Samsung Galaxy Tab S11 และ S11 Ultra แท็บเล็ตพรีเมียมสำหรับสายทำงานตัวจริง
Galaxy Tab S11 และ Galaxy Tab S11 Ultra แสดงให้เห็นชัดว่า Samsung ต้องการตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับการทำงานอย่างจริงจัง สามารถทดแทนการพกพาแล็ปท็อปขนาดใหญ่ได้ โดยมีตัวเลือกมาให้สองขนาดหน้าจอ สองความจุแบตเตอรี่ และขนาดหน่วยความจำที่แตกต่างกัน
รุ่น Ultra เหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว วางเป็นสเตชั่นทำงานได้สบาย เปิดหลายแอปพร้อมกันโดยไม่อึดอัด และใช้แบตเตอรี่ขนาด 11600mAh ทำงานยาวนานได้แบบข้ามวัน
ส่วนรุ่น Galaxy Tab S11 เน้นความกะทัดรัด หน้าจอ 11 นิ้ว ถือใช้งานมือเดียวได้ถนัด น้ำหนักเบา พกติดตัวไปไหนก็สะดวก
ทั้งสองอุปกรณ์มีประสิทธิภาพสูง รองรับทั้งการทำงาน การเรียน จัดการเอกสาร หรือแม้แต่การเล่นเกม สามารถเดินไปใช้งานไป และติดตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลา
เสริมด้วยฟีเจอร์ระดับท็อปที่เหนือกว่าใครในตลาด ไม่ว่าจะเป็น S Pen ที่มากับดีไซน์ใหม่, DeX Mode ที่อัปเกรดล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อจอแบบไร้สาย และมีระบบ Multiple Workspace ที่เป็นส่วนหนึ่งของ DeX Mode บน One UI 8.0 สามารถเพิ่มและแบ่งพื้นที่การทำงานได้สูงสุด 4 เดสก์ท็อป (สามารถเปิดได้เดสก์ท็อปละ 5 หน้าต่าง) ทำให้สามารถสลับเดสท็อปทำงานได้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เหล่านี้นับเป็นฟีเจอร์ที่สุดยอดมากๆ ที่ทำให้ Galaxy Tab S11 Series เหนือกว่าด้วยระบบในการใช้งานจริง และยังมีฟีเจอร์ AI เข้ามาช่วยทำงานได้อย่างครบเครื่องและพร้อมมากที่สุดจาก Samsung
ถือว่าเป็นแท็บเล็ตตัวตลาดบนที่ซื้อแล้วใช้งานได้คุ้มค่า โดยเฉพาะความคุ้มกว่าใครในระยะยาว เพราะมีการันตีการอัปเดตระบบให้ยาวนานถึง 7 เวอร์ชั่น และอัพเดตระบบความปลอดภัยนานถึง 7 ปี ไม่มีใครกล้าให้ขนาดนี้อีกแล้วครับ ถ้าไม่ใช่ Samsung
The Good
- หน้าจอใหญ่ Dynamic AMOLED 2X ความละเอียดสูง รีเฟรชเรท 120Hz ขอบจอบาง เต็มตา
- ตัวเครื่องบาง แม้จอใหญ่แต่น้ำหนักจัดการได้ดี ใช้วัสดุแกร่ง Armor Aluminum
- แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน รองรับชาร์จเร็ว 45W
- มาพร้อม S Pen ดีไซน์ใหม่ เขียนลื่น เหมือนปากกาจริง ใช้งานคู่กับระบบ Quick Tools ใหม่ได้สะดวก
- กันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68 ทั้งตัวเครื่องและ S Pen
- ระบบเด่น Multiple Workspace แยกเดสท็อปใช้งานได้สูงสุด 4 Desktop
- รองรับ DeX Mode ใหม่ และต่อจอใช้ DeX Mode แบบไร้สายได้
- Galaxy AI และ Google Gemini ให้มาพร้อมใช้ และประมวลผลได้รวดเร็ว
- ลำโพงสเตอริโอ 4 ตัว เสียงดีมาก
- รองรับการใส่ซิมการ์ดและ eSim สามารถโทรเข้าโทรออกได้
- รองรับการอัปเกรด 7 เวอร์ชั่น และอัพเดตระบบความปลอดภัยนาน 7 ปี
The Bad
- ไม่มีอะแดปเตอร์ชาร์จแถมในกล่อง
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. บนตัวเครื่อง
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชันและประโยชน์ในการใช้งาน
เปิดตัวออกมาแล้วกับแท็บเล็ตใหม่ล่าสุดอย่าง Galaxy Tab S11 และ Galaxy Tab S11 Ultra แท็บเล็ตระดับพรีเมียมของ Samsung ด้วยการออกแบบที่บางและเบาอย่างมาก จนสามารถพกพาไปได้ทุกที่ ไม่ว่าจะนั่งทำงานที่ออฟฟิศ เดินเข้าห้องเรียน หรือไปพักผ่อนนั่งเล่นในคาเฟ่ พร้อมความแข็งแรงแบบสุดๆ ที่สามารถรู้สึกได้ตั้งแต่แรกจับ
ตัวเครื่องยังรองรับระบบการทำงานที่เพิ่มเข้ามาใหม่ๆ สะดวกขึ้น ฉลาดมากขึ้น ในแบบที่คุณจะหลงรักได้เลยละกับการทำงานของมัน ทั้งเรื่องเล่นทั้งเรื่องเรียน หรือแม้แต่ใช้ทำงาน ระบบใหม่ออกแบบมาได้ดีมาก โดยเฉพาะ Multiple Workspace ที่เป็นส่วนหนึ่งของ DeX Mode ใหม่บน One UI 8.0 เป็นความสามารถที่พิเศษมาก ซึ่งเราจะมีการอธิบายให้ได้รู้จักกันในบทความรีวิวนี้
แน่นอนว่า Galaxy Tab S11 Series ต้องมาพร้อมกับฟีเจอร์ AI ของทาง Samsung ที่โดดเด่นอยู่แต่เดิม พร้อม S Pen ตัวเก่ง แต่ว่ามาเป็นรุ่นใหม่ ใช้รูปทรงหกเหลี่ยมแบบดินสอ ไม่ต้องชาร์จไฟ ใช้งานได้ตลอดกาลโดยที่แบตไม่หมด ช่วยให้การใช้งานทำได้ง่ายทีสุดแล้วสำหรับอุปกรณ์เขียนหน้าจอของแท็บเล็ตในปัจจุบัน ไม่ต้องชาร์จ ไม่ต้องซื้อ แถมมาให้ และยังได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม ร่วมกับระบบที่ออกแบบมาให้ทำงานด้วยกันโดยตรง
Galaxy Tab S11 และ Galaxy Tab S11 Ultra สองรุ่นนี้หลักๆ จะแตกต่างกันที่ขนาดหน้าจอและแบตเตอรี่เป็นหลักเท่านั้นครับ โดย Galaxy Tab S11 Ultra มาพร้อมหน้าจอ 14.6 นิ้วและแบตเตอรี่ 11600mAh ส่วน Galaxy Tab S11 จะมีหน้าจอ 11 นิ้วและแบตเตอรี่ 8400mAh
แต่ในเรื่องของระบบจะเหมือนกันทั้งหมด สเปกและฟีเจอร์มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และต่อจากนี้ เราจะพาทุกคนไปดูทีละด้านของทั้งสองอุปกรณ์นี้ ว่ามีอะไรที่น่าสนใจและแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ
ในบทความนี้
ดีไซน์และหน้าจอ
Galaxy Tab S11 Ultra สเตชั่นแห่งการทำงานและความบันเทิง
เริ่มจากรุ่นใหญ่สุดในตระกูลอย่าง Galaxy Tab S11 Ultra ที่มากับจอ Dynamic AMOLED 2X ขนาดใหญ่ถึง 14.6 นิ้ว เป็นแท็บเล็ตที่หน้าจอใหญ่มาก สำหรับคนที่ต้องการความเต็มตา พื้นที่การใช้งานแบบจัดเต็ม เป็นเหมือนสเตชั่นส่วนตัวที่เราพร้อมจะอยู่กับมันทุกการใช้งาน
ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่มาก และมีความละเอียดสูง 2960 x 1848 พิกเซล (WQXGA+) อัตรารีเฟรชเรต 120Hz มีขอบจอบางมากมีขนาดเพียงแค่ 5.2 มม. เท่านั้น ซึ่งถือว่านี่เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดในตลาดเอเชียตอนนี้ ผสานกับกระจกที่มีการเคลือบ Anti-reflection ทำให้การใช้งานในทุกสถานที่จะมีแสงสะท้อนน้อยมาก โดยมีอัตราการสะท้อนแสงต่ำกว่า 2% รองรับการสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอโดยตรง
การออกแบบที่เน้นความบางเฉียบ ตัวเครื่องมีขนาด 208.5 x 326.3 x 5.1 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 695 กรัม แม้จะเป็นรุ่นที่มีหน้าจอใหญ่ แต่ยังสามารถหยิบไปใช้ทำงานนอกสถานที่ได้ไม่ลำบาก บางกว่าตัวปากกา S Pen ที่แถมมาให้ซะอีก แต่วัสดุหลักเป็น Armor Aluminum ที่ให้ทั้งความแข็งแรงและน้ำหนักที่สมดุล
ในด้านการป้องกัน Galaxy Tab S11 Ultra ผ่านมาตรฐาน IP68 ทั้งตัวเครื่องและ S Pen ดีไซน์ใหม่ ที่มาพร้อมในกล่อง ทำให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าใช้งานได้อย่างทนทานต่อฝุ่นและน้ำ
อีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์หน้าจอใหญ่ รองรับการทำงานร่วมกับ One UI 8.0 และโหมด DeX ที่อัปเกรดใหม่ เพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้ใกล้เคียงกับแล็ปท็อปมากขึ้น ข้อดีคือ ชัด! ใหญ่! ภาพสวย พื้นที่ทำงานเยอะ เปิดทำงานหลายแอปก็ยังเห็นได้ชัด แต่เครื่องบางเบา พกง่าย แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ทั้งวัน เป็นสเตชั่นการทำงานและความบันเทิงได้แบบเต็มอรรถรส 100%
Galaxy Tab S11 แท็บเล็ตจอ 11 นิ้วที่ถือใช้งานได้ด้วยมือเดียว
ส่วน Galaxy Tab S11 เป็นรุ่นขนาดจอเล็กกว่า คงคาแรกเตอร์ระดับพรีเมียมเอาไว้ในแบบเดียวกัน หน้าจอใช้พาแนล Dynamic AMOLED 2X เช่นเดียวกัน ขนาดอยู่ที่ 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล (WQXGA) และรีเฟรชเรต 120Hz ขอบจอบาง 7.8 มม.
จุดเด่นของเจ้าตัวนี้คือขนาดที่กะทัดรัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแท็บเล็ตพรีเมียมสำหรับการพกพา เดินถือใช้งานได้คล่องตัวอิสระ ตัวเครื่องมีขนาด 165.3 x 253.8 x 5.5 มิลลิเมตร เท่านั้นเอง
มีน้ำหนักรวมประมาณ 482 กรัมสำหรับรุ่น Wi-Fi และ 484 กรัมสำหรับรุ่น 5G ด้วยรูปทรงที่บางและเบา การกระจายน้ำหนักทำได้ยอดเยี่ยม ผู้หญิงมือเล็กๆ ก็สามารถถือใช้งานมือเดียวได้ครับ
ตัวนี้สำหรับคนอยากได้อุปกรณ์ที่เดินไป ใช้ไป ติดตัวได้ตลอดทั้งวัน
เล็กแต่แข็งแกร่งมาก วัสดุยังคงใช้เป็น Armor Aluminum ไม่ต้องกลัวการเสียหายบุบงอหรือบิดแตกได้ง่าย แค่ได้ลองจับก็จะรู้สึกถึงความแข็งแรงแล้วครับ
จากที่ลองใช้เจ้า Galaxy Tab S11 บอกเลยว่าฟินมากๆ กับความคล่องตัว ไม่ต้องหาที่วาง ถือเล่นเกมได้เหมือนสมาร์ตโฟน แต่เห็นอะไรได้ชัดกว่า มีพื้นที่ทำงานกว้างกว่า
ใครที่รู้สึกว่าหน้าจอสมาร์ตโฟนมันเล็กเกินไป แนะนำรุ่นนี้ครับ โดยเฉพาะใครอยากอ่านหนังสือบนแท็บเล็ต รับรองคนสายตาสั้นถูกใจสิ่งนี้แน่นอน ^^
ทั้งสองรุ่นผลิตมาในมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 สามารถลุยฝน, โดนความชื้น หรือจะเข้าไปใช้ในห้องน้ำก็ไม่มีปัญหาครับ สามารถโดนน้ำได้จากทุกทิศทาง
และไม่ว่าจะเป็น S11 Ultra หรือ S11 ทั้งคู่ต่างมาพร้อมกับลำโพงเสียงดี 4 ตัว คุณภาพเสียงสุดยอดมาก ตัวเครื่องบางๆ แต่ลำโพงดังกระหึ่ม ใช้ฟังเพลงดูหนังภายในห้องแทนเครื่องเสียงได้เลยละครับ
S Pen ทรงใหม่: เขียนลื่นเหมือนปากกาจริง
ทั้ง Galaxy Tab S11 Ultra และ Galaxy Tab S11 มาพร้อม S Pen ดีไซน์ใหม่แบบหกเหลี่ยมเหมือนดินสอ ด้วยความเหลี่ยมทำให้จับถนัดมือมากขึ้น
หัวปากกาเป็นทรงกรวย ทำมุมองศาใหม่ให้เขียนในมุมเอียงได้เป็นธรรมชาติกว่าเดิม เวลาจดโน้ต วาดภาพ หรือขีดเส้น ให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการใช้ปากกาจริงมากๆ ผมยกให้ S Pen เป็นอุปกรณ์เขียนหน้าจอที่ดีที่สุดอยู่เช่นเดิม
รุ่นนี้ใช้ S Pen ที่ไม่ต้องชาร์จไฟ แบตเตอรี่ไม่มีวันหมดแม้จะมีปุ่มควบคุมอยู่บนตัวปากกาก็ตาม ใช้ง่าย เก็บง่าย มีที่เก็บปากกาเป็นแม่เหล็กบนขอบตัวเครื่องด้านบน
มีฟีเจอร์ใหม่สำหรับ S Pen ใส่เข้ามาด้วยอย่าง Quick Tools สามารถเรียกใช้งานได้ใน Samsung Notes หรือแอปวาดภาพอย่าง PENUP ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหัวปากกา เปลี่ยนสี หรือรูปแบบการเขียนได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่มบนตัวปากกา
ซึ่งออกแบบมาได้ดีมากครับ สามารถจัดการได้ง่ายและไวขึ้นไม่ใช่แค่การวาดภาพ เพราะรวมเข้ากับคำสั่งเรียกใช้งาน AI อย่างตัวช่วยเขียน ตัวช่วยสรุปข้อความ งานเอกสารต่างๆ คำสั่งลัดถูกใส่เข้ามารวมให้เรียกใช้ผ่าน S Pen ไว้เยอะมากในฟีเจอร์นี้
สำหรับผม S Pen จึงไม่ใช่แค่ตัวแท็บเล็ต+ปากกาเขียนหน้าจอแบบทั่วไป แต่มันคือการใส่ระบบที่ทำงานคู่กันตั้งแต่เริ่ม ใช้ได้เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน มีฟังก์ชั่นที่มากกว่าและทำงานกับระบบได้ลึกกว่าแบรนด์ใดๆ ที่มีอยู่ในตลาด ที่สำคัญไม่ต้องซื้อเพิ่มให้เสียตังค์แต่อย่างใด
คุณภาพระดับมือโปร เพราะแม้แต่การทำงานของมืออาชีพก็ยังรองรับได้สบายๆ ได้คำการันตีจากปากผู้เชี่ยวชาญว่าปากกาทรงใหม่นี้ “มันจับถนัดมากขึ้นกว่าเดิมจริงๆ” ^^ เหมือนทรงดินสอไม้ในสมัยเด็กที่เราคุ้นเคย
แบตเตอรี่และระบบชาร์จ
หนึ่งในจุดต่างที่ชัดเจนของซีรีส์ Galaxy Tab S11 ทั้งสองรุ่น อยู่ที่ความจุแบตเตอรี่ที่แตกต่างกันของทั้งสองรุ่น ซึ่งการันตีให้เลยว่าแบตเตอรี่อึดมากกกกก ทั้งสองตัวครับ
Galaxy Tab S11 Ultra มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 11600mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45W ขนาดความจุนี้สามารถทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานมาก จากที่ทดสอบใช้ สามารถเล่นเกมหรือใช้งานต่อเนื่องได้มากกว่า 24 ชั่วโมง หมายถึงสามารถนำมาเปิดคลิป Youtube ข้ามวันได้โดยไม่ต้องปิดไม่ต้องชาร์จแบต
ทำให้ S11 Ultra เหมาะจะเป็นศูนย์กลางการทำงานแบบจริงจัง พกพาใช้งานนอกบ้านได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ระหว่างวันเลยครับ
ขณะที่ Galaxy Tab S11 ให้แบตเตอรี่ความจุ 8400mAh รองรับการชาร์จเร็ว 45W เช่นเดียวกัน ตัวเลขที่เล็กกว่า Ultra แต่หน้าจอก็เล็กกว่า กินพลังงานน้อยกว่า และขนาดแบต 8400mAh บนตัวเครื่องแค่นี้ ถือว่าสุดๆ แล้วกับความอึด ชั่วโมงทำงานแทบไม่ต่างกันกับรุ่นจอใหญ่ ออกไปใช้นอกบ้าน ใช้เล่นเกม อ่านเอกสาร หรือดูวิดีโอระหว่างเดินทาง มั่นใจได้เลยว่าสำหรับการทำงานทั่วไปในหนึ่งวัน แบตเตอรี่ไม่มีทางหมด เปิดเล่นเกมไป 10 ชั่วโมง แบตยังเหลือเกือบครึ่ง
**ทั้งคู่จะไม่มีอะแดปเตอร์แถมมาให้ภายในกล่องนะครับ ทาง Samsung แยกจำหน่ายต่างหาก
การเชื่อมต่อและการใส่ซิม
Galaxy Tab S11 Ultra มีเข้ามาจำหน่ายในรุ่นรองรับ 5G (Sub-6), Wi-Fi 7 และ Bluetooth 5.4 ทำให้สามารถออนไลน์ได้รวดเร็วครับ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือทำงานนอกสถานที่ รองรับการใช้งานทั้ง pSIM และสามารถใช้ eSIM ได้ด้วย
ในขณะที่ Galaxy Tab S11 มีทางเลือกให้ผู้ใช้สองรุ่น คือรุ่นรองรับ 5G+Wi-Fi (ระบบ pSIM + eSIM เช่นเดียวกัน) และรุ่น Wi-Fi ที่ไม่รองรับ 5G การเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Wi-Fi 6E และ Bluetooth 5.4
ให้ถาดใส่ซิมมาเป็นแบบรองรับการใส่ microSD Card ได้ เพิ่มสูงสุด 2TB ในรุ่น 5G ทั้งสองอุปกรณ์ จะสามารถโทรออกรับสายได้เหมือนกับสมาร์ตโฟนครับ
ประสิทธิภาพการทำงาน และการอัปเกรด OS ให้ยาวถึง 7 เวอร์ชั่น + อัพเดทความปลอดภัย 7 ปี
หัวใจสำคัญของซีรีส์นี้คือการใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ MediaTek Dimensity 9400+ (DX4+) ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 3 นาโนเมตร ช่วยให้การทำงานของ AI และการประมวลผลโดยรวมเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน ทั้งด้าน CPU (+28%), NPU (+21%) และ GPU (+38%) เมื่อเทียบกับ Galaxy Tab S10 Series
ระบบปฏิบัติการและการอัปเดตที่การันตีให้ถึง 7 ปีเต็ม
ทั้ง Galaxy Tab S11 Ultra และ Galaxy Tab S11 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 16 ครอบด้วย One UI 8.0 เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนแท็บเล็ตโดยเฉพาะ จุดเด่นคือการรองรับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการได้ถึง 7 ครั้ง และการอัปเดตความปลอดภัยอีก 7 ปีเต็ม ทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานได้ระยะยาวโดยไม่ตกเทรนด์ด้านซอฟต์แวร์แน่นอนไปจนถึงปี 2032 โน้นเลยครับ
สำหรับ Galaxy Tab S11 Ultra จัดเต็มด้วย RAM 12GB และหน่วยความจำภายในให้เลือก 256GB หรือ 512GB และด้วยรองรับการเพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 2TB สเปกนี้ทำให้ Ultra เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้ตัดต่อวิดีโอ การทำงานเอกสารขนาดใหญ่
ในขณะที่ Galaxy Tab S11 มีตัวเลือกหน่วยความจุเพียงรุ่นเดียวคือ RAM 12GB + ROM 128GB หน่วยความจำดูจะน้อย ไม่เน้นจัดเก็บไฟล์ใหญ่ แต่ยังไงก็รองรับการเพิ่ม microSD ได้สูงสุด 2TB เช่นเดียวกัน เหมาะกับคนที่เน้นการพกพาและใช้งานทั่วไป เช่น เล่นเกม ใช้แอปทำงานเอกสาร หรือเรียนออนไลน์ มากกว่าการทำงานไฟล์หนัก ๆ ที่ต้องอาศัยพื้นที่จัดเก็บภายในตัวเครื่องขนาดใหญ่
ทั้งคู่ยังมาพร้อมระบบ Vapor Chamber สำหรับช่วยระบายความร้อน ทำให้การใช้งานต่อเนื่องยาวนานมีความเสถียรมากขึ้น จากการทดสอบตัดต่อคลิป หรือเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ ตัวเครื่องไม่มีความร้อนสะสมใดๆ ให้ต้องเป็นกังวลเลยครับ ระบบระบายความร้อนทำได้ดีมาก
แรง หน้าจอใหญ่ และให้ RAM ขนาดใหญ่ ไม่ต้องเล่นทีละเกมอีกต่อไป เปิดเล่นสองเกมพร้อมกันก็ยังลื่นๆ
DeX Mode ใหม่ อิสระอย่างมาก!
นี่คือระบบไฮไลค์ของรุ่น Galaxy Tab S11 Ultra และ S11 เพราะทั้งคู่ได้รับระบบ DeX Mode ที่อัปเกรดใหม่ล่าสุดบน One UI 8.0
DeX Mode จะเป็นระบบที่ทำงานในลักษณะคล้ายระบบของโน๊ตบุ๊ค มีพื้นที่การทำงานเป็นหน้าเดสท็อป เราสามารถกดเปิดแอปต่างๆ ขึ้นมาในรูปแบบของหน้าต่างป๊อบอัปได้ทันที โดยที่ผู้ใช้สามารถเปิดแอปแบบหน้าต่างได้สูงสุดถึง 5 แอปพร้อมกัน!
และออกแบบมาให้ทำงานง่ายมาก แค่เพียงลากนิ้วจากขอบจอด้านบนลงมา แอปที่เปิดไว้ก็กลายเป็นการทำงานแบบป๊อบอัปในแบบ DeX Mode ไปได้ในทันที และเมื่อเปิดใหม่ขึ้นมาก็พร้อมจะทำงานในลักษณะของหน้าต่างได้ถึง 5 แอปพร้อมกัน สามารถกลับไปสู่การทำงานแบบปกติเต็มจอก็แค่ลากกลับขึ้นชิดขอบด้านบนเท่านั้นครับ
เราสามารถย่อขยาย ลากวาง ทุกหน้าต่างได้อิสระสุดๆ จัดเรียงได้ตามใจที่ต้องการ และฟังก์ชั่นนี้ทำงานได้กับทุกแอปพลิเคชั่นที่ติดตั้งลงเครื่อง Galaxy Tab S11 Series เลยนะครับ
Galaxy Tab S11 Ultra และ Galaxy Tab S11 ยังรองรับ “DeX Mode แบบไร้สาย” ได้เป็นครั้งแรกด้วยนะ (หรือยังต่อด้วยสายได้เหมือนเดิม) เชื่อมต่อกับทีวีหรือจอมอนิเตอร์ที่รองรับระบบไร้สายเพื่อใช้เป็นพื้นที่ทำงานเพิ่มได้ โดยการทำงานจะแยกอิสระจากกันระหว่างบนหน้าจอแท็บเล็ต และบนหน้าจอทีวีที่เชื่อมต่อ เหมือนเรามีสองอุปกรณ์เอาไว้ทำงานไปพร้อมๆ กัน
เราสามารถใช้จอแท็บเล็ตเป็นเมาท์แพดเพื่อควบคุมการทำงานบนหน้าจอทีวีได้ด้วยนะครับ
Multiple Workspace เหนือกว่ามัลติวินโดว นี่คือการแยกหน้าเดสก์ท็อปภายในหน้าจอเดียวกันได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน
Multiple Workspace ฟังก์ชั่นใหม่ที่เอาใจผมไปเลย 100 คะแนนเต็ม มันช่วยให้เราจัดการงานแยกเป็นสัดส่วนได้ชัดเจนอย่างมาก เหมือนเรามีโต๊ะทำงาน 4 โต๊ะแยกกัน โดยในแต่ละโต๊ะก็คือหน้า Desktop ที่เราสลับไปมาได้ และเปิดได้สูงสุดถึง 4 Desktop
เท่ากับว่าผู้ใช้สามารถสร้างพื้นที่การทำงานเสมือนจริงได้ถึง 4 ห้องในเครื่องเดียว เช่น ใช้ Desktop แรกสำหรับเอกสารงานออฟฟิศ แล้วสลับไปอีก Desktop สำหรับการเรียน หรืออีกหน้าสำหรับความบันเทิงหรือเป็นเกมที่เราเปิดเอาไว้ ฟังก์ชั้นนี้ช่วยให้เราสลับการใช้งานไปมาได้แบบยกชุด ไม่ใช่แค่สลับแอป โดยที่ยังมีความเป็นระเบียบและไม่รบกวนกัน สุดยอดมากครับในการออกแบบการทำงานของโหมดนี้ ผมชอบมากจริงๆ
ด้าน AI Features บนทั้งสองอุปกรณ์ จะครอบคลุมทั้ง Google Gemini และ Galaxy AI ที่ครบที่สุดเข้ามาให้ทั้งสองระบบไว้เลือกใช้งานเอง ครบทั้งงานเอกสารและมัลติมีเดีย เช่น
- Generative Edit / Sketch to Image / ช่วยสร้างและแก้ไขภาพได้ด้วย AI จากลายเส้นวาดง่ายๆ หรือจากคำที่เรากำหนด ก็สร้างออกมาเป็นภาพวาดมืออาชีพให้ใช้ได้ทันที
-
Transcript Assist ถอดเสียงจากการเรียนหรือการประชุมแล้วสรุปเป็นข้อความ
-
Handwriting Assist จัดระเบียบลายมือให้ตรงบรรทัด
- Note Assist สรุปข้อความยาวให้สั้นลงหรือจัดหัวข้อการประชุมอัตโนมัติ
-
Interpreter แปลภาษาแบบเรียลไทม์ทั้งการสนทนาและข้อความ
- Google Gemini สอบถามเนื้อหาในวิดีโอ Youtube สรุปออกมาให้แบบไม่ต้องดูเอง
- Circle to Search ค้นหาข้อมูลจากข้อความหรือภาพบนหน้าจอทันที
กล้องถ่ายภาพ
แม้แท็บเล็ตจะไม่ใช่อุปกรณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพโดยตรง แต่ซีรีส์ Galaxy Tab S11 ก็ยังให้กล้องที่ครบสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่นการประชุมออนไลน์ วิดีโอคอล หรือการบันทึกภาพเอกสาร
ข้อมูลกล้อง Galaxy Tab S11 Ultra – มาพร้อมกล้องหลังคู่ ความละเอียด 13MP และ 8MP Ultra Wide รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด UHD 4K (3840 x 2160) @30fps และสามารถเล่นวิดีโอได้ถึงระดับ UHD 8K (7680 x 4320) @60fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 12MP Ultra Wide ที่ตอบโจทย์การใช้งานวิดีโอคอลและการประชุมออนไลน์บนหน้าจอใหญ่ได้อย่างคมชัด
ข้อมูลกล้อง Galaxy Tab S11 – ใช้กล้องหลังเดี่ยว ความละเอียด 13MP และกล้องหน้า 12MP Ultra Wide เช่นเดียวกัน สามารถถ่ายและบันทึกวิดีโอในระดับ UHD 4K @30fps พร้อมเล่นวิดีโอได้ที่ความละเอียด UHD 8K @60fps จุดนี้เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การเรียนออนไลน์ การคุยวิดีโอ หรือแม้แต่การถ่ายภาพประกอบเอกสารอย่างรวดเร็ว
สรุปคือทั้งสองรุ่นให้กล้องที่เน้นความครบถ้วนมากกว่าความหวือหวา โดย S11 Ultra จะตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นจากการมีกล้องหลังสองตัวสำหรับการถ่ายมุมกว้าง ส่วน S11 ก็เพียงพอสำหรับผู้ใช้ที่มองหากล้องที่ทำงานได้ดีในชีวิตประจำวัน โดยไม่ต้องการความซับซ้อนเกินไป
คีย์บอร์ดและการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม
ทั้ง Galaxy Tab S11 Ultra และ Galaxy Tab S11 มาพร้อมความสามารถที่ทำให้แท็บเล็ตกลายเป็นเครื่องทำงานได้เต็มรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ Slim AI Keyboard Cover ที่มีให้ใช้งานในช่วงโปรโมชั่น โดยคีย์บอร์ดนี้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับตัวเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อบลูทูธ ปุ่มกดมีระยะตอบสนองที่เหมาะสม รองรับการพิมพ์งานต่อเนื่องได้สะดวก
Slim AI Keyboard Cover เป็นทั้งคีย์บอร์ด ขาตั้ง และเคสปกป้องในตัว มีขนาดไม่ใหญ่ กระทัดรัดกับรูปทรงของตัวแท็บเล็ต ไม่ต้องชาร์จพลังงาน ใช้การเชื่อมต่อผ่านขั้วด้านหลังของอุปกรณ์
ที่สำคัญ คีย์บอร์ดยังมาพร้อมคีย์ลัดเปิดใช้งานโหมด DeX ที่มุมบนขวาของคีย์บอร์ด และปุ่มสำหรับเรียกใช้งาน Gemini ได้โดยตรง ทำให้การทำงานร่วมกับฟีเจอร์ AI สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขอให้ช่วยสรุปเอกสาร แปลข้อความ หรือแก้ไขงานที่กำลังทำอยู่
ฟิลลิ่งการพิมพ์ของคีย์บอร์ดทำมาดี ผิวสัมผัสน่าจับน่าใช้ ระยะแคปของปุ่มสามารถพิมพ์สัมผัสลงน้ำหนักได้เต็มที่ครับ สามารถสลับการทำงานระหว่างโหมดปกติและโหมด Dex และเรียกใช้งาน Gemini ขึ้นมาได้ทุกที่ทุกเวลาได้ในปุ่มเดียว โดยจะทำงานขึ้นในรูปแบบของมัลติวินโดวแบ่งหน้าจอโดยทันที
สรุปท้ายรีวิว
Galaxy Tab S11 และ Galaxy Tab S11 Ultra แสดงให้เห็นชัดว่า Samsung ต้องการตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับการทำงานอย่างจริงจัง สามารถทดแทนการพกพาแล็ปท็อปขนาดใหญ่ได้ โดยมีตัวเลือกมาให้สองขนาดหน้าจอ สองความจุแบตเตอรี่ และขนาดหน่วยความจำที่แตกต่างกัน
รุ่น Ultra เหมาะกับคนที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว วางเป็นสเตชั่นทำงานได้สบาย เปิดหลายแอปพร้อมกันโดยไม่อึดอัด และใช้แบตเตอรี่ขนาด 11600mAh ทำงานยาวนานได้แบบข้ามวัน
ส่วนรุ่น Galaxy Tab S11 เน้นความกะทัดรัด หน้าจอ 11 นิ้ว ถือใช้งานมือเดียวได้ถนัด น้ำหนักเบา พกติดตัวไปไหนก็สะดวก
ทั้งสองอุปกรณ์มีประสิทธิภาพสูง รองรับทั้งการทำงาน การเรียน จัดการเอกสาร หรือแม้แต่การเล่นเกม สามารถเดินไปใช้งานไป และติดตัวไปได้ทุกที่ทุกเวลา
เสริมด้วยฟีเจอร์ระดับท็อปที่เหนือกว่าใครในตลาด ไม่ว่าจะเป็น S Pen ที่มากับดีไซน์ใหม่, DeX Mode ที่อัปเกรดล่าสุด รองรับการเชื่อมต่อจอแบบไร้สาย และมีระบบ Multiple Workspace ที่เป็นส่วนหนึ่งของ DeX Mode บน One UI 8.0 สามารถเพิ่มและแบ่งพื้นที่การทำงานได้สูงสุด 4 เดสก์ท็อป (สามารถเปิดได้เดสก์ท็อปละ 5 หน้าต่าง) ทำให้สามารถสลับเดสท็อปทำงานได้แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เหล่านี้นับเป็นฟีเจอร์ที่สุดยอดมากๆ ที่ทำให้ Galaxy Tab S11 Series เหนือกว่าด้วยระบบในการใช้งานจริง และยังมีฟีเจอร์ AI เข้ามาช่วยทำงานได้อย่างครบเครื่องและพร้อมมากที่สุดจาก Samsung
ถือว่าเป็นแท็บเล็ตตัวตลาดบนที่ซื้อแล้วใช้งานได้คุ้มค่า โดยเฉพาะความคุ้มกว่าใครในระยะยาว เพราะมีการันตีการอัปเดตระบบให้ยาวนานถึง 7 เวอร์ชั่น และอัพเดตระบบความปลอดภัยนานถึง 7 ปี ไม่มีใครกล้าให้ขนาดนี้อีกแล้วครับ ถ้าไม่ใช่ Samsung
ราคาและโปรโมชั่น
- Galaxy Tab S11 Wi-Fi : RAM 12GB + 128GB สี Gray และ สี Silver ราคา 27,900 บาท
- Galaxy Tab S11 5G : RAM 12GB + 128GB สี Gray และ สี Silver ราคา 32,900 บาท
- Galaxy Tab S11 Ultra 5G : RAM 12GB + 256GB สี Gray ราคา 46,900 บาท
- Galaxy Tab S11 Ultra 5G : RAM 12GB + 512GB สี Gray ราคา 52,900 บาท (พิเศษในช่องทางออนไลน์)
โปรโมชั่นพิเศษระหว่างวันที่ 5 – 18 กันยายน 2568
-
ซื้อ Galaxy Tab S11 Ultra (12/256GB 5G) รับฟรี Slim AI Keyboard Cover มูลค่า 6,990 บาท และ SD Card 256GB มูลค่า 890 บาท
-
ซื้อ Galaxy Tab S11 (12/128GB ทั้งรุ่น 5G และ Wi-Fi) รับฟรี Slim AI Keyboard Cover มูลค่า 4,990 บาท และ SD Card 256GB มูลค่า 890 บาท