลักได้อยู่เช่นเดิม  ปัจจุบันมีแอปมากกว่า 5,000 แอปที่รองรับ App Multiplier แล้ว และจะมีการอัปเดตเพิ่มเติมต่อไป เป็นความสามารถที่น่าสนใจครับ

สรุปท้ายรีวิว

คุณภาพสูง ตัวเครื่องสวยงาม ดูดีมีราคา วัสดูแข็งแรง น้ำหนักเบาและบาง หน้าจอแสดงผลสวยงาม ขนาดใหญ่ 11 นิ้วแต่เครื่องดูเล็ก ถือใช้งานง่ายพกพาไม่ลำบาก แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ มีความอึดใช้งานได้ข้ามวัน และลำโพง 4 ตัวคุณภาพเสียงเกินเรทราคา ในความสามารถด้านงานบันเทิงถือว่าด้วยเรทราคานี้คุ้มมากๆ

รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา HUAWEI M-Pen lite ซึ่งแถมมาให้เลย (ในรุ่น LTE) พร้อมกับการใส่โหมด “มุมเด็ก” หรือ Kids Corner เข้ามา เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถส่งแท็บเล็ตเครื่องนี้ให้กับเด็กใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสบายใจ

ปลอดภัยทั้งการควบคุมวินัยในการเล่นของเด็ก และปลอดภัยในด้านร่างกาย เพราะมีฟังก์ชั่นป้องกันไม่ให้เด็กใช้งานอุปกรณ์ในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่นการนอนเล่นหรือเล่นในที่มืด มีหน้าจอที่ช่วยปกป้องสายตาของเด็ก ผ่านมาตรฐานในด้านการลดแสงสีฟ้าและการกระพริบจาก TÜV Rheinland มาเรียบร้อยแล้ว

หรือจะให้ผู้สูงอายุใช้งานก็เหมาะสม หน้าจอใหญ่ๆ ที่สามารถขยายตัวอักษรให้มีขนาดใหญ่เห็นชัดได้มากขึ้นไปอีก พร้อมทั้งสามารถโทรออกรับสายเรียกเข้าได้ด้วยตัวเอง (ในรุ่น LTE)

แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้ข้ามวัน หรือเปิดเครื่องสแตนด์บายอยู่ได้ถึงสามสัปดาห์ เอาไว้ติดต่อสื่อสารกับคนที่บ้าน มอบให้ลูกหลาน หรือพ่อแม่

ที่สำคัญคือราคาไม่แพงเลยครับ กับคุณภาพตัวเครื่องในเกรดนี้ มีมาครบทั้งคุณภาพของตัวเครื่องที่แค่ได้ลองสัมผัสก็จะรู้ว่าวัสดุดีมาก รวมถึงระบบภายในที่เมื่อใช้จะยิ่งรู้ว่าทาง HUAWEI ใส่ใจพัฒนาระบบของเขามามากขนาดไหนครับ

ราคาและโปรโมชัน

• HUAWEI MatePad SE 11 (รุ่น LTE, RAM 8GB+128GB) วางจำหน่ายในราคา 7,990 บาท พร้อมฟรีปากกา HUAWEI M-Pen Lite มูลค่า 1,990 บาท วางจำหน่ายผ่านหน้าร้าน HUAWEI Experience Store และ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ
• HUAWEI MatePad SE 11 (รุ่น Wi-Fi, RAM 6GB+128GB) วางจำหน่ายวางจำหน่ายในราคาพิเศษ 5,990 บาท (จากราคาปกติ 6,990 บาท) เฉพาะช่องทางออนไลน์ รับฟรีของสมนาคุณสำหรับลูกค้า 120 ออเดอร์แรกที่สั่งซื้อช่องทาง Lazada รับฟรีจานร่อน มูลค่า 890 บาท และสำหรับลูกค้า 150 ออเดอร์แรกที่สั่งซื้อช่องทาง Shopee รับฟรี กระบอกน้ำ มูลค่า 790 บาท และสำหรับลูกค้า 150 ออเดอร์แรกที่สั่งซื้อช่องทาง TikTok รับฟรี กระโดดเชือก มูลค่า 1,100 บาท