OPPO Pad SE LTE แท็บเล็ตรุ่นคุ้มค่า หน้าจอใหญ่
ถ้าคุณมองหาแท็บเล็ตใช้งานทั่วไปที่ให้ความสามารถคุ้มราคา OPPO Pad SE LTE เป็นตัวเลือกที่น่าจับตา ด้วยหน้าจอใหญ่สบายตา เสียงจัดเต็ม แบตเตอรี่อึด และเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้อย่างชาญฉลาด ตอบโจทย์ทั้งผู้ใหญ่ที่ใช้ทำงานหรือเด็กที่ใช้เรียน และยังใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้หลากหลาย
ในเรตราคานี้ OPPO ยังใส่ฟีเจอร์ AI, ระบบจัดการไฟล์, โหมดเด็ก และฟีเจอร์ความปลอดภัยมาให้ครบ ถือเป็นแท็บเล็ตที่คุ้มกับราคา เหมาะสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มที่ต้องการแท็บเล็ต ที่เน้นด้านหน้าจอและเสียงลำโพง
The Good
- หน้าจอ 11 นิ้ว ความละเอียด 2K ถนอมสายตา ได้รับการรับรองจาก TÜV Rheinland
- ลำโพง 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Omnibearing ให้เสียงรอบทิศแบบอัตโนมัติ
- แบตเตอรี่ใหญ่ 9,340mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 11 ชม.
- ระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC
- มีโหมดสำหรับเด็ก ใช้งานง่าย ปลอดภัย และควบคุมได้ดี
- รองรับ microSD card เพิ่มความจุได้
- ดีไซน์บางเบา วัสดุโลหะ ทนทาน พกพาสะดวก
- รองรับการใช้งานร่วมกับ iOS, macOS, Windows ด้วย O+ Connect
- เชื่อมต่อมือถือ OPPO ได้ลื่นไหลผ่าน Communication Sharing
The Bad
- ไม่แถมอะแดปเตอร์ชาร์จในกล่อง
- กล้องหน้า-หลังเพียง 5MP
-
ฟังก์ชันและประโยชน์ในการใช้งาน
-
กล้องถ่ายรูป
-
วัสดุและการประกอบ
-
ประสิทธิภาพ
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
แท็บเล็ตขนาดกำลังดีจาก OPPO กลับมาอีกครั้งในราคาเบา เด่นที่หน้าจอ ระบบเสียง และความอึดของแบตเตอรี่ เหมาะใช้ทั้งด้านการเรียน ทำงาน หรือเสพความบันเทิง มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะ AI และการเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน OPPO ทำงานร่วมกันไร้สายได้แบบไร้รอยต่อ
โดยเฉพาะในรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเน้นความสะดวก บางเบา และเชื่อมต่อได้ทุกที่ ทุกเวลา ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายด้วยครับ
OPPO Pad SE LTE โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ Communication Sharing ที่ทำให้แท็บเล็ตเชื่อมสัญญาณมือถือจากสมาร์ตโฟน OPPO ได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน ช่วยประหยัดแบตมากกว่าการเปิดฮอตสปอต และยังสามารถสั่งแชร์หน้าจอมือถือขึ้นแท็บเล็ตเพื่อทำงานหรือเล่นแอปต่อได้เลยทันที
นอกจากนี้ยังรองรับการแชร์ไฟล์แบบ drag & drop ข้ามอุปกรณ์ได้อย่างลื่นไหล และที่น่าสนใจคือการรองรับการใช้งานข้ามแพลตฟอร์มผ่านฟีเจอร์ O+ Connect ไม่ว่าจะเป็น iOS, iPadOS, macOS หรือ Windows ก็สามารถส่งไฟล์ระหว่างกันได้แบบง่ายดาย
ในบทความนี้
จอใหญ่ สว่างชัด ถนอมสายตา ใช้ได้นาน
จุดแข็งด้านหน้าจอก็ไม่แพ้ใคร ด้วยขนาด 11 นิ้วแบบ LCD ความละเอียดระดับ 2K รองรับความสว่างสูงสุดถึง 500nits และได้รับการรับรองมาตรฐาน Low Blue Light และ Flicker-Free จาก TÜV Rheinland ซึ่งช่วยลดอาการล้าสายตาเวลานั่งดูคอนเทนต์หรือเรียนออนไลน์ต่อเนื่องนานๆ
เรื่องเสียงก็จัดเต็มให้ผู้ใช้เต็มอิ่มกับลำโพง 4 ตัว พร้อมระบบเสียง Omnibearing Sound Field ที่จะปรับทิศทางเสียงสเตอริโอให้ตรงกับตำแหน่งที่ถือเครื่อง ไม่ว่าจะแนวตั้งหรือแนวนอน รองรับเสียง Hi-Res และ Hi-Res Wireless เมื่อเชื่อมต่อกับหูฟัง ทำให้เหมาะกับการดูหนัง ฟังเพลง หรือคอลออนไลน์ได้อย่างชัดเจน
กล้องพื้นฐาน ดีไซน์พรีเมียม บางเฉียบ
แม้กล้องจะไม่ได้เน้นถ่ายภาพมากนัก (ทั้งหน้าและหลังให้มาที่ 5MP) แต่ก็เพียงพอสำหรับการประชุมออนไลน์ วิดีโอคอล หรือการเรียนผ่านแอป Zoom และ Google Meet ด้วยดีไซน์ตัวเครื่องที่บางเพียง 7.39 มม. และน้ำหนักประมาณ 530 กรัม จึงเหมาะกับการพกพาเป็นพิเศษ โดยรุ่น LTE วางจำหน่ายในสี Starlight Silver ที่ดูเรียบหรู
สเปกพอดี พร้อมใช้ และรองรับการขยาย
OPPO Pad SE LTE ขับเคลื่อนด้วยชิป MediaTek Helio G100 มาพร้อม RAM 4GB ที่ขยายได้อีก 4GB และพื้นที่จัดเก็บภายใน 128GB ซึ่งสามารถเพิ่มด้วย microSD card ได้อีก
รองรับการทำงานทั่วไปได้ลื่นไหล แม้จะไม่ได้เป็นชิประดับเรือธง แต่ก็จัดการทรัพยากรได้ดีเมื่อใช้งานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 สามารถทำงานหลายแอปพร้อมกันได้ไม่ติดขัดอะไรครับกับสเปกเครื่องรุ่นนี้
และ OPPO เคลมว่าระบบนี้จะสามารถคงประสิทธิภาพได้ยาวนานถึง 36 เดือนโดยไม่ลดทอนความเร็วหรือความเสถียร
แบตใหญ่จุใจ ใช้ได้นานข้ามวัน
หนึ่งในจุดขายของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 9,340mAh ใช้ดูวิดีโอต่อเนื่องได้สูงสุด 11 ชั่วโมง พร้อมโหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะที่ช่วยปิดเครื่องอัตโนมัติหากไม่มีการใช้งานนาน 7 วัน และถ้าไม่ได้หยิบใช้งานอะไรก็สามารถสแตนด์บายได้นานถึง 800 วัน เลยทีเดียว รองรับชาร์จไว 33W SUPERVOOC โดยสามารถชาร์จได้ประมาณ 30% ภายใน 30 นาที (อะแดปเตอร์ต้องซื้อแยก)
ฟีเจอร์ AI เสริมการใช้งานให้ฉลาดขึ้น
แม้จะเป็นรุ่นประหยัด แต่ OPPO ก็ไม่มองข้ามเรื่อง AI โดยเพิ่มฟีเจอร์อย่าง AI Document สำหรับการจัดการไฟล์ PDF แปลงเป็นข้อความและแปลภาษาได้ทันทีผ่าน ColorOS 15 โดยไม่ต้องพึ่งแอปอื่นเสริม และยังมี AI Assistant ที่รวมโน้ต ลิงก์ และการแจ้งเตือนต่างๆ ไว้ในที่เดียว พร้อมสั่งงานด้วยคำสั่งง่ายๆ ได้อีกด้วย
ด้านการตกแต่งภาพก็ทำได้สะดวกด้วย AI Editor ที่ช่วยลบวัตถุ เพิ่มความคมชัด หรือลบเงาสะท้อนได้อัตโนมัติผ่านแท็บเล็ตโดยตรง โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปเพิ่มเติม
เหมาะกับครอบครัวและเด็กเล็ก
OPPO Pad SE LTE ยังใส่ใจกลุ่มครอบครัว ด้วย โหมดสำหรับเด็ก ที่มีระบบแยกโปรไฟล์ใช้งาน ป้องกันเด็กเปิดแอปไม่เหมาะสม และสามารถควบคุมเวลาการใช้งานได้อย่างละเอียด พร้อมระบบแจ้งเตือนถ้าเด็กใช้งานในที่แสงน้อยเกินไป โดยจะเข้าสู่โหมดเด็กอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง และต้องใช้รหัสผู้ปกครองหากต้องการออกจากโหมดดังกล่าว
ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาให้ใช้งานง่ายกว่า Google Kids Space อีกทั้งยังเน้นความปลอดภัยและพฤติกรรมการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับเยาวชน
สรุป
ถ้าคุณมองหาแท็บเล็ตใช้งานทั่วไปที่ให้ความสามารถคุ้มราคา OPPO Pad SE LTE เป็นตัวเลือกที่น่าจับตา ด้วยหน้าจอใหญ่สบายตา เสียงจัดเต็ม แบตเตอรี่อึด และเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนได้อย่างชาญฉลาด ตอบโจทย์ทั้งผู้ใหญ่ที่ใช้ทำงานหรือเด็กที่ใช้เรียน และยังใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้หลากหลาย
ในเรตราคานี้ OPPO ยังใส่ฟีเจอร์ AI, ระบบจัดการไฟล์, โหมดเด็ก และฟีเจอร์ความปลอดภัยมาให้ครบ ถือเป็นแท็บเล็ตที่คุ้มกับราคา เหมาะสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มที่ต้องการแท็บเล็ต ที่เน้นด้านหน้าจอและเสียงลำโพง
ราคา OPPO Pad SE
โดยลูกค้าที่ซื้อ OPPO Pad SE รุ่น WiFi (4+128GB) ราคา 5,999 บาท จะได้รับส่วนลดมูลค่า 500 บาท พร้อมรับฟรี OPPO Pad SE Case มูลค่า 799 บาท! พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้ที่ช่องทางออนไลน์ OPPO Official Store
สำหรับ OPPO Pad SE รุ่น LTE อดใจรออีกไม่นาน เตรียมพบได้เร็ว ๆ นี้! ราคา 6,999 บาท