Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Your Updates » Google Cloud นำร่องนวัตกรรม AI สำหรับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมที่งาน Next ’25
Your Updates

Google Cloud นำร่องนวัตกรรม AI สำหรับองค์กรในหลากหลายอุตสาหกรรมที่งาน Next ’25

Google Cloud เดินหน้ายกระดับโครงสร้างพื้นฐาน AI เปิดตัว AI Hypercomputer, TPU Ironwood, และระบบ multi-agent พร้อมดึงศักยภาพโมเดลชั้นนำอย่าง Gemini 2.5, Veo 2 และ Imagen 3 เข้าสู่องค์กรทั่วโลก
13 เมษายน 20253 Mins Read

ในงาน Google Cloud Next 2025 บริษัท Google Cloud ได้แสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงเปลี่ยนแปลงที่ความก้าวหน้าด้าน AI ได้ส่งเสริมให้กับองค์กรต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่มากมายในทุกระดับของกลุ่มเทคโนโลยี AI ที่ผสานรวมกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อเร่งความสามารถขององค์กรในการสร้างคุณค่าที่เป็นรูปธรรมจากการลงทุนด้าน AI และตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปในด้านอธิปไตย ความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบของ AI

ในปี 2024 Google Cloud ได้ส่งมอบความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่มากกว่า 3,000 รายการที่ได้นำไปปรับใช้ในบริษัทต่าง ๆ เช่น  Astra International, Bank Jago, Bareksa, Blibli.com, Erajaya, Indosat Ooredoo Hutchison, Telkomsel, Vidio; AI Singapore, Centre for Strategic Infocomm Technologies (CSIT), DBS Bank, FairPrice Group, Enterprise Singapore; Bangkok Bank, Central Retail, Chulalongkorn University, Finnomena, Gulf Edge, the Stock Exchange of Thailand (SET); Bank Muamalat, CARSOME Group, Dagang NeXchange Berhad (DNeX), Gamuda, Maxis, และ Malaysia’s National AI Office ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขการใช้งาน Vertex AI เพิ่มขึ้น 20 เท่า ในปีที่ผ่านมาสำหรับลูกค้าองค์กร โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ขับเคลื่อนโดยการนำโมเดล AI ชั้นนำของอุตสาหกรรม เช่น Gemini, Imagen และ Veo มาใช้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Google Workspace ก็ได้รับการใช้งานเพิ่มขึ้นไม่แพ้กัน โดยมีการใช้ AI assists มากกว่า 2 พันล้านรายการต่อเดือน เพื่อมอบความช่วยเหลือให้กับผู้ใช้ทางธุรกิจทั่วโลก และปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง

โทมัส คูเรียน CEO ของ Google Cloud กล่าวว่า “AI นำเสนอโอกาสที่แตกต่างจากสิ่งที่เราเคยพบเห็นมาในประวัติศาสตร์ โดย AI มีพลังในการยกระดับคุณภาพชีวิต เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และพลิกโฉมกระบวนการต่าง ๆในระดับที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน ทั้งนี้ Google ได้นำการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) มาใช้กับผลิตภัณฑ์ของเรามานานกว่า 20 ปีแล้ว และการลงทุนของเราใน AI นั้นหยั่งรากลึกในภารกิจหลักของเรา นั่นคือการจัดระเบียบข้อมูลของโลกและทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเข้าถึงได้และเป็นประโยชน์สำหรับทุกคน Google Cloud ถือเป็นส่วนขยายที่สอดคล้องกับภารกิจของ Google เพื่อสร้างสิ่งที่ดีให้กับองค์กร โดยเราถือว่า AI เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทรงพลังที่สุดในการช่วยให้ลูกค้า นักพัฒนา และพันธมิตรของเราพัฒนาภารกิจของตนให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นแบบก้าวกระโดด”

เพื่อเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความเปิดกว้าง การทำงานร่วมกันได้ และการนำสิ่งที่ดีที่สุดของ Google มาสู่องค์กรต่าง ๆ Google Cloud ได้ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมใหม่มากมายที่สำคัญอย่างยิ่งในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน แพลตฟอร์มข้อมูลและ AI, โมเดล AI, AI agent และความปลอดภัยทางไซเบอร์ รวมถึงความสามารถแบบมัลติคลาวด์

Advertisement
Advertisement
Advertisement

ในบทความนี้

  • ปลดล็อคพลังการคำนวณที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ Google
  • สัปดาห์นี้ Google Cloud ได้เปิดตัวความก้าวหน้าใหม่ ๆ ให้กับ AI Hypercomputer ได้แก่
  • โมเดลชั้นนำของ Google นำสิ่งที่ดีที่สุดของ Google DeepMind มาสู่องค์กร
  • Vertex AI The most comprehensive platform for AI innovation
  • ขยายขีดความสามารถของ Vertex AI เพื่อสนับสนุน multi-agent
  • Google Agentspace เสริมพลังให้พนักงานทุกคนด้วย AI

ปลดล็อคพลังการคำนวณที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกของ Google

องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลระดับโลกของ Google Cloud ได้แล้ว ซึ่งโฮสต์อยู่ใน Google Cloud Region จำนวน 42 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงประเทศอินโดนีเซียและสิงคโปร์ พร้อมแผนการขยายตัวอย่างรวดเร็วไปยังไทยและมาเลเซีย

Google Cloud ให้บริการ AI Hypercomputer ผ่านทาง Cloud Region มากมาย ซึ่งเป็นระบบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และรูปแบบการบริโภคที่ยืดหยุ่น (flexible consumption models) เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถนำ AI ไปใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมประสิทธิภาพคุ้มค่าระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม

 

สัปดาห์นี้ Google Cloud ได้เปิดตัวความก้าวหน้าใหม่ ๆ ให้กับ AI Hypercomputer ได้แก่:

  • หน่วยประมวลผลเทนเซอร์ Ironwood (TPU): Ironwood ซึ่งเป็น TPU รุ่นที่ 7 ของ Google ถือเป็นตัวเร่งความเร็ว AI แบบกำหนดเอง (หรือชิป AI) ที่มีประสิทธิภาพและปรับขนาดได้มากที่สุดในปัจจุบัน และเป็นเครื่องเร่งความเร็วตัวแรกที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการอนุมาน AI โดยมีชิปมากกว่า 9,000 ชิ้นต่อพ็อด ทำให้สามารถประมวลผลได้สูงถึง 42.5 เอ็กซาฟล็อปต่อพ็อด ตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณของโมเดลการคิดที่ซับซ้อนที่สุด เช่น Gemini 2.5 นอกจากนี้ Ironwood ยังประหยัดพลังงานมากกว่า TPU รุ่นที่ 6 ของ Google ถึง 2 เท่า และประหยัดพลังงานมากกว่า TPU รุ่นแรกจาก Google ที่ออกในปี 2018 ถึง 30 เท่า
  • ตัวเลือก GPU ของ NVIDIA ที่ครอบคลุม: Google Cloud มอบฮาร์ดแวร์ AI ทางเลือกให้กับองค์กรต่าง ๆ  ที่มี Virtual Machines (VM) A4 และ A4X ที่ขับเคลื่อนโดยหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) NVIDIA HGX B200 และ NVIDIA GB200 นอกจากนี้ Google ยังเป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายแรกที่จะนำเสนอ GPU Vera Rubin รุ่นถัดไปของ NVIDIA
  • Cluster Director: Cluster Director ช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานและจัดการตัวเร่งความเร็ว AI จำนวนมากเป็นหน่วยการประมวลผลแบบรวมหน่วยเดียว จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความยืดหยุ่น
  • การอนุมาน Google Kubernetes Engine (GKE): ความสามารถในการอนุมานใหม่ใน GKE ซึ่งรวมถึงระบบการปรับขนาดและการปรับสมดุลโหลดที่เข้าใจบริบทของ AI  สามารถลดต้นทุนการให้บริการ AI ได้มากถึง 30% ลดเวลาแฝงในส่วนท้ายได้มากถึง 60% และเพิ่มปริมาณงานได้มากถึง 40% โดยอิงตามเกณฑ์มาตรฐานภายใน
  • ความพร้อมใช้งานของ Pathways: Pathways ซึ่งเป็น distributed machine learning runtime ของ Google พร้อมให้บริการแก่องค์กรต่าง ๆ เป็นครั้งแรกแล้ว โดย Pathways ได้รับการพัฒนาโดย Google DeepMind ช่วยให้สามารถอนุมานโฮสต์หลายโฮสต์ที่ทันสมัยสำหรับการปรับขนาดแบบไดนามิกด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เหมาะสมที่สุด

 

Google Data Centers และ Google Cloud Regions เชื่อมต่อกันด้วยโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายระดับโลกของ Google ซึ่งมีสายไฟเบอร์ยาวกว่า 2 ล้านไมล์ ทั้งสายเคเบิลภาคพื้นดินและใต้น้ำ ครอบคลุมพื้นที่และอาณาเขตมากกว่า 200 แห่ง และทำงานด้วย “ความเร็วของ Google” ซึ่งมีค่าความหน่วงเกือบเป็นศูนย์ เพื่อรองรับบริการที่จำเป็น เช่น Gmail, YouTube และ Google Search สำหรับผู้ใช้หลายพันล้านคนทั่วโลก

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Google Cloud จะทำให้เครือข่ายส่วนตัวทั่วโลกนี้พร้อมใช้งานสำหรับองค์กรต่าง ๆ ผ่านบริการใหม่ที่เรียกว่า Cloud Wide Area Network (WAN) โดย Cloud WAN เป็นบริการที่ได้รับการจัดการอย่างเต็มรูปแบบ เชื่อถือได้ และปลอดภัย ซึ่งช่วยเปลี่ยนโฉมโครงสร้าง WAN ขององค์กร โดยมอบการปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายที่สูงถึง 40% ขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของได้มากถึง 40%

ด้วยการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายและซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับโลกของ Google Cloud องค์กรต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากรากฐานระดับโลกที่แท้จริงและยืดหยุ่น ที่สร้างขึ้นสำหรับยุค AI

นอกจากนี้ Google Cloud ยังประกาศว่าโมเดล Gemini ของ Google จะพร้อมใช้งานบน Google Distributed Cloud (GDC) ซึ่งจะทำให้โมเดลที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของ Google พร้อมใช้งานในสภาพแวดล้อมภายในองค์กร หรือ on-premises environments นั่นเอง ทั้งนี้ Google Cloud ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ NVIDIA เพื่อนำโมเดล Gemini ไปสู่ระบบ NVIDIA Blackwell โดยมี Dell เป็นพันธมิตรหลัก ดังนั้นจึงสามารถใช้โมเดลเหล่านี้ภายในองค์กรในสภาพแวดล้อมที่เชื่อมต่อกันและแยกจากกันแบบ air-gapped ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กร เช่น ภาครัฐ ที่อยู่ภายใต้ข้อกำหนดด้านกฎระเบียบหรืออำนาจอธิปไตยที่เข้มงวด และไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ล่าสุดได้ เนื่องจากต้องจัดเก็บข้อมูลภายในองค์กรแบบ on-premise

โมเดลชั้นนำของ Google: นำสิ่งที่ดีที่สุดของ Google DeepMind มาสู่องค์กร

แพลตฟอร์ม Vertex AI ของ Google Cloud ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงโมเดลแนวหน้าระดับโลกที่หลากหลายของ Google DeepMind ได้ ซึ่งแต่ละโมเดลได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของแต่ละองค์กร ซึ่งรวมถึง:

  • โมเดล Gemini 2.5: โมเดล Gemini 2.5 เป็นโมเดลการคิดที่สามารถใช้เหตุผลผ่านกระบวนการคิดของตนเองก่อนตอบสนอง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นและมีความแม่นยำมากขึ้น เมื่อสองสัปดาห์ก่อน Google Cloud ได้นำ Gemini 2.5 Pro เข้ามาให้ใช้งานผ่าน Vertex AI และภายในงาน Next ’25 ก็ได้ประกาศว่า Gemini 2.5 Flash กำลังจะเปิดให้ใช้งานผ่าน Vertex AI ด้วยเช่นกัน โดย Gemini 2.5 Flash เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกรณีการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การตอบสนองอย่างรวดเร็วในระหว่างการโต้ตอบกับลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องมีการสรุปแบบเรียลไทม์หรือการเข้าถึงเอกสารอย่างรวดเร็ว Gemini 2.5 Flash สามารถปรับความลึกของการใช้เหตุผลตามความซับซ้อนของ prompts และองค์กรสามารถควบคุมประสิทธิภาพการทำงานตามงบประมาณของตนได้
  • Generative media models:
    • Imagen 3, Google’s highest quality text-to-image model, now has improved image generation and inpainting capabilities for reconstructing missing or damaged portions of an image.
    • โมเดล Generative media:
      • Imagen 3 โมเดลการแปลงข้อความเป็นรูปภาพที่มีคุณภาพสูงสุดจาก Google ขณะนี้มีความสามารถในการสร้างรูปภาพและแก้ไขภาพใหม่ (inpainting) เพื่อสร้างส่วนที่หายไปหรือเสียหายของรูปภาพขึ้นมาใหม่
      • Chirp 3 ซึ่งเป็นโมเดลการสร้างเสียงของ Google มาพร้อมวิธีการใหม่ในการสร้างเสียงที่กำหนดเองได้ด้วยการป้อนข้อมูลเสียงเพียง 10 วินาที ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถปรับแต่ง call center และสร้างเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ นอกจากนี้ ฟีเจอร์การถอดเสียงใหม่ยังช่วยแยกและระบุผู้พูดแต่ละคนในบันทึกเสียงของการสนทนาหลายคน ทำให้การถอดเสียงสำหรับแอปพลิเคชันต่าง ๆ  เช่น สรุปการประชุม การวิเคราะห์พอดแคสต์ และการบันทึกการโทรของหลายฝ่ายมีความชัดเจนและใช้งานได้ดีขึ้นอย่างมาก
      • Lyria ซึ่งเป็นโมเดลการแปลงข้อความเป็นเพลงสำหรับองค์กรรุ่นแรกของอุตสาหกรรม ช่วยแปลงข้อความธรรมดาให้กลายเป็นคลิปเพลงความยาว 30 วินาที ซึ่งเปิดโอกาสใหม่สำหรับการแสดงออกเชิงสร้างสรรค์ โดย Lyria สามารถสร้างเสียงคุณภาพสูง จับภาพความแตกต่างที่ละเอียดอ่อนได้อย่างพิถีพิถัน และมอบคอมโพซิชั่นที่ลงรายละเอียดสำหรับแนวเพลงต่าง ๆ ทั้งนี้ ด้วย Lyria องค์กรต่าง ๆ สามารถสร้างเพลงประกอบสำหรับแคมเปญการตลาด การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ประสบการณ์ในร้านที่ดื่มด่ำ พอดคาสต์ และเนื้อหาดิจิทัลอื่น ๆ ที่สอดคล้องกับแบรนด์ของตนได้อย่างรวดเร็ว
      • คุณสมบัติใหม่ที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จาก Veo 2 โมเดลการสร้างวิดีโอชั้นนำของอุตสาหกรรมจาก Google ใน Vertex AI เพื่อสร้าง แก้ไข และเพิ่มเอฟเฟกต์ภาพในวิดีโอ ซึ่งรวมถึงการทำ inpainting เพื่อลบภาพพื้นหลัง โลโก้ หรือสิ่งรบกวนที่ไม่ต้องการ ช่วยให้สามารถแก้ไขวิดีโอได้อย่างมืออาชีพ การทำ outpainting เพื่อขยายเฟรมของวิดีโอที่มีอยู่ ช่วยให้องค์กรต่างสามารถปรับแต่งวิดีโอให้เหมาะกับขนาดหน้าจอและแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังมีการใช้เทคนิคการทำภาพยนตร์ที่ซับซ้อนเพื่อจัดองค์ประกอบภาพ มุมกล้อง และจังหวะ และการแทรกสอดเฟรม (interpolation) ซึ่งช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของลำดับวิดีโอ โดย Veo จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยในการสร้างเฟรมที่เชื่อมต่อกันได้อย่างราบรื่น
  • โมเดลสำหรับการค้นพบทางวิทยาศาสตร์:
    • โมเดล WeatherNext ที่พัฒนาโดย Google DeepMind และ Google Research ช่วยให้สามารถพยากรณ์อากาศได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ปัจจุบันแบบจำลองเหล่านี้พร้อมใช้งานใน Vertex AI แล้ว ทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถปรับแต่งและนำไปใช้งานในการวิจัยและการใช้งานในอุตสาหกรรมได้
    • AlphaFold 3 ที่พัฒนาโดย Google DeepMind และ Isomorphic Labs สามารถทำนายโครงสร้างและปฏิสัมพันธ์ของโมเลกุลของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้อย่างแม่นยำอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ปัจจุบันโมเดลเหล่านี้สามารถนำไปใช้งานโดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน Google Cloud สำหรับการใช้งานที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ ช่วยให้นักวิจัยสามารถประมวลผลลำดับโปรตีนได้หลายหมื่นลำดับ ในขณะที่ลดต้นทุนการประมวลผล
เกาะประเด็น:  Google Pixel 10 เผยสเปกเต็ม หน้าจอสว่างขึ้น ใช้ชิป Tensor G5 แต่ลดสเปกกล้องหลักลงกว่ารุ่นเดิม

 

Vertex AI: The most comprehensive platform for AI innovation

Vertex AI คือแพลตฟอร์มระดับองค์กรของ Google Cloud สำหรับการสร้างและจัดการแอปพลิเคชันด้าน AI และ AI agent รวมถึงการฝึกอบรมและการปรับใช้แบบจำลอง โดยในงาน Next ’25 บริษัท Google Cloud ได้ประกาศความก้าวหน้าใหม่ ๆ ของ Vertex AI ซึ่งช่วยปรับปรุงความสามารถขององค์กรในการจัดการแผนการด้าน AI ของตน ซึ่งรวมถึง:

  • โมเดล AI กว่า 200 โมเดลพร้อมให้เลือกใช้งานใน Vertex AI Model Garden: องค์กรสามารถเข้าถึงโมเดลของ Google ได้โดยตรง รวมถึงโมเดลจากบริษัทชั้นนำอย่าง Anthropic, AI21, Mistral, CAMB.AI และ Qodo ตลอดจนโมเดลแบบเปิดจาก DeepSeek, Meta และ The Allen Institute ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน Vertex AI เพื่อให้เลือกใช้งานได้ตามความต้องการ
  • การฝึกฝนและปรับแต่งโมเดล AI ตามความต้องการ: องค์กรสามารถฝึกฝนและปรับแต่งโมเดลจาก Google ได้อย่างอิสระ ซึ่งรวมไปถึงโมเดลตระกูลหลัก เช่น Gemini, Imagen, Veo, โมเดลฝังข้อมูล (embedding) และโมเดลการแปลภาษา รวมถึงโมเดลแบบเปิดอย่าง Gemma, Llama และ Mistral โดยใช้ข้อมูลขององค์กรตนเองในการฝึกฝน
  • การเชื่อมต่อแหล่งข้อมูลจากคลาวด์หลากหลายแพลตฟอร์ม: เพื่อให้โมเดลสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องได้ในเวลาที่เหมาะสม ไม่ว่าจะข้อมูลนั้นจะถูกจัดเก็บอยู่บน Google Cloud, AWS, Microsoft Azure, Oracle หรือผู้ให้บริการรายอื่น ๆ  องค์กรจะสามารถใช้ตัวเชื่อมต่อและ API ที่มีให้พร้อมใช้งานใน Vertex AI ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ยกระดับความน่าเชื่อถือด้วยการอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่ไว้ใจได้ยิ่งขึ้น: นอกเหนือจากการ Grounding ผ่าน Google Search แล้วนั้น ปัจจุบัน Vertex AI ยังรองรับการ Grounding ข้อมูลด้วย Google Maps เพื่อให้ผลลัพธ์จากโมเดล AI ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลเชิงพื้นที่มีความแม่นยำและอัปเดทอยู่เสมอ นอกจากนี้ องค์กรยังสามารถเลือกใช้แหล่งข้อมูลจากพันธมิตรภายนอกเพิ่มเติม เช่น Cotality, Dun & Bradstreet, HG Insights, S&P Global และ ZoomInfo ได้อีกด้วย
  • แดชบอร์ด Vertex AI และเครื่องมือปรับแต่งโมเดล: แดชบอร์ด Vertex AI ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามการใช้งานโมเดล AI, ปริมาณการทำงาน, ความหน่วงเวลา และการแก้ไขข้อผิดพลาด พร้อมทั้งความสามารถในการมองเห็นและการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน เครื่องมือปรับแต่งโมเดล Vertex AI ก็ใช้ความเข้าใจเฉพาะด้านของ Google ในโมเดล Gemini เพื่อกำหนดทิศทางการค้นหาไปยังโมเดลและเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่สุดโดยอัตโนมัติ อ้างอิงตามความต้องการในด้านคุณภาพ ความเร็ว และต้นทุนขององค์กร
  • Live API: เพื่อเปิดโอกาสให้การโต้ตอบแบบสนทนาเกิดขึ้นอย่างเรียลไทม์ Live API จึงนำเสนอการสตรีมในรูปแบบเสียงและวิดีโอให้กับโมเดล Gemini โดยตรง ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถใช้ AI agent ในการประมวลผลและตอบสนองต่อสื่อหลากหลายรูปแบบได้ในทันที เปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ สำหรับแอปพลิเคชันที่มีหลากหลายมิติ และมีการโต้ตอบที่สมจริง

 

ขยายขีดความสามารถของ Vertex AI เพื่อสนับสนุน multi-agent

Vertex AI คือแพลตฟอร์ม AI สำหรับนักพัฒนาที่เปิดกว้างมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นรายแรกที่รองรับโซลูชันแบบ multi-agent อย่างแท้จริง (กล่าวคือการเปิดโอกาสให้ AI หลายตัวสามารถทำงานร่วมกันได้) AI agent คือระบบอัจฉริยะที่มีความสามารถในการให้เหตุผล วางแผน และจดจำข้อมูล พร้อมทั้งสามารถทำการวิเคราะห์ล่วงหน้าได้หลายขั้นตอน และทำงานข้ามระบบหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อเพื่อดำเนินงานแทนคุณภายใต้การกำกับดูแลของคุณเอง

=

ขีดความสามารถใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้องค์กรก้าวเข้าสู่ระบบนิเวศแบบ multi-agent ได้ ไม่ว่าจะอยู่ในจุดไหนในการใช้งาน AI หรือเลือกใช้ชุดเทคโนโลยีแบบใดก็ตาม มีดังนี้:

  • Agent Development Kit (ADK): เฟรมเวิร์กโอเพนซอร์สตัวใหม่จาก Google Cloud ที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนา ระบบ multi-agent ได้ง่ายขึ้น พร้อมคงความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมของ AI agent ได้อย่างแม่นยำ โดย ADK ช่วยให้สามารถสร้าง AI agent ได้ด้วยโค้ดที่เข้าใจง่ายและมีความยาวไม่ถึง 100 บรรทัด นอกจากนี้ ADK ยังรองรับ Model Control Protocol (MCP) ซึ่งเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถเชื่อมต่อเครื่องมือต่าง ๆ เข้ากับระบบได้อย่างสะดวก
  • Agent2Agent (A2A) protocol: Google Cloud เป็นผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่รายแรกที่พัฒนาโพรโทคอล A2A แบบเปิด เพื่อรองรับ multi-agent ecosystem ซึ่งจะช่วยให้ AI agent สามารถสื่อสารกันได้ด้วยภาษากลางเดียวกันแม้จะถูกสร้างขึ้นจากคนละองค์กร และทำงานบนชุดเทคโนโลยีที่แตกต่างกันก็ตาม ปัจจุบันมีพันธมิตรมากกว่า 50 รายที่ร่วมพัฒนาโพรโทคอลนี้ ไม่ว่าจะเป็น Accenture, Deloitte, Salesforce, SAP และ ServiceNow สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ร่วมในการสร้างระบบ multi-agent ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
  • Agent Garden: Agent Garden คือชุดตัวอย่าง และเครื่องมือที่พร้อมใช้งาน ซึ่งสามารถเข้าถึงได้โดยตรงผ่าน ADK ช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมต่อ AI agent ของตนเข้ากับตัวเชื่อมต่อที่สร้างไว้ล่วงหน้ากว่า 100 ตัว อย่าง API ที่กำหนดเอง เวิร์กโฟลว์การรวมระบบ หรือข้อมูลที่จัดเก็บในระบบคลาวด์ เช่น BigQuery และ AlloyDB

 

ไม่ว่าองค์กรจะเลือกสร้าง AI agent แบบไหน Google Cloud ก็พร้อมเชื่อมต่อ agent เหล่านั้นกับบริษัทชั้นนำด้านข้อมูลและแอปพลิเคชันระดับองค์กรอื่น ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ

 

Google Agentspace: เสริมพลังให้พนักงานทุกคนด้วย AI

จากที่ได้มีประกาศออกไปเป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี 2024 Google Agentspace ได้นำบริการค้นหาระดับองค์กรที่มีคุณภาพระดับ Google, AI สำหรับการสนทนา, โมเดล Gemini และ third-party agent มารวมเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งช่วยเสริมพลังให้พนักงานสามารถค้นหาและสังเคราะห์ข้อมูลภายในองค์กร สนทนากับ AI agent และดำเนินการต่าง ๆ ผ่านแอปพลิเคชันระดับองค์กรได้อย่างง่ายดาย ตัวอย่างเช่น พนักงานสามารถใช้ Google Agentspace เพื่อเข้าถึง AI agent ที่พัฒนาโดย Google อย่าง NotebookLM ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถอัปโหลดแหล่งข้อมูลหลายประเภท เช่น PDFs, Google Docs, URLs ของเว็บไซต์, และวิดีโอจาก YouTube เพื่อสรุปเนื้อหา ตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านั้น และจัดรูปแบบคำตอบให้ตรงตามที่ต้องการ

ขีดความสามารถใหม่ ๆ ของ Google Agentspace ซึ่งเปิดตัวในงาน Next ‘25 มีไฮไลท์สำคัญดังนี้:

  • การเชื่อมต่อกับ Chrome Enterprise: สิ่งนี้จะช่วยให้พนักงานสามารถค้นหาและเข้าถึงทรัพยากรทั้งหมดขององค์กรได้โดยตรงจากช่องค้นหาใน Chrome ทำให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้นและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างเห็นได้ชัด
  • Agent Gallery: สิ่งนี้จะช่วยให้พนักงานสามารถดู AI agent ทั้งหมดที่มีอยู่ในองค์กรได้แบบครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น AI agent จาก Google ทีมงานภายใน หรือพันธมิตรภายนอก ทำให้การค้นหาและใช้งานเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น
  • Agent Designer: อินเทอร์เฟซแบบที่ไม่ต้องเขียนโค้ดสำหรับการสร้าง AI agent ที่ปรับแต่งเองได้ตามความต้องการ จะช่วยให้งานประจำในแต่ละวันสามารถดำเนินการได้เองโดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่ว่าพนักงานจะมีพื้นฐานด้านเทคนิคมากน้อยแค่ไหนก็สามารถปรับแต่ง AI agent ให้เข้ากับกระบวนการทำงานและความต้องการเฉพาะของตนเองได้อย่างง่ายดาย
  • Idea Generation Agent: AI agent ตัวนี้ใช้กรอบการทำงานแบบการแข่งขันเพื่อให้สามารถจัดอันดับแนวคิดต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอิงตามเกณฑ์ที่พนักงานกำหนดไว้ พร้อมทั้งช่วยให้พนักงานสามารถต่อยอดหรือสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ได้อย่างง่ายดาย
  • Deep Research Agent: AI agent ตัวนี้จะทำหน้าที่ค้นคว้าหัวข้อที่ซับซ้อนแทนพนักงาน และสรุปข้อมูลเชิงลึกออกมาเป็นรายงานที่ครอบคลุม เข้าใจง่าย และพร้อมใช้งาน
  • การค้นหาผ่าน Google Agentspace บน GDC: ระบบการค้าหานี้จะเริ่มเปิดให้ทดลองใช้งานแบบพรีวิวสำหรับสาธารณะในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2025 โดยจะช่วยให้พนักงานในองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้อย่างครบถ้วนจากจุดเดียว ซึ่งมีความปลอดภัย และมีการควบคุมสิทธิ์การเข้าถึงอย่างรัดกุม

Advertisement
Google Google Cloud Google Cloud NEXT 2025 NEXT 2025
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
Appdisqus Team
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)
  • Instagram
  • LinkedIn

คอมลัมนิสต์แอ๊คหลุมผู้หลงใหล IT และ Gadget พร้อมสาระความรู้ How To ดีๆ สำหรับการใช้งานมือถือและแท๊ปเบล็ตที่พร้อมจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ที่สนใจในเนื้อหาเดียวกัน เพื่อให้พื้นที่ AppDisqus.com เป็นสเปซสำหรับการแบ่งบันโดยแท้จริง

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Android

Google Pixel 10 เผยสเปกเต็ม หน้าจอสว่างขึ้น ใช้ชิป Tensor G5 แต่ลดสเปกกล้องหลักลงกว่ารุ่นเดิม

26 มิถุนายน 2025
Miscellaneous

Google จับมือ OpenAI ใช้ Google Cloud รองรับ ChatGPT

22 มิถุนายน 2025
Your Updates

Samsung ใกล้เปิดตัว XR Headset ที่พัฒนาร่วมกับ Google และ Qualcomm ในเร็ว ๆ นี้

20 มิถุนายน 2025
Apple

เตรียมพบ! ฟีเจอร์ใหม่ YouTube Shorts เปลี่ยนฉากหลังด้วย AI แค่พิมพ์ข้อความ

19 มิถุนายน 2025
Android

Google ปิดฉาก Instant Apps ธันวานี้ หลังเปิดใช้งานมา 8 ปี แต่ไม่เคยประสบผลสำเร็จ

13 มิถุนายน 2025
Android

Android 16 ตัวเต็มมาแล้วอย่างไว! Pixel 6 ขึ้นไปได้ใช้ก่อน พร้อมฟีเจอร์ใหม่จัดเต็ม

11 มิถุนายน 2025
What Score?
7.5
Accessories

รีวิว Xiaomi Smart Band 10 ดีไซน์ใหม่ ฟีเจอร์แน่น ใช้งานคุ้มเกินราคา

By Noppinij28 มิถุนายน 2025
90
Game Review

Review : Death Stranding 2 เข้าใจง่ายขึ้น แต่ยังเก็บหัวใจเดิมไว้อย่างครบถ้วน

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya23 มิถุนายน 2025
8.0
Devices

รีวิว Redmi Pad 2 แท็บเล็ตสายเอนเตอร์เทน จอใหญ่ สเปกครบ ใช้งานลื่นไหลได้ข้ามวัน ด้วยแบต 9000mAh!

By Noppinij19 มิถุนายน 2025284 Views
76
Game Review

Review : Stellar Blade (PC) เกมแอคชั่นสุดมันส์ที่พอร์ตได้ดีเยี่ยม!

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya19 มิถุนายน 2025

On AppDisqus Channel

รีวิว Sony WH-1000XM6 หูฟังตัดเสียงรบกวนที่แม่นยำที่สุดของโซนี่! ดียังไง? มีอะไรใหม่?

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Video

รีวิว Sony WH-1000XM6 หูฟังตัดเสียงรบกวนที่แม่นยำที่สุดของโซนี่! ดียังไง? มีอะไรใหม่?

By Appdisqus Team30 มิถุนายน 2025

สมรภูมิคลื่นความถี่ : AIS vs TRUE ใครจะขึ้นนำในยุค 5G, AI และ IoT ในไทย?

30 มิถุนายน 2025

iPhone 17 อาจจอใหญ่ขึ้น 6.3 นิ้ว ตอบโจทย์คนอยากได้จอใหญ่ในรุ่นมาตรฐาน

30 มิถุนายน 2025

Samsung อาจเตรียมเปิดตัว “Tri‑Fold” หลังเปิดตัว Fold 7

30 มิถุนายน 2025

AIS จับมือ สบส. ลงนาม MOU ยกระดับสุขภาวะดิจิทัล อสม. ทั่วประเทศ ด้วยเครื่องมือ Digital Health Check

30 มิถุนายน 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Video

รีวิว Sony WH-1000XM6 หูฟังตัดเสียงรบกวนที่แม่นยำที่สุดของโซนี่! ดียังไง? มีอะไรใหม่?

30 มิถุนายน 2025
Miscellaneous

สมรภูมิคลื่นความถี่ : AIS vs TRUE ใครจะขึ้นนำในยุค 5G, AI และ IoT ในไทย?

30 มิถุนายน 2025
iPad Updates

iPhone 17 อาจจอใหญ่ขึ้น 6.3 นิ้ว ตอบโจทย์คนอยากได้จอใหญ่ในรุ่นมาตรฐาน

30 มิถุนายน 2025
News

Samsung อาจเตรียมเปิดตัว “Tri‑Fold” หลังเปิดตัว Fold 7

30 มิถุนายน 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo