แม้ทาง Qualcomm จะเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 5 ออกมาแล้ว แต่ด้วยราคาจำหน่ายที่มักจะกระโดดไปสูงกว่าใคร ทำให้มีสมาร์ตโฟนเรือธงอีกหลายรุ่นที่เลือกใช้ Snapdragon 8 Elite (Gen 4) แทน เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ให้ประสิทธิภาพสูงแต่คุมต้นทุนได้ดีกว่า ขณะเดียวกัน MediaTek ก็ส่ง Dimensity 9500 รุ่นใหม่ล่าสุดออกมาในปี 2025 ซึ่งตั้งราคาไม่แพงมากเกินไปด้วยเช่นกัน
ในบทความนี้ เราจะพามาดูกันว่า ถ้าเรากำลังมีตัวเลือกระหว่าง Dimensity 9500 กับ Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ใครกันแน่ที่จะมอบความแรงและความคุ้มค่ามากกว่าในปัจจุบัน
ในบทความนี้
ผลทดสอบ Benchmark:
จากการทดสอบบนเครื่อง vivo X300 Pro (ใช้ Dimensity 9500) และ Xiaomi 15 (ใช้ Snapdragon 8 Elite Gen 4) พบว่าชิปจาก MediaTek ทำคะแนนได้ดีกว่าในหลายหมวด ทั้ง CPU, GPU และ UX โดยเฉพาะในด้านกราฟิก
Geekbench 6
ผลการทดสอบบน Geekbench 6 เผยให้เห็นว่า Dimensity 9500 มีพลังประมวลผลต่อคอร์ที่ดีกว่า 13% ในโหมด Single-Core และดีกว่า 9% ในโหมด Multi-Core ซึ่งสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมใหม่ที่ช่วยจัดการพลังงานและการตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม
Dimensity 9500: 3,452 (Single) / 10,128 (Multi)
Snapdragon 8 Elite (Gen 4): 3,047 (Single) / 9,286 (Multi)
AnTuTu V11
บนแพลตฟอร์ม AnTuTu v11 ซึ่งวัดประสิทธิภาพโดยรวมของระบบ Dimensity 9500 สามารถทำคะแนนรวมได้สูงกว่า Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ถึง 22% โดยเฉพาะด้าน GPU ที่โดดขึ้นกว่า 25% แสดงถึงพลังในการเรนเดอร์กราฟิกและการเล่นเกมที่เหนือกว่าอย่างชัดเจนDimensity 9500: 3,622,840 คะแนน
Snapdragon 8 Elite (Gen 4): 2,981,542 คะแนน
เมื่อเจาะรายละเอียดพบว่า CPU, Memory และ UX ของ Dimensity ก็ยังทำได้ดีกว่าในทุกหมวด ส่งผลให้การใช้งานทั่วไปตั้งแต่เปิดแอป จนถึง Multitasking มีความลื่นไหลมากขึ้น
3DMark Wild Life Extreme
สำหรับการทดสอบ 3DMark ซึ่งจำลองภาระกราฟิกหนักระดับเกม AAA พบว่า Dimensity 9500 ทำคะแนนสูงสุดได้ 7,163 และคะแนนต่ำสุดที่ 4,230 ขณะที่ Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ทำได้เพียง 4,809 / 3,625 ตามลำดับ ซึ่งหมายความว่า Dimensity 9500 เหนือกว่า 49% ในประสิทธิภาพสูงสุด และ 17% ในความเสถียรเมื่อใช้งานต่อเนื่อง
ความแตกต่างทางเทคนิค: เบื้องหลังความแรง
ทั้งสองชิปผลิตบนกระบวนการ 3 nm ของ TSMC แต่มีรายละเอียดต่างกัน — Dimensity 9500 ใช้กระบวนการ N3P รุ่นใหม่ที่ให้ความสมดุลระหว่างพลังและความประหยัดพลังงาน ส่วน Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ใช้ N3E ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่ Qualcomm เลือกใช้เพื่อเน้นผลผลิตและความเสถียรในการผลิตระดับอุตสาหกรรม
CPU ของ Dimensity 9500 ประกอบด้วย 1 แกน C1 Ultra ที่ความเร็ว 4.21 GHz, 3 แกน C1 Premium ที่ 3.5 GHz และ 4 แกน C1 Pro ที่ 2.7 GHz ขณะที่ Snapdragon 8 Elite (Gen 4)** ใช้ Oryon Core รุ่นที่ 2 (2 แกน 4.32 GHz + 6 แกน 3.53 GHz) ซึ่งเน้นประสิทธิภาพต่อคล็อกและการตอบสนองที่รวดเร็ว
ทางด้าน GPU, Dimensity 9500 ใช้ Mali-G1 Ultra MP12 รองรับเรย์เทรซ 120 FPS และเทคโนโลยี HyperEngine Gaming 3.0, ในขณะที่ Snapdragon 8 Elite (Gen 4)** มาพร้อม Adreno 830 พร้อมฟีเจอร์ Snapdragon Elite Gaming และการเรนเดอร์แสงเงาแบบเรียลไทม์ แต่ผลทดสอบบ่งชี้ว่า Mali รุ่นใหม่นั้นให้พลังที่เหนือกว่าในกรณีใช้งานจริง
ด้าน AI, กล้อง และการเชื่อมต่อ
ทั้ง MediaTek และ Qualcomm ต่างเน้นการพัฒนา AI ในระดับ on-device ทั้งคู่ โดย Dimensity 9500 มาพร้อม MediaTek NPU 990 ขณะที่ Snapdragon 8 Elite (Gen 4)** ใช้ Hexagon NPU รุ่นใหม่รองรับ Agentic AI และโมเดล LLM ที่ทำงานภายในเครื่อง
ทางด้านกล้อง Dimensity 9500 ใช้ Imagiq 1190 ISP รองรับกล้องสูงสุด 320 MP และวิดีโอ 8K/4K 120 fps พร้อมระบบกันสั่น EIS ขณะที่ Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ใช้ Spectra Triple ISP 18-bit รองรับการประมวลผลหลายกล้องพร้อม Semantic Segmentation แบบเรียลไทม์ และ AI Face Detection ที่แม่นยำกว่า
ด้านการเชื่อมต่อ Dimensity 9500 ติดตั้ง 3GPP Release-17 5G โมเด็ม รองรับความเร็ว ดาวน์โหลดสูงสุด 7.4 Gbps และ Wi-Fi 7 ได้ถึง 7.3 Gbps ส่วน Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ใช้โมเด็ม Snapdragon X80 5G รองรับ ดาวน์โหลด 10 Gbps และ Wi-Fi 7 สูงสุด 5.8 Gbps — สรุปได้ว่า MediaTek นำในด้าน Wi-Fi แต่ Qualcomm ยังเหนือกว่าใน 5G โดยตรง

สรุปผล: เรือธงตัวไหนคุ้มค่ากว่ากัน
จากผลทดสอบทั้งหมด Dimensity 9500 แสดงศักยภาพได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งคะแนน CPU, GPU และ ความเสถียรระยะยาว โดยเฉพาะด้านกราฟิกที่แรงจนทิ้งห่างคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นการกลับมาที่ยิ่งใหญ่ของ MediaTek ในตลาดเรือธง เพราะคู่แข่งที่ทาง MediaTek ตั้งเป้าไว้คือ Snapdragon 8 Elite Gen 5 หรือรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Qualcomm นั้นเอง
อย่างไรก็ตาม Snapdragon 8 Elite (Gen 4) ยังคงมีข้อได้เปรียบในด้านการเชื่อมต่อและการประมวลผลกล้องที่แม่นยำ เหมาะกับผู้ใช้ที่เครื่องระดับสูงไม่แพ้กัน ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานในยุคนี้เลยแม้แต่เรื่องเดียว และน่าจะมีอายุการใช้งานไปได้อีกอย่างน้อย 4 ปีโดยที่ยังไม่ช้าหรือรู้สึกเก่าแต่อย่างใด
สรุปสั้น ๆ คือ:
-
Dimensity 9500 คือทางเลือกที่แรงและคุ้มสำหรับเกมมิ่งและประสิทธิภาพระดับสูง
-
Snapdragon 8 Elite (Gen 4) เหมาะกับผู้ใช้ที่เน้นความสมดุล ระหว่างการใช้งานและราคาจำหน่ายในกลุ่มเรือธง













