Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Miscellaneous » นักวิจัยพบเทคโนโลยีใหม่ WhoFi ใช้สัญญาณ Wi-Fi แยกระบุบุคคลได้ว่าใครเป็นใคร
Miscellaneous

นักวิจัยพบเทคโนโลยีใหม่ WhoFi ใช้สัญญาณ Wi-Fi แยกระบุบุคคลได้ว่าใครเป็นใคร

WhoFi คือระบบระบุตัวบุคคลผ่านสัญญาณ Wi-Fi ที่ไม่ต้องใช้กล้องหรือมือถือ โดยใช้เทคนิค AI วิเคราะห์ลายเซ็นชีวภาพจากการรบกวนของคลื่นไร้สาย ช่วยให้ระบบตรวจจับแม่นยำ ปลอดภัย และเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
23 กรกฎาคม 20252 Mins Read

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย La Sapienza แห่งกรุงโรม ได้เปิดตัว WhoFi ระบบใหม่ที่สามารถระบุตัวตนของบุคคลได้ด้วยความแม่นยำสูงถึง 95.5% โดยไม่ต้องพึ่งกล้องหรือมือถือเลยแม้แต่นิดเดียว! เทคโนโลยีนี้อาศัยการวิเคราะห์การรบกวนของคลื่น Wi-Fi ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายของมนุษย์เคลื่อนผ่านสัญญาณ ทำให้เกิดลายเซ็นชีวภาพเฉพาะบุคคล ซึ่งถูกประมวลผลผ่านระบบ AI ขั้นสูงที่เรียกว่า Deep Neural Network (DNN)

การวิจัยชิ้นนี้นับเป็นก้าวสำคัญในวงการความปลอดภัยและการติดตามบุคคล โดยเฉพาะในพื้นที่ที่กล้องมองไม่เห็น หรือในกรณีที่บุคคลไม่ได้พกพาอุปกรณ์ใดๆ เลย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพใหม่ของ Wi-Fi ที่ไม่ได้จำกัดแค่การส่งข้อมูลอีกต่อไป แต่ยังเป็นเครื่องมือทางชีวภาพแบบไร้สายที่ให้ทั้งความแม่นยำและความเป็นส่วนตัวในเวลาเดียวกัน

ในบทความนี้

  • WhoFi คืออะไร?
  • มันมีผลกระทบกับใครบ้าง?
  • แล้วมันทำงานยังไง?
  • ความแม่นยำและผลการทดลอง
  • แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?
  • สรุป

WhoFi คืออะไร?

WhoFi คือระบบ ระบุตัวบุคคล (Re-Identification หรือ Re-ID) ที่ไม่พึ่งพาภาพถ่ายหรือข้อมูลจากกล้อง แต่ใช้ คลื่น Wi-Fi และเทคนิคการประมวลผลสัญญาณดิจิทัล โดยอาศัยข้อมูลที่เรียกว่า Channel State Information (CSI) ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะเฉพาะของสัญญาณ Wi-Fi ที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปเมื่อกระทบกับร่างกายมนุษย์

ต่างจากกล้องที่บันทึกแค่รูปลักษณ์ภายนอก Wi-Fi สามารถทะลุสิ่งกีดขวาง เช่น เสื้อผ้า หรือแม้แต่ผนัง และยัง “รู้สึก” ถึงโครงสร้างภายในอย่างกระดูกและอวัยวะได้ในระดับหนึ่ง ทำให้สามารถสร้างลายเซ็นชีวภาพเฉพาะบุคคลที่ไม่ซ้ำกันได้

Advertisement
Advertisement
Advertisement

มันมีผลกระทบกับใครบ้าง?

เทคโนโลยีนี้มี ศักยภาพในการใช้งานหลากหลาย ทั้งในเชิงบวกและที่ต้องพึงระวัง

กลุ่มที่ได้รับประโยชน์:

  • หน่วยงานความปลอดภัย: ใช้ในระบบตรวจจับบุคคลในพื้นที่ที่กล้องไม่สามารถใช้งานได้ เช่น ในที่มืด หรือพื้นที่ส่วนตัว

  • อาคารอัจฉริยะ: สามารถควบคุมอุปกรณ์หรือปรับแสง/อุณหภูมิอัตโนมัติตามคนที่เดินผ่าน

  • ผู้ใช้งานทั่วไป: ได้รับประโยชน์จากระบบที่ปลอดภัยและไม่บุกรุกความเป็นส่วนตัว (ไม่มีภาพถ่าย, ไม่มีเสียง)

  • นักพัฒนา AI และระบบ IoT: เป็นอีกแนวทางใหม่ในการพัฒนาอุปกรณ์ที่เข้าใจบริบทของมนุษย์โดยไม่ต้องใช้เซนเซอร์ราคาแพง

กลุ่มที่ควรกังวล:

  • ผู้ที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว: แม้จะไม่มีภาพหรือเสียง แต่ระบบยังสามารถ “จำ” ตัวบุคคลได้ ซึ่งอาจถูกใช้ในทางที่ผู้ใช้ไม่ยินยอม

  • สถานที่สาธารณะ: หากไม่มีมาตรการควบคุมชัดเจน อาจเกิดคำถามด้านจริยธรรมในการติดตามบุคคล

แล้วมันทำงานยังไง?

หัวใจของระบบ WhoFi อยู่ที่การวิเคราะห์ “ลายเซ็น” ของสัญญาณ Wi-Fi ที่ร่างกายมนุษย์บิดเบือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:

1. Channel State Information (CSI)

คือข้อมูลที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณ Wi-Fi ทั้งในแง่ ความแรง (Amplitude) และ เฟส (Phase) ของคลื่น ซึ่งจะเปลี่ยนไปตามลักษณะร่างกาย เช่น รูปร่าง, การเคลื่อนไหว หรือแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่สวมใส่

2. Deep Neural Network (DNN)

ระบบ AI ถูกฝึกให้ “อ่าน” ลายเซ็นจากข้อมูล CSI ได้ โดยผ่านขั้นตอนต่างๆ:

  • การกรองสัญญาณ: ล้างสัญญาณรบกวนจากแหล่งอื่น

  • การแปลงข้อมูล: นำ CSI มาสร้างลำดับข้อมูลที่ระบบ AI เข้าใจ

  • การเข้ารหัสด้วย Transformer: ใช้โมเดล AI ที่สามารถจับรูปแบบความสัมพันธ์ระยะไกลในข้อมูล (คล้าย GPT ที่ใช้สร้างข้อความ)

  • การสร้างลายเซ็นชีวภาพ (Biometric Signature): ผลลัพธ์สุดท้ายคือเวกเตอร์ที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของบุคคลหนึ่งๆ โดยไม่ซ้ำใคร

3. การเปรียบเทียบเพื่อระบุตัวตน

ระบบจะเปรียบเทียบลายเซ็นใหม่นี้กับฐานข้อมูลเดิม เพื่อระบุว่าบุคคลนี้คือใคร แม้จะย้ายไปอยู่อีกห้อง หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน

ความแม่นยำและผลการทดลอง

จากการทดสอบกับ NTU-Fi dataset ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากผู้ทดลอง 14 คนในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น ใส่เสื้อคลุมหรือสะพายกระเป๋า พบว่า:

  • โมเดลแบบ Transformer ให้ผลแม่นยำสูงสุดถึง 95.5% (Rank-1 Accuracy)

  • แม้จะมีการเปลี่ยนเสื้อผ้า ลักษณะการเดิน หรือสภาพแวดล้อม ก็ยังสามารถระบุตัวตนได้แม่นยำ

  • ดีกว่ากล้องในหลายกรณี เช่น ในที่มืดหรือมีสิ่งกีดขวาง

แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป?

การระบุตัวตนผ่าน Wi-Fi ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว เคยมีงานวิจัยในปี 2020 ภายใต้ชื่อ EyeFi ซึ่งมีความแม่นยำราว 75% แต่ WhoFi พัฒนาไปอีกขั้นด้วยการใช้ Transformer และชุดข้อมูลแบบเปิดเพื่อความโปร่งใส

อนาคตของระบบนี้อาจรวมถึง:

  • การตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ เช่น การล้มในผู้สูงอายุ

  • ระบบตรวจจับผู้บุกรุก ที่ไม่ต้องใช้กล้อง

  • การควบคุมระบบอัตโนมัติในบ้าน แบบรู้ว่า “ใครอยู่ตรงไหน”

สรุป

WhoFi เป็นการรวมกันของความเข้าใจในสัญญาณไร้สายและพลังของ AI ที่เปิดทางให้ Wi-Fi กลายเป็นเทคโนโลยีชีวภาพแบบไม่ต้องสัมผัส (contactless biometric) ที่แม่นยำ เป็นส่วนตัว และมีศักยภาพมากในหลากหลายด้าน

แม้จะมีคำถามเรื่องความเป็นส่วนตัวและจริยธรรม แต่ถ้าใช้ในกรอบที่ถูกต้อง เทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือเปลี่ยนโลกใบนี้ให้ฉลาดขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเชื่อมต่อกับมนุษย์ได้มากขึ้นกว่าที่เคย

ที่มาของข้อมูล

Advertisement
Biometric AI Deep Neural Network Re-Identification WhoFi Wi-Fi Sensing
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
Appdisqus Team
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)
  • Instagram
  • LinkedIn

คอมลัมนิสต์แอ๊คหลุมผู้หลงใหล IT และ Gadget พร้อมสาระความรู้ How To ดีๆ สำหรับการใช้งานมือถือและแท๊ปเบล็ตที่พร้อมจะมาแชร์กับเพื่อนๆ ที่สนใจในเนื้อหาเดียวกัน เพื่อให้พื้นที่ AppDisqus.com เป็นสเปซสำหรับการแบ่งบันโดยแท้จริง

Advertisement
Advertisement
Advertisement
What Score?
8.4
Devices

รีวิวหูฟัง Nothing Headphone (1) เด่นที่ดีไซน์ และระบบเสียง

By Noppinij19 กรกฎาคม 2025
7.5
Android

รีวิว OPPO Pad SE LTE แท็บเล็ตรุ่นคุ้มค่า หน้าจอใหญ่

By Noppinij12 กรกฎาคม 2025
8.2
Devices

รีวิว HONOR 400 5G มือถือกล้อง 200MP ที่ใช้งานได้ดีจริง แบบไม่ต้องจ่ายเยอะ

By Noppinij8 กรกฎาคม 2025
78
Game Review

Review : FATAL FURY: City of the Wolves ฉูดฉาดขึ้น! มันส์ขึ้น! ถูกใจแฟนเกมแน่นอน!

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya2 กรกฎาคม 2025

On AppDisqus Channel

รีวิว Sony WH-1000XM6 หูฟังตัดเสียงรบกวนที่แม่นยำที่สุดของโซนี่! ดียังไง? มีอะไรใหม่?

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Android

OPPO Find X8 Ultra ขึ้นครองแชมป์กล้องสมาร์ตโฟนจาก DXOMARK

By Appdisqus Team23 กรกฎาคม 2025

[ลือ] LEGO เกมใหม่จาก TT Games เน้นจักรวาล Warner Bros. เตรียมเปิดตัวปี 2026

23 กรกฎาคม 2025

Into the Dead: Our Darkest Days อัพเดท Early Access เพิ่มภาษาไทย!

23 กรกฎาคม 2025

ข่าวลือ Battlefield 6 อาจวางขาย 10 ต.ค. 2025

23 กรกฎาคม 2025

มาได้ไง! Google Photos มีปุ่มใหม่ลับๆ ส่งไฟล์ตรงให้ CapCut แก้ไข

23 กรกฎาคม 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Android

OPPO Find X8 Ultra ขึ้นครองแชมป์กล้องสมาร์ตโฟนจาก DXOMARK

23 กรกฎาคม 2025
Gaming

[ลือ] LEGO เกมใหม่จาก TT Games เน้นจักรวาล Warner Bros. เตรียมเปิดตัวปี 2026

23 กรกฎาคม 2025
Xbox & PC World

Into the Dead: Our Darkest Days อัพเดท Early Access เพิ่มภาษาไทย!

23 กรกฎาคม 2025
Gaming

ข่าวลือ Battlefield 6 อาจวางขาย 10 ต.ค. 2025

23 กรกฎาคม 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo