ว่ากันว่าในยุค Social Network แบบปัจจุบันนี้ โซเชียลเองก็เปรียบเสมือนศาลเตี้ยที่สามารถตัดสินชะตาของคนๆ หนึ่งได้เพียงชั่วข้ามคืน บางทีก็เป็นการตัดสินที่ถูกต้อง บางทีก็ถูกใช้เป็นเกมเพื่อให้ได้มาซึ่งเป้าหมายแฝง แต่จากเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นกับผู้โดยสารของสายการบิน United Airlines ที่ปล่อยจองที่นั่งเกินจนต้องมาการยกเลิกที่นั่งของผู้โดยสารกันกลางลำ แถมยังเป็นการยกเลิกที่โชกเลือดไปทั้งหน้าของผู้ถูกกระทำเลยทีเดียว (แม้จะไม่ได้เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่สายการบิน หากแต่เป็นเพราะการทำงานที่เกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำสนามบินก็ตาม) นี่คงเป็นอีกหนึ่งกรณีที่แสดงให้เห็นว่าพลังโซเชียลนั้นไม่ใช่ทำร้ายได้แค่บุคคลเท่านั้น หากแต่อาจหมายถึงการชี้ชะตาบริษัทใหญ่ระดับโลกบริษัทหนึ่งเลยก็เป็นได้
เช้านี้ Fortune นำเสนอข่าวหุ้นของ United Airlines ร่วงลงคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,400 ล้านเหรียญสหรัญ หรือคิดเป็นเงินไทยที่ประมาณ 50,000 ล้านบาท โดยสวนทางกับเทรนด์ที่นักวิเคราะห์คาดการกันไว้ก่อนหน้านี้ว่าข่าวผู้โดยสารถูกบังคับให้ยกเลิกเที่ยวบินนั้นจะส่งผลกับหุ้นของ United Airlines ไม่มากนัก ซึ่งในความเป็นจริงตามรายงานจาก Fortune นั้นพบว่าข่าวนี้เพียงข่าวเดียวส่งผลต่อมูลค่าหุ้นของ United Airlines ที่มีอยู่ในตลาด 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐถึง 4% เลยทีเดียว
นอกจากผลกระทบจากเรื่องหุ้นที่ตกลงมหาศาลแล้ว United Airlines ยังต้องเจอกับปัญหาลูกค้าที่อยู่ในโปรแกรมสะสมไมล์ของตนอย่าง United Continental ทยอยกันยกเลิกบัตรเครดิตร่วมและบัตรสมาชิก โดย United Airlines นั้นผูกเป็นพันธมิตรบัตรเครดิตร่วมกับ Chase และถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้หลักที่ United Airlines ใช้ในการหาเงินมาก่อนหน้านี้ โดยวิธีการนั้นคือ United Airlines จะขายไมล์ให้กับ Chase ในมูลค่าที่สูง เพื่อให้ Chase นำไมล์นั้นไปแจกจ่ายให้กับผู้สมัครบัตรเครดิตของตนที่มียอดใช้งานตามที่กำหนดต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2015 นั้น IdeaWorks คาดการณ์ว่าผลประกอบการรวมจากกิจกรรมต่างๆ ที่ผูกกับพันธมิตรบัตรร่วมอย่าง Chase ที่ United Airlines ได้นั้นมีมูลค่ามากถึง 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 8% ของผลประกอบการรวมของ United Airlines เลยทีเดียว และหากนั่นยั่งฟังแย่ไม่พอ DeNardi ได้ประมาณการไว้ว่าผลประกอบการจากกิจกรรมบัตรร่วมกับ Chase นั้นถือเป็นก้อนที่ทำผลกำไรให้กับบริษัท United Airlines ได้มโหราฬมากที่ประมาณ 60 – 70% เลยทีเดียว เรียกได้ว่า United Airlines เคยได้ไปแบบเป็นกอบเป็นกำจากกิจกรรมที่เกิดจากบัตรเครดิตร่วมกับ Chase มาตอนนี้เมื่อคนทยอยขอยกเลิกบัตรพร้อมตัดบัตรทิ้ง United Airlines ก็เหมือนโดนตัดน้ำเลี้ยงก้อนสำคัญไปด้วยนั่นเอง
Just called @Chase to close my @United Mileage Plus Explorer credit card. #ua3411 pic.twitter.com/DY3jHQEoyO
Advertisement— Zeqing Li (@ZeqingLi) 10 เมษายน 2560
United credit card just cancelled and card cut in half! Bam! #UnitedAirlinesAssault #unitedairlinesnomore pic.twitter.com/oAXJ6id7g4
— Katherine Franke (@ProfKFranke) 11 เมษายน 2560
@united I am re-accommodating you by cancelling my United credit card account. Bye Felicia. #UnitedAirlines #BoycottUnited pic.twitter.com/T8bh5jJV1G
— Nancy Marcus (@NancyMarcusLL) 11 เมษายน 2560
Dear #UnitedAirlines I just “re-accommodated” my credit card.#united pic.twitter.com/oHctrNwPqC
— Alexis Roos (@alexisroos) 11 เมษายน 2560
งานนี้คงเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับกลุ่มธุรกิจและผู้ใช้งาน Social Network ที่เป็นปุถุชนคนธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ ได้ไม่น้อยว่าพลังจากโลกโซเชียลนั้นน่ากลัวเพียงใด ซึ่งหากมันถูกใช้เพื่อถามหาความยุติธรรมให้กับผู้ที่ถูกกระทำอย่างถูกต้องนั้นก็ย่อมเป็นผลดีให้กับผู้ถูกกระทำ แต่ก็อย่าลืมว่ามีบ่อยครั้งทีเดียวที่โซลเชียลของเราถูกหยิบยกไปใช้เพื่อสนับสนุนในสิ่งที่ไม่ค่อยจะถูกต้องนัก และบางครั้งก็กลายเป็นข้อเปรียบของฝ่ายผิดเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นการใช้ Social นั้นมีผลกระทบรอบด้านจริงๆ ทั้งดีทั้งร้าย ก่อนที่เราจะเชียร์หรือเข้าข้างฝ่ายไหน อย่าลืมใช้วิจารณญาณการให้ดีๆ ก่อนนะ APPDISQUS ขอฝากเอาไว้นิดนึง
