สำหรับ King of Selfie Phone เป็นชื่อเล่นของแบรนด์ OPPO ไปแล้วนะครับ สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ผลิตออกมาเพื่อตอกย้ำในจุดขายนี้ก็คือ OPPO N3 ซึ่งมาพร้อมกล้องหมุนได้ และไม่ใช่กล้องหมุนได้ธรรมดาเพราะมันเป็นกล้องหมุนได้อัตโนมัติ รุ่นแรกขอโลก โดยเราสามารถบังคับการหมุนของกล้องผ่านหน้าจอ และเซนเซอร์ควบคุมด้านหลังของมือถือ ซึ่งมีความแม่นยำสูงครับ โดยเฉพาะการถ่ายภาพ Panorama โดยไม่จำเป็นต้องหมุนตัวไปรอบๆนี่มันสุดยอดมากๆ และถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมทั้งมี Fingerprint Sensor แบบเดียวกับ iPhone และรองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม
เรามาชมวีดีโอรีวิวของ OPPO N3 กันครับ
สำหรับสเปครุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงใช้ได้เลยครับ สเปคเหมือน OPPO Find 7a โดยเปิดราคา 19990 บาทแต่ผมว่าคุ้มค่าครับ เพราะสเปคแรงหาได้มากมายจากมือถือรุ่นอื่นๆ แต่ว่านวัตกรรมกล้องหมุนได้ด้วยตัวเองนั้นมีเฉพาะใน OPPO N3 เท่านั้น
ซึ่งเป็นจุดขายที่คุณหาไม่ได้จากมือถือรุ่นใดๆบนโลก นี่คือความพิเศษที่เล่นเอาผมประทับใจมากๆเลยครับ ยิ่งใช้งานคู่กับ OPPO O Click 2 ด้วยแล้วยิ่งทำให้ OPPO N3 ดูพิเศษยิ่งกว่าใครจริงๆ
สเปคของ OPPO N3
- 3G WCDMA 850/ 900/ 1900/ 2100MHz
- 4G LTE
- ขนาดตัวเครื่อง 161.2 x 77 x 8.9 มม. น้ำหนัก 192 กรัม
- Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM)
- Fingerprint Sensor + O-Touch
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P (403 ppi), กระจก Gorilla Glass 3
- Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย Color OS 2.0
- Qualcomm MSM8974AA Snapdragon 801 Quad-core 2.3 GHz Krait 400
- GPU Adreno 330
- RAM 2GB
- หน่วยความจำภายใน 32GB, เพิ่มภายนอกสูงสุด 128GB (ใส่ในช่องใส่ซิม 2)
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, microUSB v2.0, USB Host, NFC, GPS+GLONASS
- กล้องความละเอียด 16 MP (Schneider Kreuznach), 3456 x 4608 pixels, autofocus, dual-LED flash
- ชุดกล้องสามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (O-Touch)
- ขนาดเซนเซอร์ 1/2.3 นิ้ว, geo-tagging, touch focus, face detection, auto panorama (motorized rotation), HDR
- รีโมทกล้อง OPPO O Click 2
- บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 60fps, HD 720P 120fps
- แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh
- รองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม
- ราคาเปิดตัว 19990 บาท
OPPO N3 ตัวกล่องหรูมากเหมือนเดิมเป็นกล่องพลาสติค ในกล่องจะมีตัวเครื่อง OPPO N3, คู่มือ, เข็มจิ้มถาดใส่ซิม, OPPO VOOC, สาย Micro USB ที่รองรับมาตราฐาน VOOC, หูฟัง In Ear และยังแถมเจ้า OPPO O Click 2 มาให้ด้วยนะ
OPPO N3 มีขนาดเล็กกว่าสมัย OPPO N1 มากครับเพราะหน้าจอลดขนาดลงเหลือ 5.5 นิ้วซึ่งก็ยังใหญ่อยู่ แต่จับถือได้ง่ายขึ้น งานออกแบบสวยหรูดีครับ วัสดุพลาสติคผิวนุ่มสีขาวที่เรียกว่า Baby Skin ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO ส่วนขอบตัวเครื่องจะเป็นโลหะเคลือบสีขาว เจียรขอบแวววาวสวยงามมาก
ชุดกล้องหมุนได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นให้สามารถหมุนได้อัตโนมัติเป็นรุ่นแรกของโลกเลยละครับ ซึ่งผมว่ามันว้าวมากๆเลย กล้องความละเอียด 16 MP (Schneider Kreuznach) สามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (สามารถใช้เป็น Shutter ได้ด้วย) และควบคุมผ่านชุดรีโมทกล้อง OPPO O Click 2 ได้ด้วยครับ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน O-Touch โดยจะทำงานเป็น Fingerprint Sensor ด้วยนะครับ โดยใช้วิธีแตะซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับ iPhone และ Huawei Ascend Mate 7
นอกจากการควบคุมผ่านหน้าจอ, ด้านหลัง และชุดรีโมทกล้อง OPPO O Click 2 แล้วในส่วนกล้องหมุนได้สามารถหมุนด้วยมือตัวเองได้เองเลยนะครับ ไม่จำเป็นต้องใช้โหมดอัตโนมัติก็ได้นะครับทาง OPPO บอกมาว่าไม่มีปัญหาแน่นอน
ด้านล่างตัวเครื่องขอบโลหะจะออกแบบมาให้เกินตัวเครื่องครับ เพราะตรงนี้มี Notification Light ซึ่งดูสวยงามมากๆเลยละ และมีลำโพงตัวเครื่องอยู่ด้วยครับ เสียงที่ได้คมชัดและเสียงดังดีมาก และบริเวณขอบโลหะด้านล่างสามารถห้อยตุ๊กตาหรือพวกกุญแจได้ด้วยนะครับ (จะห้อย OPPO O Click 2 ก็ได้นะ) หลังๆไม่ค่อยมีสมาร์ทโฟนที่ทำที่ห้อยกันแล้วนะเนี่ย^^
ด้านขวามีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายมีถาดใส่ซิม (ใช้ร่วมกับใส่ Micro SD Card) และปุ่ม Power และพอร์ท Micro USB
OPPO O Click 2 หน้าตาดูดีกว่ารุ่นแรกมากครับ ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้นด้วย OPPO N3 จะแถมมาให้เลยนะครับไม่ต้องซื้อเพิ่ม จะบรรจุมาในกล่องเลย ความสามารถก็คือสามารถควบคุมการทำงานของชุดกล้องหมุนได้อัตโนมัติ กดซ้าย-ขวาเพื่อสลับกล้องอย่างรวดเร็ว และกดขึ้น-ลงเพื่อควบคุมการหมุนอย่างละเอียด
OPPO O Click 2 มันคือ Bluetooth Remote Control นั่นเองโดยสามารถเชื่อมต่อกับ OPPO N3 นอกจากใช้ควบคุมกล้องแล้วยังสามารถแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความได้ด้วย เวลาจะใช้งานก็กดที่ปุ่มบนตัว OPPO O Click 2 สองครั้งจะเป็นการเริ่มทำงานโดยอัตโนมัตรครับ (หลังจากการแพร์ครั้งแรก) และเมื่อเราทำโทรศัพท์หาย เราสามารถกดเรียกหาโทรศัพท์ผ่านทาง OPPO O Click 2 ได้ด้วยนะครับ เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจและใช้งานได้ดีมาก ที่สำคัญฟรีครับผม^^
OPPO N3 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh รองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม หน้าตาสวยงาม และมาพร้อมสาย Micro USB ที่รองรับการใช้งาน OPPO VOOC โดยเฉพาะอีกด้วย (สายจะมีลักษณะหนา และพอร์ทจะมีสีเขียว)
จากการทดสอบแบตเตอรี่ของ OPPO N3 ไม่ถึงกับอึดมากแต่ก็ทำได้ดีไม่เลวครับ ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานใช้ได้ และมีจุดเด่นที่เทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที
หูฟังแบบ In Ear หน้าตาหล่อๆของ OPPO N3 ดูดีมากครับเป็นแบบเดียวกับที่แถมมากับ OPPO Find 7 เลยละ และจะมียางหูฟังมาให้อีก 2 ขนาด
เครื่องเล่นเพลงของ OPPO N3 มีหน้าตาสวยงามมากครับ และมีหน้าพิเศษ (Exclusive Space) สำหรับการถ่ายภาพและฟังเพลงมาให้ด้วย และมาพร้อมระบบเสียง MaxxAudio และเมื่อฟังเพลงผ่านหูฟังจะสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง Dirac HD Sound ได้ด้วยครับ (สำหรับลูกเล่นอื่นก็ได้แก่การสวิงเครื่อง เพื่อเปลี่ยนเพลง) และไม่มีวิทยุมาให้นะครับ
คุณภาพเสียงผ่านลำโพงทำได้ดีมาก เสียงดัง มีมิติ เพราะมากครับ แต่เมื่อทดลองฟังเพลงผ่านหูฟังผมว่าค่อนข้างธรรมดาไปหน่อยไม่ค่อยโดดเด่นนักนะครับ ซึ่งผมว่าตอน OPPO Find 7 ทำได้ดีกว่านี้มากนะครับในเรื่องฟังเพลง
ด้านหลังของ OPPO N3 นอกจากจะมีชุดควบคุม O-Touch แล้วยังเพิ่มในส่วนของ Fingerprint Sensor เข้ามาอีกด้วย โดยใช้เทคนิคเดียวกับ iPhone เลยละครับ โดยการแตะนิ้วลงไปเท่านั้น แถมความแม่นยำทำได้ดีมากเลยละ (แต่ผมว่ายังเป็นรอง iPhone นิดหน่อยนะในเรื่องความแม่นยำ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วละครับ) สามารถตั้งค่านิ้วมือได้ถึง 5 ลายด้วยกันครับ
OPPO N3 มาพร้อม Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย Color OS 2.0 ยังคงมาพร้อมจุดเด่นต่างๆครบถ้วน หน้าตา UI แบบใหม่ดูเรียบง่ายแต่สวยงามยื่งขึ้น รวมถึง Transition ที่ดูลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเสริมด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆอย่าง Live Weather 2.0, Task Manager รูปแบบใหม่สวยงามยิ่งขึ้น, เพิ่มฟังก์ชั่น Gaussian Blur ภาพ Wallpaper โดยการแตะสองครั้งที่หน้าจอ ซึ่งเป็นส่วนนึงของ Global Gaussian Blur Effect ใน Color OS 2.0
ฟังก์ชั่นการใช้งานมือเดียว โดยการแตะค้างที่มุมหน้าจอและปัดออกมาจะสามารถย่อหน้าจอลงมาได้ ทำให้สามารถใช้มือเดียวได้สะดวกมากยิ่งขึ้น (สามารถใช้ได้สะดวกทั้งมือขวาและมือซ้าย), สามารถตัดแต่งภาพหลังจากการจับภาพหน้าจอได้ในทันที, ระบบประหยัดพลังงานสามารถตั้งค่าให้การทำงานเบื่องหลังหยุดการทำงานทันทีหลังจากปิดหน้าจอเป็นต้น
OPPO ยังคงมาพร้อมบริการดาวน์โหลด Wallpaper, Theme, Lockscreen ฟรีๆมากมายจุใจ ชนิดว่าปรับแต่งกันได้สนุกสนานไม่ต้องไปหาดาว์นโหลดเพิ่มที่ไหนอีกเลยครับ รวมทั้งธีมพิเศษตามเทศกาลสำคัญๆ OPPO ที่จะตั้งค่าโดยอัตโนมัติเมื่อถึงวันนั้นๆก็ยังมีมาให้เช่นเคย
Gesture & Motion มีลูกเล่นมากมายเช่นเคย ซึ่งเพื่อนๆที่เคยใช้ OPPO มาย่อมต้องคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว สำหรับมือใหม่แนะนำว่ามีอะไรๆให้เล่นเยอะเลยละครับ^__^ มีฟังก์ชั่นป้องกันการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจเวลาปิดหน้าใว้ และคำสั่ง Gesture สั่งงานคำสั่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอก่อนก็จัดเต็มเหมือนเดิม และปรับปรุงมาให้ใช้งานได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นชัดเจนเลยครับ รวมทั้งมีลูกเล่น Motion ควบคุมการทำงานโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอมาให้อีกด้วย
OPPO N3 ในเรื่องการรับชม File Video สามารถรับชมได้อย่างไหลลื่นดีมาก ทดสอบด้วยความละเอียดระดับ Full HD ทำได้ดีเยี่ยมและมีลูกเล่น Popup Play มาให้เช่นเคยครับ
ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 21618 คะแนน
ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 42192 คะแนน
ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 63.1fps
รองรับ Multi Touch 5 จุดสมบูรณ์
GPS จับสัญญาณได้แม่นยำและรวดเร็วดีมาก
OPPO N3 มาพร้อมชุดกล้องสามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (O-Touch) ความละเอียด 16 MP (Schneider Kreuznach), 3456 x 4608 pixels, autofocus, dual-LED flash, บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 60fps, HD 720P 120fps
มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย และสามารถดาว์นโหลดเพิ่มได้ด้วยนะครับ รวมทั้งสิ้นมากถึง 14 ชนิดด้วยกันได้แก่ Normal, Ultra HD (บันทึกภาพความละเอียดสูง 60MP), Colorful Night, Auto Panorama, Expert Mode (สามารถปรับแต่ง White Balance, ISO, EV, Manual Focus), Beauty Mode, After Focus, Super Macro, RAW, Double Exposure, Gif Animation, Audio Photo, Panorama, HDR
OPPO N3 มีจุดเด่นตรงชุดกล้องสามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (O-Touch) คุณภาพการถ่าย Selfie จึงไม่ต่างจากการใช้กล้องหลังมาถ่ายตัวเองเลยครับ และมีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้ถึง 5 ชนิดได้แก่ Normal, Beauty Mode, Double Exposure, Gif Animation, Audio Photo
คุณภาพของกล้อง OPPO N3 ความคมชัดทำไดดีมากครับเนื้อ File สวยมาก เก็บรายละเอียดได้ดีแต่ระบบ White Balance ทำงานได้ไม่ดีในกลางแจ้งไม่ฉลาดเอาซะเลยติดเหลืองมากครับ เวลาถ่ายแนะนำให้ปรบแต่ง White Balance ใน Expert Mode จะได้ภาพที่ออกมาสีสันสวยขึ้น สามารถปรับแต่ง White Balance, ISO, EV, Manual Focus ช่วยให้ถ่ายภาพได้สนุกมากขึ้นอีกด้วยครับ
ที่น่าชื่นชมคือ Beauty Mode บน OPPO N3 มี Filter ให้เลือกใช้ถึง 8 แบบและปรับแต่งได้ 10 ระดับ (100% ปกติจะตั้งค่ามาให้มาตราฐาน 50%) ผมว่าปรับแต่งมาได้กำลังดีไม่มากเกินไปจนรูปหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ถือว่า OPPO พัฒนาในจุดแข็งของตัวเองได้ดีมาก
รวมทั้งชุดกล้องสามารถหมุนได้อัตโนมัติจึงทำให้เกิดฟังก์ชั่น Auto Panorama ซึ่งมันสุดยอดมากครับ เราสามารถถ่ายภาพพาโนรามาได้โดยเราไม่ต้องขยับตัวเลย และภาพที่ออกมาก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากครับ ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมทั้งฟังก์ชั่นที่มีมาตั้งแต่ OPPO Find 7 และ Find 7a นั่นคือ Ultra HD บันทึกภาพความละเอียดสูงถึง 60MP พัฒนาความละเอียดมามากกว่าเดิม และยิ่งใช้งานคู่กับอุปกรณ์เสริม OPPO O Click 2 ยิ่งทำให้ใช้งานได้สนุกและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆมากยิ่งขึ้น ถือว่าเรื่องกล้องและนวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลกเป็นจุดขายสำคัญของ OPPO N3 เลยละครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO N3
เปรียบเทียบ Normal และ Beauty Mode พร้อม Filter ทั้ง 8 แบบได้แก่ Natural, Memory, Japanese, Valencia, Expert, Desert, Rainbow, Mono
Auto Panorama สามารถสนุกได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ภาพที่ได้ออกมาดูเท่มากๆครับ ซึ่งไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนทำได้จริงๆ
Double Exposure การซ้อนภาพโดยการถ่ายรูปสองช็อต ซึ่งจริงๆก็มีแอพพลิเคชั่นออกมาให้ถ่ายภาพแนวนี้ได้นานแล้ว แต่ที่ติดมากับสมาร์ทโฟนเป็นมาตราฐานก็น่าจะมีบนเจ้า OPPO N3 เป็นรุ่นแรกนี่ละครับ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) ซึ่งสนุกดีครับ สามารถสร้างสรรค์ภาพได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว น่าจะถูกใจหลายๆคน
Ultra HD (บันทึกภาพความละเอียดสูง 60MP) จะทำงานโดยการถ่ายภาพอย่างรวดเร็วหลายรูป และนำภาพเหล่านั้นมารวมกันกลายมาเป็นภาพความละเอียดระดับ 60MP บน OPPO N3 ครับ
ข้อดีของ OPPO N3
1. งานออกแบบสวยหรู วัสดุคุณภาพดี ขอบตัวเครื่องโลหะ การประกอบแน่นหนาดีมาก
2. นวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลก
3. สเปคแรง หน้าจอสวย
4. กล้องคุณภาพดี และมีฟังก์ชั่นถ่ายภาพมาให้อย่างจุใจ และสร้างสรรค์มาก
5. มาพร้อมรีโมทกล้อง OPPO O Click 2 ในกล่อง
6. Fingerprint Sensor แบบเดียวกับ iPhone
7. แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh อึดไม่เลวและรองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม
ข้อด้อยของ OPPO N3
1. กล้องระบบ White Balance ทำงานได้ไม่ดีในกลางแจ้งไม่ฉลาดเอาซะเลยติดเหลืองมาก
2. ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และค่อนข้างมีน้ำหนัก
3. สเปคไม่สูงนัก (เมื่อเทียบกับราคา) พอๆกับ OPPO Find 7a
OPPO N3 สรุปแล้วเป็นสมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องกล้องจริงๆครับ และมีจุดขายชัดเจนมาก ขายในเรื่องนวัตกรรมจริงๆ ฉีกแนวจากมือถือทั่วๆไปในตลาดที่แข่งกันในเรื่องของสเปค ซึ่งผมว่ามีไม่กี่รุ่นนะครับที่จะโดดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์แบบนี้ โดยส่วนตัวผมรู้สึกตื่นเต้นไปกับนวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลก ของเจ้า OPPO N3 มากๆเลยละครับ
และนอกจากนวัตกรรมเรื่องกล้องแล้ว สเปคของ OPPO N3 ก็ยังถือว่าแรงอยู่นะครับ โดยจะมีสเปคโดยรวมในระดับเดียวกับ OPPO Find 7a เรื่องความลื่นไหลทำได้ดีมาก หน้าจอสวย เสียงดี (แต่เสียงผ่านหูฟังควรปรับปรุง) และที่น่าแก้ไขที่สุดคือกล้องอมเหลืองเวลาถ่ายภาพกลางแจ้งครับ ซึ่งใน OPPO N1 Mini ไม่เกิดอาการนี้นะ อย่างที่แนะนำครับควรถ่ายภาพในโหมด Expert Mode เพื่อปรับ White Balance ซักหน่อย ซึ่งตรงนี้คงต้องรอ OPPO แก้ไขใน FW ต่อไปครับ
สำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการ Selfie รวมทั้งความแปลกใหม่ในการถ่ายภาพ นวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลกใน OPPO N3 ถือว่าไม่ควรมองงข้ามนะครับ ผมติดใจมากๆเลยละ^__^
[gradeA]