Samsung ประกาศยืนยันวันเปิดตัว Galaxy S25 Edge อย่างเป็นทางการในวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 โดยไฮไลต์สำคัญคือการมาพร้อมกล้องหลักความละเอียดสูงถึง 200MP ใช้เซนเซอร์ ISOCELL HP2 ตัวท็อป และดีไซน์ที่บางเฉียบระดับพรีเมียม ซึ่งเราเคยได้เห็นตัวเครื่องครั้งแรกไปแล้วในงาน Galaxy Unpacked เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
จากข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการก่อนหน้านี้ มีข้อมูลว่า Galaxy S25 Edge จะเป็นสมาร์ตโฟนที่บางและเบาที่สุดของ Samsung ในช่วงหลายปีนี้ ด้วยความบางเพียง 5.84 มม. และน้ำหนักแค่ 162 กรัม ตัวเครื่องใช้โครงสร้าง Titanium Alloy ฝาหลัง เซรามิก ขอบจอบางเฉียบแค่ 1.32 มม. และกล้องหน้าแบบ Punch-hole วางตรงกลางหน้าจอ
รุ่นนี้ทำงานบนระบบปฏิบัติการ One UI 7 ที่พัฒนาบนพื้นฐาน Android 15 มาพร้อมฟีเจอร์ AI อย่าง Galaxy AI ซึ่งรวมถึงเครื่องมืออย่าง Audio Eraser และ Auto Trim ที่ช่วยจัดการเสียงรบกวนและตัดแต่งวิดีโออัตโนมัติ
Galaxy S25 Edge เปิดตัวพร้อมตัวเลือก 3 สี ได้แก่ Titanium Jet Black, Titanium Silver และ Titanium Icy Blue โดยรุ่นความจุ 256GB เปิดราคายุโรปที่ €1,249 (ประมาณ 49,000 บาท) และในสหรัฐฯ เปิดให้ลงทะเบียนล่วงหน้าพร้อมเครดิต $50 จาก Samsung ส่วนงานเปิดตัวจะถ่ายทอดสดทั่วโลกในชื่อ “Beyond Slim” เวลา 9:00 น. ตามเวลาเกาหลีใต้
ด้านหน้าจอ คาดว่าจะให้ความสว่างสูงสุดถึง 2,600 นิต และครอบด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass Victus 2 ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite for Galaxy บนเทคโนโลยีการผลิตระดับ 3nm พร้อมความเร็วสูงสุด 4.47GHz เสริมด้วยระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ขนาดใหญ่
หน่วยความจำสูงสุดอยู่ที่ 512GB ไม่มีรุ่น 1TB และอาจ ไม่มีระบบชาร์จไร้สาย ขณะที่แบตเตอรี่ก็จะมีความจุน้อยกว่ารุ่นพี่ในตระกูล S25 ซึ่งอาจส่งผลกับระยะเวลาใช้งานบ้าง แต่ยังได้อัปเดตซอฟต์แวร์ยาวๆ ถึง 7 ปี และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, USB-C 3.2 พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP
เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ตั้งแต่ 30 พฤษภาคม โดยมีจำนวนการผลิตจำกัดเพียง 40,000 เครื่อง เท่านั้น
และมีความเป็นไปได้สูงว่า Samsung Galaxy S25 Edge จะไม่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากปริมาณการผลิตที่จำกัดเฉพาะบางภูมิภาค และยังไม่มีการโปรโมตใดๆ ในประเทศไทยสำหรับสมาร์ตโฟนรุ่นนี้