รีวิวหูฟัง Nothing Headphone เด่นที่ดีไซน์ และระบบเสียง

Nothing Headphone (1) หูฟังครอบหูรุ่นแรกจากแบรนด์ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ได้รับความสนใจอย่างมากจากทั้งแฟนเพลงและนักรีวิวสายเทคโนโลยีทั่วโลก เพราะไม่เพียงโดดเด่นเรื่องดีไซน์ แต่หูฟังรุ่นนี้ยังจัดเต็มด้วยคุณภาพเสียงที่พัฒนาร่วมกับแบรนด์เครื่องเสียงระดับตำนานอย่าง KEF (Kent Engineering and Foundry เป็นบริษัทผลิตและพัฒนาลำโพงสัญชาติอังกฤ ษและมีการออกแบบวิธีใช้งานที่ง่าย รองรับการใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ รวมถึงมีแอปพลิเคชั่นทั้งในระบบ Android และ iOS เพื่อการควบคุมได้ในเชิงลึกมากขึ้นของตัวหูฟัง

ด้วยการออกแบบที่ผสานความหรูและความโปร่งใสแบบฉบับ Nothing หูฟังรุ่นนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับวัยรุ่น และคนรักเสียงเพลงที่ต้องการหูฟังที่โดดเด่น ในเรื่องของเสียงก็ยอดเยี่ยม สวมใส่สบายและมีพลังเสียงที่ฟังได้เพราะในทุกแนวจริงๆ

ดีไซน์และความสบายที่ออกแบบเพื่อใช้งานได้ยาวนาน

Nothing Headphone (1) โดดเด่นด้วยดีไซน์โปร่งใส ที่ทำลวดลายเหมือนกลไกภายใน ตัววัสดุทำจาก อลูมิเนียมขึ้นรูป ร่วมกับโฟม PU และพลาสติกคุณภาพสูง มันจึงมีความแกร่งและแข็งแรงมาก รู้สึกได้เลยจากการจับสัมผัส

มีน้ำหนักเบาเพียง 329 กรัม พร้อมที่คาดศีรษะที่แน่นแต่เพียงพอดี ทำให้สวมใส่ได้สบายตลอดโดยไม่รู้สึกบีบรัด

ยังมาพร้อม หน่วยความจำโฟม (Memory Foam) ที่โอบรับใบหูได้ทั้งใบหู ทำให้เสียงภายนอกเงียบโดยที่ยังไม่ได้เปิดระบบ ANC และการเลือกใช้ PU Cushion ที่ไม่เก็บคราบน้ำมันหรือเครื่องสำอาง รู้สึกได้เลยว่าเป็นวัสดุที่เปื่อยยุ่ยได้ง่ายๆ

รองรับช่องหูฟัง 3.5 มม. มีสายแถมมาให้ด้วยภายในกล่อง พร้อมกับสายชาร์จ USB Type-C และกระเป๋าสำหรับพกพา

ระบบควบคุมแบบสัมผัสจริง ตอบสนองแม่นยำ

แทนที่จะใช้ touch sensor แบบเดิม หูฟังรุ่นนี้ใช้ชุดควบคุมที่ปุ่มกายภาพทั้งหมด จับต้องได้จริง โดยมีปุ่มควบคุมทั้งหมดสามจุดด้วยกัน Roller, Paddle และ Button

• Roller: สไลด์ผ่านซ้ายขวาเพื่อปรับเสียง กดเพื่อเล่น/หยุดเพลง และกดค้างเพื่อสลับโหมด ANC/Transparency

• Paddle: สวิช์เลื่อนซ้ายขวา เลื่อนขวาเพื่อข้ามเพลง ซ้ายเพื่อย้อน และกดค้างไปทางใดทางหนึ่งเพื่อกรอเพลง

• Button: ใช้เปิด Assistant หรือ Channel Hop สำหรับสลับแอปเสียงที่ใช้งานล่าสุด (Channel Hop รองรับเฉพาะใช้งานกับ Nothing Phone เท่านั้น)

มีปุ่มเชื่อมต่ออุปกรณ์บลูทูธ เชื่อมต่อได้สองอุปกรณ์พร้อมกัน และมีสวิตช์เปิดปิด จะสังเกตว่าทุกปุ่มเป็นปุ่มกดจริงทั้งหมดเลยครับ ตอบสนองแม่น งานประกอบดี รู้สึกแข็งแรงในทุกปุ่มกด

ผู้ใช้สามารถปรับการทำงานทั้งหมดได้ผ่านแอป Nothing X รวมถึงตั้งค่า EQ แบบละเอียด 8 แถบ และแชร์พรีเซ็ตเสียงผ่าน QR code ได้อีกด้วย

Dual Bluetooth Connection: เชื่อมต่อได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์ เช่น ดูหนังในโน้ตบุ๊ก แล้วสลับมารับสายจากมือถือได้ทันที

เสียงที่ใส ลึก และสมจริงจากความร่วมมือกับ KEF

Nothing Headphone (1) มาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 40 มม. ที่พัฒนาร่วมกับ KEF ผู้นำด้านเสียงระดับไฮเอนด์จากอังกฤษ ทำให้ได้เสียงเบสที่ลึก เสียงกลางที่คมชัด และเสียงแหลมที่นุ่มเบา ให้ความรู้สึกถึงพลังเสียงที่ไม่ต้องพยายามในทุกครั้งที่เปิดเพลงฟัง

ตัวไดรเวอร์มี diaphragm ชุบนิกเกิล เพิ่มความแข็งแรงและลดความเพี้ยนของเสียงแม้จะเปิดด้วยระดับเสียงสูง พร้อม adaptive bass ที่ปรับเบสอัตโนมัติได้ตามแนวเพลง เพิ่มความหนักแน่นโดยไม่กลบรายละเอียดเสียงอื่น คุณภาพเสียวการันตีว่ามีดีและคมกริบ แน่น ไม่ฟุ่ง ไม่เกินหรือพยายามเร่งสิ่งใดจนเกินไป ปรับจูนมาได้ยอดเยี่ยมครับ

รองรับทั้ง USB-C audio, LDAC และ 3.5 มม. Jack พร้อมระบบ Hi-Res Audio 24-bit/96kHz ให้คุณภาพเสียงแบบไร้การบีบอัดทั้งสายและไร้สาย

ฟีเจอร์ Spatial Audio และ Head Tracking

ไม่ว่าจะชมภาพยนตร์ เล่นเกม หรือฟังเพลงทั่วไป หูฟังรุ่นนี้สามารถเปลี่ยนเสียงสเตอริโอให้เป็นเวทีเสียงสามมิติผ่าน Spatialiser และยังมีระบบ Dynamic Head Tracking ที่ตรวจจับตำแหน่งศีรษะเพื่อให้เสียงเคลื่อนตามการขยับได้แบบ 360 องศา แต่ผมเป็นคนไม่ชอบฟังก์ชั่นนี้ เพราะยังไม่มีหูฟังตัวไหนสามารถทำให้เหมือนการฟังจากลำโพงด้านหน้าได้แบบ 100% จริงๆนะครับ ยังมีทิศทางที่หลงๆ ให้ได้เห็นกันอยู่ตลอด

สามารถเปิดความสามารถของเสียง 360 องศาได้ในแอปพลิเคชั่น

ตัดเสียงรบกวนและฟังเสียงรอบข้างได้อย่างแม่นยำมาก ใช้ระบบ Hybrid Active Noise Cancellation โดยอาศัยไมโครโฟนถึง 6 ตัว พร้อม AI วิเคราะห์สภาพเสียงรอบตัวทุก 600 มิลลิวินาที เพื่อการตัดเสียงที่แม่นยำ เงียบมาก โดยเฉพาะการออกแบบ Memory Foam ที่ช่วยให้กั้นเสียงรบกวนได้อย่างมากตั้งแต่ยังไม่ได้เปิด ANC

มีฟีเจอร์ Transparency Mode ให้คุณได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจนมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานขณะเดินทางหรือในที่ที่ต้องมีสติเพื่อรับฟังสิ่งรอบด้าน พร้อมติดตั้งไมโครโฟนในตัวจำนวน 4 ตัว พร้อม AI ที่เรียนรู้จากข้อมูลมากกว่า 28 ล้านสถานการณ์จริง ช่วยให้เสียงสนทนาไม่ถูกกลืนไปกับเสียงรบกวนรอบข้าง

แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 80 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และ 35 ชั่วโมงเมื่อเปิด ANC หากรีบใช้งานก็เพียงชาร์จ 5 นาที ฟังได้ต่ออีก 2.4 ชั่วโมง (เปิด ANC) หรือ 5 ชั่วโมง (ปิด ANC)

สรุปท้ายรีวิว

Nothing Headphone (1) เป็นมากกว่าหูฟังดีไซน์ล้ำ เพราะมันรวมเอาความพิถีพิถันด้านเสียง การออกแบบที่แปลกตา การร่วมมือกับ KEF ทำให้คุณภาพเสียงโดดเด่น ทั้งมิติ ความคมชัด และความลึกของเสียง ขณะที่วัสดุและงานประกอบก็ให้ความรู้สึกพรีเมียมไม่แพ้แบรนด์ใหญ่ใดๆ

จุดเด่นอีกอย่างคือระบบควบคุมที่เป็นปุ่มจริงทั้งหมด ใช้งานได้แม่นและรู้สึกเชื่อถือได้ รวมถึงฟีเจอร์ขั้นสูงอย่าง Spatial Audio, Head Tracking, ANC และการเชื่อมต่อคู่ที่ครบ เหมาะสำหรับทั้งการฟังเพลง ทำงาน หรือเดินทาง

สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังครอบหูที่ “ทั้งฟังดี ทั้งดูดี”  Nothing Headphone (1) คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจของปีนี้ในงบประมาณหมื่นต้นๆ