Redmi 15 สมาร์ตโฟนจอใหญ่พิเศษ แบต 7000mAh
Redmi 15 เป็นสมาร์ตโฟนที่จัดมาแบบเต็มๆ กับเรื่องขนาดหน้าจอและขนาดแบตเตอรี่ ให้จอที่ใหญ่มาก แบตอึดมาก ใช้งานได้ยาว เล่นเกมได้นาน ดูคอนเทนต์ได้ครบทุกอย่าง ในราคาเข้าถึงไม่ยาก และเหมาะกับทุกคนที่ไม่ได้มองหาสมาร์ตโฟนเกรดเรือธงราคาแพง
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ 7000mAh และหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 6.9 นิ้ว นี่คือสมาร์ตโฟนสำหรับคนเน้นใช้งานหน้าจอเพื่อเห็นแบบเต็มๆตา และต้องการใช้งานต่อเนื่องระหว่างวันโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่อีกต่อไป เป็นจอคุณภาพสูง ความสว่างดี ความละเอียด FHD+ รีเฟรชรเรท 144Hz ภาพดูลื่นไหลสบายตา พร้อมกับลำโพงเสียงดัง 200% ใครจะเอาใช้รับเงิน หรือใช้งานรับส่งสินค้านอกบ้าน รุ่นนี้อ่านง่ายเห็นชัด ระบบดีครับ อยู่ได้เช้าถึงค่ำสบายๆ
ชิปแรงระดับปานกลาง Snapdragon 685 ไม่ช้าไม่อืดอาด ทำงานทั่วไปเหลือๆ เล่นเกมก็ได้ไม่ติดขัด ด้วยราคาแค่นี้กับสิ่งที่ให้มาก็เห็นได้ชัดเจนว่าคุ้มมาก
ถ้าชอบจอใหญ่ แบตอยู่ได้ตลอดวัน ไม่มีเวลาหรือสถานที่ต้องคอยชาร์จไฟ รุ่นนี้จัดได้เลยครับ
The Good
- หน้าจอใหญ่ 6.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ลื่นไหล
- ความสว่างสูงสุด 850 nits มองเห็นชัดแม้กลางแจ้ง
- ChatGPT พูดว่า: ได้เลยครับ นี่คือสรุป ข้อดี – ข้อเสียของ Redmi 15 แบบแยกเป็นข้อ ๆ ข้อละบรรทัด อ่านเข้าใจง่ายและเหมาะกับการนำไปลงในบทความหรือสรุปรีวิวท้ายโพสต์ครับ 👇 ✅ ข้อดี Redmi 15 • หน้าจอใหญ่ 6.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ลื่นไหล • ความสว่างสูงสุด 850 nits มองเห็นชัดแม้กลางแจ้ง • แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7000mAh ใช้งานได้ยาวถึง 2 วันเต็ม
- รองรับชาร์จเร็ว 33W ชาร์จเต็มภายในประมาณ 85 นาที
- มีฟีเจอร์ Reverse Charging 18W ใช้เป็นพาวเวอร์แบงก์ได้
- ชิป Snapdragon 685 ประหยัดพลังงานและเสถียร RAM สูงสุด 16GB (8GB + ขยายอีก 8GB)
- ระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Audio ให้เสียงดังชัด 200%
- ดีไซน์โค้งมนถือถนัดมือ ดูพรีเมียมแม้เป็นเครื่องระดับราคาเบาๆ
- ราคาคุ้มค่าเมื่อเทียบสเปก
The Bad
- ลำโพงเป็นแบบเดี่ยว ไม่ใช่สเตอริโอ
- กล้องไม่มีเลนส์อัลตร้าไวด์
- ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. บนตัวเครื่อง
-
ความคุ้มค่าต่อราคา
-
ประสิทธิภาพ
-
วัสดุและการประกอบ
-
กล้องถ่ายรูป
-
ฟังก์ชันและประโยชน์ในการใช้งาน
Redmi เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ Redmi 15 Series ที่เน้นความครบเครื่องในงบคุ้มค่า จุดขายสำคัญคือเป็นสมาร์ตโฟนที่มากับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 7000mAh ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 2 วันเต็มโดยไม่ต้องชาร์จพลังงาน พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 6.9 นิ้ว เป็นขนาดที่เต็มตาเกือบจะเทียบเท่าแท็บเล็ต แถมเป็นจอคุณภาพดี ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรตสูงสุด 144Hz ให้การแสดงผลลื่นไหล ภาพสวยสบายตา มองเห็นได้ชัด แค่สองคุณสมบัตินี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับผู้ที่ต้องการมือถือสำหรับจะนำมาดูหนัง เล่นเกม หรือเล่นโซเชียลแบบเห็นชัดๆ ทั้งภาพและตัวอักษรแบบไม่ต้องเพ่งให้มาก
อยู่ในระดับเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ไม่ได้ขายความแรงของชิปเซ็ตอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้หมายถึงจะให้ตัวที่ช้าหรือใช้งานไม่ทันใจ เพราะภายในขับเคลื่อนด้วยชิป Snapdragon 685 ที่มีประสิทธิภาพความเร็วที่ดี ประหยัดพลังงาน และมีความเสถียรเพราะใช้กันเป็นชิป 4G ตัวนิยมกันมานาน
รองรับ RAM สูงสุด 16GB (8GB + ขยายเพิ่มอีก 8GB) พื้นที่เก็บข้อมูล UFS 2.2 ขนาด 256GB และสามารถเพิ่ม microSD ได้ถึง 2TB
นี่ไม่ใช่สมาร์ตโฟนที่แรงที่สุด แต่เป็นสมาร์ตโฟนที่เหมาะที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนจอใหญ่มากๆ แบตอึดมากๆ ใช้งานได้ครอบคลุมทุกกิจกรรมประจำวันทั่วไปที่เราใช้งานกัน และอยู่ในราคาจับต้องได้
Redmi 15 Series จะมีการเปิดตัวออกมาสองรุ่นนะครับ รุ่นแรกคือ Redmi 15 ที่ใช้ชิป Snapdragon 685 ซึ่งคือรุ่นที่นำมารีวิวแนะนำกันในบทความนี้ ซึ่งมีราคาเริ่มที่ 4,999 บาท และอีกหนึ่งรุ่งคือ Redmi 15 5G ที่ใช้ชิป Snapdragon 6s Gen 3 ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อ 5G เปิดขายในราคา 5,999 บาท ในองค์ประกอบด้านอื่นๆ จะคล้ายกันทั้งหมด
ในบทความนี้ เราจะเน้นไปที่ตัวราคา 4,999 บาท ตัวราคาเริ่มต้นที่สเปกไม่ได้ใกล้กับคำว่าเริ่มต้นเลยครับ ^^
ในบทความนี้
ดีไซน์โค้งมน จับถนัดมือ
Redmi 15 มาพร้อมตัวเครื่องดีไซน์โค้งทั้งสี่มุมแบบ Quad-Curved เพื่อให้ถือจับถนัดแม้หน้าจอจะใหญ่ ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 169.48 x 80.45 x 8.40 มม. น้ำหนัก 214 กรัม
มีรายละเอียดฝาหลังทำลวดลายคล้ายโลหะให้ดูพรีเมียมมากขึ้น วัสดุหลักเป็นพลาสติก โครงเครื่องแข็งแกร่ง จับสัมผัสแน่นหนา ผลิตมาในมาตรฐานกันฝุ่นและน้ำ IP64 ทนฝุ่นผงในอากาศได้หมดและกันน้ำกระเซ็นได้โดยไม่เสียหาย ช่วยป้องกันการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เพียงพอ
Redmi 15 มีมาให้เลือก 3 สี ได้แก่ Titan Gray, Midnight Black และ Sandy Purple ซึ่งเป็นสีที่เห็นในรีวิวนี้
รองรับการสแกนลายนิ้วมือตรงปุ่มพาวเวอร์ด้านข้างเครื่อง และใช้กล้องหน้าสแกนใบหน้าเข้าใช้งานได้เช่นกัน ขอบเครื่องด้านบนมี IR อินฟราเรดติดตั้งมาให้ตามสไตล์ Redmi ใช้เป็นรีโมทควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้แค่เข้าไปเพิ่มอุปกรณ์ในการตั้งค่า
อุปกรณ์ภายในกล่องก็มีมาให้ทั้งที่ชาร์จ 33W, สายชาร์จ Type-C และเคสซิลิโคน
แบตใหญ่ 7000mAh ชาร์จเร็ว 33W พร้อม Reverse Charge
นี่คือสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 7000mAh ไม่ต้องชาร์จทุกวัน ใช้งานต่างจังหวัดหรือกลับบ้านดึกยังไงแบตก็ยังเหลือ จากที่ทดสอบใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 2 วันเต็มๆ ในโหมดการทำงานปกติ ซึ่งถ้าจะเปิดโหมดประหยัดแบตเตอรี่ จะสามารถยือเวลาการใช้งานออกไปได้อีกมากถึง 3 เท่า!
แบตอึดมากๆ ครับ ใครชอบเล่นเกม ดูหนัง หยุดยาวนี้รับรองดูได้ตลอดวัน อาจจะไม่ต้องชาร์จแบตเลยก็ได้ ^^
รองรับ ชาร์จเร็ว 33W จากที่ทดสอบสามารถชาร์จแบต 50% ภายใน 35 นาที ซึ่งชาร์จแค่นี้ก็เพียงพอใช้งานได้อีกทั้งวัน และสามารถชาร์จแบตเต็ม 100% ในเวลาประมาณ 85 นาทีครับ
และยังมีฟีเจอร์ Reverse Charging 18W เราสามารถใช้ Redmi 15 เป็นพาวเวอร์แบงก์ชาร์จให้อุปกรณ์อื่นได้ด้วย ถือว่าเหมาะสุดๆ สำหรับคนที่ต้องเดินทางหรือใช้งานนอกบ้านทั้งวัน แล้วลืมนำพาวเวอร์แบงค์ติดไปแล้วเกิดปัญหาแบตเตอรี่หูฟังหมดเป็นต้น
จอใหญ่ FHD+ 144Hz สีสันสดใส ภาพชัดเต็มสายตา
จุดเด่นอีกอย่างคือหน้าจอ LCD ขนาด 6.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2340×1080) เป็นจอในกลุ่มขนาดใหญ่สุดของสมาร์ตโฟน และเป็นจอคุณภาพดีที่รองรับอัตรารีเฟรชเรตสูงสุดถึง 144Hz หาได้ยากครับแม้จะเป็นเครื่องราคาแพงก็ตาม ให้ความลื่นไหลของภาพสูง
ให้ความสว่างสูงสุดถึง 850 nits (HBM) ทำให้มองเห็นได้ชัดแม้กลางแจ้ง ยังผ่านการรับรองจาก TÜV Rheinland ทั้งระบบถนอมสายตา Low Blue Light, Flicker Free และ Circadian Friendly รวมถึงเทคโนโลยี Wet Touch 2.0 ที่สัมผัสหน้าจอได้แม้มีหยดน้ำ
จอดี จอใหญ่ ภาพชัด เต็มๆ ตา มาตรฐาน Widevine L1 ดู YouTube, Netflix รองรับความละเอียด HD แน่นอน
ในด้านเสียง ให้มาเป็นลำโพงเดี่ยว แต่ก็เป็นลำโพงเดี่ยวที่เสียงดังมาก รองรับระบบเสียง Dolby Atmos และ Hi-Res Audio สามารถเร่งเสียงให้ดังได้มากกว่าปกติ 200% เปิดสุดเสียงไม่แตก มีเนื้อเสียงพอประมาณไม่แสบหู สามารถใช้ฟังเพลงดูหนังส่วนตัวได้เลยแม้จะอยู่ภายนอกอาคารก็ยังได้ยินชัดเจน
ชิป Snapdragon 685 พร้อม RAM ขยายได้ 16GB
Redmi 15 ใช้ชิป Snapdragon 685 ขนาด 6nm แบบ Octa-core ความเร็วสูงสุด 2.8GHz พร้อม GPU Adreno รองรับ RAM สูงสุด 16GB (จาก RAM จริง 8GB + ขยาย 8GB) และหน่วยความจำภายในแบบ UFS 2.2 ขนาด 256GB ถือว่าไม่น้อยเกินไปสามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลได้อีกสูงสุด 2TB ผ่าน microSD Card
รองรับการใช้งานทั่วไปได้เพียงพอ ไม่ช้าไม่อึดอัด และเล่นเกมได้ลื่นแล้วในระดับหนึ่ง รันด้วยระบบ Android 15 ครอบทับด้วย Xiaomi HyperOS 2 รองรับการใช้งาน Gemini, Google Circle To Search เรียบร้อย ค้นหาอะไรก็ง่ายๆ
ด้วยความที่หน้าจอมีขนาดใหญ่ ทำให้เวลาเราใช้งานอื่นๆ นอกจากการรับชมหรืออ่านตัวหนังสือ ก็จะมีความถนัดมากกว่า เช่น การพิมพ์ หรือการใช้ดูรูปภาพเป็นต้น
เทียบขนาดหน้าจอกับ iPhone 16 Pro เหมือนพ่อกับลูกกันเลย
ประสิทธิภาพโดยรวมผ่านครับ ใช้งานไม่เจอปัญหาใดๆ แบตเตอรี่อึดสมกับขนาด 7000mAh สามารถใช้งานในปกติประจำวันได้ถึงกว่า 40 ชั่วโมง และถ้าเปิดหน้าจอดูคลิปต่อเนื่องก็จะใช้แบตเตอรี่ประมาณชั่วโมงละ 7% เท่านั้นเอง ดูหนังหรือเล่นไปเลยยาวๆ ได้ถึง 14 ชั่วโมงสบาย
กล้องคู่ AI 50MP โหมดถ่ายภาพบุคคล โหมดกลางคืนมาครบ
ด้านหลังใช้กล้องความละเอียด 50MP (f/1.8, 5P lens) กล้องเดี่ยวที่มาพร้อม AI ถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1080p 30fps ส่วนกล้องหน้า 8MP (f/2.0) ก็รองรับการถ่ายวิดีโอ 1080p เช่นกัน
กล้องอยู่ในมาตรฐานพอใช้ โหมดกล้องไม่เยอะมากมาย แต่มีโหมดถ่ายภาพกลางคืน และโหมดถ่ายภาพบุคคลละลายหลังที่สามารถกำหนดระยะชัดลึกได้ก่อนถ่าย
เหมาะสำหรับถ่ายภาพท่องเที่ยว แชร์โซเชี่ยล คุณภาพกล้องไม่แย่นะครับ ภาพสวย คมใช้ได้ ทั้งภาพกลางวันและกลางคืน รวมถึงการถ่ายภาพบุคคลแบบละลายหลัง
สรุป
Redmi 15 เป็นสมาร์ตโฟนที่จัดมาแบบเต็มๆ กับเรื่องขนาดหน้าจอและขนาดแบตเตอรี่ ให้จอที่ใหญ่มาก แบตอึดมาก ใช้งานได้ยาว เล่นเกมได้นาน ดูคอนเทนต์ได้ครบทุกอย่าง ในราคาเข้าถึงไม่ยาก และเหมาะกับทุกคนที่ไม่ได้มองหาสมาร์ตโฟนเกรดเรือธงราคาแพง
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดยักษ์ 7000mAh และหน้าจอขนาดใหญ่พิเศษ 6.9 นิ้ว นี่คือสมาร์ตโฟนสำหรับคนเน้นใช้งานหน้าจอเพื่อเห็นแบบเต็มๆตา และต้องการใช้งานต่อเนื่องระหว่างวันโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่อีกต่อไป เป็นจอคุณภาพสูง ความสว่างดี ความละเอียด FHD+ รีเฟรชเรท 144Hz ภาพดูลื่นไหลสบายตา พร้อมกับลำโพงเสียงดัง 200% ใครจะเอาใช้รับเงิน หรือใช้งานรับส่งสินค้านอกบ้าน รุ่นนี้อ่านง่ายเห็นชัด ระบบดีครับ อยู่ได้เช้าถึงค่ำสบายๆ
ชิปแรงระดับปานกลาง Snapdragon 685 ไม่ช้าไม่อืดอาด ทำงานทั่วไปเหลือๆ เล่นเกมก็ได้ไม่ติดขัด ด้วยราคาแค่นี้กับสิ่งที่ให้มาก็เห็นได้ชัดเจนว่าคุ้มมาก
ถ้าชอบจอใหญ่ แบตอยู่ได้ตลอดวัน ไม่มีเวลาหรือสถานที่ต้องคอยชาร์จไฟ รุ่นนี้จัดได้เลยครับ
ราคาและโปรโมชั่น Redmi 15 Series
• Redmi 15 (8GB + 256GB) — ราคา 4,999 บาท
สี: Sandy Purple, Titan Gray, Midnight Black
• Redmi 15 5G (8GB + 256GB) — ราคา 5,999 บาท
สี: Ripple Green, Titan Gray, Midnight Black
🛍 โปรโมชั่นพิเศษ!
เมื่อซื้อระหว่างวันที่ 24 ตุลาคม – 22 พฤศจิกายน 2568
รับฟรี! Redmi 15 Giftbox (กระเป๋า + แก้วเชค) มูลค่า 899 บาท
พร้อมสิทธิ์ Spotify Premium 2 เดือน (สำหรับผู้ใช้ใหม่)
วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ Xiaomi Store, ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์








































