Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Miscellaneous » News » [Lo’s Axiom] Axiom of Coding: ความจริงเกี่ยวกับ “รหัส” ที่เป็นพื้นฐานของพื้นฐานระบบการรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ทั้งการแสดงผล และการสื่อสาร บนระบบคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อื่นๆ
Miscellaneous

[Lo’s Axiom] Axiom of Coding: ความจริงเกี่ยวกับ “รหัส” ที่เป็นพื้นฐานของพื้นฐานระบบการรับส่งข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ทั้งการแสดงผล และการสื่อสาร บนระบบคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์อื่นๆ

24 เมษายน 2014Updated:30 พฤษภาคม 20143 Mins Read

portfolio-img5

 

สรุปใจความสำคัญ

[box_light]ทุกการแสดงผลที่เราเห็นในชีวิตประจำวันผ่านอุปกรณ์ที่มนุษย์สร้างขึ้น อันได้แก่ คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน โทรทัศน์ วิทยุ และอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนเป็นรหัสที่ส่งมาจากแหล่งกำเนินของข้อมูล สิ่งที่ส่งผ่านสายหรืออากาศมานั้น มันไม่ได้ส่งมาเป็นภาพ วีดีโอ เสียง หรือตัวหนังสือ แต่มันส่งมาในรูปของ “รหัส(Coding)” ซึ่งมันไม่ใช่โค๊ดโปรแกรมด้วย(โค๊ดโปรแกรมเป็นตัวหนังสือและสัญลักษณ์) คำว่า “รหัส” มันพื้นฐานมากกว่านั้น มันอยู่ในรูปตัวเลข 0 และ 1 เท่านั้น บทความนี้เราจะมาดูกันว่า มันทำงานอย่างไร? มีการพัฒนาอย่างไร? อนาคตมันจะเป็นยังไงบ้าง? และมันเชื่อมโยงกับการรับส่งข้อมูลในโลกนี้อย่างไรบ้าง ?[/box_light]

Advertisement
Advertisement
Advertisement

 

ในบทความนี้

  • รหัส คืออะไร?
  • สงสัยไหม ทำไมสมัยก่อนคุยโทรศัพท์แล้วเสียงขาดๆ หายๆ ?
  • เราส่งรูปภาพ วีดีโอ และข้อมูลต่างๆ หากันได้ยังไง ?
  • คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน 32 Bit หรือ 64 Bit มันคืออะไร ?
  • รู้ไหมครับ เราสามารถฝังชุดรหัสลงในสารเคมีหรือสิ่งมีชีวิตได้แล้ว ?

รหัส คืออะไร?

TheMatrixWallpaper1024

 

รหัส(Coding) ที่ผมจะกล่าวถึงในบทความนี้ไม่ใช่ “รหัสลับ(Cryptography)” เหมือนในหนังนะครับ แต่มันคือชุดตัวเลขที่มีแต่เลข 0 และ 1 เท่านั้น เป็นนวัตกรรมทางความรู้ที่ทำให้เกิดเทคโนโลยีด้านการสื่อสารในรูปแบบต่างๆ สมัยก่อนอาจเป็นแค่การส่งโทรเลข หรือคลื่นวิทยุ แต่ทุกวันนี้มันกลายเป็นทุกๆ อย่างเลยทีเดียว ทั้ง โทรทัศน์ที่เราดู คอมพิวเตอร์ที่เราใช้ โทรศัพท์ที่เราพูดคุย และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

ทำไมต้องมีแต่เลข 0 และ 1 ? เหตุผลของเรื่องนี้ก็คือ สมัยยุคเริ่มต้นของการส่งข้อมูลทางไกลโดยไม่อาศัยม้าเร็ว นักวิทยาศาสตร์เขาส่งข้อมูลไปหากันด้วยการเปิดและปิดสวิตช์ไฟผ่านสาย หากเปิดสวิตซ์ให้หมายถึงเลข 1 และหากปิดสวิตซ์ให้หมายถึงเลข 0 โดยมีการนัดแนะกันว่าชุดตัวเลขที่ส่งไปแบบนี้มันหมายความว่าอะไร? ตัวอย่างเช่น

  • “00000”   หมายถึง ตัวอักษร “A”
  • “00001”   หมายถึง ตัวอักษร “B”
  • “00010”   หมายถึง ตัวอักษร “C”
  • .
  • .
  • .
  • “01110”   หมายถึง ตัวอักษร “Z”

 

ขอเรียกชุดรหัสนี้ว่า “รหัสชุดที่หนึ่ง” เอาไว้กล่าวถึงภายหลัง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นต้นกำเนิดการส่งข้อมูลผ่านสายได้เป็นครั้งแรกของโลก

 

สงสัยไหม ทำไมสมัยก่อนคุยโทรศัพท์แล้วเสียงขาดๆ หายๆ ?

เมื่อวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น แทนที่จะจดคำแปลรหัสบนไว้กระดาษ เราก็สามารถสร้างเครื่องมือแปลรหัสเป็นตัวอักษรได้โดยอัตโนมัติ แต่เมื่อมีการใช้งานไปนานๆ เข้า ก็พบปัญหาว่า การส่งนั้นมีข้อผิดพลาดขึ้นในระหว่างทาง สายส่งข้อมูลอาจถูกฟ้าผ่า ถูกลม ถูกฝนกระทบระหว่างทาง ทำให้การส่งข้อมูลมีความผิดพลาดขึ้น ด้วยเหตุนี้ “นักคณิตศาสตร์” จึงเข้ามาเกี่ยวข้อง

        นี่เป็นคำถามที่หลายคนเคยถามบ่อยๆ ว่า “เรียนคณิตศาสตร์ไปเพื่ออะไร?” สาเหตุที่เราไม่ตระหนักรู้ก็เพราะว่าเราเรียนคณิตศาสตร์ต้นทางที่เป็นพื้นฐานมากๆ แต่สำหรับบทความนี้ผมจะบอกว่าคณิตศาสตร์ปลายทางมันก็เพื่อสิ่งนี้ “การแก้ปัญหา” ซึ่ง ณ ทีนี้ มันได้เข้ามาแก้ปัญหาการรับส่งข้อมูลนั่นเอง

ในบทความนี้ผมจะไม่ลงลึกมากนักนะครับ แต่จะบอกคร่าวๆ ว่ามันเข้ามาแก้ปัญหาจุดไหน อย่างไร? นั่นก็คือ คณิตศาสตร์ได้นำทฤษฎีพีชคณิตนามธรรม(Abstract Algebra) เป็นทฤษฏีที่ศึกษาเกี่ยวกับ เซต และ การดำเนินการ ซึ่งสำหรับเรื่องการรับส่งข้อมูลนี้ เซตที่เราสนใจก็คือเซตของชุดรหัสที่เราส่งหากันนั่นเอง เนื่องจากชุดรหัสมีแต่ตัวเลข 0 และ 1 ดังนั้น การดำเนินการพวกเขาจึงใช้การบวกและการคูณของเลขฐานสองเข้ามาช่วย นั่นคือ 0+0 = 0, 0+1=1+0=1 และ 1+1=0 เป็นต้น ส่วนการคูณก็ได้ผลเหมือนตัวเลขปกติ นักคณิตศาสตร์ได้สร้างชุดรหัสขึ้นมาใหม่ ไม่ใช้ชุดตัวเลข 5 ตัว ดัง “รหัสชุดที่หนึ่ง” แล้ว พวกเขาใส่ตัวเลขเพิ่มเข้าไปอีก 3 ตัว ซึ่ง 5 ตัวแรก(สีแดง) ความหมายมันก็เหมือนกับ “รหัสชุดที่หนึ่ง” แต่ 3 ตัวหลังมันจะทำหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขหากรหัสมีการผิดพลาดระหว่างทาง “รหัสชุดที่สอง” แสดงได้ดังนี้

  • “00000011”   หมายถึง ตัวอักษร “A”
  • “00001001”   หมายถึง ตัวอักษร “B”
  • “00010101”   หมายถึง ตัวอักษร “C”
  • .
  • .
  • .
  • “01110000”   หมายถึง ตัวอักษร “Z”
เกาะประเด็น:  realme GT 8 Series เตรียมเปิดตัว 21 ต.ค. มาพร้อมแบต 7,000mAh และกล้องซูม 200MP

 

ทำไมมันตรวจหาข้อผิดพลาดและแก้ไขได้หละ? นั่นก็เพราะว่าระบบมันสร้างเซตของรหัสขึ้นมา A = {00000000, 00000001, …, 11111111} พร้อมกับการบวกและคูณของเลขฐานสอง ทำให้มันมีคุณสมบัติเป็น “สนาม(Field)” ด้วยคุณสมบัติของเจ้า “สนาม(Field)” นี่หละครับ ทำให้เราตั้งเครื่องรับและส่งข้อมูลเช็คดูได้ว่า รหัสที่รับมามันอยู่ในเซตของรหัส A หรือไม่? ถ้าไม่อยู่ใน A แล้วมันผิดพลาดตรงไหน? ตำแหน่งอะไร? และเมื่อรู้ว่ามันผิดเครื่องก็จะแก้ให้ทันที นี่หละคือเสน่ห์ของเลขฐานสอง นั่นคือ หากเรารู้ว่าตำแหน่งอะไรผิดเราก็แก้ให้เป็นอีกตัวได้เลย เพราะตัวเลขมันมีแค่ 0 และ 1 เท่านั้น

 

เราส่งรูปภาพ วีดีโอ และข้อมูลต่างๆ หากันได้ยังไง ?

Mobile smart phones while transferring pictures

 

ในเซต A เราจะเห็นว่ามันเป็นชุดรหัสที่มีตัวเลขอยู่ 8 ตัว เราเรียกมันว่า “8 bit= 1 byte” ซึ่ง 1 byte ก็ส่งข้อมูลได้แค่ 1 ตัว เมื่อเราส่งข้อมูลหากันมากๆ มันก็จะกลายเป็น

  • 1 KiloByte (KB) = 1024 Byte
  • 1 MegaByte (MB) = 1024 KiloByte
  • 1 GigaByte (GB) = 1024 MegaByte

 

เริ่มคุ้นๆ แล้วใช่ไหมครับ ? มันก็คือหน่วยที่เราใช้วัดปริมาณของข้อมูล หรือขนาดไฟล์นั่นเอง ไม่ว่าไฟล์ของเราอยู่ในรูปแบบอะไรก็ตาม .doc, .jpg, .mov, .mp3 หรือ .mp4 ทุกรูปแบบของไฟล์มันจะมีขนาดที่มีหน่วยเป็น Byte นั่นเอง แสดงว่ามันเกิดมาจาก 0 และ 1 จำนวนมหาศาลที่มารวมกัน

 

        ขอยกตัวอย่างรูปภาพที่เราถ่ายด้วยสมาร์ทโฟนนะครับ หากรูปมันมีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล นั่นหมายความว่า ใน 1 รูปที่เรามองเห็นมันจะมีเม็ดสีทั้งหมด 2 ล้านเม็ด ในแต่ละเม็ดจะมีเพียงสีเดียวเท่านั้น ซึ่งการที่เม็ดนั้นมันจะแสดงผลเป็นสีอะไรก็ขึ้นอยู่ว่าชุดรหัสที่มันได้รับมา ตัวอย่างเช่น 00010101 เป็นสีแดง, 01110010 เป็นสีดำ, 00011111 เป็นสีขาว อย่างนี้เป็นต้น หากเราส่งรูปให้เพื่อนหรืออัพโหลดขึ้น Facebook มันไม่ได้ส่งเป็นรูปไปเลยนะ รูปภาพมันวิ่งตามสายหรืออากาศไม่ได้ มันจะแปลงรูปในเครื่องเราเป็นชุดของรหัสก่อน จากนั้นใช้เปิดและปิดสัญญาณ ส่งตามสายหรืออากาศ เพื่อบอกว่าในแต่ละชุดรหัสมีตัวเลขอะไรบ้าง 0 หรือ 1 เมื่อส่งเข้าระบบไป หากมีข้อผิดพลาดระหว่างทางมันก็จะใช้คุณสมบัติของ “สนาม(Field)” เปลี่ยนเป็นชุดรหัสที่ถูกต้องได้ เครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของเพื่อนเราก็จะแปลงชุดรหัสเป็นเม็ดสี และเมื่อเม็ดสีหลายล้านเม็ดมารวมกันก็จะกลายเป็นรูปภาพที่พวกเขาเห็นในคอมพิวเตอร์หรือในสมาร์ทโฟนนั่นเอง

 

คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน 32 Bit หรือ 64 Bit มันคืออะไร ?

iphone_5s_64_bit_slide

 

เนื่องด้วย 1 Byte มันมีแค่ 8 Bit โดยที่เลข 5 ตัวแรกแทนข้อมูล ส่วน 3 ตัวหลังเป็นชุดตรวจสอบและแก้ไขความถูกต้อง ทำให้มันมีข้อจำกัด หากมันผิดพลาด 1 หรือ 2 ตำแหน่งยังพอแก้ไขได้ แต่ถ้ามากกว่านั้นจะแก้ไขไม่ได้ เป็นต้นเหตุให้ข้อมูลที่ได้รับมันผิดเพี้ยนไปได้ อย่างเช่นการโทรศัพท์สมัยก่อนเสียงจะขาดๆ หายๆ นั่นหละครับ หมายความว่ารหัสมันแก้ไขข้อผิดพลาดไม่ได้ ด้วยเหตุนี้เมื่อเรามีข้อมูลมากขึ้น ใน 1 Byte จึงจำเป็นต้องมีจำนวน Bit มากขึ้น ซึ่งจะทำให้เราสามารถบรรจุข้อมูลได้มากขึ้น และมีจำนวน Bit ที่เอาไว้ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดได้มากขึ้นด้วย ส่งผลทำให้แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดระหว่างทางสักแค่ไหนก็ตามระบบก็จะสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้ ยิ่งจำนวน Bit เยอะประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูลก็ยิ่งดีขึ้นนั่นเอง ซึ่งทฤษฏีนั้นมันทำได้แบบนับไม่ถ้วนอยู่แล้วครับ ใน 1 Byte เราจะให้มีกี่ล้าน Bit ก็ได้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ตัวแปลงรหัสสัญญาณนั่นเองว่ามีความสามารถแค่ไหน ดังนั้นเมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนก็พัฒนามากขึ้นตาม จนสามารถเพิ่มจำนวน Bit เข้าไปได้มากขึ้นเรื่อยๆ  จึงเป็นที่มาของ คอมพิวเตอร์ หรือ สมาร์ทโฟน 16 Bit, 32 Bit, 64 Bit ตามลำดับของการพัฒนาการ

 

ผมไม่ขอลงลึกมากเรื่อง ทฤษฏีรหัส(Coding Theory) หรือ พีชคณิตนามธรรม(Abstract Algebra) ความรู้ทางคณิตศาสตร์ที่นำมาช่วยตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดของชุดรหัสนะครับ  นี่หละเป็นคำตอบสำหรับหลายคนที่ถามมาตลอดว่า “เรียนคณิตศาสตร์ไปทำไม?”  และนี่คือ พื้นฐานของพื้นฐานของเทคโนโลยีที่เราเสพอยู่ ที่เราอาจเคยรู้ว่ามันเกิดจากเลข 0 และ 1 มารวมกัน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันทำงานอย่างไร?  หากใครสนใจและต้องการลงลึกมากกว่านี้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากสื่อที่เป็นหนังสือหรือสื่อออนไลน์เกี่ยวกับ “ทฤษฏีรหัส(Coding Theory)” ได้เลยนะครับ แล้วเพื่อนๆ จะรู้ว่ามันคืออะไร ? มันตรวจสอบและแก้ไขความผิดพลาดอย่างไร? และจะได้เห็นว่าการศึกษาเรื่องนี้มันยังไม่สิ้นสุดและมีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ครับ

 

รู้ไหมครับ เราสามารถฝังชุดรหัสลงในสารเคมีหรือสิ่งมีชีวิตได้แล้ว ?

 

 

 

 

[box_info]

เอกสารอ้างอิง:

สุพจน์ ไวท์ยางกูร, ทฤษฏีรหัสขั้นแนะนำ(Introduction to Coding Theory), ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, 2540.

[/box_info]

 

Advertisement
computer Lo Axiom smartphone
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
ดร.อเสข ขันธวิชัย
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)

อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่มีความสุขที่ได้ส่งต่อความรู้ให้คนอื่น ไม่อยากจำกัดเฉพาะนักศึกษาตัวเอง จึงได้ลงมือเขียนสิ่งที่ตนเองรู้ลงในเว็บไซต์ AppDisqus แห่งนี้ ด้วยความสุขและยินดีที่ได้เป็นส่งต่อและรับความรู้เพื่มจากผู้อ่าน มันช่างเป็นสถานที่แห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ดีจริง ๆ //ขอบคุณ AppDisqus นะครับ

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Android

realme GT 8 Series เตรียมเปิดตัว 21 ต.ค. มาพร้อมแบต 7,000mAh และกล้องซูม 200MP

18 ตุลาคม 2025
Android

Nothing โทษสิทธิบัตรของ Apple ทำให้ Android ยังไม่มีแม่เหล็กในเครื่องสำหรับชาร์จไร้สาย

16 ตุลาคม 2025
Android

หลุดภาพจริง Huawei Mate 80 Series เปลี่ยนดีไซน์กล้องหลังใหม่แบบวงกลม

6 ตุลาคม 2025
Miscellaneous

อัปเดตเทรนด์แอคเซสเซอรี่สมาร์ทโฟน ปี 2025 ของมันต้องมี!

29 กันยายน 2025
Apple

iPhone Air โชว์ความแกร่ง: ทนแรงกด 130 ปอนด์! สงสัยต่อไปมือถืออาจไม่พังง่ายๆ แล้วมั้ง?

19 กันยายน 2025
Android

OnePlus 15 ภาพแรกหลุดออกมาแล้ว ดีไซน์ใหม่ตัดวงกล้องกลมทิ้ง พร้อมสี Dune นำทัพ!

15 กันยายน 2025
What Score?
8.0
Mobile and Gadget

รีวิว vivo V60 Lite ดีไซน์บางหรู สีสะดุดตา สเปกไม่กั๊กพร้อมทั้งพักทั้งลุย

By Noppinij18 ตุลาคม 2025
66
Game Review

REVIEW : Ratatan เกมที่ทั้งน่ารัก และ สนุกแต่ยังต้องถูกขัดเกลา

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya6 ตุลาคม 2025
90
Game Review

Review : Ghost Of Yotei ทั้งอินทั้งมันส์ตัวตึง GOTY แน่นอน

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya26 กันยายน 2025
7.7
Mobile and Gadget

รีวิว Alldocube iPlay 70 mini Ultra แท็บเล็ตเกมมิ่ง จัดเต็ม! ครบเซ็ต ราคาคุ้ม!

By Noppinij23 กันยายน 2025245 Views

On AppDisqus Channel

รีวิว Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro หุ่นยนต์ดูดฝุ่น AI อัจฉริยะ พลังดูด 20,000Pa พร้อมฐาน All-in-one

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
PlayStation World

Demon’s Souls อัปเดตใหม่เวอร์ชัน 1.007.000 เพิ่ม Power Saver Mode

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya18 ตุลาคม 2025

realme GT 8 Series เตรียมเปิดตัว 21 ต.ค. มาพร้อมแบต 7,000mAh และกล้องซูม 200MP

18 ตุลาคม 2025
8.0

รีวิว vivo V60 Lite ดีไซน์บางหรู สีสะดุดตา สเปกไม่กั๊กพร้อมทั้งพักทั้งลุย

18 ตุลาคม 2025

รู้มั้ย AI มีลายเซ็นที่มนุษย์มองไม่เห็นใส่ไว้ในผลงาน

17 ตุลาคม 2025

Xiaomi ยืนยันสานต่อ “จอหลัง Dynamic” หลังกระแสแรง ทำยอดขายทะลุสถิติ

17 ตุลาคม 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
PlayStation World

Demon’s Souls อัปเดตใหม่เวอร์ชัน 1.007.000 เพิ่ม Power Saver Mode

18 ตุลาคม 2025
Android

realme GT 8 Series เตรียมเปิดตัว 21 ต.ค. มาพร้อมแบต 7,000mAh และกล้องซูม 200MP

18 ตุลาคม 2025
8.0
Mobile and Gadget

รีวิว vivo V60 Lite ดีไซน์บางหรู สีสะดุดตา สเปกไม่กั๊กพร้อมทั้งพักทั้งลุย

18 ตุลาคม 2025
Miscellaneous

รู้มั้ย AI มีลายเซ็นที่มนุษย์มองไม่เห็นใส่ไว้ในผลงาน

17 ตุลาคม 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo