รีวิว iQOO Neo 10 เกิดมาเพื่อเกมเมอร์ สเปกแรง! จัดเต็มแม็กซ์ 7000mAh

iQOO Neo 10 สมาร์ตโฟนสายเกมมิ่ง สเปกจัดเต็มแม็กซ์ ใส่สุดในทุกแมตช์! ด้วยราคาเบาๆ

iQOO Neo 10 ถูกออกแบบมาเพื่อกลุ่มผู้ใช้งานที่ให้ความสำคัญกับ “ประสิทธิภาพเน้นๆ” โดยเฉพาะคอเกมที่มองหาเครื่องที่แรง เสถียร เล่นได้นาน ฟังก์ชันด้านเกมเยอะ แถมราคายังจับต้องได้

เป็นครั้งแรกที่ iQOO นำเครื่องในซีรีส์ Neo มาจำหน่ายในประเทศ ซึ่งเป็นซีรีส์ที่เน้นจุดขายด้านประสิทธิภาพสูง แต่จะมาในเรทราคาแค่หมื่นกลางๆ เท่านั้น โดยมีการประกาศราคาไทยออกมาที่

• รุ่น RAM 12GB + 256GB ในราคา 15,900 บาท
• รุ่น RAM 16GB + 512GB ในราคา 17,900 บาท

iQOO Neo 10 มาพร้อมจุดที่โดดเด่นกว่าใครหลายด้าน ตั้งแต่การใช้ระบบชิปเซ็ตคู่คุณภาพสูง ตัวประมวลผลหลักเป็นชิประดับไฮเอนด์รุ่นใหม่ Snapdragon 8s Gen 4 ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกในไทยที่มีเปิดจำหน่าย ทำงานคู่กับชิป Q1 สำหรับช่วยประมวลผลภาพโดยเฉพาะ

มี BlueVolt Battery ความจุที่สูงถึง 7000mAh เยอะกว่าใครในท้องตลาด พร้อมรองรับระบบชาร์จไว 120W FlashCharge ทั้งอึดทั้งชาร์จไว ระบบไฟยอดเยี่ยมมาก ให้หน้าจอ AMOLED 144Hz ความละเอียด 1.5K ความสว่างสูงสุด 2000nits และสว่างเฉพาะจุดได้ถึง 5500nits พร้อมลำโพงสเตอริโอคู่ความดังเสียง 300%

เอาแค่ในด้านสเปกที่เกริ่นออกมาแค่นี้ กับราคาขาย xxxxxx ก็คุ้มแล้วครับ ใครมองหาสมาร์ตโฟนเกมมิ่งในตอนนี้ก็บอกตรงๆ ว่าเดินไปซื้อตัวนี้ได้ เป็นตัวจบในงบหมื่นกลางที่เข้าตาที่สุด

แต่นั้นยังไม่หมด เพราะว่า iQOO Neo 10 ยังเด่นในด้านระบบและการออกแบบภายในตัวเครื่องอีกด้วยเช่นกัน เพราะมาพร้อมกับฟีเจอร์เล่นเกมครบชุด ระบบระบายความร้อนรุ่นใหม่ที่ยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีด้าน AI ที่เข้ามาเสริมให้กับการเล่นเกมโดยเฉพาะ

ในบทความนี้ผมจะพามาดูว่า iQOO Neo 10 มีอะไรที่น่าสนใจ และใส่อะไรมาให้เราไว้มากแค่ไหน ติดตามรายละเอียดด้านล่างกันได้เลยครับ

ชิปคู่ Snapdragon 8s Gen 4 + Q1 พร้อมระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่พิเศษ!

iQOO Neo 10 เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกในไทยที่เปิดขายพร้อมกับชิป Snapdragon 8s Gen 4 ชิปเซ็ตระดับไฮเอนด์รุ่นใหม่จาก Qualcomm ใช้สถาปัตยกรรม CPU แบบ All-Big-Core ทุกหัวประสิทธิภาพสูงทั้งหมด เน้นความแรง เร็ว ทำงานคู่กับ GPU Adreno 825 จากผลทดสอบ Benchmark ชิปเซ็ตชุดนี้ได้คะแนนทดสอบที่ 2,400,000 และมีประสิทธิภาพโดยรวมสูงกว่า Snapdragon 8s Gen 3 รุ่นก่อนหน้ามากถึง 49%

แถมยังมีการติดตั้งชิป Q1 ซึ่งเป็นชิปประมวลผลภาพกราฟิกเสริม ที่เข้าทำหน้าที่จัดการด้านการแสดงผลในเกมโดยเฉพาะ เช่น การเพิ่มความคมชัด, การปรับภาพแบบไดนามิก, การเสริมเฟรมเรตของเกมในขณะเล่น โดยจะมีฟังก์ชันทีทำงานด้านการเสริมภาพอยู่สองตัว ที่อาศัยชิปตัวนี้เป็นตัวประมวลผลหลัก

Game Super Resolution (ความละเอียดสูงสำหรับเกม) – จะช่วยเสริมความคมชัดของภาพในเกมให้ดูคมอยู่เสมอ ปรับความละเอียดอัตโนมัติไปตามสถานการณ์ของเกมโดยอาศัยเทคนิค VSR (Video Super-Resolution) และ LDSR (Latent Diffusion Super Resolution) เป็นผลลัพธ์ภายใต้การทำงานของชิป Q1

Frame Rate Enhancement (การแทรกเฟรมวิดีโอในเกม) – เป็นการแทรกเฟรมภาพเพิ่มความลื่นไหลในขณะที่เราเล่นเกม โดยจะทำหน้าที่ในสองรูปแบบตามเกมที่รองรับ ในโหมดใดโหมดหนึ่ง นั้นคือ

• โหมดช่วยประหยัดพลังงาน ตัวระบบจะลดค่าเฟรมเรตเกมลงไปให้อยู่ในระดับปกติเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน แล้วค่อยใช้ระบบตัวนี้เข้าไปเสริมให้เฟรมเรตดูสมูธกว่าความเป็นจริงที่เราตั้งค่าไว้ เช่น จากการลองใช้กับเกม LoL ตัวระบบจะทำการลดเฟรมเรตจาก 120fps ไปเป็น 60fps แล้วเสริมกลับมาเป็น 120fps ด้วยชิป Q1 ซึ่งจะลดภาระของ CPU และ GPU และจะประหยัดพลังงานได้มากกว่า
• โหมดช่วยเร่งเฟรมเรต จะเป็นการยกระดับเฟรมเรตขึ้นไป จาก 90fps เป็น 120fps หรือ 144fps เช่นเกม MLBB, PUBG Mobile, เป็นต้น

ยังมีเกมฮิตอีกหลายเกมที่รองรับในโหมด Frame Rate Enhancement  เช่น Call of Duty: Mobile, Diablo Immortal, Garena RoV, และอีกหลายเกม

เราสามารถเปิด, ปิด Game Super Resolution และ Frame Rate Enhancement ได้จากใน “เครื่องมือเกม” โดยสไลด์จากด้านข้างหน้าจอ ระบบจะแสดงฟังก์ชันที่สามารถใช้งานได้กับเกมที่กำลังเล่นอยู่ขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ

จะเห็นว่าใน iQOO Neo 10 มีฟีเจอร์เกมมิ่งให้มาเยอะมาก เป็นความสามารถที่รวมอยู่ในชุด Ultra Game Mode ที่รวมเอาฟีเจอร์เฉพาะทางสำหรับเกมใส่มาให้ เช่น:

• Game Visual Enhancement ฟิลเตอร์ปรับภาพให้ดูง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น แม้ในฉากมืด ไม่ต้องเลือกฟิลเตอร์เองอีกต่อไป ระบบวิเคราะห์แล้วปรับให้

• ระบบสั่น 4D Vibration จำลองแรงสั่นในเกมได้สมจริง เช่นตำแหน่งไกปืน จะสั่นตรงตามตำแหน่งที่เรากดยิงเป็นต้น

• AI Eye Protection (เฉพาะในเกม) ตรวจจับแสงสีฟ้าในฉากต่างๆ ของเกม และปรับแสงโดยอัตโนมัติเพื่อถนอมสายตาขณะเล่น

• การควบคุมเกมด้วยการเอียงเครื่อง กำหนดใช้การเอียงเครื่องเพื่อควบคุมเกมแทนได้

เฟรมเรตลื่น เล่นเกมได้เต็มแม็กซ์ 144Hz

ผลลัพธ์คือเล่นเกมอย่างเทพเลยครับรุ่นนี้! จากการเปิดโหมด Monster และการเปิด Game Super Resolution และ Frame Rate Enhancement เพื่อให้ภาพคมและเสริมเฟรมเรต  ลองจัด Garena Delta Force แม้จะปรับกราฟิกสูงสุดแล้วยังลื่น เปิดที่ 120fps วิ่งนิ่งสนิทไม่มีแกว่ง แม้จะเป็นจังหวะนัวกันกลางแมพ ตอบสนอง ภาพสวย ติดนิ้วสุดๆ

MLBB, PUBG ก็ได้ภาพอย่างสวย เมื่อลองเปิด Frame Rate Enhancement จะสามารถเล่นบนเฟรมเรตสูงสุด 144Hz ภาพออกมาสมูธสายตามากๆ

ระบบระบายความร้อนก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดแข็ง ภายในติดตั้ง 7K Ultra VC Cooling เป็นระบบระบายความร้อนที่ใช้แผ่น VC ขนาดใหญ่พิเศษถึง 7000 ตร.มม. ครอบคลุมจุดความร้อนหลักทั้ง CPU, กล้อง และแบตเตอรี่ ตัววัสดุระบายความร้อนมีการใช้หลากหลายแบบ สำหรับใครที่จะใช้เครื่องทำการไลฟ์หรือถ่ายวิดีโอยาวๆ ด้านในก็มีการติดตั้งแผ่นกราไฟต์ระบายความร้อนเสริมตรงกล้องหน้าเอาไว้ เพื่อให้ใช้งานได้เสถียรแม้จะไลฟ์หรือบันทึกวิดีโอเป็นเวลานานๆ

ภายในถูกออกแบบให้มีพื้นที่กระจายความร้อนรวมถึง 27000 ตร.มม. ทำให้เครื่องไม่ร้อนแม้เล่นเกมเป็นเวลานานๆ

ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งเกมมือสมัครเล่นหรือสายจริงจังที่ต้องการเครื่องลื่นๆ ไว้ซ้อมมือ iQOO Neo 10 คือคำตอบที่ครบมาก ทั้งแรง ภาพลื่น และเย็นครบในเครื่องเดียว

ตัวเครื่องภายนอก

iQOO Neo 10 มาพร้อมบอดี้ที่ออกแบบมาให้รองรับการใช้งานแบบจริงจัง โดยเฉพาะสายเกมที่ต้องถือเครื่องต่อเนื่องเป็นเวลานาน ตัวเครื่องมีขนาด 163.72 x 75.88 x 8.09 มม. และมีน้ำหนัก 206 กรัม อยู่ในขนาดและรูปทรงสบายมือ ไม่หนักเกินไป ถือใช้งานมือเดียวได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน

iQOO Neo 10 เปิดตัวในประเทศไทยด้วย 2 สีได้แก่

• Blazing Orange (เบลซซิ่ง ออเรนจ์): สีส้มดูร้อนแรงและเป็นสีที่เด่นมาก ลวดลายที่ได้แรงบันดาลใจจากเปลวไฟของนกฟินิกซ์ สื่อถึงความแข็งแกร่งและการเริ่มต้นใหม่ เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบดีไซน์จัดจ้าน ดูมีพลัง และเป็นสีไฮไลท์ของรุ่น

• Cosmic Black (คอสมิก แบล็ค): สีดำคลาสสิก ยังคงเท่และเรียบง่าย เหมาะกับทุกคนได้เช่นเดิม ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย ทำความสะอาดง่าย ซึ่งเป็นสีเครื่องที่เห็นในรีวิวบทความนี้

พื้นผิวด้านหลังทำจากวัสดุพลาสติก ทำลวดลายสะท้อนเงาเอาไว้ดูคล้ายโลหะ ขัดผิวนาโน สัมผัสดีไม่ลื่นมือ และลดการเกิดรอยนิ้วมือในขณะใช้งาน โมดูลกล้องหลังล้อมกรอบไว้ด้วยโลหะเพื่อปกป้องชุดเลนส์

ขอบเครื่องได้รับการออกแบบให้มีความโค้งมนเล็กน้อย เพื่อให้จับถนัดมือมากขึ้น แต่ตัวเครื่องรุ่นนี้จะไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. ติดตั้งมาให้บนตัวเครื่องโดยตรงนะครับ

โครงสร้างแข็งแรงมาก จับแล้วรู้สึกมั่นใจได้เลย และเป็นรุ่นที่ผ่านการรับรองความทนทานในมาตรฐาน MIL-STD-810H  มาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นมาตรฐานทางทหารของสหรัฐฯ ใช้วัสดุกันกระแทกที่มีความหยืดหยุ่นสูง พร้อมกระจกจอ Shield Glass ทนต่อการกระแทกได้ดีกว่าเดิม 150% และติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้วเป็นฟิล์มคุณภาพสูงจากโรงงาน ฟิล์มตัวนี้ช่วยในเรื่องป้องกันหน้าจอแตกจากการตกให้เราได้ด้วยในระดับหนึ่ง

มีการทดสอบความทนของปุ่มกดต่างๆ ทดสอบพอร์ตเชื่อมต่อ ใช้งานได้ยาวนานครับ และสามารถทนต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20°C ถึง 50°C ต่อเนื่องได้นาน 4 ชั่วโมง ฉะนั้นเอาไปลุยต่างประเทศที่มีอากาศแบบสุดขั้วก็ยังพอไหวนะครับ ^^

ทนต่อฝุ่นละอองและน้ำในระดับ IP65 ทำให้สามารถทนต่อน้ำสาดได้จากทุกทิศทาง สามารถใช้งานได้สบายใจในชีวิตประจำวัน ฝนจะตกหรือมือเปียกๆ ก็ใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวล

รองรับ 2 ซิมการ์ด 5G DSDS ไม่รองรับการใส่ microSD Card เพิ่มเติม ติดตั้งเสาอากาศรอบทิศทาง ทำงานร่วมกับ AI SuperLink ช่วยให้การเชื่อมต่อทำได้เสถียรแม้อยู่ในพื้นที่สัญญาณอ่อน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจับสัญญาณ เป็นเทคนิคที่ช่วยป้องกันปัญหาเวลาถือใช้งานแล้วการรับสัญญาณเริ่มแกว่ง

หน้าจอ AMOLED 1.5K 144Hz ความสว่างสูงสุด 5500nits

หากพูดถึงจุดแข็งของ iQOO Neo 10 ที่เหนือกว่าสมาร์ตโฟนในเรตราคาเดียวกัน ก็คือเรื่องของหน้าจอด้วยนี้แหละครับ หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียดระดับ 1.5K (1260 x 2800 พิกเซล) รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz อัตราตอบสนองต่อการทัช (Instant Touch Sampling Rate) 3000Hz และเทคโนโลยีหรี่แสงจอในความถี่ PWM Dimming 4320Hz สูงมาก!

มีความสว่างสูงสุดของหน้าจออยู่ 2000nits และค่าความสว่างสูงสุดเฉพาะจุด (Peak Brightness) อยู่ที่ 5500nits เลยทีเดียว แต่ละเทคโนโลยีถือว่าอยู่ระดับสูงไปทั้งหมด

จอแจ่ม! ภาพสวย เหมาะทั้งการใช้งานในที่ร่มและกลางแจ้ง ผ่านการรับรองจาก SGS ใน 3 ด้าน ได้แก่ แสงสีฟ้าต่ำ, การกระพริบต่ำ และความชัดเจนในการใช้งานกลางแจ้งระดับ 5 ดาว

นอกจากนั้นในด้านระบบเสียง ก็สามารถเร่งเสียงให้ดังได้มากกว่าปกติถึง 300% เปิดสุดเสียงไม่แตก ใช้งานกลางแจ้งยังได้ยินชัด ใช้งานภายในห้องไม่ต้องต่อลำโพงภายนอกเพิ่ม

แบตใหญ่ 7000mAh ชาร์จไว 120W เต็มร้อยใน 36 นาที

อีกหนึ่งในจุดขายของ iQOO Neo 10 คือเรื่อง แบตเตอรี่และระบบชาร์จ จัดเต็มแบบไม่กั๊กกันเลย ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบตล้ำสมัย Semi-Solid Gen 3 Silicon BlueVolt Battery ขนาด 7000mAh ในตัวเครื่องที่ยังคงความบางตามปกติได้อยู่ ถือว่าเป็นตัวเลขขนาดแบตที่ “เหนือกว่ามาตรฐาน” ของสมาร์ตโฟนทั่วไปในกลุ่มราคาเดียวกัน

เหมาะมากสำหรับสายเกม สายดูหนัง หรือใครที่ต้องใช้มือถือทั้งวันโดยไม่อยากพกพาวเวอร์แบงก์ แถมมาพร้อมการบริหารพลังงานเพื่อยืดอายุการใช้งานให้มีอายุแบตที่ยาวนาน ใช้งานได้หลายปีโดยที่เซลแบตเตอรี่ไม่เสี่อมไปก่อนวัยอันควร

รองรับชาร์จไวสูงสุด 120W FlashCharge  และรองรับโปรโตคอลชาร์จเร็วในมาตรฐานอื่นด้วย เช่น PD/PPS รองรับสูงสุด 100W และ UFCS สูงสุด 44W (มาตรฐานชาร์จเร็วแบบเปิดของจีน) เรียกว่าพร้อมสรรพสำหรับการยืมที่ชาร์จเพื่อนมาใช้งาน ^^  และยังรองรับการใช้ตัวเองเป็นพาวเวอร์แบงค์แบบ Reverse Charging 10W จ่ายไฟออกไปให้กับอุปกรณ์อื่นผ่านสาย USB-C to C ได้อีกด้วย

ด้วยที่ชาร์จ 120W FlashCharge ที่แถมมาให้ภายในกล่อง สามารถชาร์จแบต 7000mAh ได้เต็ม 100% ในเวลาเพียง 36 นาทีเท่านั้นเอง

ในกรณีใช้เล่นเกมเป็นระยะเวลานานๆ จะมีความสามารถในการชาร์จแบบบายพาส หรือการจ่ายไฟเข้าเครื่องโดยตรง (Bypass Charging) โดยระบบนี้จะทำการชาร์จไฟให้กับแบตไปจนถึงระดับ 20% แล้วจะหันไปเน้นจ่ายพลังงานเข้าเครื่องแทน ลดการจ่ายไฟเข้าแบตและจะตัดไฟเข้าแบตทันทีเมื่อแบตเตอรี่เต็ม เทคนิคนี้จะช่วยลดการเกิดความร้อนสะสมจากแบตเตอรี่ แถมช่วยยืดอายุของตัวแบต และเมื่อเครื่องยิ่งเย็น ชุดประมวลผลก็ยิ่งวิ่งได้เต็มสปีดมากขึ้นนั้นเอง

แบตอึดมากครับ จากที่ลองใช้งานเล่นเกม ก็เล่นกันทั้งวันได้แบบไม่ต้องห่วงที่ชาร์จเลย เล่นต่อเนื่องในโหมดประสิทธิภาพสูงก็กินพลังงานแค่ประมาณชั่วโมงละ 5-7% เท่านั้นเอง กว่าแบตจะหมดก็ต้องมีการใช้ต่อเนื่องอย่างน้อยๆ 15 ชั่วโมงขึ้นไปละครับ

เราสามารถปรับระดับการใช้ทรัพยากรเครื่องได้ 3 ระดับด้วยตัวเองนะครับ ทั้งการตั้งค่าสำหรับการใช้งานทั่วไป (ปรับได้ในการตั้งค่าแบตเตอรี่) และในขณะเล่นเกม (ปรับได้ในเครื่องมือเกม) โดยจะแยกเป็นระดับ “ประหยัดพลังงาน-สมดุล-และระดับ Monster”

แม้โหมดมอนสเตอร์จะกินพลังงานมากที่สุด และอาจจะมีอุณหภูมิตัวเครื่องที่สูงกว่าโหมดอื่น แต่จากการทดสอบใช้งาน ลองเปิดโหมดมอนสเตอร์ไว้ตลอดเวลา ก็ยังใช้งานได้เช้าถึงค่ำสบายๆ และไม่พบปัญหาเรื่องความร้อนในการใช้งานภายในอาคารที่มีเครื่องปรับอากาศ

Android 15 + Funtouch OS 15 พร้อมฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ

iQOO Neo 10 มาพร้อมซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ล่าสุด รันบนระบบปฏิบัติการ Android 15 ครอบทับด้วย Funtouch OS 15 โดยมีการใส่ฟังก์ชันการทำงานของ AI เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกอยู่หลายความสามารถ

โดยตัวเครื่องรุ่นนี้ใช้ RAM และ ROM ที่เป็นเทคโนโลยีระดับสูงแบบเครื่องกลุ่มเรือธง ติดตั้ง RAM LPDDR5X Ultra ขนาดสูงสุด 16GB มาให้ พร้อมฟีเจอร์ Extended RAM 3.0 ที่ขยายออกไปได้อีก 16GB รวมกันเป็น 32GB และใช้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ UFS 4.1 ที่มีความเร็วมากที่สุดในวงการ ขนาดความจุ 512GB

จะเป็นว่าไม่ใช่แค่ CPU กับ GPU ที่อยู่ในระดับเครื่องเรือธงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้ RAM และ ROM ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดติดตั้งมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน

ในเวอร์ชันใหม่นี้ Funtouch OS 15 เน้นความสะอาดของอินเทอร์เฟซ การตอบสนองที่เร็วขึ้น ที่โดดเด่นคือฟีเจอร์ AI ที่ฝังมากับระบบ ซึ่งช่วยยกระดับการใช้งานให้กับเราได้หลายด้าน

• AI Note Assist ตัวช่วยอัจฉริยะสำหรับจดโน้ต แยกหัวข้อ หรือแปลภาษาแบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับนักเรียน นักศึกษา และสายประชุม หรือนำมาใช้ปรับคำให้กระชับ ทำสรุป อ่านง่าย เข้าใจง่ายมากขึ้น

• Live Transcribe ถอดเสียงพูดออกมาเป็นข้อความ ไม่ต้องจดบันทึกหรือพิมพ์ตาม

• แปลภาษา จากหน้าจอ สามารถเรียกคำสั่งด่วนจากแถบด้านข้างอัจฉริยะ เพื่อเรียกใช้การแปลภาษาจากบนหน้าจอได้ทันที

• Circle to Search with Google ค้นหาทุกสิ่งได้ทันทีเพียงวงกลมบนหน้าจอ โดยไม่ต้องสลับแอปหรือแคปหน้าจอ

• AI Eraser ช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการในภาพ จะเลือกลบเองด้วยการวงกลมหรือลากสีทับ หรือจะให้ AI ทำการวิเคราะห์เพื่อลบคนออกอัตโนมัติก็ได้

• AI Image Expander  การขยายองค์ประกอบภาพให้กว้างขึ้นแบบอัตโนมัติ ด้วยการเติมส่วนที่ไม่มีอยู่จริงขึ้นมาด้วยการประมวลผลจากโมเดล AI ผลลัพธ์ทำได้เนียนมาก

กล้องถ่ายภาพ

ติดตั้งกล้องหลังคู่ กล้องหลักเป็น 50MP พร้อมกันสั่น OIS ใช้เซนเซอร์ Sony IMX882 พร้อมเลนส์มุมกว้าง Ultra-Wide 8MP

กล้องหลังเก็บรายละเอียดได้ดีแม้จะเป็นเครื่องในกลุ่มเกมมิ่ง แต่คุณภาพกล้องไม่ได้น้อยหน้ารุ่นไหนในตลาดเลยครับ ถ่ายภาพได้สวย โฟกัสไว จัดการนอยส์ได้ดีในที่แสงน้อย รองรับการถ่ายวิว ทิวทัศน์ หรือกลางคืน ได้ภาพสวยๆ ได้ไม่ยาก

รองรับการซูมภาพตั้งแต่ 0.6x ไปจนถึง 10x จากที่ทดสอบ การซูมภาพ 2x เป็นระยะที่ยังคมเหมือนไม่ได้ซูม

โหมดถ่ายภาพบุคคลรองรับการถ่ายได้ 3 ระยะ มาพร้อมโหมด AI Beauty ให้เลือกสองสไตล์ แบบธรรมชาติดูมีมิติ และแบบคลาสสิกที่ดูสดใสมากขึ้น สามารถปรับเลือกได้ตามสไตล์ที่ชอบ และมีฟิลเตอร์จัดแสงอัตโนมัติมาให้เลือกอีกหลายรายการ

การถ่ายภาพละลายหลัง สามารถปรับระยะชัดลึกชัดตื้นได้ทั้งก่อนถ่ายและหลังถ่าย และจะมีสไตล์โบเก้ให้เลือกใช้ 3 รูปแบบด้วยกันนะครับ แบบโบเก้หมุนวน และแบบโบเก้ฟองสบู่

ให้กล้องหน้าความละเอียดสูง 32MP มีโหมดบิวตี้และฟิลเตอร์ให้ใช้งานได้ง่ายๆ มาด้วยเช่นกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากโหมดต่างๆ ของ iQOO Neo 10

สรุปท้ายรีวิว

iQOO Neo 10 คือมือถือเกมมิ่งตัวจริงในราคาจับต้องได้ มาพร้อมแนวทางการออกแบบชัดเจนว่าเกิดมาเพื่อ “เกมเมอร์” ทั้งในด้านประสิทธิภาพจากชิปคู่ Snapdragon 8s Gen 4 + Q1 Chip, หน้าจอ AMOLED รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz, ลำโพงคู่ความดังเสียง 300% พร้อมแบตเตอรี่ BlueVolt 7000mAh ชาร์จไว 120W และระบบระบายความร้อน VC Cooling ขนาดใหญ่

แต่สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นยิ่งกว่าคือรายละเอียดเล็กๆ ที่ใส่มาเพื่อใช้งานจริง ทั้งโหมดเล่นเกมที่สามารถเร่งเฟรมเรต, AI เพิ่มความคมชัด, โหมดสั่นสมจริง 4 มิติ และระบบชาร์จแบบบายพาส เหล่านี้คือสิ่งที่เสริมเข้ามาให้การเล่นเกมบน iQOO Neo 10 น่าใช้มากยิ่งขึ้น

เครื่องแรง หน้าจอสวย แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และตัวเครื่องมีความทนทานสูง ผ่านมาตรฐานทดสอบทางการทหาร MIL-STD 810H ทนฝุ่นทนน้ำระดับ IP65

ทุกอย่างอยู่ในเครื่องราคาเริ้่มต้น 15,900 บาทเท่านั้น คุ้มมากครับ

iQOO Neo 10 เปิดจำหน่ายในตัวเลือกสองสี Blazing Orange (เบลซซิ่ง ออเรนจ์) และ Cosmic Black (คอสมิก แบล็ค) โดยมีสองขนาดความจุ

• ขนาด RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 15,900 บาท
• ขนาด RAM 16GB + ROM 512GB ราคา 17,900 บาท