รีวิว Samsung Galaxy Tab A 8.0 แท็บเล็ตที่มาพร้อมปากกาเขียนหน้าจอ บางลง ทรงใหม่
หลังได้ลองทดสอบเครื่อง Samsung Galaxy Tab A ก็ต้องบอกว่า เหมือนเป็นเครื่องที่ออกเพื่อเป็นตัวตายตัวแทนของ Galaxy Note 8.0 เลยละครับ ต่อยอดกันไป ในอารมณ์คล้ายๆ กัน เท่าๆ กัน แต่มาในรูปลักษณ์ใหม่ บางลง เบาลง และใช้ UI ใหม่ ฟังชั่นใหม่ ส่วนประสิทธิภาพนั้นบอกได้คร่าวๆ ตอนนี้เลยว่า เกือบจะให้อารมณ์การใช้งานเท่าๆ กัน แต่อาจจะรู้สึกตัวระบบนั้นแน่นกว่า จังหวะแลคน้อยกว่า
การออกแบบที่มาในรูปลักษณ์แนวตั้งเหมือนตัวแท็บเล็ต Galaxy Note 8.0 เป็นทั้งแท็บเล็ต ทั้งโทรศัพท์ ที่สามารถสนทนาแนบหูได้ เป็นเครื่องที่รองรับการใช้งานร่วมกับปากกา S-Pen หรือปากเขียนหน้าจอตัวเก่งของ Samsung ซึ่งขออธิบายคร่าวๆ สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า ปากกา S-pen แตกต่างจากปากกาเขียนหน้าจอทั่วๆ ไปอย่างไร
ข้อแรก มันเป็นปากกาที่มีการยอมรับว่า มีความไวตอบสนองที่แม่นยำและใกล้เคียงปากกาจริงมากในปัจจุปัน ตัวมันใช้เทคโนโลยีการส่งสัญญาณไฟฟ้าผ่านลงบนหน้าจอได้โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ และแผงหน้าจอรับสัมผัสของเครื่อง Samsung Galaxy Tab A สามารถแยกแยะความแตกต่างของน้ำหนักแรงกดของหัวปากกา และแยกนิ้วมือมนุษย์ออกจากปลายปากกาได้ ทำให้มันสามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ บนฟังชั่นต่างๆ ที่ทาง Samsung ใส่เข้ามาให้ในเครื่อง Galaxy Tab A ตัวนี้ครับ
สเปคเครื่อง Samsung Galaxy Tab A
สเปค Samsung Galaxy Tab A 8.0
- 3G HSDPA
- 4G LTE
- หน้าจอ TFT ขนาด 8 นิ้วความละเอียด 768 x 1024 pixels (160 ppi)
- Android 5.0 Lollipop
- CPU Qualcomm Snapdragon 410 Octa-core 1.2GHz 64-bit
- RAM 2GB
- หน่วยความจำภายใน 32GB สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 128GB
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot
- Bluetooth 4.0
- Micro USB 2.0
- GPS, GLONASS
- เซนเซอร์ Accelerometer
- กล้องความละเอียด 5MP
- กล้องหน้าความละเอียด 2MP
- แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh
- ราคาเปิดตัว 12900 บาท
โดยรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในไทยที่เรากำลังพรีวิวอยู่ในขณะนี้คือรุ่นที่รองรับการใส่ซิมรองรับ 4G LTE หน้าจอความละเอียด HD แรม 2GB และ หน่วยความจำภายในเป็นขนาด 16GB เหลือใช้จริงประมาณ 10GB พร้อมช่องเพิ่มหน่วยความจำภายนอก Micro SD card
โดยรวมจะเห็นว่าเครื่อง Galaxy Tab A ไม่ได้มีสเปคสูง แต่เป็นหน่วยประมวลผลใหม่ครับ Snapdragon 410 ที่ใช้เทคโนโลยี 64-bit พร้อมแรมขนาด 2GB แต่อย่าเพิ่งสบประมาท ประสิทธิภาพการใช้งานถือว่าไวนะครับ คล้ายๆ กับตัว Galaxy Note 8.0 แต่ก่อนเลย ที่สเปคเครื่องไม่สูงนัก แต่การใช้งานกลับไหลลื่นดีทีเดียว
ตัวเครื่องออกแบบมาได้บางมาก ผมชอบ จับถือเบากว่าครับ และหน้าจอปรับมาใช้สัดส่วน 4:3 เพื่อการใช้งานแนวตั้งที่เหมาะสมมากขึ้นครับ สำหรับอัตตราส่วนนี้ ก็เหมาะกับการอ่าน ชม ที่ใกล้เคียงกับขนาดหนังสือหรือไซด์กระดาษมาตรฐานกว่าสัดส่วน 16:9 ครับ แต่ในเรื่องของการใช้งานแนวนอนอาจจะด้อยกว่า 16:9 ในเรื่องของการรับชมภาพยนต์ โดยเฉพาะภาพยนต์หรือวีดีโอที่มาในรูปแบบ Wide Screen ครับ
ด้านหลังตัวเครื่องเรียบๆ ง่ายๆ และกล้องนูนออกมาตามสไตล์ออกแบบในยุคหลังของ Samsung ตัวลำโพงยังคงเป็น Mono ลำโพงเดี่ยว และอยู่ด้านล่าง เน้นการทำงานสนแนวตั้งเต็มรูปแบบครับ
พอร์ตข้างเครื่องที่มีทั้งใส่ซิมการ์ดและรองรับ Micro Sd card รองรับการเชื่อมต่อ 3G และ 4G ทุกเครือข่ายในไทย
หน้าจอความละเอียดที่ดูจะหลงยุคไปหน่อย สำหรับเครื่องที่มาในราคาประมาณหมื่นกว่าบาท ให้ภาพที่ไม่ค่อยคมชัดตามยุคสมัยที่ไปกันไกลถึง 2K ผมอาจจะอนุมานเอาว่า ด้วยต้นทุนที่แพงกว่าของแผงหน้าจอที่ต้องรองรับปากกา S-pen และกำหนดราคาขายให้อยู่ในประมาณหมื่นต้นๆ อาจจะทำได้เท่านี้ อย่างน้อยสิ่งที่มีดีกว่าเดิม คือเทคโนโลยีจอสมัยใหม่ ทำให้จอภาพของ Galaxy Tab A เกลี่ยแสง สี ได้ดีกว่าจอความละเอียดพอๆ กันที่ผลิตออกมาก่อนหน้านี้ครับ
ทดสอบการใช้งาน
หน้าโฮมใหม่ ของ UI ใหม่ ดูดีขึ้นกว่า Note 8.0 แน่ๆ ครับ เพราะมาพร้อมฟังชั่นที่มีอยู่ใน Galaxy Note4 อย่างเช่น Air command ชุดคำสั่งด่วนจี๋สี่อย่าง แค่เพียงเอาปากกาจ่อหน้าจอแล้วคลิ๊กก็เป็นการเปิดฟังชั่นคำสั่งด่วนขึ้นมาแล้วครับ
ระบบมัลติวินโดว์ซึ่งเป็นตัวเวอร์ชั่นใหม่ครับ ย่อได้สองแบบคือเห็นมินิป๊อบอัพ (โดยการลากนิ้วลงมาจากมุมขวาบนของหน้าแอพ และแบบแบ่งครึ่งจอ (โดยการทัชไอคอนรูปสี่เหลี่ยมในหน้า Recent App) ซึ่งผมว่า เจ้าตัว Tab A ตัวนี้ทำงานในส่วนของ Multi Window ได้ดีนะครับ ลากย่อหน้าต่างไม่มีปัญหา เปิดหน้าแอพสามสี่แอพไว้เต็มหน้าจอก็ยังไม่หน่วงอะไรให้เเห็นอาการนะครับ
แรมขนาด 2GB เพียงพอครับสำหรับการทำงานบน Tab A จริงๆ แล้วตอนแรกที่เห็นสเปคเครื่องก็แอบห่วงๆ อยู่ว่าการใช้งานจะเป็นอย่างไร แต่ได้ทดสอบใช้ก็ผ่านเลยครับ สบายๆ
สามารถปรับระดับขนาดตัวอักษรของระบบได้หลายขนาดครับ ใหญ่สุดนี่ใหญ่มาก แต่ไม่ได้ส่งผลกับขนาดตัวหนังสือในแอพพลิเคชั่นทั้งหมดนะครับ แท็บเล็ตแอนดรอยด์ยังคงเจอปัญหาในเรื่องของขนาดตัวอักษรไม่สมส่วนหน้าจออยู่เช่นเดิม
ฟังชั่นของปากกา S-pen ก็ยังมีการทำงานหลักๆ ที่สำคัญอยู่เช่นเดิม
มีฟังชั่นเดิมๆ ที่คุ้นเคยในการทำงานบน Galaxy Note 4 ยกมาให้ใช้งานด้วยครับ เมนูการเรียกใช้ด่วนจากปากกา S-pen มีการบันทึกด่วน การเลือกอัจฉริยะที่สามารถเลือกสิ่งที่แสดงอยู่หน้าจอได้โดยทันที และการตัดภาพหน้าจอโดยอิสระด้วยปากกา และสุดท้ายคือการเขียนลงไปโดยตรงบนหน้าจอ ทั้งสี่คำสั่งเป็นคำสั่งด่วนที่เราเรียกใช้งานได้แล้วบน Galaxy Tab A ครับ
อีกหนึ่งฟังชั่นที่น่าสนใจ นั้นคือการใช้ปากกาเขียนข้อความเป็นลายมือในช่องกรอกข้อความได้โดยตรง โดยการนำปากกาไปจ่อที่กรอบกรอกข้อความ จะมีไอคอนแสดงขึ้นมาให้เราเลือกการเขียนด้วยลายมือ เพื่อใส่ข้อมูลได้ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทยครับ ทดสอบการใช้งานแล้ว ต้องบอกว่า สะดวก ไว และแม่นมากๆ
ทาง Samsung ได้มีการเตรียมแอพพลิเคชั่นสำหรับการทำงานที่เหมาะสมกับเครื่อง Galaxy Tab A เอาไว้ให้ใช้งานได้ฟรีๆ ใน Galaxy Gift อีกด้วย รับรองว่าได้เครื่องมาก็ลองใช้งานกันได้ทุกคนครับ รับสิทธิ์กันได้ทุกเครื่อง
ราคาตัวเครื่องตัวเครื่องของ Galaxy Tab A เราได้รับทราบมาแล้วทั้งสองขนาดหน้าจอ คือ 12,900 บาทสำหรับหน้าจอ 8.0 นิ้ว และ 14,900 บาท สำหรับรุ่นที่มีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว โดยทั้งสองเครื่องจะเปิดการจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆ นี้
หลายๆ คนถามถึงความแตกต่าง เมื่อลองเทียบการใช้งานกับเครื่อง Galaxy Note 8.0 กับ Galaxy Tab A 8.0 แล้ว ผมให้ประสิทธิภาพการทำงานอยู่ในระดับเดียวกันครับ ต่างกันนิดหน่อยในเรื่องความลื่นไหล อาจะด้วยระบบซอฟแวร์ที่ใหม่กว่า จัดการการทำงานของระบบได้ดีกว่า และสัดส่วนหน้าจอแบบ 4:3 ของเครื่อง Tab A ทำให้ผมชอบมันมาก ทำงานได้สะดวกกว่าโดยเฉพาะแนวตั้ง
แอพพลิเคชั่นที่เป็นตัวเด็ดจากทาง Samsung ก็คือตัว SideSync 3.0 ครับ ซึ่งตัวนี้ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างอุปกรณ์ได้ข้ามสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ PC หรือ Mac OS ทำให้เราสั่งงาน ควบคุม และบังคับอุปกรณ์ Samsung ของเราผ่านหน้าจอ PC, Notebook และ Mac ได้ครับ
สามารถเปิดฟังชั่นการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต โดยการแชร์เน็ตจาก 3G, 4G ของเจ้า Tab A ส่งผ่านสายมายังเครื่อง PC ที่เชื่อมต่ออยู่ได้เลยครับ ทำงานต่างๆ ผ่านเครื่อง PC โดยยังมีหน้าจอเครื่อง Tab A อยู่บนหน้าจอให้เราทำงานควบคู่ไปด้วยได้
เราสามารถทำงานโดยตรงบนหน้าจอเครื่อง Tab A ผ่านเมาท์และคีบอร์ดของเครื่อง PC ที่เชื่อมต่ออยู่ได้ ไม่ต่างกับเป็นหน้าจอที่สองของเครื่อง PC เลย แต่น่าเสียดาย ในขณะใช้งานคีย์บอร์ดของเครื่อง PC ยังไม่สามารถใช้งานภาษาไทยได้ครับ
สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับใช้งานบนหน้าจอโดยตรง โดยเฉพาะถ้าเครื่อง PC ของคุณเป็นหน้าจอแบบทัชสกรีน ก็ง่ายเลยครับ ทัชลงไปตรงๆ ได้เลย
แอพพลิเคชั่น Smart Manager ของทาง Samsung เป็นตัวช่วยเหลือและควบคุมตัวเครื่องในการจัดการพื้นที่หน่วยความจำ เคลียแรม และป้องกันจากแอพพลิเคชั่นอันตราย เป็นแอพพลิเคชั่นที่ทาง Samsung เป็นผู้พัฒนาเองเลยครับ
ศักยภาพของการใช้งานปากกา S-pen
“ให้ความรู้สึกไม่แตกต่างกับ Galaxy Note 8.0” แม้จะบอกเหมือนว่า มันไม่ได้พัฒนาไปไหน แต่ก็ไม่ได้หมายถึงมันไม่ดีหรือไม่น่าใช้งานนะครับ เพราะอย่างที่หลายๆ คนอาจจะได้เคยทดสอบใช้งานกันมา ปากกา S-pen บน Galaxy Note 8.0 นี่ก็ระดับสุดยอดแล้วเช่นกัน
ตัวปากกาเป็นการออกแบบใหม่ คล้ายกับปากกาของ Galaxy Note 4 แต่มีความความที่มากกว่า และมีปลายที่แตกต่างออกไป ข้อดีคือปุ่มบนตัวปากกาได้เขยิบขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเทียบกับตัว Note 8.0 แต่ข้อเสียหรืออาจจะเป็นความไม่ชินคือปากกาเป็นทรงแบน การจับอาจจะไม่ถนัดเหมือนปากกาที่เราชินว่าเป็นทรงกลมครับ
คุณ CherryCola ได้ลองทดสอบด้วตัวเอง ให้ความเห็นดังข้อความด้านบนที่ว่ามาครับ ฝากผลงานเทพๆ เอาไว้ให้เราหนึ่งภาพ เป็นภาพของ Vision แห่ง The Avengers นั้นเองครับ
ผลทดสอบด้านภาพ เสียงและการเล่นเกม
ภาพหน้าจอให้ความละเอียดที่ไม่สูงครับ นี่น่าจะเป็นจุดที่หลายๆ คนพูดถึงกัน ด้วยระดับราคาที่หลายคนมีสิทธิ์คาดหวังว่ามันจะมาในระดับที่สูงกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทดสอบลองเข้าเว็บ เข้าอ่านหนังสือ ดูภาพและเล่นวีดีโอ ก็อยู่ในระดับรับได้นะครับ ซึ่งเราเองก็หวังว่าจะมีรุ่นที่หน้าจอความละเอียดสูงกว่านี้นะ ส่วนประสิทธิภาพการเล่นหนังก็เล่นไฟล์ 1080p สบายๆ ครับ เกม HD ก็เล่นไหวครับ ลื่นๆ ส่วนเสียงนั้นดังพอใช้ได้ แต่เสียงออกแบนๆ ครับ ไม่มีมิติมากนัก การออกแบบที่นำลำโพงไว้ด้านข้าง อาจจะทำให้โดนบังได้ขณะถือใช้งานแนวนอน
ผลทดสอบต่างๆ
จับสัญญาณ GPS ใช้เวลาพอประมาณในขณะทดสอบ แต่จับตำแหน่งได้ครับ
แบตเตอรี่ขนาด 4,200 mAh สามารถอยู่กับเราข้ามวันได้ครับ ผมใช้งานได้ประมาณ 12 ชั่วโมงในสถานะการทำงานเต็มที่ เปิด Sync ข้อมูลต่างๆ และเปิดแสงหน้าจอประมาณ 50%
มีโหมดประหยัดพลังงานแบบฉุกเฉิน สามารถทำให้เราอยู่กับแบตเตอรี่ประมาณ 10% ได้ถึงหนึ่งวันโดยประมาณ
การใช้งานด้านการถ่ายภาพ
กล้องถ่ายภาพ 5 ล้านพิกเซล ถ่ายวีดีโอความละเอียดระดับ HD คุณภาพดีขึ้นกว่า Galaxy Note 8.0 ครับ แต่ก็ไม่ได้เป็นเครื่องที่กล้องดีมากมายอะไร พอใช้งานได้ไม่ขัดใจครับ
โหมดการถ่ายภาพพอมีมาให้ใช้ได้ไมาเหงาแม้จะเป็นแท็บเล็ต
ตัวอย่างภาพถ่าย
บทสรุปท้ายรีวิว
ทาง Samsung ได้ระบุชื่อเครื่องของ Tab A 8.0 ตัวนี้ว่า Tab A With S-Pen หมายถึงเครื่องแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับ S-pen นั้นเองครับ ไม่ใช่เครื่อง Galaxy Note รุ่นใหม่แต่อย่างใด แต่การปล่อยให้แฟนๆ ชาวแท็บเล็ตที่อยากใช้งานเครื่องที่พร้อมกับปากกาเช่น Galaxy Note 8.0 รอคอยมานานเกินไป จนไม่ใช่เวลาของการออกรุ่นที่พัฒนาแค่เพียง Minor change แบบนี้ ความหวังจะได้เห็นรุ่นใหม่ที่อัพเกรดสเปคมาเต็มที่ทำให้หลายๆ คนบ่นไปตามกันว่า
แต่ถ้าไม่นับว่ามันเป็นเครื่องตัวตายตัวแทน Galaxy Note 8 แล้วละก็ เจ้า Galaxy Tab A ก็เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพน่าใช้นะครับ สเปคไม่แรงแต่ทดสอบใช้แล้วก็เพียงพอ แถมเป็นเครื่องที่มาพร้อมขนาดหน้าจอแบบ 4:3 และมีเทคโนโลยีปากกา S-pen ซึ่งจะบอกตรงๆ มันก็เป็นเครื่องแท็บเล็ตพร้อมปากกาหน้าจอ 8 นิ้วที่ดีที่สุดในตลาดขณะนี้แล้วละครับ แม้มันจะดีกว่าเดิมแค่เล็กน้อยก็ตาม คนที่ต้องการใช้งานในลักษณะนี้ อย่างไรก็เป็นตัวเลือกที่ดีครับ
