รีวิว TCL NXTPAPER 11 แท็บเล็ตจอสัมผัสกระดาษ “เขียนสบายมือ อ่านสบายตา” ราคาไม่ถึงหมื่น!

TCL NXTPAPER 11 แท็บเล็ตใหม่ “หน้าจอสัมผัสเหมือนกระดาษ” จอแสดงผลคุณภาพสูง ที่ใช้เทคนิคการซ้อนทับกันของแผ่นปกป้องสายตาหลายชั้น จนได้พื้นผิวสัมผัสที่เหมือนกระดาษ ลดแสงสีฟ้าและถนอมสายตาขณะที่ยังคงรักษาความสว่างและสีสันแบบดั้งเดิมเอาไว้ได้ในระดับไม่เสียอรรธรส พร้อมใส่เทคโนโลยีการเคลือบวัสดุนาโนลงบนหน้าจอทำให้ปราศจากรอยนิ้วมือและคราบเปื้อน เป็นจอเพื่อการ “เขียน” “อ่าน” “รับชม” ใช้งานได้ยาวนานแม้ในที่แสงน้อย โดยยังคงถนอมสายตา

นับเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมจอภาพสำหรับ “นักอ่าน” และ “นักเขียน” อย่างแท้จริงเลยครับ ที่สำคัญสำหรับราคาของอุปกรณ์ตัวนี้ เปิดจำหน่ายที่ 7,990 บาทเท่านั้น แถมยังมาพร้อมกับโปรโมชั่นแรกเปิดตัว แถมฟรีปากกา T-Pen STYLUS ปากกาเขียนหน้าจอเกรดมือโปร ที่รองรับแรงกดได้ 4096 ระดับ ราคาขาย 1,490 บาท แถมมาให้ฟรีเลยครับ

และภายในกล่องของ TCL NXTPAPER 11 ยังแถมเคส MULTI-ANGLE FLIP CASE เป็นเคสแบบปกหนังสือ ที่พับเป็นขาตั้งได้ในตัวตั้งหลายระดับ ไม่ต้องซื้อเพิ่มครับมีเคสมาให้เลย โดยจะเป็นเคสที่ใช้แถบกาวในการยึดกับตัวเครื่องแท็บเล็ต ที่สามารถถอดออกได้แบบทิ้งคราบกาวเอาไว้

มีมาให้พร้อมในกล่อง เป็นรุ่นที่ได้ครบและราคาดีมากๆ สำหรับแท็บเล็ตเครื่องนี้

TCL NXTPAPER 2.0 สบายตาและปลอดภัย บนสีสันหน้าจอที่ยังสมจริง

TCL NXTPAPER 11 เป็นแท็บเล็ตหน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ กว้าง 11 นิ้ว ความคมชัดสูง 2000 x 1200 พิกเซล ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีจอภาพ TCL NXTPAPER 2.0 ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะจากแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านจออย่าง TCL นั้นเองครับ

TCL NXTPAPER 2.0  คือเทคโนโลยีการพัฒนาหน้าจอที่พัฒนามาเป็นรุ่นล่าสุดของ TCL ในการสร้างจอแสดงผลที่ให้ผิวสัมผัสเหมือนกระดาษ เทคนิคที่เกิดจากการซ้อนทับกันของแผ่นปกป้องสายตาหลายชั้น จนสุดท้ายได้หน้าจอที่ไม่ใช่แค่เรื่องของผิวสัมผัสเหมือนกระดาษ แต่ยังถนอมสายตาได้เหมือนอ่านหนังสือจากกระดาษ และมีความพิเศษคือ หน้าจอรุ่นนี้ยังคงรักษาความสว่างและสีดั้งเดิมของภาพเอาไว้ได้เช่นเดิม ไม่เสียอรรธรสในการใช้รับชมหรืออ่านคอนเทนต์ต่างๆ ที่มีสีสันด้วยครับ

เพราะการแสดงผลของ TCL NXTPAPER 11 เปิดทางเลือกให้กับผู้ใช้ที่สามารถระบุความต้องการว่า จะใช้งานหน้าจอในการรับชมความบันเทิงทั่วไปในโหมดสีสันปกติ หรือต้องการจะอ่านหนังสือแบบจริงจัง ก็จะมีความสามารถในการปรับหน้าจอให้เป็นโทนสีเทาอ่อน เหมาะสำหรับการอ่าน E-book ได้อย่างสบายตา

ทำงานภายใต้ความสามารถในการช่วยลดแสงสีฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม ผ่านมาตรฐานการรับรองจากหน่วยาน TUV เป็นมาการันตีคุณภาพของหน้าจอเรียบร้อยแล้ว

มาพร้อมการเคลือบจอ Anti-fingerprint ซึ่งเป็นเทคนิคนาโนเคมีคัลที่ทำให้หน้าจอของแท็บเล็ตรุ่นนี้ปราศจากรอยนิ้วมือ ไม่เกิดคราบเปื้อน ลดการเกิดคราบมัน ไม่ต้องคอยเช็ดบ่อยๆ แม้จะมีการสัมผัสหน้าจออยู่ตลอดเวลา

อีกอย่างที่พิเศษและโดดเด่นมากๆ คือความสามารถในการลดแสงสะท้อน ไม่ว่าผู้ใช้จะมองจากมุมไหน หรือถือใช้งานในมุมใด ก็แทบจะไม่มีแสงสะท้อนของกระจอจอที่ส่องเข้ามารบกวนสายตาเราได้เลย

หน้าจอของ TCL NXTPAPER 11 เป็นหน้าจอ Sunlight ที่สามารถลดและเพิ่มแสงให้ภาพยังคมชัดภายใต้แสงภายนอกอาคารได้ด้วยเช่นกัน เพราะสามารถเพิ่มความสว่างได้สูงสุดถึง 500 nits

นอกจากจะสามารถปรับระดับความสว่างให้เราได้อัตโนมัติแล้ว ตัวระบบของ TCL ยังได้ออกแบบให้หน้าจอสามารถปรับอุณหภูมิสีของภาพไดอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมและแสงสว่างรอบตัว เพื่อป้องกันความเมื่อยล้าของดวงตาจากการใช้งานเป็นเวลานานให้กับเราได้ตลอดทั้งวันอีกด้วย

นับเป็นคุณสมบัติของหน้าจอที่ยอดเยี่ยมในสายงานของตัวเองอย่างมากเลยครับ

ตัวเครื่องไม่ใหญ่มาก สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องอยู่ที่ 85% ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 8MP เอาไว้ให้ ใช้การประชุมสาย วีดีโอคอลล์ หรือใช้สแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้ด้วยเช่นกัน

หน้าจอของ TCL NXTPAPER 11 จะเป็นหน้าจอที่รองรับปากกาที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานคู่กันโดยตรง T-Pen STYLUS เป็นปากกาในเกรดระดับมืออาชีพที่สามารถรับแรงกดที่แตกต่างกันได้มากถึง 4096 ระดับ พร้อมปุ่มสั่งงานบนตัวปากกา 2 ปุ่ม ใช้พลังงานจากการชาร์จผ่านพอร์ต USB Type C เป็นหนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่ทาง TCL นำเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยเช่นกัน

T-Pen STYLUS สามารถเขียนลงน้ำหนักได้เสมือนปากกาจริง เมื่อนำมาใช้บนหน้าจอสัมผัสกระดาษของ TCL NXTPAPER 11 ก็จะได้ประสบการณ์เสมือนเขียนอยู่บนกระดาษจริงๆ

โดยตัวปากกา T-Pen STYLUS จะมีราคาอยู่ที่ 1,490 บาท แต่ในช่วงแรกจำหน่ายของ TCL NXTPAPER 11 เป็นโปรโมชั่นแถมปากกาตัวนี้ไปให้ใช้งานกันได้ฟรีๆ เลยครับ โดยอุปกรณ์ภายในกล่องของปากกา T-Pen STYLUS ก็จะมีหัวปากกาสำรองพร้อมอุปกรณ์สำหรับการเปลี่ยนหัวปากกาเมื่อมีการสึกหรือชำรุดมาให้

ตัวเครื่องเบา เพรียวบางแข็งแรงด้วย Aluminum

TCL NXTPAPER 11 ออกแบบมาได้เบาและบางครับ ถืออ่านหนังสือหรือถือใช้งานเบาสบายมือ ด้วยตัวเครื่องในขนาดความบางแค่ 6.9มม. มีน้ำหนัก 462 กรัม ด้วยขนาดเครื่องของอุปกรณ์จอ 11 นิ้ว ช่วยกระจายน้ำหนักในเวลาถือใช้งานได้ดีมาก พร้อมติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 8MP เอาไว้ให้ด้านหลัง

ตัวเครื่องจริง ถือจับแล้วรู้สึกถึงความทนทานและแข็งแรงครับ งานประกอบแน่น ตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะอลูมิเนียม บางเบาแต่ไม่อ่อนแอ ติดตั้งลำโพงรอบเครื่องเอาไว้ถึง 4 ตัว เสียงจึงดังชัด มีพลัง มีมิติเสียงที่ดี มีความสามารถในการเร่งเสียงให้ดังขึ้นมากกว่าปกติได้ถึง 200% โดยที่เสียงยังคงชัดเจน ไม่แหลมแตกแสบหู เหมาะสำหรับการรับชมความบันเทิงได้โดยไม่ต้องอาศัยการต่อลำโพงภายนอกเพิ่ม

และยังติดตั้งไมค์รับเสียงเอาไว้ 2 ตัว เพื่อเอาไว้ใช้ในการประชุมสายหรือการสนทนาเสียง แต่รุ่นนี้จะไม่มีรููฟัง 3.5มม. และไม่มีที่สแกนลายนิ้วมือนะครับ ใช้การสแกนใบหน้าเข้าใช้งานด้วยกล้องหน้าหรือการใส่รหัสเป็นหลัก

โดย NXTPAPER 11 ที่เข้ามาจำหน่ายจะมาในเวอร์ชั่น WIFI ไม่รองรับการใส่ซิมการ์ด แต่จะมีช่องใส่ micro SD Card อยู่ด้านข้างเครื่องเอาไว้ให้ แม้ตัวเครื่องเพียวบางแต่แบตเตอรี่ภายในให้ขนาดมาใหญ่ถึง 8000 mAh รองรับการชาร์จย้อนกลับแบบ Reverse เพื่อส่งพลังงานออกไปชาร์จให้กับอุปกรณ์อื่นๆ ในยามฉุกเฺฉินได้อีกด้วย

อุปกรณ์ภายในกล่องก็จะมีที่ชาร์จ 18W และสาย USB Type C แถมมาให้ภายกล่อง พร้อมเข็มจิ้มถาดใส่ micro SD Card

ประสิทธิภาพการใช้งาน

จากประสบการณ์ลองใช้งาน ผมบอกได้เลยว่านี่เป็นแท็บเล็ตสำหรับสาย “อ่าน และ เขียน” ในระดับคุณภาพดีที่มีราคาถูกมาก เป็นอุปกรณ์สำหรับคนชอบอ่าน เพราะอ่านหนังสือสบายตามาก ไม่แสบตา ไม่มีแสงสะท้อนบนกระจกจอมารบกวน

ผิวสัมผัสบนหน้าจอไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนฟิล์มจอแบบผิวกระดาษที่ขายๆ กันอยู่ในตลาด ตัวนี้ต่างออกไปครับ

เวลาวางมือเพื่อเขียนหรือวาดรูป หน้าจอก็จะไม่มีคราบมันให้ต้องมาคอยหาผ้ามาเช็ดบ่อยๆ อีกด้วย แถมมือเราจะไม่เหนียวฝืดไปบนกระจก เพราะผิวสัมผัสกระดาษจะลื่นละมุนกว่า น่าลูบไล้ รู้สีกถึงความเนียนผิวและเย็นมือ เนื่องจากผิวสัมผัสกระดาษจะเป็นเนื้อเดียวกันไปกับบนกระจกจอ เราจึงรู้สึกมั่นใจในการวางพักมือลงไปบนหน้าจอได้เต็มที่มากว่าเดิมในขณะที่กำลังวาดภาพ, จดโน๊ต หรือเขียนบันทึกต่างๆ ครับ

ตัวหน้าจอ สามารถรับรู้ความแตกต่างระหว่างหัวปากกากับผิวหนังมนุษย์ได้ครับ เมื่อหน้าจอตรวจพบการเตรียมใช้ปากกา ก็จะตัดการรับสัมผัสของผิวหนังมนุษย์ให้เราได้โดยทันที จึงไม่ต้องกังวลว่ามือเราจะโดนหน้าจอแล้วเกิดการขีดเขียนที่ไม่ต้องการขึ้นมาครับ

หน้าจอ จะสามารถรับรู้ถึงหัวปากกาได้ตั้งแต่ระยะประมาณ 2 เซนติเมตร ใช้ปากกาไปจ่อใกล้ๆ ตัวระบบก็จะรับรู้ตำแหน่งได้แล้วครับ

แต่ต้องบอกว่า TCL NXTPAPER 11 เป็นแท็บเล็ตที่ไม่ได้มีประสิทธิภาพความแรงเป็นจุดขายมากนักนะครับ สเปคของอุปกรณ์ในด้านการประมวลอยู่ในระดับแค่กลางๆ มีหน่วยความจำ RAM มาให้ 4GB และพื้นที่จัดเก็บ ROM128GB ใช้ชิปเซ็ตประมวลผล MTK Helio P60T

ใช้งานทั่วไปพอได้ นำมาอ่านหรือเขียน หรือรับชมภาพยนตร์ ใช้งานด้านความบันเทิงต่างๆ พวกนี้ไม่ต้องห่วง มีความแรงเพียงพออย่างแน่นอน แต่สำหรับการเล่นเกมกราฟิกสูงๆ อาจจะไม่ลื่นไหลได้ 100% แบบเครื่องสเปครุ่นใหญ่นักครับ

สามารถแบ่งหน้าจอทำงานได้ซ้ายขวา หรือเป็นป๊อบอัพหน้าต่างลอยได้ซ้อนกัน จากที่ทดสอบสามารถเล่นไฟล์ภาพยนตร์ความละเอียด FullHD ได้ลื่นครับ แต่ถ้าเป็นความละเอียดสูงกว่านั้นอาจจะมีกระตุก และเล่นเกมทั่วไปได้ไหว แบ่งหน้าจอทำงานสองแอพพร้อมกันก็ยังไม่มีปัญหาใดๆ ครับ

ระบบภายในใช้เป็นเวอร์ชั่นใหม่ไม่ต้องรออัปเดต Android 13 ครอบทับไว้ด้วย TCL UI 5.0 เป็นเวอร์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์หน้าจอใหญ่อย่างแท็บเล็ตโดยเฉพาะ มีความสามารถในการใช้ประโยชน์จากพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ของเครื่องในหลายฟังก์ชั่น

เมนูลัดสำหรับการทำงานร่วมกับปากกา สามารถเปิดปิดได้ด้วยปุ่มบนตัวปากกาหรือปุ่มลอยบนหน้าจอ ภายในจะเป็นฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์หลายตัวครับ เช่นการทำลายเซ็นแบบ e-Signature เอาไว้ใส่ลงในเอกสาร, หรือการเซฟภาพหน้าจอบางส่วน และการเซฟภาพหน้าจอเป็นวีดีโอเคลื่อนไหว ที่เราเลือกเซฟไว้ได้บางส่วนของหน้าจอเช่นกัน

โดยเราสามารถกำหนดแอปที่ต้องการใช้งานบ่อยๆ เอาไว้ในหน้าเมนูลัดตัวนี้ได้เองด้วยครับ

ฟังก์ชั่นหน้าต่างลอย สำหรับการเรียกใช้งานแอปต่างๆ ในเครื่อง ให้ทำงานอยู่ในรูปแบบของหน้าต่างเป็นพื้นที่แยก เรียกใช้งานได้ทุกแอปครับ

ในระบบจะให้เราสามารถตั้งค่าการทำงานของปุ่มบนตัวปากกาได้ ว่าต้องการให้แต่ละปุ่มบนตัวปากกาทำหน้าที่เป็นคำสั่งประเภทใด (แต่ถ้าทำการปิดปุ่มลอยบนหน้าจอ ปุ่มบนตัวปากกาจะไม่ทำงาน)

ในระบบของเครื่อง มีการใส่ความสามารถในการปรับแต่งหน้าจอเอาไว้หลายด้านครับ เพราะบริษัท TCL เด่นอยู่แล้วในเรื่องของความชำนาญของการแสดงผล เขาได้พัฒนาระบบ NXTVISION ที่เข้ามาช่วยปรับปรุงการแสดงผลของหน้าจอ ช่วยปรับปรุงสี ปรับคอนทราส เพิ่มความคมชัด และเพิ่มรายละเอียดของภาพที่มองเห็นยากในส่วนที่ภาพมืดหรือสว่างเกินไป ให้เราเห็นรายละเอียดได้มากขึ้น มีผลทั้งการแสดงผลภาพนิ่ง ภาพวีดีโอ หรือแม้แต่ภาพในขณะที่เราเล่นเกมได้ด้วยครับ

เราสามารถสลับโหมดหน้าจอให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่เราต้องการจะใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านชุด Toggle สำหรับเปิดปิดฟังก์ชั่น ระหว่างการเปิดใช้โหมดสีสันปกติ, โหมดถนอมสายตา หรือโหมดการอ่านที่จะเปลี่ยนหน้าจอให้เป็นโทนสีขาวเทาเหมือนกระดาษ

หรือตั้งเวลาให้โหมดหน้าจอต่างๆ ทำงานเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม เช่น ตั้งเปิดโหมดแสงน้อย (ธีมมืด) เมื่อถึงเวลา 19:00 เป็นต้น หรือเปิดโหมดถนอมสายตาในเวลาเดียวกัน เราสามารถตั้งเวลาเอาไว้ล่วงหน้าให้ตัวเครื่องทำการเปิดและปิดฟังก์ชั่นถนอมสายตาเหล่านี้เอาไว้ได้ล่วงหน้าครับ

สามารถเปลี่ยนหน้า UI ให้เหมือนกับหน้าเดสท็อปของระบบ Windows ได้ด้วย “PC Mode” ใครชอบหน้าตาการทำงานแนวนอนที่สามารถเปิดแอปขึ้นมาแยกเป็นหน้าต่างหลายๆ หน้าต่าง หรือนำไปใช้งานร่วมกันกับเมาส์, คีย์บอร์ด โหมดนี้น่าจะช่วยให้ถนัดมากขึ้นครับ

และสามารถทำตัวเองเป็นหน้าจอที่สองให้กับอุปกรณ์แล็ปท็อป, โน๊ตบุ๊ค หรือพีซี ในระบบ Windows ได้ด้วยนะครับ ทำงานเป็นหน้าจอเสริมแบบไร้สาย ช่วยงานเราได้ในยามจำเป็นอีกด้วย

แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้นานข้ามวัน เปิดหน้าจอใช้ต่อเนื่องยังกินพลังงานแค่ชั่วโมงละ 12% (ในระดับความสว่างที่ใช้ประจำประมาณ 70%) ทำให้เราสามารถอ่านหนังสือ หรือรับชมภาพยนตร์ได้ต่อเนื่องเกินกว่า 7 ชั่วโมงอย่างแน่นอนครับ

มีของแถมพิเศษสำหรับผู้ใช้งาน เป็นแอปพลิเคชันจดบันทึกและแก้ไฟล์เอกสาร Jnotes ที่ให้สิทธิพิเศษกับผู้ใช้อุปกรณ์ TCL (TCL Devices Privileges) ให้สามารถใช้ปลดล็อครับฟีเจอร์แบบ VIP โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนาน 180 วัน ทำให้ TCL NXTPAPER 11 เป็นแท็บเล็ตที่พร้อมสมบูรณ์แบบสำหรับการจดบันทึกได้มากขึ้น

สรุปท้ายรีวิว

TCL NXTPAPER 11 แท็บเล็ตสำหรับสายอ่าน และสายเขียน คุณสมบัติครบแม้สเปคไม่สูงมาก แต่น่าใช้มากครับ เน้นทำราคามาได้ไม่แพงเลยแค่ 7,990 บาท พกพาไว้ใช้แบบเครื่องหน้าจอใหญ่ๆ ที่ช่วยถนอมสายตา เพราะหน้าจอของอุปกรณ์ตัวนี้มีเสน่ห์ หน้าจอสัมผัสกระดาษนอกจากจะนุ่มนวลต่อสายตาแล้ว ก็ยังนุ่มนวลรู้สึกดีในเวลาสัมผัส และยังช่วยให้ผู้ใช้งานหมดปัญหากับคราบมันบนหน้าจอ และแสงสะท้อนจากกระจกจอ และความพิเศษคือยังสามารถคงสีสันของภาพเอาไว้ได้ นำไปใช้งานด้านความบันเทิงอย่างเช่นการดูหนังหรือเล่นเกม ภาพยังคงสดใสน่ามองได้เช่นเดิม

ลำโพงสี่ตัวเสียงดี ดังชัดไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่ม แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ เปิดใช้งานหน้าจอได้ต่อเนื่องกันมากกว่า 7 ชั่วโมง

รองรับกับปากกา T-Pen STYLUS เป็นปากกาเกรดโปรที่รองรับแรงกดต่างกันได้ 4096 ระดับ หน้าจอสามารถแยกรับรู้การสัมผัสระหว่างผิวมนุษย์และหัวปากกาได้ ฉะนั้นคนที่ชอบจดบันทึก หรือวาดภาพเล่นยามว่าง ใช้งานได้สบายสามารถวางมือบนหน้าจอขณะวาดหรือเขียนได้เลยครับ แถมไม่เกิดคราบมันให้ต้องเช็ด และผิวสัมผัสกระดาษยังรู้สึกดีเวลาเอามือพักวางบนหน้าจอด้วย

ปากกาด้ามนี้ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เพราะมีโปรโมชันตั้งแต่วันที่ 7 สค. 23  : TCL NXTPAPER 11 จำหน่ายในราคา 7,990 บาท แถมฟรี! ปากกา T-Pen STYLUS มูลค่า 1,490 บาท โดยจะวางจำหน่ายที่ช่องทาง BANANA IT ทุกสาขา ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 สิงหาคม 2566

สามารถหาซื้อได้ผ่านทาง BaNANA ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ที่ bnn.in.th มีบริการส่งฟรีทั่วประเทศ : https://com7.co/3O2Y8V