Review : Call Of Duty : Black Ops 7 Multiplayer สุดมันแต่อย่างอื่นสอบตก

กลับมาอีกครั้งกับหนึ่งในซีรีย์เกม FPS ที่โด่งดังที่สุดในตลาด Call Of Duty : Black Ops 7 โดยมาในภาคนี้ก็มาพร้อมกับแคมเปญที่เปลี่ยนไป และยังคงเอกลักษณ์ฉากกราดกระสุนสุดอลังกาล และ มันส์มือเอาไว้ในโหมด Multiplayer แต่ถึงแบบนั้นนี้คือเกม Call Of Duty ที่มีเสียงแตกกันมากที่สุดแล้วก็ว่าได้

แต่ว่าตัวเกมจะเป็นยังไง? จะมีอะไรใหม่ๆเรียกผู้เล่นหน้าใหม่ และ จะคงเสน่ห์เดิมเพื่อรักษาผู้เล่นเก่าๆเอาไว้ได้หรือไม่? แคมเปญที่เปลี่ยนไปดีไหม? Multiplayer เป็นไงบ้าง และ Zombie Mode จะยังสนุกอยู่รึเปล่า? มาดูได้ในรีวิวนี้เลย!

Campaign ที่เปลี่ยนไปบังคับให้ Co-Op กล้าเปลี่ยนแต่มาพร้อมปัญหา

หนึ่งในสิ่งที่แฟนๆซีรีย์ COD จะรอคอยกันมากที่สุดก็คงไม่พ้นแคมเปญเล่นคนเดียว เพราะตัวซีรีย์ได้ทิ้งฉากในตำนาน หรือ โมเมนต์แบบที่แฟนๆเกมต่างรักต่างชอบกันมามากมาย แฟนเกมบางคนอาจมาเพื่อเล่นโหมดแคมเปญเลยทีเดียว แต่สิ่งนึงที่น่าเสียดายมากๆในโหมดแคมเปญของ COD คือในภาคนี้เราจะถูกบังคับให้เล่น Co-Op เท่านั้น

เกมดำเนินเรื่องในปี 2035 โดยโฟกัสที่ David “Section” Mason และทีม JSOC ที่ต้องรับมือกับการกลับมาของผู้ก่อการร้าย Raul Menendez ซึ่งคราวนี้เขามีความเชื่อมโยงกับบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีชื่อ The Guild ที่นำโดย Emma Kagan องค์กรนี้กำลังผลักดันอาวุธยุคใหม่ที่สามารถสร้างความปั่นป่วนในระดับโลกได้ เนื้อเรื่องพาไปสลับระหว่าง ภารกิจปัจจุบัน และ การสืบสวนในเมือง Avalon พร้อมทั้งขุดลึกไปถึงจิตใจและอดีตของตัวละคร ทำให้ในโหมดแคมเปญนอกจากจะมีผู้ก่อการร้ายแล้วเรายังต้องเข้าไปในโลกความฝัน หรือสู้กับหุ่นด้วย

โดยภารกิจจะถูกตั้งให้เราจะต้องร่วมมือกับเพื่อนร่วมทีม อาจเป็นยึดจุดหลายที่ หรือ กระจายออกไปทำภารกิจที่แตกต่า่งกัน แม้ตอนแรกจะสนุกแต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกของแคมเปญ COD ที่ผ่านๆมา ซึ่งมันก็ไม่มีปัญหาหรอกถ้าตัวเกมจะทำอะไรใหม่ๆ แต่ปัญหาของมันคือตรงที่เราจะต้องมีถึง 4 คนและถ้าเกิดไม่ร่วมมือกัน รับรองว่าเหนื่อยแน่ จากความสนุกจะกลายเป็นความทรมาณทันที

พอเปลี่ยนมาเป็น Co-Op ความโดดเด่นของ Call Of Duty อย่างการทำภารกิจเสี่ยงตายแนวทหาร และคัตซีนที่ประกอบเข้ากับระบบการเล่นได้แบบลงตัว ของแบบนั้นมะลายหายไปในเกมภาคนี้ ฉากเหตุการณ์แถบทุกอย่างจะถูกเล่าผ่านคัตซีนฉากหนัง เราผู้เล่นจะไม่ค่อยได้เข้าไปสัมผัสกับเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ความอินของใครหลายๆคนอาจน้อยลง

พอกลายเป็นโหมดเน้น Co-Op ยิง PvE มันก็ทำให้อารมณ์การเล่นมันไม่ค่อยต่างจากการเล่นโหมด Zombie เท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเราเอาเพื่อนเราเองมาเล่นด้วยอารมณ์คงเปลี่ยนไปเยอะแน่ เพราะหากเราเจอคนที่เข้าใจวิธีเล่น หรือเล่นเข้ากับเราตัวเกมก็จะมอบประสบการณ์เล่นที่ดีมากให้กับเราได้อย่างดี

และอีกอย่างที่ต้องยอมรับ คือระบบปืน และ การเล่นเสียงของเกมจะเชิดฉายที่สุดก็ในโหมดแคมเปญ เพราะเราจะได้เจอศัตรูที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ได้มีแค่คนให้เรายิงแล้วเพราะตอนนี้มียันหุ่นยนต์ หรือแม้แต่แฟนตาซีเราก็จะได้เห็น ทำให้อารมณ์และบรรยากาศในแต่ละด่านจะต่างกันไปแถบจะสิ้นเชิง

พอมาแนวหลุดโลกแบบนี้ผมเห็นว่าหลายคนดูไม่ชอบไม่พอใจนะ แต่ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าจะมีซักภาคที่ตัวเกมจะได้สำรวจแนวทางใหม่ๆบ้างก็ไม่เลว ถึงจะยังทำออกมาได้ไม่ดี และทำให้เสน่ห์เก่าๆเลือนหายไปแต่สิ่งที่แย่ที่สุดของโหมดนี้คงจะเป็นบอสที่ดีไซน์ออกมาน่าเบื่อ หลุดธีม เราต้องกราดกระสุนยิงใส่บอสนานมากกว่าจะผ่าน

โหมด Multiplayer ที่พริ้วขึ้น เท่ขึ้น มันส์ขึ้น

ในโหมด Multiplayer ของ Black Ops 7 คุณจะสามารถเลือกได้ว่าอยากจะจับคู่แบบระดับฝีมือเดียวกัน หรือแบบหาห้องเร็ว ที่จะไม่ได้กรองระดับเลเวล การเปลี่ยนมาเป็นแบบนี้จะช่วยใหผู้เล่นสามารถมีทางเลือกได้ว่าอยากจะเล่นแบบชิวๆ หรืออยากหาห้องเร็วมากกว่า

ซึ่งผมบอกเลยนะครับว่าถ้านี้เป็นภาคแรกของคุณแบบผม เปิดแบบฝีมือเดียวกันจะดีที่สุด เพราะในล็อบบี้แบบไม่กรองเลเวล คือแถบจะไม่มีความสูสีเลยเพราะทั้งปืนทั้งเปิร์คเราจะต้องปลดล็อคไปตามเลเวลของเรา นั่นทำให้ผู้เล่นที่ยังเลเวลน้อยอยู่นั้นจะมีทางเลือกน้อยกว่าในการเลือกปืน หรือ Load Out มาสู้

แถมปืนแต่ละกระบอกยังมีความไม่บาลานซ์ที่สูง ไม่ว่าจะปืนกลเบาหรือหนัก ช็อตกันหรือสไนเปอร์ ก็สามารถรัวเราตายภายพริบตาเดียวได้เสมอ ทำให้ปืนที่เก่งในหลายระยะจะสามารถใช้งานกว่าปืนที่จะต้องใช้ในระยะที่เหมาะสมเท่านั้นแบบสูงเลย

โดยใน Multiplayer ก็จะมีหลายโหมดสนองความต้องการสายเกมยิง FPS แน่นอนไม่ว่าจะเป็นนัวๆกันกลางเมืองสาดกระสุนกระจายแบบเติมเร็วขั้นสุดอย่าง Nuke Town หรือจะเป็นกราดยิงกันกลางเมืองในโหมด 20v20 ยิงกันเป็นสงครามเก็บพาวเวอร์อัพ ยึดจุดยุทธศาสตร์ โดยในแต่ละโหมดก็จะมีแผนที่มากมายขึ้นอยู่กับโหมดต่างๆ

ผู้เล่นจะไม่ได้แค่วิ่งยิงปืนธรรมดาเพราะตัวของผู้เล่นจะพริ้วมากๆ สามารถปีนกำแพงเหนือหัวได้สบายๆ วิ่งยิงสไลด์ กระโดดถีบกำแพงกระโจนยิง โหนสลิงกราดกระสุน ในตอนแรกอาจงงหน่อยเพราะทุกอย่างมันเยอะไปหมด แต่พอชินแล้วเราจะสามารประกอบฉากแอคชั่นเท่ๆฉากนึงในการดวนปืนกันได้เลย แต่… จะทำแบบนั้นได้คุณก็ต้องยิงกับคนที่ไม่เก่งด้วยแหล่ะนะ เพราะว่าอย่างที่บอกเกมนี้ตายเร็วมาก แบบที่คุณเพลอแปปเดียวตัวคุณกระจุยทันทีเลย

ในตอนแรกๆที่เกมปล่อยออกมา ตัวเกมจะมีอาการแล็คและเซิร์ฟเวอรืไม่สเถียร แต่ตอนนี้ก็เหมือนเขาจะแก้แล้วเพราะจากประสบการณ์ที่ผมไปลง Multiplayer มารู้สึกได้ว่าการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟไม่มีปัญหาอะไร ไม่เห็นคนวาร์ปหรือรู้สึกปิงขึ้นนัก

ให้พูดสรุปโหมด Multiplayer ง่ายๆก็ เป็นโหมดที่ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน Call Of Duty ทั่วไปคนที่ชอบระบบการเล่นแบบนี้อยู่แล้วก็คงจะยังชอบต่อไป สิ่งที่เป็นจุดเด่นของภาคนี้จริงๆก็คงไม่พ้นการปีนป่าย ความพริ้วไหวของตัวละครผู้เล่นที่ทำได้เยอะมากขึ้น ทำให้เราผู้เบ่นสามารถมี Interact กับแผนที่ได้มากกว่าที่เคย รวมถึงดีไซน์แผนที่ ที่เข้ามาช่วยชูโรงในจุดนั้นเองด้วยก็ทำให้รู้สึกติดพันธ์กับระบบควบคุมของเกมนี้ได้ง่าย

โหมด Zombie ถูกยกระดับมากขึ้นจนทำผู้เล่นงง

Call Of Duty : Black Ops 7 ก็ยังคงมาพร้อมกับโหมดซอมบี้ที่มีทั้งคนรักและคนเกลียด ยังคงเป็นโหมดหลุดโลกที่เล่นเอาสนุกเอามันส์ โดยมาในภาคนี้ตัวโหมดก็ถูกพัฒนาขึ้นไปใส่ลูกเล่นเข้ามาเยอะมากยิ่งขึ้น อาจเยอะไปหน่อยจนมีผู้เล่นออกมาบ่นกันระงม

สำหรับใครที่ไม่รู้จัก Call Of Duty จะมีโหมดซอมบี้ที่เป็น Co-Op PvE ที่มีมานานมากโดยจะมีเนื้อเรื่องแยกเป็นของตนเอง เราและเพื่อนอีก 3 คนจะถูกส่งไปทำภารกิจต่างๆในเมืองที่เต็มไปด้วยซอมบี้ เราจะต้องบริหารกระสุน และทรัพยากรของเราให้ดีไม่งั้นเราอาจถูกล้อมได้

สิ่งที่แย่ที่สุดในโหมด Call Of Duty : Black Ops 7 Zombie ก็คงจะไม่พ้นการที่เราจะสามารถซึมซับประสบการณ์เต็มๆได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เล่นเพราะทั้งระบบ Loadout และ ระบบ Perks ถูกล็อคไว้หลังเลเวล ทำให้ผูเล่นจะต้องเล่นเพื่อให้เวลขึ้นก่อน แล้วถึงจะได้ประสบการณ์แบบเต็มที่

โดย Perks จะเป็นเหมือนตัวชูโรงของโหมด Zombie เพราะว่าเจ้า Perks จะทำหน้าที่เป็น Passive ของผู้เล่นที่จะสามารถตกแต่งได้ตามต้องการ เราอาจสร้าง Build ที่ตรงกับความถนัดของเราหรืออาจสร้าง Build ตลกๆเล่นๆไว้ก็ได้ แต่ Perks พวกนี้ก็จะไม่ได้เปลี่ยนเกมเพล์ของเราไปอย่างสิ้นเชิง พวกมันจะเพียงทำหน้าที่เป็นตัวช่วยเท่านั้น เรายังเล่นแบบเดิมอยู่ดี

โดยเราจะปลดล็อค Perks ด้วยการเลือก Research Augment เลือก Augment ที่เราต้องการจากนั้นก็เข้าไปเล่นตามปกติ อีกทั้งเราจะสามารถหา Perks เสริมได้จากในแผนที่โดยจะสามารถซื้อได้จากตู้ขายที่ ส่วนเงินที่เราจะต้องนำมาซื้อนั้นจะมาจากการฆ่าซอมบี้และการทำภารกิจ

โหมด Zombie ยังคงเป็นโหดมเบาสมองแต่ตอนนี้แคมเปญก็สามารถ Co-Op ได้แล้วทำให้ความน่าเล่นของโหมด Zombie ก็ลดลงไปอีก ระบบ Augment หรือ Perk ก็มีความสนุกอยู่บ้างแต่ผู้เล่นใหม่ที่ไม่เคยเล่นภาคเก่ามาก่อนจะต้องมานั่งปลดล็อค Augment พวกนี้ทีละอันๆ ทำให้ใครอยากเล่นโหมดนี้แบบเต็มคราบ คงจะต้องสละเวลากันเยอะหน่อย

ภาพตระกาลตาแถมยังรองรับ FSR 4

Call Of Duty : Black Ops 7 ยังคงมาตฐานความสวย และตระกาลตาของภาพตามยุคสมัย เราจะได้เห็นภาพฝุ่นควัน กระสุนที่พุ่งออกไปจากปืน เงาสะท้อนจากรถยนต์ พืนน้ำที่กระจายตัวไปตามกระสุนหรือการถูกสัมผัส แต่ว่าภาพที่สวยก็มาพร้อมกับปัญหาเพราะ Call Of Duty : Black Ops 7 มีอาการแครชอยู่บ้างโดยเฉพาะตอนเปิดเกม

โดย Call Of Duty : Black Ops 7 คือหนึ่งในเกมแรกๆที่ประกาศว่าจะเปิดตัวมาพร้อมกับ AMD FSR 4 Redstone ซึ่งเป็นเทคโนโลยีอัพสเกลใหม่ของ AMD ซึ่งจะช่วยเพิ่มเฟรมเรตโดยการเรนเดอร์ภาพที่มีความละเอียดต่ำกว่าและสร้างเฟรมสังเคราะห์ขึ้นมาทำให้ FPS ของเราลื่นมากขึ้น

ประกอบกับ Ray Regeneration อีกเครื่องมือที่มาพร้อมกัน โดยจะช่วยให้ภาพนั้นสวยมากขึ้น แสงเงาคมชัดมากขึ้นและลด noise ของภาพอย่างพวกฝุ่นควันหรือเงาสะท้อน ช่วยให้ภาพเกมดูสมจริงมากยิ่งขึ้น

สรุป

Call Of Duty : Black Ops 7 สอบตกในการเอาใจแฟนเกมเก่าแถมยังสอบตกในการพยายามทำอะไรใหม่ๆอีกด้วย ตัวเกมเหมือนจะพยายามหาแนวทางใหม่ให้ตัวเอง ใส่ของใส่ไอเดียเข้ามาเยอะขึ้นแต่มันดันขัดกับบริบทของเกมและสิ่งที่แฟนๆร้องขอทำให้แฟนเกมต่างเมินหน้าหนี

และถึงโหมด Multiplayer จะทำออกมาได้สนุกลื่นไหล หรือภาพสวยแค่ไหนแต่ด้วยข้อจำกัดทางเลเวลที่ของหลายอย่างถูกล็อคไว้ปลดท้ายเกมเพื่อตัวเกมจะได้เวลาของผู้เล่นเยอะกว่าเดิมก็เป็นดีไซน์ที่ไม่เคยมีใครชอบมันได้ลง ทำให้ผู้เล่นใหม่ก็หนี Call Of Duty : Black Ops 7 คือเกมที่สมบูรณ์ในแบบของมันแล้ว แต่ในแบบของมันไม่ใช่สิ่งที่ผู้เล่นต้องการ ทำให้ Call Of Duty : Black Ops 7 จะกลายเป็นรอยแผลบนซีรีย์ Call Of Duty ไปอีกนาน