Waymo ประกาศระงับบริการเรียกรถอัตโนมัติในนครซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ ชั่วคราว หลังเหตุไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ทำให้สัญญาณไฟจราจรใช้งานไม่ได้ ส่งผลให้รถไร้คนขับหลายคันหยุดนิ่งกลางสี่แยก กลายเป็นประเด็นคำถามถึงความพร้อมของระบบขับขี่อัตโนมัติในสถานการณ์ฉุกเฉิน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เมื่อเกิดไฟไหม้ที่สถานีไฟฟ้าย่อยของ Pacific Gas & Electric (PG&E) ส่งผลให้ไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ของ San Francisco รวมผู้ได้รับผลกระทบราว 130,000 ราย
แม้ Waymo จะประกาศระงับบริการเรียกรถอัตโนมัติในพื้นที่อ่าวซานฟรานซิสโกทันที แต่ในโซเชียลมีเดียยังพบภาพและวิดีโอรถแท็กซี่ไร้คนขับของบริษัทหลายคันจอดนิ่งอยู่กลางสี่แยก พร้อมเปิดไฟฉุกเฉิน หลังสัญญาณไฟจราจรดับลงทั้งหมด
โฆษกของ Waymo ระบุว่า บริษัทกำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่เมืองอย่างใกล้ชิด และหวังจะกลับมาให้บริการได้อีกครั้งโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม Waymo ไม่ได้อธิบายโดยตรงว่าเหตุใดรถจึงไม่สามารถเคลื่อนตัวออกจากทางแยกได้
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามต่อระบบ Waymo Driver ซึ่งบริษัทระบุว่าสามารถ “ตอบสนองต่อป้ายและสัญญาณจราจร เช่น สีไฟและป้ายหยุดชั่วคราว” ได้ โดยกรณีไฟดับอาจเป็นสถานการณ์ที่ระบบไม่สามารถประมวลผลได้อย่างปลอดภัยเพียงพอ
ด้าน Tesla ก็ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องทางอ้อม เมื่อ Elon Musk ซีอีโอของบริษัท โพสต์บน X ว่า “Robotaxi ของ Tesla ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟดับในซานฟรานซิสโก” ยิ่งตอกย้ำการแข่งขันและการเปรียบเทียบศักยภาพระหว่างเทคโนโลยีรถไร้คนขับของแต่ละค่าย
นักวิเคราะห์มองว่าเหตุไฟดับครั้งนี้สะท้อนความท้าทายสำคัญของรถขับขี่อัตโนมัติในโลกจริง โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างพื้นฐานเมืองไม่ทำงานตามปกติ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่หน่วยงานกำกับดูแลและผู้พัฒนาเทคโนโลยีต้องนำไปพิจารณาเพิ่มเติมในอนาคต
Waymo คืออะไร และเริ่มให้บริการที่ไหน
Waymo คือบริษัทพัฒนาเทคโนโลยีรถขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Vehicle) ภายใต้เครือ Alphabet บริษัทแม่ของ Google โดยมีจุดเริ่มต้นจากโครงการ Google Self-Driving Car Project ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2009 ก่อนจะแยกออกมาเป็นบริษัท Waymo อย่างเป็นทางการในปี 2016
หัวใจหลักของ Waymo คือระบบ Waymo Driver ซึ่งใช้การผสานข้อมูลจากกล้อง เรดาร์ และ LiDAR เพื่อให้รถสามารถรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว ตีความสัญญาณจราจร ผู้ใช้ถนน และตัดสินใจขับขี่ได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์ควบคุม
Waymo เริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์ครั้งแรกในเมือง Phoenix รัฐแอริโซนา ผ่านบริการเรียกรถอัตโนมัติแบบไม่มีคนขับเต็มรูปแบบ (Level 4) ก่อนจะขยายพื้นที่ทดลองและให้บริการไปยังเมืองอื่น ๆ ในสหรัฐฯ เช่น San Francisco, Los Angeles และ Austin
ในกรณีของซานฟรานซิสโก ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ทดสอบที่ท้าทายที่สุด เนื่องจากมีสภาพการจราจรซับซ้อน ถนนแคบ ผู้ใช้ถนนหลากหลาย และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เหตุไฟฟ้าดับครั้งล่าสุดจึงถูกมองว่าเป็นบททดสอบสำคัญ ว่าระบบรถไร้คนขับจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่โครงสร้างพื้นฐานเมือง “ไม่ทำงานตามปกติ” ได้มากน้อยเพียงใด










