Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Android » News » [บทความแปล] บทพิสูจน์”นักฆ่าเรือธง”การปะทะกันระหว่าง OnePlus 2 และ Samsung Galaxy S6
News

[บทความแปล] บทพิสูจน์”นักฆ่าเรือธง”การปะทะกันระหว่าง OnePlus 2 และ Samsung Galaxy S6

19 กันยายน 2015Updated:19 กันยายน 20155 Mins Read

ต้องบอกเลยว่าการมาของเจ้า OnePlus 2 ได้เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนๆได้ไม่น้อยเลยครับ คือตั้งแต่ช่วงที่มีข่าวลือหรือภาพหลุดออกมาก็เริ่มมีคนให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากแล้ว ถึงแม้ว่าภาพหลุดเหล่านั้นหรือข่าวที่ลือๆกันจะตรงบ้างไม่ตรงบ้างก็ตาม แต่ด้วยสเปคของมันนั้นนับว่าเป็นสเปคที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “Flagship Killer” (นักฆ่าเรือธง) ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่จะมีผู้ให้ความสนใจ แต่ทว่าการที่เราจะบอกว่าอะไรดีหรือไม่ดี เราก็จำเป็นต้องมีการพิสูจน์จริงไหมล่ะครับ ซึ่งจากที่ดูแล้วในตอนนี้เรือธงที่ดูจะเห็นภาพกันมากที่สุดคงจะไม่พ้นเจ้า Galaxy S6 ครับ ดังนั้นวันนี้เราเลยจับเอาเจ้า OnePlus 2 และ Galaxy S6 มาเปรียบเทียบกันให้เห็นกันชัดๆไปเลยว่า สรุปแล้ว OnePlus 2 จะเป็น Flagship Killer ตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างจริงๆหรือไม่

OnePlus 2 VS Samsung Galaxy S6

ในบทความนี้

  • การออกแบบ
  • หน้าจอ
  • การแสดงผล
  • ฮาร์ดแวร์
  • กล้อง
  • ซอฟท์แวร์
  • ราคาและบทสรุป

การออกแบบ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-5-of-25-840x473

เรื่องของการออกแบบนั้นถือเป็นเรื่องหลักๆเลยครับสำหรับทั้ง 2 อุปกรณ์ เพราะแน่นอนว่ารูปลักษณ์ภายนอกคือสิ่งแรกที่คนเราจะมองเห็น แต่ขอพูดถึง Galaxy S6 ก่อนแล้วกันนะครับ

สำหรับการมาของ Galaxy S6 หากยังจำกันได้ล่ะก็ ก่อนหน้านี้เคยมีดราม่าให้เป็นที่พูดถึงกันอยู่พักหนึ่งเลย ตรงส่วนของการออกแบบที่ยังคงหน้าตาคล้ายๆกับเครื่องในตระกูล Galaxy S อยู่ ซึ่งไม่มีอะไรให้แฟนๆต้องร้อง”ว้าว”ตรงจุดนี้เลยครับ แต่ทั้งนี้ Galaxy S6 ได้เลือกใช้โลหะในการนำมาทำเป็นตัวเครื่อง รวมทั้งมีกระจกรอบตัวเครื่องทั้งสองด้าน ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนเลยทีเดียว เพราะ Galaxy S6 ได้กลายเป็นเครื่องแรกในตระกูล Galaxy S ที่ทำจากโลหะ แต่นั่นก็นำมาซึ่งดราม่าอีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องของฝาหลังที่ไม่สามารถเปิดออกได้อีกต่อไป ถึงขั้นที่มีผู้ใช้บางรายมองว่า การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เป็นการก้าวถอยหลังเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกจากฝาหลังจะเปิดไม่ได้แล้ว ฟีเจอร์สำคัญๆอย่างการถอดแบตเตอรี่หรือการเพิ่มความจุก็ได้จางหายไปพร้อมกับการมาของตัวเครื่องที่เป็นโลหะอีกด้วยครับ

Advertisement
Advertisement
Advertisement

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-10-of-25-840x473

นอกจากนี้ในส่วนขของหน้าจอขนาด 5.1 นิ้วทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ให้ความรู้สึกที่ไม่เล็กไปหรือไม่ใหญ่ไปเวลาใช้งานครับ เรียกว่าเป็นความพอดีคงจะไม่ผิดนัก และหากใครที่กำลังกังวลกับเรื่องกระจกรอบๆตัวเครื่องที่อาจทำให้มีแต่รอยนิ้วมือเต็มไปหมดอยู่ล่ะก็ ไม่ต้องเป็นกังวลไปครับ เพราะจากที่ได้ลองใช้งานดูแล้ว มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นแน่ๆ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-8-of-25-840x473

คราวนี้เรามาพูดถึง OnePlus 2 กันบ้าง หลังจากที่เราดูๆไปแล้วจะเห็นได้ชัดว่า OnePlus 2 เครื่องนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปมากกว่าครับ หากนำมาเทียบกับตัวออริจินอลของมันนะครับ และด้วยการที่มันมาพร้อมกับความเป็นโลหะในตัว ทำให้สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ให้ความรู้สึก”พรีเมี่ยม”กับผู้ใช้ได้ไม่น้อย อีกทั้งฝาหลังอันเป็นเอกลักษณ์ที่คล้ายกับหินทรายสีดำ ทำให้มันโดดเด่นและดูมีความแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่วๆไปในตลาดครับ ถึงแม้ว่ามันจะมีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วเหมือนกับบรรพบุรุษของมันก็ตาม แต่เจ้า OnePlus 2 เครื่องนี้จะมีรอยเท้าที่เล็กกว่าแน่ๆ เพราะว่ามันถูกพัฒนาให้จับถนัดมือขึ้นนั่นเองครับ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-9-of-25-840x473

ในส่วนของการออกแบบและจัดวางปุ่มต่างๆรอบๆตัวเครื่องนั้นถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี อย่างปุ่ม Alert Slider ที่เป็นปุ่มใหม่อยู่บริเวณด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นจะทำหน้าที่เป็นที่เปิด/ปิดเสียง ทำให้เราเปลี่ยนไปสู่โหมดสั่นได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีปุ่ม Back และ Recent Apps อยู่เคียงข้างกับปุ่ม Home ที่มาพร้อมกับเซนเซอร์ที่ทำให้เราสามารถปลดล็อคหน้าจอได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าหน้าจอจะดับอยู่ก็ตามครับ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-4-of-25-840x473

และสุดท้ายในส่วนล่างของตัวเครื่องเราจะเห็นว่ามีการนำ USB Type-C มาใช้เป็นช่องเสียบสายชาร์จแล้ว ซึ่งนี่อาจจะเป็นข่าวร้ายของใครหลายๆคนที่มีสายชาร์จ microUSB อยู่เยอะๆครับ เพราะมันจะไม่สามารถใช้งานกับเครื่องนี้ได้เลย

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-3-of-25-840x473

หากจะให้สรุปเรื่องของการออกแบบ คงต้องบอกว่าทั้งคู่ถูกแบบมาอย่างดีทีเดียวครับ หากเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนๆของทั้งคู่ เพราะจะเห็นได้ว่าทั้งสองเครื่องนั้นมีการเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่พรีเมี่ยมขึ้น โดย Galaxy S6 จะรู้สึกได้เลยว่าเครื่องนี้แตกต่างจากรุ่นก่อนๆหากเปรียบเทียบกันด้วยความรู้สึกเวลาสัมผัส ถึงแม้จะต้องเสียฟีเจอร์สำคัญๆไปบางอย่าง แต่มันก็แลกมาด้วยความงามที่คุณคู่ควร ส่วน OnePlus 2 หากมองในแง่ของ Android ถือว่าเสียเปรียบที่ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่หรือเพิ่มความจุได้ แต่ฝาหลังของมันสามารถถอดเปลี่ยนได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถเลิอกใช้ฝาหลังในสไตล์ที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด

จากที่เคยเป็นพลาสติกกันมาก่อน ถึงเวลานี้มันทั้งคู่ได้ถูกพัฒนาให้กลายเป็นโลหะที่ดูหรูหราไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่า OnePlus 2 จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ แต่ใช่ว่ามันจะจับไม่ถนัดมือซะทีเดียว การจะตัดสินใจในเรื่องของการออกแบบภายนอกดูจะไม่ใช่โจทย์ที่ง่ายเลยครับ เพราะทั้งสองเครื่องนั้นถูกออกแบบมาได้อย่างยอดเยี่ยมจริงๆ

หน้าจอ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-17-of-25-840x473

สำหรับ Galaxy S6 จะมาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED  5.1 นิ้ว Quad HD ซึ่งทำให้ได้ความหนาแน่นของพิกเซลสูงถึง 577 ppi และอย่างที่เราทราบกันดีว่าเทคโนโลยีหน้าจอแบบ Super AMOLED นั้นจะช่วยให้หน้าจอสามารถแสดงสีต่างๆได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยให้ตัวหนังสือ วิดีโอหรือเกมส์ออกมาคมชัดอีกด้วย บวกกับความลละเอียด Quad HD และความหนาแน่นของพิกเซลในหน้าจอขนาดกลาง ทำให้การแสดงผลและคุณภาพของภาพที่ได้ไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ไปจนถึงขั้นดีเยี่ยมเลยครับหากเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอืนๆ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-14-of-25-840x473

แต่ในทางกลับกันหน้าจอ OnePlus 2 จะเป็นหน้าจอ LTPS LCD ขนาด 5.5 นิ้ว 1080p ซึ่งการเลือกใช้หน้าจอแบบนี้ อาจจะไม่ได้ดีเทียบเท่ากับ Galaxy S6 ครับ แต่ที่แน่ๆมันทำให้ราคาของเครื่องดูน่าครอบครองมากขึ้น ถึงแม้ว่าผู้ใช้หลายๆคนอาจจะมองว่าตัวเลือกนี้เป็นข้อด้อยของ OnePlus 2 เมื่อเทียบกับ Galaxy S6 แต่เอาจริงๆแล้วมันก็ไม่ได้มีการแสดงผลที่แย่เลยนะครับ เพียงแค่มันมีความสว่างมากขึ้น บวกกับสีที่อาจจะฉูดฉาดขึ้นมานิดหน่อย เชื่อว่ามันไม่ได้ทำให้หน้าจอดูแย่แน่นอน เพราะปกติแล้วมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราๆยังไม่สามารถบอกความแตกต่างได้เลยระหว่างหน้าจอแบบ Full HD และ Quad HD ดังนั้นจึงบอกได้เลยครับว่า หน้าจอของ Galaxy S6 และ OnePlus 2 มันไม่ได้ไกลกันแบบที่หลายคนคิด

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-13-of-25-840x473

ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณเป็นคนที่ดซีเรียสมากๆเรื่องสเปค OnePlus 2 อาจจะต้องตกไปในส่วนของหน้าจอ แต่ถ้ามองเรื่องของการใช้งานแล้วนั้น OnePlus 2 ไม่ได้แย่เลย เพราะมันแค่มีความอิ่มตัวของสีที่มากกว่า ซึ่งนั่นก็หมายถึงชีวิตที่มีสีสันมากกว่านะครับ ดังนั้นขอสรุปว่า OnePlus 2 มอบหน้าจอทีดีมาพร้อมกับราคาที่เหมาะสม แต่ Quad HD เป็นอะไรที่เหมาะกับการถูกเรียกเป็นเรือธงมากกว่า ซึ่งแน่นอนว่า Galaxy S6 เหมาะกับคำนี้ครับ

การแสดงผล

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-2-of-25-840x473

ในส่วนของการแสดงผลดูเหมือนจะเป็นการฟาดฟันกันของ The Best เลยครับ ระหว่าง octa-core Qualcomm Snapdragon 810 และ Samsung octa-core Exynos 7420

โดยทาง OnePlus 2 จะเลือกใช้เป็น octa-core Qualcomm Snapdragon 810 ที่ Clocked ไปถึง 1.8 Ghz มาพร้อมกับ Adreno 430 GPU และ RAM 4 GB เรียกได้ว่าแรงสุดๆครับ หากจะตำหนิคงเป็นเรื่องของ Oxygen OS ที่ทำให้เกิดบั้กขึ้นมาเล็กน้อย ซึ่งน้อยมากๆจนถึงไม่มีเลย หลังจากที่ลองทดสอบแล้วพบว่า การเล่นเกมส์ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น รวมถึงการใช้งานในการทำงานต่างๆ หรือการสลับแอพก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเลยครับ เร็วตามที่คาดไว้

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-12-of-25-840x473

ในทางกลับกันทาง Samsung มอบความเชื่อมั่นให้กับการผลิตชิพเซทด้วยตัวเองครับ เพื่อให้ได้มาซึ่งการแสดงผลที่เหล่าผู้ใช้ต้องการ Samsung ได้เลือกใส่ octa-core Exynos 7420 ลงไปใน Galaxy S6 ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า มันทำหน้าที่ของมันได้ดีเลยทีเดียว นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับ RAM 4 GB ดังนั้นการใช้งาน Multitasking จึงไม่ใช่ปัญหาสำหรับมันแน่นอน หากกังวลเรื่องของความเร็วละก็ Galaxy S6 ก็ไม่ต่างอะไรกับซุปเปอร์คาร์ในตลาดสมาร์ทโฟนเลย เพราะมันได้ถูกตัดฟีเจอร์บางอย่างที่เคยเป็นที่กังขาเรื่องความเร็วของเครื่องก่อนหน้านี้ออกไปบ้างแล้ว หรือไม่มันอาจจะถูกซ่อนมาอย่างดีก็เป็นได้

ในส่วนของการทำงานและการแสดงผล OnePlus 2 ถือเป็นคู่แข่งชั้นยอดของเหล่าเรือธงในตลาดได้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟันเลยครับ ขนาดว่าคู่แข่งเป็น Galaxy S6 ดูแล้ว OnePlus 2 ก็ไม่ได้หวั่นอะไรเลย อาจจะมีเฉียดๆกันไปบ้างในส่วนของ Oxygen OS ที่ต้องมีการแก้บั๊กนิดหน่อย แต่หากจับมาลงสนามแข่งแล้วเชื่อว่า OnePlus 2 จะเป็นเหมือนพระเอกที่ไม่ได้ร่ำรวยเท่ากับตัวร้าย ถึงมันจะไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งที่พระเอกจะชนะ แต่การได้ที่สองด้วยเวลาอันฉิวเฉียดเพียงเสี้ยววินาที เชื่อว่าฉากแบบนี้เรียกน้ำตาใครต่อใครไหลท่วมจอกันมาแล้วนักต่อนัก

ฮาร์ดแวร์

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-7-of-25-840x473

หากเราตะเรียกสมาร์ทโฟนสักเครื่องว่าเป็น Flagship Killer แล้วล่ะก็ แน่นอนครับว่ามันควรจะต้องมาพร้อมกับฟีเจอร์ทั้งหมดที่สูสีหรือดีกว่า และ OnePlus 2 ก็เป็นเครื่องหนึ่งครับที่มาพร้อมกับอะไรหลายๆอย่างภายใน อย่างแรกเลยในส่วนของตัวสแกนลายนิ้วมือที่อยู่ภายใต้ปุ่ม Home จริงๆแล้วมันทำงานได้ค่อนข้างจะดีทีเดียว แต่บางครั้งมันก็มีปัญหาเกิดขึ้นขณะที่เราพยายามกดปุ่ม Home หรือขณะที่เราจะสแกนลายนิ้วมือ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะมันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครับ มาในบางโอกาสเท่านั้น

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-20-of-25-840x473

อีกส่วนหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือเจ้า Alert Slider หรือปุ่มที่มีไว้เปิด/ปิดเสียงแจ้งเตือนต่างๆที่เราเคยกล่าวถึงในช่วงแรกๆนั่นแหละครับ ซึ่งเจ้าฟีเจอร์นี้จริงๆแล้วเป็นฟีเจอร์ที่เหมาะมากๆกับการจัดการกับเสียงการแจ้งเตือนใน Android Lollipop ครับ หากว่าคุณไม่ใช่คนที่จะเปิดสั่นตลอดเวลาแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าฟีเจอร์นี้จะช่วยพิสูจน์ได้เลยว่ามันมีประโยชน์มากๆครับ นอกจากนี้การใช้งานมันก็ง่ายมากๆ แทบไม่ต้องมองเลย หากเราคลำไปเจอมันก็สามารถจัดการกับเสียงแจ้งเตือนต่างๆได้แล้ว แบบว่าไม่ต้องหยิบออกจากกระเป๋าเลยด้วยซ้ำ

นอกจากนี้ OnePlus 2 ยังรองรับการใช้งาน 2 SIMs ถึงแม้ว่าฟีเจอร์นี้จะไม่สำคัญเท่าไรนักสำหรับบางคน แต่การต้องเดินทางบ่อยๆฟีเจอร์นี้ถือเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ได้ค่อนข้างดีทีเดียว โดยเฉพาะการเดินทางไปต่างประเทศนะครับ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-25-of-25-840x473

USB Type-C เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมครับสำหรับการชาร์จ แต่ทว่ามันยังไม่ได้มาพร้อมกับเทคโนโลยี Fast-charging ซึ่งมันขัดกันกับ Snapdragon 810 นิดหน่อยที่มันรองรับ Quick Charging 2.0 นอกจากนี้ OnePlus 2 ยังไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ดังนั้นเก็บสายชาร์จของคุณไว้ดีๆครับ ในส่วนของแบตเตอรี่ OnePlus 2 มาพร้อมกับความจุ 3,300 mAh ทำให้สามารถใช้งานแบบเปิดหน้าจอได้ติดต่อกันนาน 5 ชม.ครับ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-21-of-25-840x473

คราวนี้มาดูในส่วนของ Galaxy S6 กันบ้างครับ อย่างแรกเลยมันมาพร้อมกับ Wireless Charging หรือการชาร์จแบบไร้สายที่ถูก Built-in มาไว้ในเครื่องเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Fast-charging ทำให้การชาร์จแบตเต็มสามารถทำได้ในเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ด้วยความที่มันมาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุ 2,550 mAh นั่นอาจจะไม่เพียงพอให้ผู้ใช้อย่างเราๆ พา Galaxy S6 เดินทางไปกับเราได้ตลอดวัน

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-24-of-25-840x473

์NFC อาจจะไม่ใช่อะไรที่สำคัญที่เราต้องพูดถึงมากนัก แต่ด้วยการมาของ Samsung Pay มันจะทำให้ NFC เริ่มมีบทบาทขึ้นมาครับ ซึ่งแน่นอนว่า Galaxy S6 รองรับ NFC และที่น่าประหลาดใจอย่างมากคือ OnePlus 2 กลับไม่มี เอาเป็นว่าหากใครที่ไม่ต้องการใช้ NFC แล้วล่ะก็ใช้ OnePlus 2 ได้เลยครับ แต่ด้วยการที่ OnePlus 2 ไม่รองรับการใช้งาน NFC นั้นทำให้มันไม่สามารถรองรับการใช้จ่ายในทุกๆระบบเลยนั่นเองครับ (ในไทยตอนนี้อาจยังไม่สำคัญมากนัก) แต่หากใครที่ซื้อไว้เผื่ออนาคตล่ะก็ Galaxy S6 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าตรงจุดนี้

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-16-of-25-840x473

ในส่วนของเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่บริเวณส่วนบนของปุ่ม Home ใน Galaxy S6 มีความเร็วพอๆกับใน OnePlus 2 ครับ หลังจากที่เราได้ทดสอบดูแล้วพบว่ามีความเร็วพอๆกันทีเดียว และอย่างที่เรารู้กันว่า Samsung ต้องการให้สมาร์ทโฟนทำอะไรได้ทุกอย่าง ดังนั้นใน Galaxy S6 เครื่องนี้จึงมาพร้อมกับเซนเซอร์ Heart rate ที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่อง ซึ่งจะถูกใช้ในส่วนของ S Health ซึ่งมันเป็นอะไรที่ไม่เลวเลยกับการวัดจังหวะการเต้นของหัวใจ แต่ก็ต้องบอกว่า Galaxy S6 ไม่ได้เป็นอะไรที่เหมาะกับการเป็นเครื่องมือด้านสุขภาพและฟิตเนส สำหรับใครที่ซีเรียสหรือจริงจังเรื่องฟิตเนสมากๆนครับ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-6-of-25-840x473

สำหรับฮาร์ดแวร์นั้น จริงๆแล้วมีข้อดีข้อเสียต่างกันนะครับ อยู่ที่ผู้ใช้แล้วว่าจะชอบแบบไหน อย่างเซนเซอร์วัดระดับการเต้นหัวใจ VS ปุ่มเปิด/ปิดเสียง, ชาร์จเต็มเร็ว VS แบตความจุมากกว่า และ 2 SIMs VS NFC แต่อย่าลืมมองเรื่องราคาด้วยนะครับ

กล้อง

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-22-of-25-840x473

มาถึงจุดนี้กันแล้วครับในส่วนของกล้อง เชื่อว่าคงมีหลายๆคนที่ให้ความสำคัญตรงส่วนนี้อย่างมาก และการที่จะเป็น Flagship Killer ได้ OnePlus 2 ก็ควรที่จะต้องผ่านตรงจุดนี้ไปให้ได้ครับ

อย่างแรกเลยต้องเรียนแบบนี้ครับว่ามันไม่เหมาะที่จะเริ่มการใช้งานในส่วนของกล้องใน OnePlus 2 ด้วยแอพกล้องที่ให้มากับตัวเครื่องเลย เพราะจริงๆแล้วมันเป็นแอพ Google Camera ที่ถูกโมดิฟายมาแล้วเท่านั้น ซึ่งทำให้โหมดต่างๆหายไปบ้าง และนั่นก็ทำให้การตั้งค่าต่างๆแบบ Manual เข้ามาแทนที่ ซึ่งจริงๆแล้วเรือธงหลายๆรุ่นในปีนี้เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ Manual control มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดครับ เรียกว่าเป็นแบบ RAW เลยน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะนั่นจะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบหรือจริงจังกับการถ่ายรูปได้จัดหนักกับเต็มกับกล้องในสมาร์ทโฟนได้มากที่สุดนั่นเอง

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-18-of-25-840x473

ทั้งนี้ Auto focus ใน OnePlus 2 ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน แต่ OIS กลับถูกคั่นไว้ด้วยแอพกล้องทำให้ Shutter speed ช้าลงไป ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ขัดแย้งกับการรักษาความเสถียรอย่างมาก ถึงแม้ว่าเราจะได้รับรายงานมาว่าแอพกล้องจะได้รับการอัพเดททั้งในส่วนของ Manual control และการตั้งค่าต่างๆ แต่เอาจริงๆนะครับมันจะยังไม่ได้รับการอัพเดทในวันสองวันนี้แน่นอน

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-19-of-25-840x473

ซึ่งหากจับกล้องของ Galaxy S6 มาเทียบกันแล้ว ไม่ว่าจะเรื่องของการรักษาความเสถียรของแสงและความละเอียดระดับ 16MP ที่ไม่ได้มีแต่ Manual control นั้น เรามองว่า Galaxy S6 นาจะดูดีกว่า ไหนจะมีโหมดต่างๆเข้ามาช่วยบวกกับเซนเซอร์ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมคุณภาพของภาพถ่ายได้อย่างใจนึกเลยทีเดียวครับ พูดง่ายๆว่าภาพที่ได้มานั้นแทบไม่ต้องเอาไปผ่านแอพต่างๆในท้องตลาดก็ยังอยู่ได้สบายๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใด กล้องของ Galaxy S6 นั้นมาพร้อมกับความเร็วในการเข้าถึงเพียงไม่ถึงวินาที โดยการกปุ่ม Home 2 ครั้งติดกัน เท่านี้เหล่าช่างภาพทั้งหลายก็พร้อมจับภาพช็อตเด็ดๆได้แล้ว

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OnePlus 2

แน่นอนครับสำหรับภาพถ่ายแล้วคุณภาพย่อมสำคัญที่สุด แต่น่าเสียดายที่ OnePlus 2 อาจทำได้ไม่ดีเท่าไรนัก จริงๆแล้วภาพที่ได้จากกล้องของ OnePlus 2 นับว่ามีความคมชัดในระดับหนึ่งเลยทีเดียวครับ แต่ดูจะเหมาะกับการโพสต์รูปในโซเชียลมีเดียต่างๆมากกว่า เพราะหากเราลองซูมเข้าไปใกล้ๆนิดเดียว เราก็จะเริ่มสังเกตุเห็นว่าภาพเริ่มแตกแล้วครับ ซึ่งแตกต่างจากภาพที่ได้จาก Galaxy S6 ที่เหมาะกับนักถ่ายภาพทั้งหลาย แต่ทั้งนี้ภาพแบบ Oversaturation ที่ได้จากกล้องของ OnePlus 2 ก็ถือเป็นจุดเด่นสำหรับใครที่มองหาความสดครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Galaxy S6

ปกติแล้วทุกๆบริษัทจะให้ความสำคัญในส่วนของ HDR อย่างมาก และ OnePlus 2 ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน แต่ในทางกลับกันมันก็ไม่สามารถต้านทานความรุนแรงของ HDR ใน Galaxy S6 ได้เลย เพราะภาพที่ได้จาก Galaxy S6 ในโหมด HDR นั้นเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างเยอะกว่า อย่างที่เราบอกไปในข้างต้นว่าทาง OnePlus 2 มี Shutter speeds ที่ช้า..ถึงช้ามาก ดังนั้นทำให้เจ้า OIS ไม่สามารถทำงานตามหน้าที่ของมันได้ดีเท่าที่ควร การถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีแสงน้อยจึงเป็นไปด้วยความยากลำบากกว่าปกติครับ เพราะเราต้องถือมันค้างไว้แบบนั้นสักแปปนึงก่อน ที่สำคัญหากว่าเราจับเครื่องไม่นิ่งล่ะก็ ภาพที่ได้จะมีโอกาสเบลอสูงมากๆ แตกต่างจากใน Galaxy S6 ที่สามารถถ่ายในที่แสงน้อยได้ดีกว่า ถึงแม้จะไม่ใช่กล้องที่ดีที่สุด แต่มั่นใจได้เลยว่ามันไม่ยากเท่ากับการใช้ OnePlus 2

ดังนั้นตรงจุดนี้สรุปได้ว่ากล้องของ OnePlus 2 ฆ่า Galaxy S6 ไม่ตายรับประกันเลย

ซอฟท์แวร์

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-5-of-25-840x473

เดินทางกันมาจนถึงในช่วงท้ายกันแล้วในส่วนของซอฟท์แวร์ ขอเริ่มด้วย Samsung ก่อนเลยนะครับ หลังจากที่ทาง Samsung ได้เอาอะไรหลายๆอย่างที่เราเรียกว่า Bloatware ออกไป อีกทั้งแอพ Built-in ต่างๆยังสามารถเลิอกที่จะปิดการใช้งานได้ งานนี้ก็เลยกลายเป็นหมือนกับสวรรค์ของผู้ใช้เลยทีเดียวครับ เรียกได้ว่าเป็นซอฟท์แวร์ที่น่าเข้าถึงที่สุดของ Samsung เลย และด้วยการทำงานของ Lollipop เบื้องหลังและเบื้องหน้าที่สามารถปรับแต่งได้ ยิ่งทำให้มันเข้าถึงได้ง่ายกว่ารุ่นก่อนๆมากขึ้นมากทีเดียว

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-23-of-25-840x473

และพูดถึงซอฟท์แวร์ก็คงจะต้องพูดถึงฟีเจอร์อย่าง Multitasking ด้วยครับ สำหรับใครที่ต้องการทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกันฟีเจอร์อย่าง S Window นับเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์คนเหล่านี้ได้ดีที่สุด

oneplus-2-review-aa-26-of-38-840x473

มาพูดถึงซอฟท์แวร์ของทาง OnePlus กันบ้างดีกว่า ในส่วนของ Oxygen OS ถือเป็นซอฟท์แวร์ที่ดีในระดับหนึ่งทีเดียว เพราะมันประกอบไปด้วย Gesture ต่างๆและความสามารถในการสั่งการและเข้าถึงที่ยอดเยี่ยม อีกทั้งมันยังจะมาพร้อมกับ Marshmallow หากว่าทาง Google ปล่อยออกมาแล้ว ซึ่งหากใครที่เป็นห่วงหรือกังวลเรื่องความปลอดภัยก็นับว่าเหมาะทีเดียว นอกจากนี้มันยังมีฟีเจอร์อย่าง Shelf ที่เปรียบเหมือน Homescreen เสริม ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดแอพและคอนแทคต่างๆที่ใช้เป็นประจำไว้ที่นี่ได้นั่นเองครับ

oneplus-2-review-aa-27-of-38-840x473

หากเทียบกันตรงนี้ OnePlus ทำได้ไม่เลวเลยครับในส่วนของ Oxygen OS แต่ TouchWiz จาก Samsung อาจจะทำได้ดีกว่าตรงที่มันมาพร้อมกับประโยชน์ใช้สอยที่มากกว่า อีกทั้งตอนนี้ทาง Oxygen OS ยังมีปัญหาอยู่เล็กน้อยในส่วนของบั๊ก แต่เชื่อว่าหลังจากการอัพเดทแล้วบั๊กดังกล่าวน่าจะถูกแก้ไขไปในที่สุดครับ

ราคาและบทสรุป

ราคาถือเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายของทุกผลิตภัฑฑ์ ซึ่ง OnePlus ทราบถึงจุดนี้ดี แต่หากเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ OnePlus 2 ถือว่ามาในราคาที่สูงกว่า แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนักโดยจะมาที่ราคา 329$ หรือประมาณ 11,000 บาท ซึ่งมันยังเป็นอะไรที่ถูกมากนะครับหากนำมาเทียบกับสมาร์ทโฟนระดับ High-end อื่นๆ ซึ่งนั่นรวมถึง Galaxy S6 ด้วย นอกจากนี้ราคาของ OnePlus 2 หากนำไปเทียบกับสมาร์ทโฟน Mid-range จากค่ายอื่นๆแล้ว ก็ต้องยอมรับครับว่า OnePlus 2 กินขาดทำลายเรียบ

oneplus-2-vs-samsung-galaxy-s6-aa-1-of-25-840x473

เรามาสรุปกันเลยดีกว่าครับ จากที่เราอธิบายไปด้านบนทั้งหมดระหว่าง OnePlus 2 และ Galaxy S6 เราคงจะพอได้เห็นภาพกันบ้างแล้วใช่ไหมครับ ถึงแม้ว่า OnePlus 2 จะมาพร้อมกับราคาที่ถูกกว่า Galaxy S6 มาก แต่การที่จะต่อกรกับเครื่องระดับเรือธงอย่าง Galaxy S6 อาจจะยังไม่ใกล้เคียงเท่าไรนัก ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพของทั้ง 2 เครื่องนั้นจะพอๆกัน แต่ในส่วนของฮาร์ดแวร์และหน้าจอ ทำให้ทาง Galaxy S6 ได้ขึ้นมานำหน้าอยู่นิดหน่อย แต่พอมาจนถึงเรื่องของกล้องแล้ว OnePlus 2 ได้ถูกทิ้งไว้ข้างหลังเรียบร้อย ตรงนี้เรายังไม่ได้รวมถึงฟีเจอร์ต่างๆที่สมาร์ทโฟนจาก Samsung มีมากกว่าอย่างพวก Fast charging, Wireless charging และประโยชน์การใช้จ่ายผ่าน NFC นะครับ

ถึงแม้ว่าฟีเจอร์ต่างๆอย่าง USB Type-C และ Alert Slider จะทำให้ OnePlus 2 ดูเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่นๆในระดับเดียวกัน แต่หากเอามาเทียบกับ Galaxy S6 ตรงๆงานนี้อาจจะเป็นมวยคนละรุ่นอยู่ครับ แต่อย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้เองครับว่าจะสามารถจ่ายได้แค่ไหนกับสมาร์ทโฟนหนึ่งเครื่อง เพราะราคาของเจ้า OnePlus 2 ก็น่าสนใจเสียเหลือเกิน ทั้งนี้เราต้องประเมินตัวเราเองบวกกับความคุ้มค่าที่จะได้รับครับ แต่เอาจริงๆ OnePlus 2 อาจจะคุ้มค่ามากกว่าเงินที่เสียไปครับ

 

 

ที่มา : androidauthority

Advertisement
Android lollipop 5.0 Android Marshmallow OnePlus 2 Oxygen OS Samsung Galaxy S6 Touchwiz
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
Appdisqus Team
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)
  • Instagram
  • LinkedIn

คอมลัมนิสต์แอ๊คหลุมผู้หลงใหล IT และ Gadget พร้อมสาระความรู้ How To ดีๆ สำหรับการใช้งานมือถือและแท๊ปเบล็ตที่พร้อมจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ที่สนใจในเนื้อหาเดียวกัน เพื่อให้พื้นที่ AppDisqus.com เป็นสเปซสำหรับการแบ่งบันโดยแท้จริง

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Android

OnePlus 5 และ 5T รองรับ Project Treble ใน Oxygen OS เวอร์ชั่นล่าสุด

4 กรกฎาคม 2018
oneplus-3-camera
Your Updates

OnePlus 3 เตรียมรับอัพเดท Nougat beta เดือนนี้ ส่วน Final ภายในสิ้่นปีแน่นอน

13 พฤศจิกายน 2016
Your Updates

Samsung Game Launcher ปล่อยให้ Galaxy S6 และ Galaxy Note 5 ดาวน์โหลดได้แล้ว

12 สิงหาคม 2016
Your Updates

Moto G4 Plus จะได้ไปต่อยาวๆถึงการอัพเดท Android “O”

23 พฤษภาคม 2016
Your Updates

ก้าวสู่โลกเสมือนจริงไปกับ Samsung Gear VR 2 อุปกรณ์ VR ที่น่าสนใจที่สุดในยุคนี้

4 เมษายน 2016
News

Samsung Galaxy S7 ในเกาหลีมียอดสั่งซื้อพรีออเดอร์น้อยลงเมื่อเทียบกับ Galaxy S6

10 มีนาคม 2016
What Score?
8.1
Devices

รีวิว iQOO Neo 10 เกิดมาเพื่อเกมเมอร์ สเปกแรง! จัดเต็มแม็กซ์ 7000mAh

By Noppinij5 มิถุนายน 2025299 Views
7.6
Devices

รีวิว realme C71 สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม บางเบา สวยงาม แบตอึดที่สุดในรุ่น

By Noppinij4 มิถุนายน 2025
8.4
Your Updates

รีวิวหัวชาร์จ CUKTECH AD1003 120W ชาร์จเร็วครบ! ทุกเรือธงแบรนด์จีน

By Noppinij14 พฤษภาคม 2025
48
Xbox & PC World

Review : Scarred เกมสยองขวัญจากสิงคโปรที่ยังขาดความน่ากลัว

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya6 พฤษภาคม 2025

On AppDisqus Channel

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดดูงาน Apple WWDC 2025 คืนวันจันทร์นี้

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Gaming

ยอดขาย Dune: Awakening พุ่งถล่ม Steam ทะลุ 788,000 ชุดบน Steam!

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya16 มิถุนายน 2025

มือถือพับได้ราคาประหยัดของ Samsung ผ่านรับรองแล้วในชื่อ Galaxy Z Flip 7 FE

16 มิถุนายน 2025

ทรัมป์เตรียมเปิดตัวมือถือในชื่อของเขาเอง พร้อมเครือข่ายใหม่ในชื่อ T1

16 มิถุนายน 2025

Helldivers 2 เปิดใหซื้อได้แล้ว 169 ประเทศ หลังโดนถอดจากร้านค้าในประเทศที่เข้าถึง PSN ไมไ่ด้

16 มิถุนายน 2025

CD Projekt RED กำลังพัฒนา The Witcher 4 อย่างสร้างสรรค์ด้วยแนวคิดใหม่ ไอเดียเพียบ และจะไม่ทำเหมือนกับ Cyberpunk 2077

16 มิถุนายน 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Gaming

ยอดขาย Dune: Awakening พุ่งถล่ม Steam ทะลุ 788,000 ชุดบน Steam!

16 มิถุนายน 2025
Android

มือถือพับได้ราคาประหยัดของ Samsung ผ่านรับรองแล้วในชื่อ Galaxy Z Flip 7 FE

16 มิถุนายน 2025
Miscellaneous

ทรัมป์เตรียมเปิดตัวมือถือในชื่อของเขาเอง พร้อมเครือข่ายใหม่ในชื่อ T1

16 มิถุนายน 2025
Gaming

Helldivers 2 เปิดใหซื้อได้แล้ว 169 ประเทศ หลังโดนถอดจากร้านค้าในประเทศที่เข้าถึง PSN ไมไ่ด้

16 มิถุนายน 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo