รายงานล่าสุดเผยว่า ราคาหน่วยความจำ (RAM และ NAND storage) ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ผลิตชิปหันไปให้ความสำคัญกับตลาดเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูล AI มากกว่าตลาดมือถือ ส่งผลให้แบรนด์สมาร์ตโฟนอย่าง Xiaomi, OPPO และ Vivo ต้องชะลอการสั่งซื้อและอาจเผชิญกับภาวะขาดแคลนในเร็ว ๆ นี้
ตามรายงานจาก Jiemian News ที่เผยแพร่ผ่านบัญชี @Jukanlosreve บน X (Twitter) ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ในจีนอย่าง Xiaomi, OPPO และ Vivo ได้หยุดการสั่งซื้อหน่วยความจำจากซัพพลายเออร์รายสำคัญ เช่น Samsung และ Micron เนื่องจากราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
แหล่งข่าวจากผู้ผลิตมือถือรายหนึ่งในจีนระบุว่า บริษัทกำลังเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบาก: จะลดสเปกของรุ่นใหม่ลง หรือจะขึ้นราคาสินค้าเพื่อรักษากำไร ซึ่งทั้งสองทางเลือกล้วนส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่มีการแข่งขันสูงอย่างสมาร์ตโฟนระดับกลางและเรือธง
สาเหตุหลักของการขึ้นราคาหน่วยความจำมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากฝั่งศูนย์ข้อมูล AI โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ในการฝึกและรันโมเดลปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งต้องการ RAM และ NAND flash ในปริมาณมากและมีความเร็วสูง ผู้ผลิตชิปจึงหันไปจัดสรรกำลังการผลิตให้กับลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น
รายงานระบุว่า ผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ยินดีจ่ายราคาที่สูงกว่าผู้ผลิตสมาร์ตโฟนถึง 30% หรือมากกว่านั้น ทำให้ซัพพลายเออร์เลือกขายให้กับกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีกว่า ส่งผลให้ตลาดมือถือถูกลดความสำคัญลงในสายตาของผู้ผลิตชิป
นอกจากนี้ ผู้ผลิตหน่วยความจำอย่าง Micron, Samsung และ Kioxia ยังเริ่มลดกำลังการผลิต NAND flash ลงอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อควบคุมปริมาณสินค้าในตลาดและผลักดันให้ราคาสูงขึ้น ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ในช่วงที่อุปสงค์สูงแต่กำลังผลิตมีจำกัด
แม้รายงานจะเน้นไปที่แบรนด์จีนเป็นหลัก แต่ปัญหานี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศจีนเท่านั้น เพราะผู้ผลิตสมาร์ตโฟนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Samsung, Apple หรือแบรนด์อื่น ๆ ต่างใช้ซัพพลายเชนเดียวกัน และเมื่อราคาหน่วยความจำสูงขึ้น ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้นทุนการผลิตจะเพิ่มตามไปด้วย
หน่วยความจำถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของต้นทุนการผลิตสมาร์ตโฟน โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้คาดหวัง RAM ขั้นต่ำ 8GB และพื้นที่เก็บข้อมูลระดับ 256GB ขึ้นไป การขึ้นราคาของส่วนประกอบเหล่านี้จึงส่งผลโดยตรงต่อราคาขายปลีกของสินค้า
รายงานยังระบุว่า ราคาหน่วยความจำมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 ซึ่งอาจทำให้สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปีหน้านี้มีราคาสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะรุ่นเรือธงและรุ่นกลางระดับพรีเมียม







