The Lord of the Rings: Gollum - สับสนในแนวทางจนไปไม่ถึงฝัน
The Lord of the Rings: Gollum คือเกมที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจแต่ตกม้าตายตรงที่การเล่าเรื่องช้ามาก ๆ ตลอดทั้งเกมคุณจะได้วนเวียนอยู่กับสถานที่เดิม ๆ มันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกถึงการผจญภัยอย่างแท้จริง อีกทั้งการทำให้เกมนี้เป็นเกมลอบเร้นมันก็ดูไม่ตอบโจทย์เท่าไร เหมือนผู้พัฒนาได้โจทย์มาว่าให้ทำเกมเกี่ยวกับ Gollum แต่ไม่รู้จะทำเป็นแนวไหนดี ลอบเร้นก็ไม่สุด การผจญภัยก็สอบตก ผลที่ได้คือไปไม่สุดสักทาง ถ้าคุณอยากจะซื้อเกมนี้มาเล่นในราคาเต็มก็คงไม่แนะนำเท่าไร แต่ถ้าคุณไม่คิดมากก็รอให้ทางผู้พัฒนาปล่อยอัปเดตแก้ไขปัญหาตัวเกมให้หมดก่อนจะดีที่สุด
The Good
- ขยายเรื่องราวในโลก The Lord of the Rings
The Bad
- เกมเพลย์สอบตกในทุกด้าน
- เกมดีไซน์ดูสับสนในตัวเองจนทำให้เกมเพลย์ไม่สนุก
- ปัญหาด้าน Performance ที่ชวนหงุดหงิด
ถ้าพูดถึงนวนิยายชื่อดังที่เชื่อได้เลยว่าหลาย ๆ คนรู้จัก ชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาอยู่ในหัวก็คงต้องเป็น The Lord of the Rings นวนิยายแฟนตาซีชื่อดังกระฉ่อนโลกจากปลายปากกาของ J.R.R Tolkien จนถูกนำมาสร้างภาพยนตร์ไตรภาค The Lord of the Rings กำกับโดย Peter Jackson นอกจากภาพยนตร์ แล้วนวนิยายเรื่องนี้ยังถูกหยิบมาสร้างเป็นวิดีโอเกมมากมายเลยล่ะ จนในปี 2023 ก็ถึงคราวของ The Lord of the Rings: Gollum ผลงานล่าสุดจาก Daedalic Entertainment ที่นำเสนอเรื่องราววการผจญภัยของ Gollum ในดินแดน Middle-Earth หลายคนต่างก็คาดหวังกับเกมนี้ แต่มันจะดีพอแบบที่เราหวังไว้หรือเปล่า เราจะมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน
เนื้อเรื่อง The Lord of the Rings: Gollum เกิดขึ้นในปี 3012 ยุคทื่ 3 ของดินแดน Middle-Earth โดยเกิดขึ้นก่อนเรื่องราวใน The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring ราว ๆ 7 ปี ตัวเกมจะเล่าเรื่องราวการผจญภัยของ Gollum ที่กำลังเดินทางตามหาแหวนที่ถูกขโมยไป เนืิ้อเรื่องของเกมเริ่มต้นที่ตัวของ Gollum ถูกขังอยู่ในคุกแห่งหนึ่งโดยมีแกนดัล์ฟและกษัตริย์เอลฟ์สอบสวนว่า Gollum กำลังจะไปที่ไหนและมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรกับเจ้าแห่งความมืด จากนั้น Gollum ก็ได้เล่าเรื่องการเดินทางของตัวเองตั้งแต่ออกมาจากหุบเขาเพื่อตามหาแหวน จนถูกจับโดยพวก Nazgul และถูกใช้งานเยี่ยงทาสใน Black Pits คุกใต้ดินของเจ้าแห่งความมืดที่ Barad-Dur
ตลอดการเดินทางคุณจะได้พบตัวละครมากมายใน The Lord of the Rings: Gollum ทั้งตัวละครที่คุณอาจจะรู้จักและตัวละครใหม่ที่ถูกใส่เข้ามาในเกมนี้ โดยตัวละครแต่ละตัวนั้นมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่น่าสนใจ แต่ว่าบทไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดพวกนั้นมากเท่าไร ทำให้เราไม่ได้รู้สึกผูกพันธ์เลยแม้แต่น้อย ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าเกมอยากให้คุณโฟกัสอยู่กับตัวของ Gollum ถ้าคุณเป็นคนที่อ่านหนังสือหรือชมภาพยนตร์มาก่อนก็พอจะอินไปกับตัวละครได้อยู่ แต่ถ้ามาสัมผัสกับเนื้อเรื่องใน The Lord of the Rings: Gollum เป็นครั้งแรกคุณจะไม่รู้สึกอินอย่างแน่นอน เพราะใช้การเล่าเรื่องแบบตัดสลับ Flash Back ควบคู่ไปกับ Time Skip นั่นเอง แต่ข้อเสียหลัก ๆ เลยก็คือเกมเล่าเรื่องช้ามากและมาเร่งช่วงการเกมด้วย Time Skip เราเลยไม่ได้เห็นการเติบโตของ Gollum ชัดเจนขนาดนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อเรื่องของเกมก็เป็นเส้นตรงสุด ๆ
ระหว่างการเล่นตัวเกมจะมีทางเลือกให้กับผู้เล่น ด้วยความที่ตัวละคร Gollum มีสองบุคลิกในตัวเองทำให้การตัดสินใจทำอะไรบางทำให้ทั้งสองบุคลิกจะต้องพูดคุยกับตัวเองก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป ซึ่งผลของมันจะออกมาเป็นอย่างไรก็อยู่ที่คุณเลือกเลย แต่ระบบนี้ไม่ได้ส่งผลกับเนื้อหาหลักสักเท่าไร
ในด้านของเกมเพลย์ The Lord of the Rings: Gollum นำเสนอรูปแบบการเล่นแบบ Action Adventure แต่เกมการเล่นและการออกแบบฉากของเกมสอบตกในทุก ๆ ด้านอย่างแรกก็เพราะว่าตัวละครที่คุณเล่นคือ Gollum ซึ่งไม่มีสกิลการต่อสู้อะไรอยู่แล้ว ผู้พัฒนาเลยใส่การเล่นแบบลอบเร้นเข้ามาเป็นแกนหลักและไม่มีความเป็นแอ็คชันเลยแม้แต่น้อย หลัก ๆ แล้วในการเล่นส่วนนี้ตัวละครผู้เล่นสามารถขว้างหินเพื่อดึงความสนใจของศัตรูไปทางอื่นได้ รวมไปถึงการใช้เงาตามใต้โต๊ะหรือกำแพงอำพรางไม่ให้ศัตรูเห็นได้ แต่ก็สามารถลอบฆ่าศัตรูบางชนิดได้เช่นเดียวกัน แต่การขว้างหินก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรขนาดนั้นเพราะในบางฉากคุณไม่ต้องใช้เลยก็ได้ เพราะศัตรูในเกมนี้ค่อนข้างโง่พอสมควร นอกจากขาดความน่าสนใจแล้วยังดูตกยุคอีกด้วย รวมถึงระบบ HP ของตัวละครที่ใส่เข้ามาดูไร้ประโยชน์มาก ถ้าหากถอดระบบนี้ออกไปก็ไม่มีผลอะไรกับเกมเพลย์อยู่ดี เหมือนถูกใส่เข้ามาเพื่อให้ผู้เล่นรับรู้ความเสียหายจากการตกที่สูงเพียงเท่านั้น ระบบหลัก ๆ ของเกมก็มีเพียงเท่านี้เลย
โดยรวมแล้ว The Lord of the Rings: Gollum จะเน้นความเป็น Platfomer ซะมากกว่า เพราะตัวเกมเน้นให้ผู้เล่นเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งโดยการปีนป่ายและแก้ปริศนาไปพร้อม ๆ กันแต่จุดนี้เกมสอบตกเลย อย่างแรกก็คงเป็นเพราะการออกแบบฉากที่ไม่มีความท้าทายกับแอนิเมชั่นที่แข็งทื่อ แทนที่จะทำให้เกมสนุกกลายเป็นหน้าหงุดหงิดในหลายจุด รวมถึงระบบ HP ของตัวละครที่ใส่เข้ามาดูไร้ประโยชน์มาก ถ้าหากถอดระบบนี้ออกไปก็ไม่มีผลอะไรกับเกมเพลย์อยู่ดี เหมือนถูกใส่เข้ามาเพื่อให้ผู้เล่นรับรู้ความเสียหายจากการตกที่สูงเพียงเท่านั้น ถึงแม้จะเพิ่ม HP โดยการกินอาหารได้แต่ก็ไม่รู้จะใส่เข้ามาเพื่ออะไร
สิ่งที่ทำให้ดูตกยุคมากขึ้นไปอีกก็คือสียงพากย์และมุมกล้องที่ใช้ในการเล่าเรื่อง ในบางครั้งที่ตัวละครของผู้เล่นหรือตัวละครอื่น ๆ กำลังพูดอยู่นั้น ปากบนโมเดลตัวละครไม่ได้มีการขยับตามทำให้นี่มันดูเหมือนงานเผามาก ๆ คุณจะได้พบมุมกล้องแปลก ๆ มากมายเลยในระหว่างคัตซีนบางทีกล้องก็ซูมไปที่หน้าตัวละครแต่เบลอหน้าตัวละครซะงั้น และใช้มุมกล้องที่แคบมาก ๆ จนทำให้วัตถุในฉากบังตัวละครเกือบทั้งตัว แทนที่เนื้อเรื่องที่ยังพอไปวัดไปวาได้ของ The Lord of the Rings: Gollum จะดีขึ้นหน่อย มันก็ถูกฉุดด้วยมุมกล้องแปลก ๆ เข้าไปทำให้เรื่องราวขาดความน่าสนใจมากขึ้นไปอีก
ในการเล่น The Lord of the Rings: Gollum ด้วย PlayStation 5 บอกเลยว่าตัวเกมทำออกมาได้ดีในระดับมาตรฐานของเกมยุคก่อน ที่พูดแบบนี้ก็เพราะรายละเอียดของฉากในเกมหลายจุดทำไม่มีความคมชัด การตกกระทบของแสงเงาแบบที่ไม่ควรจะมีในเกมยุค 2023 อย่างไรก็ตามตัวเกมเล่นได้อย่างลื่นไหลบน PlayStation 5 แต่ก็แฝงไปด้วยบั๊กมากมายที่ทำให้เกมของคุณไม่สามารถเล่นต่อได้ สำหรับผมนี่คือปัญหาใหญ่มากจนทำให้ไม่อยากเล่นเกมนี้ต่อ คิดว่าผู้พัฒนาคงมีการแก้ไขในวันแรกที่เกมวางขายอย่างแน่นอน
The Lord of the Rings: Gollum คือเกมที่มีเนื้อเรื่องน่าสนใจแต่ตกม้าตายตรงที่การเล่าเรื่องช้ามาก ๆ ตลอดทั้งเกมคุณจะได้วนเวียนอยู่กับสถานที่เดิม ๆ มันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกถึงการผจญภัยอย่างแท้จริง อีกทั้งการทำให้เกมนี้เป็นเกมลอบเร้นมันก็ดูไม่ตอบโจทย์เท่าไร เหมือนผู้พัฒนาได้โจทย์มาว่าให้ทำเกมเกี่ยวกับ Gollum แต่ไม่รู้จะทำเป็นแนวไหนดี ลอบเร้นก็ไม่สุด การผจญภัยก็สอบตก ผลที่ได้คือไปไม่สุดสักทาง ถ้าคุณอยากจะซื้อเกมนี้มาเล่นในราคาเต็มก็คงไม่แนะนำเท่าไร แต่ถ้าคุณไม่คิดมากก็รอให้ทางผู้พัฒนาปล่อยอัปเดตแก้ไขปัญหาตัวเกมให้หมดก่อนจะดีที่สุด