Xiaomi ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่มากมายเพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอ AIoT ในตลาดโลก อาทิ แท็บเล็ต Xiaomi Pad Mini, แท็บเล็ต REDMI Pad 2 Pro Series, นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S4 41mm, หูฟัง Xiaomi Open Wear Stereo Pro, สมาร์ทแบนด์ Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition, หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Robot Vacuum 5 และ Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro, ทีวีอัจฉริยะ Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026, กล้องวงจรปิด Xiaomi Smart Camera C701 และอื่นๆ อีกมากมาย
ผลิตภัณฑ์ AIoT รุ่นใหม่เหล่านี้ออกแบบมาเพื่อพลิกโฉมการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ โดยครอบคลุมตั้งแต่การทำความสะอาดบ้านอย่างอัจฉริยะ การติดตามสุขภาพส่วนบุคคล ระบบเสียงที่สมจริง ระบบรักษาความปลอดภัยภายในบ้าน และความบันเทิงยุคใหม่ ทั้งนี้เสียวหมี่ยังคงใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์และพัฒนาวิธีที่ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง โดยรังสรรค์ระบบบ้านอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ปรับปรุงปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับอุปกรณ์ และยกระดับการใช้ชีวิตสมัยใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
ในบทความนี้
Xiaomi Pad Mini: ปลดล็อกประสิทธิภาพการทำงานทุกที่ทุกเวลางด้วยประสิทธิภาพ AI
Xiaomi Pad Mini เปิดตัวในฐานะแท็บเล็ตมินิเรือธงรุ่นแรกของเสียวหมี่ในตลาดโลก โดยมอบประสบการณ์การทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล ให้ภาพที่สดใสและการเชื่อมต่อที่หลากหลายในน้ำหนักที่เบาจึงเหมาะสำหรับนักสร้างสรรค์และมืออาชีพที่เน้นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพในทุกที่ทุกเวลา Xiaomi Pad Mini ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านการพกพาและการทำงานที่คล่องตัว โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผลความละเอียด 3K ขนาด 8.8 นิ้วอันคมชัด และด้วยดีไซน์ในขนาดกะทัดรัดและตามหลักสรีรศาสตร์ จึงทำให้ได้ความสะดวกสบายสูงสุดเมื่อถือใช้งาน
Xiaomi Pad Mini มอบข้อความที่คมชัดและภาพที่สดใสด้วยความละเอียด 3008 x 1880 และ 403 พิกเซลต่อนิ้ว เมื่อผสานเข้ากับอัตราการรีเฟรชที่ปรับได้สูงสุด 165Hz หน้าจอแสดงผลจึงตอบสนองได้อย่างลื่นไหลทั้งการเลื่อนหน้าจอและการร่างภาพ ทั้งยังรองรับ Dolby Vision เพื่อเสริมความคมชัดและรายละเอียดสี พร้อมด้วยความสว่างสูงสุด 700 nits จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการมองเห็นในทุกสภาพแสง Xiaomi Pad Mini ให้คุณใช้งานได้อย่างสบายตาด้วยการหรี่แสง DC แบบเต็มรูปแบบ, การรับรองการป้องกันแสงสีฟ้าจาก TÜV Rheinland-certified Low Blue Light (Hardware Solution) การปราศจากการกระพริบ Flicker-Free และการเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน Circadian Friendly นอกจากนี้ยังตัวอุปกรณ์ยังให้ลำโพงสเตอริโอคู่ ระบบเสียงไร้สายความละเอียดสูง Hi-Res และ Hi-Res Wireless Audio และระบบเสียง Dolby Atmos เพื่อมอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางที่สมจริง
Xiaomi Pad Mini ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้วยมือข้างเดียวตามหลักสรีรศาสตร์ โดยมีขนาดกว้าง 132.03 มม. โดดเด่นด้วยเฟรมกลางไมโครอาร์ค (micro-arc middle frame) และดีไซน์แบบยูนิบอดี้โลหะที่พ่นทรายด้วยเซรามิกในระดับไมครอน ทั้งนี้ในฐานะแท็บเล็ตของแอนดรอยด์รุ่นแรกที่เน้นการออกแบบโดยใช้ SoC โดยมีชิ้นส่วนสำคัญซึ่งประกอบไปด้วย ลำโพง แบตเตอรี่ และมอเตอร์ นั้นถูกจัดวางไว้อย่างสมมาตรรอบโปรเซสเซอร์ จึงช่วยเพิ่มความสมดุลโดยรวมและการจับที่ถนัดมือ นอกจากนี้เพื่อทำให้การใช้งานตัวอุปกรณ์นั้นดียิ่งขึ้น Xiaomi Pad Mini ยังให้อัตราส่วนภาพที่ 16:10 จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับชมในแนวตั้งและประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมอื่นๆ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นตัวอุปกรณ์ยังใช้ Xiaomi HyperAI ที่จะมามอบประสบการณ์การทำงานที่เหนือชั้น ด้วยเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI อีกมากมาย อาทิ AI Writing, AI Speech Recognition, AI Interpreter, AI Art, และ AI Calculator และยังรวมไปถึง Google Gemini และยังรองรับ Circle to Search with Google เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการโต้ตอบระหว่างอุปกรณ์ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย
Xiaomi Pad Mini ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 9400+ ที่สร้างด้วยเทคโนโลยีการผลิต 3 นาโนเมตรอันล้ำสมัย จึงมอบประสิทธิภาพการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับเวิร์กโฟลว์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน แท็บเล็ตรุ่นนี้ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมสำหรับการทำงานทั่วไปแบบไม่หนักมากโดยมีผลการทดสอบประสิทธิภาพอันน่าประทับใจด้วยความสามารถแบบซิงเกิลคอร์และมัลติคอร์ระดับสูง ทั้งยังให้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7500mAh (typ) จึงให้ระยะเวลาการอ่านที่ยาวนานและการเล่นวิดีโอต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีชาร์จเร็ว HyperCharge 67W ซึ่งรองรับการชาร์จแบบย้อนกลับแบบมีสายสูงสุด 18W เพื่อให้ Xiaomi Pad Mini สามารถจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่นๆได้อีกด้วย พอร์ต Type-C คู่ทั้งด้านสั้นและด้านยาว โดยด้านยาวรองรับการถ่ายโอนข้อมูล USB 3.2 Gen 1 เพื่อมอบฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ Xiaomi Pad Mini ยังยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น โดยมาพร้อมปากกา Xiaomi Focus Pen ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แม่นยำและมอบประสบการณ์การเขียนที่เป็นธรรมชาติ พร้อมความหน่วงต่ำระดับมิลลิวินาทีและความไวต่อแรงกดสูง จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานเบาๆ และความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ Xiaomi Pad Mini ยังมากับ Xiaomi Pad Mini Cover ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกที่เรียบหรูดุจหนัง พร้อมสายรัดข้อมือจากหมุดโลหะเพื่อความสะดวกในการพกพาอีกด้วย
แท็บเล็ต Xiaomi Pad Mini พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว โดยมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Gray และ Purple
- Xiaomi Pad Mini รุ่นความจุ 8GB + 256GB วางจำหน่ายในราคา 12,990 บาท เฉพาะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม mi.com และ Shopee พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ Xiaomi Pad Mini รุ่นความจุ 8GB + 256GB ในระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2568 (19:00 น.) – 1 ตุลาคม 2568 รับฟรี Xiaomi Pad Mini Cover มูลค่า 999 บาท
- Xiaomi Pad Mini รุ่นความจุ 12GB + 512GB วางจำหน่ายในราคา 16,990 บาท เฉพาะที่ช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม mi.com และ Lazada พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ Xiaomi Pad Mini รุ่นความจุ 12GB + 512GB ในระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2568 (19:00 น.) – 1 ตุลาคม 2568 รับฟรี Xiaomi Focus Pen และ Xiaomi Pad Mini Cover มูลค่า 3,998 บาท
REDMI Pad 2 Pro: แท็บเล็ตจาก REDMI ที่ให้หน้าจอใหญ่ที่สุดเพื่อความบันเทิงระดับมืออาชีพ
เสียวหมี่เปิดตัวแท็บเล็ต REDMI Pad 2 Pro แท็บเล็ตซีรีส์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการประสบการณ์การรับชมความบันเทิงบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่เต็มอิ่มสมจริง โดยทำให้การรับชมภาพยนตร์และเกมนั้นสมจริงยิ่งกว่าเคยด้วยภาพกราฟิกที่คมชัดและประสิทธิภาพอันลื่นไหล ตัวอุปกรณ์มอบความบันเทิงในชีวิตประจำวันขั้นสุดด้วยการ ผสานรวมของหน้าจอขนาดใหญ่ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เสียงที่สมจริง และฟีเจอร์ที่หลากหลายที่ปรับให้เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างง่ายดาย
หัวใจสำคัญของ REDMI Pad 2 Pro คือหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 2.5K ขนาด 12.1 นิ้ว ที่ให้คุณดื่มด่ำไปกับทุกฉากได้อย่างเต็มอรรถรส ทั้งนี้เทคโนโลยี Dolby Vision มอบสีสันที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นเพื่อภาพที่สมจริง พร้อมอัตราการรีเฟรชที่ปรับได้สูงสุดถึง 120Hz จึงช่วยให้ทุกภาพเคลื่อนไหวนั้นลื่นไหล ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมเกม เล่นเกม หรือการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน และยังโดดเด่นด้วย การหรี่แสง DC รวมไปถึงการรับรองจาก TÜV Rheinland ถึงสามระดับ ได้แก่ Low Blue Light (Hardware Solution), การปราศจากการกระพริบ TÜV Rheinland Flicker-Free และการเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน TÜV Rheinland Circadian Friendly จึงช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาและให้ความรู้สึกสบายตาตลอดการรับชมที่ยาวนาน สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การรับชมที่เหนือระดับยิ่งขึ้นไปอีกขั้น นอกจากนี้ REDMI Pad 2 Pro ยังเติมเต็มประสบการณ์ความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ด้วยระบบลำโพงสี่ตัวจาก Dolby Atmos และระบบเสียงความละเอียดสูงเพื่อเสียงที่เต็มอิ่มและดื่มด่ำ ทั้งยังสามารถเพิ่มระดับเสียงด้วยตนเองสูงสุดได้ถึง 300% จึงทำให้เสียงยังคงดังดังวาลแม้ในสภาวะที่มีเสียงรบกวน
REDMI Pad 2 Pro ถูกออกแบบมาเพื่อมอบพลังความบันเทิงที่ยาวนาน มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุขนาดใหญ่ 12000mAh (typ) ซึ่งเป็นหนึ่งในแบตเตอรี่แท็บเล็ตที่ใหญ่ที่สุดของเสียวหมี่ในตลาดโลก และให้การชาร์จเร็ว 33W จึงสามารถชาร์จได้อย่างรวดเร็วทันใจ พร้อมด้วยการชาร์จแบบย้อนกลับแบบมีสาย 27W จึงช่วยให้สามารถใช้งานเป็นพาวเวอร์แบงค์พกพาสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ REDMI Pad 2 Pro ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังแห่งประสิทธิภาพจากชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 4 Mobile Platform ที่สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยีการผลิต 4 นาโนเมตรที่มีประสิทธิภาพ จึงมอบการใช้งานอันยอดเยี่ยมสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการประสิทธิภาพสูงบนหน้าจอขนาดใหญ่
เพื่อยกระดับประสบการณ์โดยรวม การเชื่อมต่อด้วย Xiaomi interconnectivity ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS นั้นช่วยให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ของเสียวหมี่ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ REDMI Pad 2 Pro ยังรองรับฟังก์ชันต่างๆ เช่น การซิงค์การโทร, การแชร์คลิปบอร์ด, การซิงค์เครือข่าย และ Home Screen+ ซึ่งจะช่วยให้แท็บเล็ตสามารถเข้าถึงและใช้งานแอปและไฟล์ต่างๆ ในโทรศัพท์ได้โดยตรง ทั้งนี้ผู้ใช้ยังสามารถใช้ประโยชน์จากกล้องข้ามอุปกรณ์เพื่อการสนทนาทางวิดีโอที่ยืดหยุ่นและการถ่ายทอดสดแบบหลายมุมมองโดยการเชื่อมต่อกล้องข้ามอุปกรณ์ได้อีกด้วย REDMI Pad 2 Pro ยังขยายขีดความสามารถขึ้นไปอีกขั้นด้วย Google Gemini และ Circle to Search with Google เพื่อการช่วยเหลือที่ดีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่ขยายได้สูงสุดถึง 2TB เพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการจัดเก็บวิดีโอ เอกสาร และโปรเจกต์สร้างสรรค์ต่าง จึงทำให้ REDMI Pad 2 Pro พร้อมมอบความบันเทิงได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส
นอกจากนี้ REDMI Pad 2 Pro ยังมาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเสริมประสิทธิภาพการใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ปากกา REDMI Smart Pen ที่มอบการเขียนและสเก็ตช์ที่แม่นยำและเป็นธรรมชาติ ด้วยแรงกด 4096 ระดับ และความหน่วงต่ำพิเศษระดับมิลลิวินาที และ REDMI Pad 2 Pro Keyboard ขนาดมาตรฐานเพื่อการพิมพ์ที่สะดวกสบายและมอบประสบการณ์การพิมพ์ระดับพีซี ด้วยปุ่มขนาด 16×16 มม.ที่กว้างขวาง ระยะกด 1.3 มม. และระยะห่างระหว่างปุ่ม 19 มม. นอกจากนี้ยังมีห่วงสำหรับปากกาสไตลัสในตัวเพื่อให้สามารถใช้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยเคส REDMI Pad 2 Pro Cover ที่ช่วยปกป้องแท็บเล็ตในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นขาตั้งไปคราวเดียวรวมไปถึงมีที่ใส่ปากกาในตัวเพื่อการใช้งานที่สะดวกสุดๆ
REDMI Pad 2 Pro มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Graphite Gray และ Lavender Purple พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ ในรุ่นความจุ 6GB + 128GB ในราคา 7,999 บาท พิเศษ! เฉพาะลูกค้าที่ซื้อ REDMI Pad 2 Pro รุ่นความจุ 6GB + 128GB ในระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2568 – 3 ตุลาคม 2568 ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ Shopee รับฟรี Xiaomi Smart Band 9 มูลค่า 1,490 บาทและ Shopee Exclusive คูปองมูลค่า 550 บาท หรือเมื่อซื้อผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ mi.com, Lazada และ TikTok shop รับฟรี Redmi Smart Pen มูลค่า 1,999 บาท
นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S4 41mm: การออกแบบอย่างประณีตพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่ครบถ้วน
Xiaomi Watch S4 41 มม. ผสานความประณีตเข้ากับระบบติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายขั้นสูง ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการทั้งสไตล์ที่สวยงามและประสิทธิภาพการใช้งานอันยอดเยี่ยมในทุกๆ วัน ตัวอุปกรณ์ให้หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.32 นิ้ว ด้วยความสว่างสูงสุด 1,500 nits ในโหมดความสว่างสูง พร้อมความละเอียด 466 × 466 ที่คมชัดจึงมอบให้ภาพที่คมกริบและสดใสแม้ในสภาพแสงจ้า ผู้ใช้จึงสามารถตรวจสอบการแจ้งเตือน ติดตามการออกกำลังกาย หรือดูสถานะสุขภาพได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ทำให้สายตาเมื่อยล้า ทั้งนี้ตัวอุปกรณ์มาพร้อมดีไซน์ที่เพรียวบางเพียง 9.5 มม. (ไม่รวมส่วนที่ยื่นออกมา) และน้ำหนักเพียง 32 กรัม (ไม่รวมสาย) เท่านั้นจึงเหมาะสำหรับการสวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าคุณจะใส่ออกกำลังกาย ทำงาน หรือติดตามการนอนหลับก็ตาม Xiaomi Watch S4 41 มม. มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Black, Mint Green, White, และสีพิเศษ Sunset Gold ที่โดดเด่นด้วยสาย Milanese สีทองและเม็ดมะยมประดับเพชรสังเคราะห์ Xiaomi Watch S4 41 มม. มอบตัวเลือกหลากหลายสไตล์เพื่อให้ผู้ใช้ทั้งสวมใส่เพื่อการใช้งานได้จริงและยังทำหน้าที่เป็นเครื่องประดับที่สวยงามอีกด้วย
สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีคือหัวใจสำคัญของ Xiaomi Watch S4 41 มม. ตัวอุปกรณ์มาพร้อมโมดูลวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยมอบการติดตามที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นระหว่างการออกกำลังกายจึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจการออกกำลังกายได้ดีขึ้นและฝึกซ้อมในระดับที่เหมาะสมที่สุด ณ ขณะนี้โหมดการติดตามการนอนหลับประกอบด้วยการวิเคราะห์หลายมิติพร้อมด้วยแผนการปรับปรุงการนอนหลับแบบมีคำแนะนำให้ 21 วัน โดยมอบข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงเพื่อเสริมสร้างการพักผ่อนและสร้างกิจวัตรที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นในระยะยาว และสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ระบบระบุตำแหน่งแบบ GNSS dual-band ยังช่วยให้การติดตามเส้นทางมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นสำหรับนักวิ่ง นักปั่นจักรยาน และนักเดินป่า ทั้งนี้ Xiaomi Watch S4 41 มม. ยังรองรับโหมดกีฬามากกว่า 150 โหมด รวมถึงการว่ายน้ำและสกี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดตามประสิทธิภาพได้ไม่ว่าจะอยู่ในสระว่ายน้ำ บนเนินเขา หรือในยิมก็ตาม นอกจากนี้ฟีเจอร์ Sport Vlog ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมสมาร์ทโฟนจากระยะไกลเพื่อเริ่มบันทึกวิดีโอพร้อมกับแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอัตราการเต้นของหัวใจและแคลอรี่ที่เผาผลาญบนหน้าจอ ตัวอุปกรณ์มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุด 8 วันและการชาร์จเร็ว ผู้ใช้จึงสามารถวางใจได้ว่า Xiaomi Watch S4 41 มม. จะรับมือกับตารางงานที่ยุ่งของคุณได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จอีกต่อไป
นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S4 41mm มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สายยางฟลูออโร สี Black และ สี Mint Green วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 4,690 บาท (จากราคาปกติ 5,690 บาท), สายหนัง สี White วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 5,390 บาท (จากราคาปกติ 6,490 บาท) และสายมิลานีส สี Sunset Gold วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 6,890 บาท (จากราคาปกติ 7,990 บาท) โดยวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop
หูฟัง Xiaomi Open Wear Stereo Pro: เสียงระดับมืออาชีพเพื่อการฟังที่สะดวกสบายตลอดทั้งวัน
หูฟัง Xiaomi Open Wear Stereo Pro ยกระดับประสบการณ์เสียงแบบโอเพนเอียร์ด้วยดีไซน์ที่มีน้ำหนักเบาตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อช่วยให้การฟังที่ยาวนานนั้นสะดวกสบายและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น ดีไซน์ที่มีน้ำหนักเบานี้มาพร้อมระบบรองรับสามจุดและหูฟังแบบเอียงออกด้านนอกที่จะช่วยกระจายแรงกดออกไปจึงช่วยลดความเมื่อยล้าของหูระหว่างการฟังเป็นเวลานาน ทั้งยังใช้สายไทเทเนียมเมมโมรี่ที่ยืดหยุ่นจึงสามารถปรับให้เข้ากับรูปทรงหูที่แตกต่างกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ให้ความกระชับพอดี ไม่หลุดร่วงง่าย ไม่ว่าจะออกกำลังกาย เดินทาง หรือพักผ่อนที่บ้าน นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองจาก TÜV SÜD ว่าสวมใส่สบาย เหมาะสำหรับทั้งไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟและการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังใช้เคสแม่เหล็กขนาดกะทัดรัดที่ปลอดภัยและพกพาสะดวก ให้คุณใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 8.5 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 45 ชั่วโมง เมื่อมีเคส จึงช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลง การโทร หรือการฟังพอดแคสต์ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด เพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น และการชาร์จเร็ว10 นาที ยังให้คุณใช้งานได้ยาวนานถึงสองชั่วโมงเลยทีเดียว
Xiaomi Open Wear Stereo Pro มอบเสียงที่เต็มอิ่มและดื่มด่ำ จึงช่วยให้การฟังเพลง การรับชมภาพยนตร์ และเกมสนุกมากยิ่งขึ้น ระบบไดรเวอร์หลายตัวสร้างสมดุลเสียงเบสที่หนักแน่น เสียงแหลมที่คมชัด และเสียงกลางที่นุ่มนวล ทำให้ทุกรายละเอียดของเสียงถ่ายทอดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติในทุกคอนเทนต์ที่เล่น ทั้งยังมาพร้อมการรับรอง Hi-Res Audio Wireless พร้อมโคเดก LDAC ที่จะช่วยรักษาพื้นผิวเสียงให้คมชัด และช่วยให้ผู้ใช้สัมผัสได้ถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เช่น เสียงร้องและเครื่องดนตรีประกอบ นอกจากนี้ Dimensional Audio ยังปรับการเล่นตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ ทำให้คุณสามารถรับฟังความบันเทิงได้อย่างสมจริงและดื่มด่ำมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน Harman AudioEFX และ Harman Master EQ ก็จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งเสียงได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะคุณต้องการเสียงเบสที่หนักแน่นสำหรับการออกกำลังกาย หรือเสียงที่คมชัดยิ่งขึ้นสำหรับการฟังพอดแคสต์ และยังให้ระบบลดเสียงรบกวน ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่มาให้อีกด้วย จึงช่วยลดเสียงรบกวนได้มากกว่า 60% ผู้ใช้จึงสามารถฟังได้อย่างเต็มที่แม้ในพื้นที่เงียบสงบ เช่น ห้องสมุดหรือสำนักงาน โดยไม่รบกวนคนอื่นที่อยู่ใกล้เคียง
หูฟัง Xiaomi Open Wear Stereo Pro มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titan Gray, Graphite Black และ Sand Gold วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคาพิเศษ 4,590 บาท (จากราคาปกติ 5,590 บาท) ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop
สมาร์ทแบนด์ Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition: การอัปเกรดอันน่าทึ่งสำหรับการติดตามการออกกำลังกายทุกวัน
เสียวหมี่ฉลองการครบรอบ 10 ปีแห่งนวัตกรรมอุปกรณ์สวมใส่ ด้วยการเปิดตัว Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้งานที่ต้องการทั้งสไตล์ที่โดดเด่นและการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดย Xiaomi Smart Band 10 รุ่น Glimmer Gold มาพร้อมรูปลักษณ์ที่พรีเมียมและสามารถใช้เป็นเครื่องประดับได้อีกด้วย เหมาะสำหรับการสวมใส่ที่ยิม ที่ทำงาน หรือแม้แต่ในโอกาสอื่นๆ ที่เป็นทางการ ตัวอุปกรณ์ให้หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.72 นิ้ว ความสว่าง 1500 nits และอัตราการรีเฟรช 60Hz จึงมอบหน้าจอที่สว่างสดใส ลื่นไหล คมชัดแม้ใช้งานกลางแจ้ง และตอบสนองได้อย่างดีเยี่ยมแม้ขณะปัดหน้าจอผ่านแอปหรือตรวจสอบสถิติก็ตาม นอกจากนี้ Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition ยังสามารถสวมใส่เป็นจี้ห้อยคอ หรือที่ห้อยกระเป๋าได้ ทำให้คุณโชว์สไตล์ที่โดดเด่นของคุณได้โดยที่ยังสามารถใช้งานได้จริงอีกด้วย
Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านสุขภาพและการออกกำลังกายของคุณ ด้วยการติดตามการออกกำลังกายและโหมดกีฬามากกว่า 150 โหมด จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารติดตามสถานะความก้าวหน้า ตั้งเป้าหมายส่วนตัว และรักษาแรงจูงใจในการออกกำลังกายประเภทต่างๆ ตัวอุปกรณ์ยังสามารถวิเคราะห์การนอนหลับขั้นสูงและให้ข้อมูลเชิงลึกที่เข้าใจง่าย จึงส่งเสริมการพักผ่อนที่ดีขึ้นและกิจวัตรที่ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้การแสดงอัตราการเต้นของหัวใจยังทำงานร่วมกับอุปกรณ์ฟิตเนสอื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ปั่นจักรยาน เพื่อให้นักปั่นสามารถติดตามความเข้มข้นของการปั่นได้แบบเรียลไทม์และได้รับประโยชน์สูงสุดจากการฝึกซ้อม สายรัดข้อมือขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Xiaomi HyperOS และยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางอัจฉริยะ38อีกด้วย โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ จัดการสไลด์ และควบคุมกล้องจากระยะไกล ทั้งนี้ตัวอุปกรณ์ยังให้คุณปรับแต่งหน้าปัดนาฬิกาได้มากกว่า 200 แบบ และยังให้แบตเตอรี่ขนาด 233mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 21 วัน ในการใช้งานทั่วไป โดยผู้ใช้งานสามารถปรับแต่ง Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเองและเพลิดเพลินไปกับประสิทธิภาพที่ยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
สมาร์ทแบนด์ Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition สี Glimmer Gold วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคาพิเศษ 2,890 บาท (จากราคาปกติ 3,990 บาท) ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop
หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Robot Vacuum 5 และ Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro: การทำความสะอาดบ้านที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย AI
เสียวหมี่เปิดตัวหุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Robot Vacuum 5 Series สองรุ่นที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการทำความสะอาดที่แตกต่างกัน โดย Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro มอบพลังดูดอันเหนือชั้นถึง 20,000Pa เพื่อขจัดฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยง และเศษขยะขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย พร้อมระบบเรดาร์อัจฉริยะแบบพับกลับได้ dToF (Direct Time-of-Flight) ที่ช่วยให้สามารถทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์ได้ต่ำถึง 9.5 ซม. จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงพื้นที่แคบๆ ที่เครื่องดูดฝุ่นทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงทำให้บ้านสะอาดหมดจดโดยไม่เปลืองแรง นอกจากนี้ Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro ยังผสานรวมปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูงเอาไว้ อย่างเช่น ระบบตรวจจับสิ่งสกปรก และระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบกล้องสามตัว ช่วยให้สามารถปรับกลยุทธ์การทำความสะอาดแบบเรียลไทม์และนำทางผ่านสิ่งกีดขวางได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงตัวฐานของเครื่องที่ได้รับการปรับปรุง โดยประกอบไปด้วยการซักด้วยน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 80°C โหมดอัจฉริยะพร้อมอุณหภูมิน้ำที่ตั้งโปรแกรมไว้ได้ล่วงหน้า และวงจรการซักซ้ำอัตโนมัติที่ควบคุมโดยเซ็นเซอร์ตรวจจับสิ่งสกปรก คุณจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้แผ่นม็อบที่สะอาดขึ้นโดยที่คุณแทบไม่ต้องบำรุงรักษา
ในขณะเดียวกัน Xiaomi Robot Vacuum 5 ก็มาพร้อมพลังดูด 20,000Pa และระบบเรดาร์อัจฉริยะแบบพับกลับได้ dToF (Direct Time-of-Flight) เข้าไปในตัวอุปกรณ์สุดเพรียวบางเช่นกัน ตัวอุปกรณ์มีไฟส่องสว่างแบบ S-Cross ที่มีโครงสร้างแบบ dual-line เพื่อการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง โดยสามารถตรวจจับวัตถุที่มีรูปร่างไม่สม่ำเสมอได้อย่างแม่นยำ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนขณะทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ตัวฐานมาตรฐานนั้นยังรองรับอุณหภูมิน้ำที่ปรับแต่งได้ ถาดทำความสะอาดตัวเอง และการเป่าแห้งด้วยลมร้อนนานสองชั่วโมง จึงทำให้การดูแลรักษาประจำวันเป็นเรื่องง่ายและลดความจำเป็นในการทำความสะอาดด้วยมือ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้งานที่มองหาพลังดูดระดับพรีเมียมพร้อมการใช้งานที่ง่ายดาย
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั้งสองรุ่นทำให้ขั้นตอนการทำความสะอาดเป็นเรื่องที่ง่ายดาย โดยมาพร้อมแขนถูพื้นแบบยืดได้สองส่วนและแปรงด้านข้าง จึงครอบคลุมทุกมุมได้ 100% คุณจึงมั่นใจได้ว่าสิ่งสกปรกและฝุ่นจะไม่สะสมตามมุมที่เข้าถึงยาก ตัวอุปกรณ์ใช้แบตเตอรี่ความจุ 5200mAh ที่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 140 นาที และหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั้งสองรุ่นนั้นสามารถชาร์จเต็มได้ในการชาร์จเพียงครั้งเดียวและทำความสะอาดบ้านขนาดใหญ่ได้อย่างต่อเนื่องได้อย่างไม่มีสะดุด
นอกจากนี้ตัวอุปกรณ์ยังทำงานร่วมกับแอป Xiaomi Smart Home ได้อย่างราบรื่น และทำให้การตั้งเวลาและเลือกโหมดการทำงานต่างๆ เป็นเรื่องง่าย ทั้งยังรองรับ Alexa และ Google Assistant ที่ให้คุณควบคุมการใช้งานด้วยเสียงได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย Xiaomi Robot Vacuum 5 และ Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro มอบทางเลือกให้กับผู้ใช้งานระหว่างความเรียบง่ายที่คล่องตัวหรือระบบอัจฉริยะขั้นสูงที่ขับเคลื่อนด้วย AI แต่ในขณะเดียวกันหุ่นยนต์ดูดฝุ่นทั้งสองรุ่นก็มอบพลังดูดที่ทรงพลัง การนำทางที่แม่นยำ และการทำความสะอาดที่ดูแลรักษาง่ายสำหรับบ้านอัจฉริยะยุคใหม่
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Robot Vacuum 5 วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคาพิเศษ 19,990 บาท (จากราคาปกติ 24,990 บาท) ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคาพิเศษ 24,990 บาท (จากราคาปกติ 29,990 บาท) ที่ Xiaomi Store และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ Shopee, Lazada และ TikTok Shop พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Robot Vacuum 5 Pro เป็น 150 เครื่องแรก* รับฟรี Xiaomi Smart Pet Care Air Purifier มูลค่า 4,490 บาท ตั้งแต่วันนี้ไปจนกว่าของแถมจะหมด*
*เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ ของแถมมีจำนวนจำกัด
ทีวีอัจฉริยะ Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026: ความคมชัดและประสิทธิภาพระดับภาพยนตร์ในบ้านของคุณ
เสียวหมี่ยกระดับความบันเทิงภายในบ้านขึ้นไปอีกขั้นด้วยทีวีอัจฉริยะ Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026 ที่จะมอบประสบการณ์การรับชมที่ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี QD-Mini LED ขั้นสูง มีให้เลือกสามขนาดได้แก่ 75 นิ้ว 65 นิ้ว และ 55 นิ้ว โดยทีวีอัจฉริยะซีรีส์นี้นั้นมอบความยืดหยุ่นในการใช้งานให้เหมาะกับขนาดห้องที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ ห้องนอน หรือพื้นที่เล่นเกม ทีวีอัจฉริยะซีรีย์นี้ได้ผสมผสานไฟแบ็คไลท์ Mini LED เข้ากับเทคโนโลยีควอนตัมดอท ทำให้ Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026 มอบสีดำที่เข้มกว่า สว่างกว่า และสีสันสดใสกว่า จึงทำให้ทั้งภาพยนตร์ กีฬา และรายการทีวีต่างๆ ดูคมชัดและสมจริงมากยิ่งขึ้น และด้วยความละเอียดแบบ UHD 4K จึงเพิ่มรายละเอียดที่สมจริงยิ่งขึ้นไปอีก ในขณะที่ HDR10+ และ Dolby Vision นั้นช่วยให้ฉากต่างๆ ดูสวยงามน่าทึ่งแม้จะใช้งานในห้องที่มีแสงสว่างจ้า นอกจากนี้โหมด Filmmaker ยังให้ผู้ชมสามารถสัมผัสกับประสบการณ์ภาพยนตร์ในแบบฉบับของผู้กำกับอีกด้วย โดยมอบสีสันที่แม่นยำและความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์มาไว้ในบ้านของคุณอย่างแท้จริง
Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026 ขับเคลื่อนด้วย Xiaomi Visual Engine Pro ที่ยกระดับความคมชัดด้วยเทคโนโลยีลดแสงสะท้อนที่ช่วยลดแสงจ้า ทำให้ภาพยังคงคมชัดแม้ใช้งานภายใต้แสงแดดหรือแสงจ้าภายในตัวอาคาร ในขณะที่ Global Dimming ช่วยส่งเสริมฉากที่มืดและ Motion Clarity Engine ช่วยให้ภาพกีฬาและฉากแอ็กชันราบรื่นและไม่เบลอ ในด้านเสียงทีวีอัจฉริยะซีรีย์นี้มาพร้อมลำโพงคู่ 15 วัตต์ ระบบเสียงจาก Dolby Atmos และ Harman AudioEFX จึงมอบเสียงที่ดื่มด่ำให้กับบทสนทนา เพลง และเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้อย่างสมดุลราวกับอยู่ในโรงภาพยนตร์โดยที่คุณไม่ต้องใช้ลำโพงเพิ่มเติมเลย ทั้งนี้สำหรับคอเกมตัวยง Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026 มาพร้อมอัตราการรีเฟรช 144Hz และตัวเลือกในการเพิ่มได้สูงสุด 288Hz ทำให้การเล่นเกมลื่นไหล ตอบสนองฉับไว และสนุกมากยิ่งขึ้น โดยครอบคลุมเกมทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นเกมแข่งรถไปจนถึงเกมผจญภัยแบบ open-world นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน Google TV, Apple AirPlay และ Wi-Fi 6 จึงทำให้การสตรีมและการแคสต์จากอุปกรณ์ต่างๆ เป็นไปอย่างราบรื่น Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026 จึงกลายเป็นศูนย์กลางสำหรับความบันเทิง เกม และให้ครอบครัวได้เพลิดเพลินร่วมกันได้อย่างสนุกสนาน
ทีวีอัจฉริยะ Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026 วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ววันนี้ โดยมีขนาดหน้าจอให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ 75 นิ้ว, 65 นิ้ว และ 55 นิ้ว ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่ซื้อ Xiaomi TV S Pro Mini LED Series 2026 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2568 – 19 ตุลาคม 2568 รับฟรีของสมนาคุณ ดังนี้ (*ของสมนาคุณอาจแตกต่างกันไปตามช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ โปรดตรวจสอบกับผู้จัดจำหน่าย)
- Xiaomi TV S Pro Mini LED 55 2026 วางจำหน่ายในราคา 24,990 บาท รับฟรี! Xiaomi Smart Air Purifier 4 Compact มูลค่า 2,990 บาท
- Xiaomi TV S Pro Mini LED 65 2026 วางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท รับฟรี! Xiaomi Smart Air Purifier 4 Lite มูลค่า 4,990 บาท
- Xiaomi TV S Pro Mini LED 75 2026 วางจำหน่ายในราคา 39,990 บาท รับฟรี! Xiaomi Smart Air Purifier 4 Pro มูลค่า 8,990 บาท
กล้องวงจรปิด Xiaomi Smart Camera C701: ความคมชัดระดับ 4K Ultra HD พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI
กล้องวงจรปิด Xiaomi Smart Camera C701 ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของบ้านคุณอย่างอัจฉริยะด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 8MP และเลนส์ออปติคอล 6 ชิ้นสำหรับการบันทึกวิดีโอ 4K Ultra HD โดยโหมด High Dynamic Range (HDR) จะช่วยปรับสมดุลรายละเอียดทั้งในบริเวณที่สว่างและมืด ทำให้คุณมองเห็นใบหน้าของบุคคลและสภาพแวดล้อมได้ง่ายยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ตาม นอกจากนี้การมองเห็นตอนกลางคืนแบบฟูลคัลเลอร์และการจับภาพอินฟราเรดทำให้คุณมองเห็นกิจกรรมต่างที่ไกลออกไปถึง 10 เมตร โดยไม่มีแสงสีแดงที่มองเห็นได้มารบกวน จึงช่วยให้ครอบครัวสามารถมองเห็นเด็กๆ หรือสัตว์เลี้ยงในเวลากลางคืนได้โดยไม่รบกวนการนอนหลับของพวกเขา
สำหรับบ้านที่มีกิจกรรมตลอดวัน Xiaomi Smart Camera C701 ก็มาพร้อมระบบตรวจจับ AI สำหรับสัตว์เลี้ยง ทารก และมนุษย์ และจะมีการส่งการแจ้งเตือนให้กับคุณ โดยผู้ปกครองสามารถรับการแจ้งเตือนเมื่อเด็กร้องไห้เพื่อให้คุณรู้สึกอุ่นใจเมื่ออยู่อีกห้อง ในขณะที่ Pet Detection61 จะติดตามการเคลื่อนไหวและแชร์ข้อมูลที่อัปเดตเพื่อช่วยให้เจ้าของรู้สึกเหมือนอยู่ใกล้ๆ แม้จะไม่ได้อยู่บ้าน นอกจากนี้ฟีเจอร์ตรวจจับมนุษย์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะระบุรูปร่างและการเคลื่อนไหวของมนุษย์และแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงกิจกรรมที่ผิดปกติ พร้อมลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดจากสัตว์เลี้ยง การเปลี่ยนแปลงของแสง หรือการเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่ไม่ใช่มนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ระบบป้องกันเลนส์แบบออนดีมานด์ยังช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัว ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการเปิดหรือปิดกล้องได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งยังมีฟีเจอร์เสริม เช่น การตรวจจับเสียงดังและการตรวจสอบแบบพาโนรามาที่ช่วยเพิ่มการปกป้องขึ้นไปอีกขั้นในการตรวจจับเสียงหรือการเคลื่อนไหวที่ไม่คาดคิดได้อย่างรวดเร็ว
Xiaomi Smart Camera C701 ถูกออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบาย ให้คุณสามารถควบคุมด้วยเสียงผ่าน Google Assistant หรือ Amazon Alexa ให้ผู้ใช้งานสามารถรับชมภาพสดแบบแฮนด์ฟรี51 ทั้งยังให้ระบบเสียงแบบสองทางพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนและลำโพงขนาดใหญ่ จึงช่วยให้คุณสนทนากับครอบครัวหรือสัตว์เลี้ยงได้อย่างเป็นธรรมชาติแบบเรียลไทม์ ในขณะที่ Wi-Fi 6 แบบดูอัลแบนด์จะช่วยให้การเชื่อมต่อนั้นราบรื่นและเสถียร ให้คุณสามารถสตรีมวิดีโอแบบเรียลไทม์และแจ้งเตือนได้อย่างทันใจ ตัวอุปกรณ์ยังจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยผ่านการ์ด microSD หรือระบบคลาวด์เพื่อรักษาภาพที่บันทึกไว้ได้อย่างปลอดภัย
กล้องวงจรปิด Xiaomi Smart Camera C701 วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคาพิเศษ 1,900 บาท (จากราคาปกติ 2,599 บาท) ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop
นอกจากนี้ เสียวหมี่ ประเทศไทย ยังประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AIoT อื่นๆ ที่ Xiaomi Store, ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop อาทิ
- เครื่องฟอกอากาศ Mijia Smart Air Purifier 6 วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 5,790 บาท (จากราคาปกติ 6,990 บาท)
- เครื่องปริ้นพกพา Mi Portable Printer 1S วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 2,399 บาท (จากราคาปกติ 2,999 บาท)
- ลำโพง Xiaomi Sound Party วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 2,990 บาท (จากราคาปกติ 3,990 บาท)
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Xiaomi Robot Vacuum S40 Pro วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 8,490 บาท (จากราคาปกติ 10,990 บาท)
- กล้องวงจรปิด Xiaomi Smart Camera C500 วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 1,550 บาท (จากราคาปกติ 1,999 บาท)
- ลำโพง Xiaomi Sound Pocket สี Blue Gray และ Pink วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 549 บาท (จากราคาปกติ 599 บาท)
- โมเดล Xiaomi SU7 1:18 Die-cast Model Car สี Lava Orange และ Aqua Blue วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 3,699 บาท (จากราคาปกติ 4,999 บาท)
- โมเดล Xiaomi SU7 Ultra: 18 Die-cast Model Car วางจำหน่ายในราคาพิเศษ 4,199 บาท (จากราคาปกติ 5,999 บาท)
