Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Miscellaneous » News » บทความ: ขั้นตอนการเก็บหลักฐานความผิดทางคอมพิวเตอร์ และความยากในการขอข้อมูลจาก Microsoft, Facebook และ Google
Miscellaneous

บทความ: ขั้นตอนการเก็บหลักฐานความผิดทางคอมพิวเตอร์ และความยากในการขอข้อมูลจาก Microsoft, Facebook และ Google

27 ตุลาคม 20152 Mins Read

 

ในปัจจุบันที่การกระทำความผิดทั้งทางแพ่งและอาญาสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในโลกความเป็นจริงและในโลกออนไลน์ ดังนั้นกระบวนการในการเก็บและสืบหาหลักฐานก็ต้องมีการพัฒนาและปรับตัวอยู่เสมอ เครือข่ายพลเมืองเน็ต จึงได้ร่วมกับโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จัดบรรยายสาธารณะว่าด้วยหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์และการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางดิจิทัล ครั้งที่ 3 ในหัวข้อ “พยานหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ในรัฐ” ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งเนื้อหาในการบรรยายครั้งนี้น่าสนใจมาก ทาง AppDisqus เราจึงได้หยิบยกเนื้อหาบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ขั้นตอนการเก็บหลักฐานความผิดทางคอมพิวเตอร์ และความยากในการขอข้อมูลจาก Microsoft, Facebook และ Google มาฝากเพื่อนๆ นะครับ

 

santipat-620x465

Advertisement
Advertisement
Advertisement

 

ส่วนหนึ่งของการบรรยายครั้งนี้ พ.ต.ท.สันติพัฒน์ พรหมะจุล จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ได้กล่าวถึงการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัลของ ปอท. ว่า

 

ในบทความนี้

  • การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัลของ ปอท.
  • การขอข้อมูลจาก Facebook และ Google ไม่ง่าย
  • บทสรุป

การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัลของ ปอท.

ในการตรวจยึดพยานหลักฐานดิจิทัลกรณีที่เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ หากเครื่องเปิดอยู่เจ้าหน้าที่จะถ่ายภาพหน้าจอเก็บไว้ ส่วนกรณีที่ต้องการเก็บข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผล (volatile data หรือ volatile memory ซึ่งเป็นข้อมูลที่สามารถสูญหายไปทันทีที่ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ อาทิ ข้อมูลที่บันทึกในแรม) เจ้าหน้าที่ต้องใส่ซอฟต์แวร์เข้าไปในคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องสงสัย แต่หากผู้ต้องสงสัยไม่ยอมเนื่องจากกลัวว่าอุปกรณ์ที่บรรจุซอฟต์แวร์จะนำข้อมูลอื่นเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของตน เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ทำ เพราะผู้ต้องสงสัยอาจหยิบยกการกระทำดังกล่าวมาเป็นข้อต่อสู้ในศาลได้

nsa-spying-thinkstock-art-750xx803-452-0-9

 

ในกรณีที่พบพยานหลักฐานปรากฎบนหน้าจอ เจ้าหน้าที่จะถ่ายภาพหน้าจอแล้วพิมพ์ออกมาเมื่อให้ผู้ต้องสงสัยเซ็นชื่อรับรอง

 

ในการตรวจยึดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่มีรหัสป้องกัน เจ้าหน้าที่จะปลดรหัสโดยถามรหัสจากเจ้าของอุปกรณ์ โดย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550  ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ในการสั่งให้ผู้ต้องสงสัยบอกรหัสผ่าน แต่ในการปฏิบัติงานที่ผ่านมา พนักงานเจ้าหน้าที่ยังไม่เคยใช้อำนาจตามข้อกฎหมายดังกล่าว แต่จะใช้วิธีการกดดัน พูดเกลี้ยกล่อม หรือวิธีการอื่นร่วมด้วยในการทำให้ผู้ต้องสงสัยยอมบอกรหัสผ่าน

 

เมื่อปลดรหัสได้แล้ว เจ้าหน้าที่จะปรับอุปกรณ์ให้เป็นโหมดการบิน (flight mode) เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อไม่ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในพยานหลักฐานดิจิทัล จากนั้นจะบรรจุอุปกรณ์ลงในถุงฟาราเดย์ (Faraday Bag) ซึ่งเป็นถุงที่ป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แต่เนื่องจากถุงดังกล่าวมีราคาแพง บางครั้งเจ้าหน้าที่จึงห่ออุปกรณ์ด้วยกระดาษตะกั่วหรือแผ่นฟอยล์หลายชั้น พ.ต.ท.สันติพัฒน์ยอมรับว่า บางครั้งการห่อดาษตะกั่วหรือแผ่นฟอยล์ก็ไม่สามารถรักษาสภาพพยานหลักฐานดิจิทัลไม่ให้เปลี่ยนแปลงได้ดีเหมือนถุงฟาราเดย์ ในการยึดพยานหลักฐานนี้ เจ้าหน้าที่จะยึดสายสัญญาณที่แปลงไฟฟ้าของเครื่องมาด้วย

 

เมื่อยึดอุปกรณ์ดิจิทัลมาจากผู้ต้องสงสัยได้แล้ว สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัลจะทำคือการทำสำเนาข้อมูล และยืนยันความถูกต้องของต้นฉบับและสำเนาด้วยการเปรียบเทียบค่าแฮช (hash) ซึ่งค่าแฮชเป็นตัวทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีการ “ยัดยา” หรือการที่เจ้าหน้าที่แอบใส่ข้อมูลผิดกฎหมายลงไปในอุปกรณ์ของผู้ต้องสงสัย อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมายังไม่มีคดีใดที่ศาลขอให้มีการเปรียบเทียบค่าแฮชระหว่างต้นฉบับและสำเนา

cart-mosaic500

 

พ.ต.ท.สันติพัฒน์กล่าวต่อว่า ในการรวบรวมพยานหลักฐานในสถานที่เกิดเหตุ นอกจากหลักฐานดิจิทัลแล้ว พยานหลักฐานอื่น เช่น ลายนิ้วมือบนเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม

 

ส่วนข้อมูลการกระทำผิดที่อยู่ในคลาวด์ (cloud) นั้น บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่ไม่พบข้อมูลการกระทำผิดในอุปกรณ์ผู้ต้องสงสัย เพราะข้อมูลเหล่านั้นอยู่ในคลาวด์ นอกจากนี้ ผู้เผยแพร่ภาพลามกเด็กยังมักใช้วิธีเผยแพร่ภาพเหล่านี้ด้วยวิธีการแจกบัญชีผู้ใช้ (account) เพื่อให้คนอื่นเข้าไปดูได้ การทำแบบนี้เป็นการยากต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทราบได้ว่าใครเป็นผู้อัพโหลดข้อมูลเข้าไปในคลาวด์ และหลายครั้ง เมื่อมีผู้กระทำผิดคนหนึ่งถูกจับ คนอื่นๆ ที่ใช้ชื่อบัญชีเดียวกันก็จะเข้าไปลบข้อมูลบนคลาวด์ออก

 

พ.ต.ท.สันติพัฒน์กล่าวถึงความท้าทายในการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่า คือการพิสูจน์ว่าผู้ใดเป็นผู้ใช้อุปกรณ์ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้กระทำความผิด ยังมีความท้าทายจากการที่ผู้กระทำผิดเก็บข้อมูลการกระทำผิดไว้บนคลาวด์ มีอุปสรรคจากการเข้ารหัสอุปกรณ์ และความท้าทายจากการปฏิบัติงานให้ทันกับเวลา โดย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ 2550 ที่บังคับให้ผู้ให้บริการต้องเก็บข้อมูลของผู้ใช้ไว้ 90 วันนั้น ในบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ทันกับระยะเวลาดังกล่าว

 

การขอข้อมูลจาก Facebook และ Google ไม่ง่าย

พ.ต.ท.สันติพัฒน์กล่าวถึงการขอข้อมูลจากผู้ให้บริการ เพื่อจะนำมาเป็นพยานหลักฐานดิจิทัลว่า ผู้ให้บริการในไทยส่วนใหญ่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ แต่สำหรับผู้ให้บริการในต่างประเทศ เช่น Facebook และ Google ในคดีที่ผิดกฎหมายในประเทศไทยแต่ไม่ผิดกฎหมายในต่างประเทศ ผู้ให้บริการก็จะไม่ยินยอมส่งข้อมูลมาให้ ไม่ว่าเจ้าหน้าที่จะอ้างเรื่องความมั่นคงของชาติก็ตาม เนื่องจากบริษัทเหล่านี้ห่วงเรื่องข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า อีกทั้งยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศตน

 

อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.สันติพัฒน์กล่าวว่า ที่ผ่านมา หากเจ้าหน้าที่ขอข้อมูลไปยังบริษัท Microsoft ทาง Microsoft ก็จะให้ความร่วมมือค่อนข้างดี ต่างจาก Facebook และ Google เนื่องจากบริษัทลูกของ Facebook และ Google ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยใช้เทคนิคจดทะเบียนเป็นบริษัทด้านการตลาด ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต กฎหมายไทยจึงไม่สามารถบังคับให้ 2 บริษัทนี้เปิดเผยข้อมูลของผู้ใช้บริการกับเจ้าหน้าที่

 

อย่างไรก็ตามหากเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับภาพลามกเด็ก หรือการก่อการร้าย ผู้ให้บริการต่างประเทศจะยินดีให้ข้อมูล แต่ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ซึ่งกินระยะเวลาพอสมควร

 

เนื่องจากการส่งมอบข้อมูลตามวิธีการปกตินั้นใช้เวลานาน อีกวิธีหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ใช้คือการขอผ่านองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (International Criminal Police Organization – INTERPOL) หรือหากรู้จักกับตำรวจในต่างประเทศอยู่แล้ว ก็อาจใช้วิธีขอข้อมูลกับตำรวจในต่างประเทศโดยตรง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่ได้จาก 2 ช่องทางนี้จะไม่สามารถนำมาใช้เป็นพยานหลักฐานในชั้นศาลได้ เพียงแต่นำมาเป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อใช้ในการสอบสวนเท่านั้น

130829131857-google-lagging-behind-614xa

 

บทสรุป

ดังนั้นเรื่องนี้จึงสรุปได้ว่า สำหรับหลักฐานในการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์นั้น สิ่งที่นำมาเป็นหลักฐานได้ ก็จะเป็นข้อมูลในเครื่องผู้ต้องสงสัยเท่านั้น และผู้ต้องสงสัยก็มีสิทธิ์ปฏิเสธในการใส่ซอฟท์แวร์ลงไปในเครื่องเพื่อเก็บหลักฐาน แต่เจ้าหน้าที่ก็มีอำนาจในการบังคับให้เราบอกรหัสผ่านเข้าอุปกรณ์นั้นได้ สำหรับข้อมูลบน Cloud จะสามารถใช้เป็นหลักฐานได้แต่เก็บได้ยากกว่า ส่วนหลักฐานบนสังคมออนไลน์อื่นๆ นั้น จะไม่สามารถนำมาเป็นพยานหลักฐานในศาลได้ แต่เจ้าหน้าที่ก็จะใช้เป็นแนวทางในการสอบสวนก็เท่านั้น ส่วนการให้ความร่วมมือของบริษัทใหญ่ๆ ในโลกออนไลน์อย่าง Microsoft, Facebook และ Google ทาง Microsoft ดูจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในไทยมากกว่าอีกสองบริษัท แต่หากเป็นความผิดที่ถือว่าเป็นความผิดสากล อย่างเช่น ความผิดเกี่ยวกับภาพอนาจารของเด็ก ทั้งสามบริษัทก็จะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี แต่ก็อาจใช้เวลาในการดำเนินการบ้าง

 

ใครสนใจเนื้อหาในการบรรยายเพิ่มเติม ก็สามารถเข้าไปติดตามได้ที่ เครือข่ายพลเมืองเน็ต และสมัครเข้ารร่วมการบรรยายได้ที่ โปรแกรมบรรยายสาธารณะว่าด้วยหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์และการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานดิจิทัล

 

 

ที่มา: thainetizen

Advertisement
Thailand พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
ดร.อเสข ขันธวิชัย
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)

อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่มีความสุขที่ได้ส่งต่อความรู้ให้คนอื่น ไม่อยากจำกัดเฉพาะนักศึกษาตัวเอง จึงได้ลงมือเขียนสิ่งที่ตนเองรู้ลงในเว็บไซต์ AppDisqus แห่งนี้ ด้วยความสุขและยินดีที่ได้เป็นส่งต่อและรับความรู้เพื่มจากผู้อ่าน มันช่างเป็นสถานที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีจริง ๆ //ขอบคุณ AppDisqus นะครับ

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Apple

5 แอปพลิเคชั่นเช็คฝุ่นใช้ดี ทั้งไทยทั้งเทศ สำหรับ Android และ iOS

25 มกราคม 2025
Android

OPPO ชี้แจงกรณีแฮกเกอร์ละเมิดข้อมูล

24 มกราคม 2025
apple-store-job-position-in-thailand.jpeg
Apple

Apple เปิดรับสมัครพนักงานประจำ Apple Store สาขาประเทศไทย!

27 กันยายน 2017
Miscellaneous

เผย Facebook เสียภาษี 1.3 แสนบาท ส่วน Line ไม่ได้เสียภาษีในประเทศไทยเลย!!

19 มิถุนายน 2017
Miscellaneous

ดีเดย์วันนี้!! พลเมืองต่อต้าน Single Gateway ประกาศแผน ยุทธการบั้งไฟไซเบอร์และฐานยิง two in one โจมตีพร้อมกัน

16 มกราคม 2017
Miscellaneous

ผลวิจัยล่าสุดย้ำให้เห็นถึงโอกาสทำธุรกิจดิจิทัลของประเทศไทย ที่มีมูลค่าถึง $37 พันล้านเหรียญ

19 ธันวาคม 2016
What Score?
8.1
Devices

รีวิว iQOO Neo 10 เกิดมาเพื่อเกมเมอร์ สเปกแรง! จัดเต็มแม็กซ์ 7000mAh

By Noppinij5 มิถุนายน 2025301 Views
7.6
Devices

รีวิว realme C71 สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม บางเบา สวยงาม แบตอึดที่สุดในรุ่น

By Noppinij4 มิถุนายน 2025
8.4
Your Updates

รีวิวหัวชาร์จ CUKTECH AD1003 120W ชาร์จเร็วครบ! ทุกเรือธงแบรนด์จีน

By Noppinij14 พฤษภาคม 2025
48
Xbox & PC World

Review : Scarred เกมสยองขวัญจากสิงคโปรที่ยังขาดความน่ากลัว

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya6 พฤษภาคม 2025

On AppDisqus Channel

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดดูงาน Apple WWDC 2025 คืนวันจันทร์นี้

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Gaming

ยอดขาย Dune: Awakening พุ่งถล่ม Steam ทะลุ 788,000 ชุดบน Steam!

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya16 มิถุนายน 2025

มือถือพับได้ราคาประหยัดของ Samsung ผ่านรับรองแล้วในชื่อ Galaxy Z Flip 7 FE

16 มิถุนายน 2025

ทรัมป์เตรียมเปิดตัวมือถือในชื่อของเขาเอง พร้อมเครือข่ายใหม่ในชื่อ T1

16 มิถุนายน 2025

Helldivers 2 เปิดใหซื้อได้แล้ว 169 ประเทศ หลังโดนถอดจากร้านค้าในประเทศที่เข้าถึง PSN ไมไ่ด้

16 มิถุนายน 2025

CD Projekt RED กำลังพัฒนา The Witcher 4 อย่างสร้างสรรค์ด้วยแนวคิดใหม่ ไอเดียเพียบ และจะไม่ทำเหมือนกับ Cyberpunk 2077

16 มิถุนายน 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Gaming

ยอดขาย Dune: Awakening พุ่งถล่ม Steam ทะลุ 788,000 ชุดบน Steam!

16 มิถุนายน 2025
Android

มือถือพับได้ราคาประหยัดของ Samsung ผ่านรับรองแล้วในชื่อ Galaxy Z Flip 7 FE

16 มิถุนายน 2025
Miscellaneous

ทรัมป์เตรียมเปิดตัวมือถือในชื่อของเขาเอง พร้อมเครือข่ายใหม่ในชื่อ T1

16 มิถุนายน 2025
Gaming

Helldivers 2 เปิดใหซื้อได้แล้ว 169 ประเทศ หลังโดนถอดจากร้านค้าในประเทศที่เข้าถึง PSN ไมไ่ด้

16 มิถุนายน 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo