The Trump Phone กับข้อมูลที่คลุมเครือ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา และคำสัญญาที่หายไปแล้วว่า จะทำขึ้นในอเมริกา ทุกอย่างถูกถอดออกไปหมดแล้ว
ตอนเปิดตัวครั้งแรก Trump Mobile ของ Trump Organization ก็เล่นใหญ่ไฟกระพริบด้วยสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่น T1 Phone 8002 (สีทอง) ที่โฆษณาว่า “Made in the USA” อย่างภาคภูมิใจ มีทั้งแบนเนอร์ใหญ่เบิ้มบนหน้าเว็บ โปสเตอร์ ป้ายโชว์… เอาเป็นว่า ถ้าคำว่า “ผลิตในอเมริกา” เป็นคน มันคงต้องขึ้นเวทีปราศรัยแล้ว
แต่ล่าสุด ทุกคำที่เกี่ยวกับการผลิตในสหรัฐอเมริกา ถูกลบหายวับไปจากเว็บไซต์ Trump Mobile เรียบร้อยแล้วครับ…
แทนที่ด้วยคำโปรยใหม่ที่…พยายามอเมริกันจ๋าแบบไม่ระบุพิกัด เช่น
“Premium Performance. Proudly American.”
“ประสิทธิภาพระดับพรีเมียม ภูมิใจที่เป็นอเมริกัน”
(แต่ไม่ได้บอกว่าผลิตที่อเมริกา)Advertisement Advertisement Advertisement“Designed with American values in mind.”
“ออกแบบด้วยค่านิยมแบบอเมริกันในใจ”
(ใจอเมริกัน แต่ชิปอาจมาจากจีนแท้ทั้งแผง)“American hands behind every device.”
“มีมือชาวอเมริกันอยู่เบื้องหลังทุกเครื่อง”
(หรือเขาหมายถึงมือคนอเมริกาที่กดสั่งซื้อ หรือเป็นมือที่เอื้อมมาสั่งประกอบในโรงงานแถวเอเซียหรือเปล่า?)
และไม่ใช่แค่เรื่องถิ่นกำเนิดเท่านั้นครับ เพราะเว็บไซต์ยังลดขนาดหน้าจอจาก 6.78 นิ้วเหลือ 6.25 นิ้วแบบไม่บอกกล่าว แถมสเปก RAM จากเดิมที่เคยบอกว่า 12GB ตอนนี้หายไปเลย ไม่เหลือแม้แต่คำว่า “RAM” ในเว็บ
ทั้งหมดนี้ทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่า Trump Mobile กำลังเปลี่ยนซัพพลายเออร์เงียบๆ หรือจริงๆ แล้ว… มันอาจไม่เคยมีอยู่จริง? เพราะสิ่งเดียวที่ยังอยู่เหมือนเดิมคือภาพ Photoshop ของเครื่องโทรศัพท์ ที่ยังดูปลอมเหมือนถูกเรนเดอร์จากมือถือเมื่อปี 2010
และสุดท้าย! ตอนแรกเคยบอกว่าจะวางขายกันยายนนี้ ตอนนี้เหลือแค่ “ภายในปีนี้” ก็แล้วกัน…
ทั้งหมดนี้เลยฟังดูเหมือนแค่ “อเมริการีแบรนด์มือถือจีน เอามาติดโลโก้ทอง” แต่สิ่งที่น่ากังวลกว่าคือ การเปลี่ยนแปลงข้อมูลเงียบๆ โดยไม่ชี้แจง ทั้งเรื่องสเปก ขนาดหน้าจอ วันวางจำหน่าย หรือแม้แต่จุดขายใหญ่สุดอย่าง “ผลิตในอเมริกา” ที่หายไปแบบเนียนๆ
ในยุคที่ความโปร่งใสคือสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญ การซ่อนข้อมูล การพูดคลุมเครือ หรือการใช้คำโฆษณาแบบจับต้องไม่ได้ จนดูเป็นแค่เรื่องตลด และในกรณีของ Trump Phone นี้… การหยิบชื่อ Trump มาผูกกับกระแสความภูมิใจในชาติแบบอเมริกัน กลับยิ่งตอกย้ำภาพของโปรเจกต์ที่ดูเหมือนจะ “จริงไม่สุด” และน่าเชื่อถือน้อยลงทุกที ยิ่งขุดยิ่งเจอแต่ความคลุมเครือ มากกว่าจะเจอความโปร่งใสอย่างที่ควรจะเป็น
ข้อมูลจาก theverge.