Apple เปิดตัว iOS 26 อย่างเป็นทางการในงาน WWDC 2025 นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี โดยข้ามเวอร์ชันจาก iOS 18 มาเป็น iOS 26 เพื่อให้เลขเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการในอุปกรณ์ต่าง ๆ สอดคล้องกัน
การอัปเดตที่สำคัญที่สุดในเวอร์ชันนี้คือ Liquid Glass ซึ่งเป็นแนวทางการออกแบบใหม่ที่ Apple ระบุว่าได้แรงบันดาลใจจาก visionOS โดยออกแบบมาให้รู้สึก “เป็นธรรมชาติและมีชีวิต” แม้เป็นระบบดิจิทัลล้วน หน้าตาอินเทอร์เฟซทั้งหมดจะมีความใสแบบคริสตัล พร้อมการตอบสนองต่อการสัมผัสที่ลื่นไหลมากขึ้น
หน้าจอล็อกก็ได้รับการปรับด้วยดีไซน์ Liquid Glass เช่นกัน โดยแสดงเวลาที่สามารถปรับเปลี่ยนตามภาพถ่ายพื้นหลังและจำนวนการแจ้งเตือนแบบไดนามิก อีกทั้งยังมีฉากพื้นหลังใหม่ที่เรียกว่า Spatial Scenes ซึ่งให้มิติแบบ 3 มิติเหมือนเอฟเฟกต์ของ Nintendo 3DS
แอป Camera ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดในสไตล์ Liquid Glass ด้วยเช่นกัน อินเทอร์เฟซจะมีลักษณะโค้งมนมากขึ้น และสามารถเรียกการตั้งค่าต่าง ๆ ได้เพียงแค่ปาดหน้าจอ รวมทั้งรวบรวมตัวเลือกคุณภาพภาพถ่ายและวิดีโอไว้ในที่เดียว
แอป Photos ก็เปลี่ยนโฉมด้วยเช่นกัน มีการเพิ่มแท็บ Library และ Collections พร้อมความสามารถในการแปลงภาพถ่าย 2 มิติเป็นฉาก Spatial แบบ 3 มิติ
Safari ปรับแถบแท็บใหม่ให้เล็กลงและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยจะเลื่อนหายไปเมื่อสกรอลเพจและแสดงเนื้อหาเต็มหน้าจอมากขึ้นแบบอัตโนมัติ
FaceTime ได้หน้าแรกใหม่ มีโปสเตอร์โปรไฟล์แบบส่วนตัว และสามารถฝากข้อความวิดีโอถึงผู้ติดต่อได้
Phone app เพิ่มแท็บโปรด (Favorites) พร้อมรายการสายล่าสุดและข้อความเสียงแบบใหม่ โดยมีฟีเจอร์สรุปข้อความเสียง (Voicemail Summary) ช่วยประหยัดเวลา
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ Call Screening ที่จะช่วยสกัดเบอร์แปลกที่โทรเข้ามา โดยจะให้คู่สนทนาแจ้งชื่อและเหตุผลก่อนจะปล่อยให้โทรศัพท์ของคุณดัง
ฟีเจอร์ Hold Assist จะช่วยรอสายให้คุณเวลาโทรเข้าเบอร์ที่ต้องรอสายนาน ๆ โดยจะเตือนทันทีเมื่อมีพนักงานรับสายจริง
Messages เพิ่มพื้นหลังใหม่ในแชต ซึ่งสามารถใช้ภาพที่สร้างจาก AI ได้ อีกทั้งยังรองรับการทำโพลในแชตกลุ่ม ส่งเงินผ่าน Apple Cash ในแชต และระบบตรวจจับสแปมภายในเครื่องแบบเดียวกับแอป Phone
Live Translation คือแอปแปลภาษารูปแบบใหม่ที่ได้รับการอัปเกรดด้วย Apple Intelligence สามารถใช้งานระหว่างการโทร และแสดงคำบรรยายแปลภาษาใน FaceTime ได้แบบเรียลไทม์
CarPlay ได้รับดีไซน์ใหม่ในแบบ Liquid Glass เช่นกัน พร้อมโหมดแสดงผลทั้งแบบ Light และ Dark มีการแจ้งเตือนแบบกะทัดรัดและวิดเจ็ตใหม่ที่แสดงกิจกรรมแบบ Live Activity โดยวิดเจ็ตเดียวกันกับบน iPhone สามารถใช้งานบน CarPlay ได้ทันที
CarPlay Ultra ที่เพิ่งประกาศก่อนหน้านี้ ก็กลับมาโชว์อีกครั้ง โดยจะควบคุมหน้าจอทั้งหมดในรถ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว วิทยุ หรือระบบแอร์ พร้อมตัวเลือกปรับแต่งขั้นสูง
การออกแบบใหม่ของ Liquid Glass กำลังจะมาสู่ Apple Music ถูกปรับให้เข้ากับดีไซน์ใหม่ เพิ่มการแปลเนื้อเพลงและการออกเสียง รวมถึงภาพเคลื่อนไหวแบบ 3 มิติของอัลบั้มบนหน้าจอล็อก ฟีเจอร์ AutoMix จะช่วยมิกซ์เพลงให้ลื่นไหล และสามารถปักหมุดเพลงหรือศิลปินโปรดไว้ด้วยฟีเจอร์ Music Pins
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือแอปใหม่ล่าสุด Games ซึ่งเป็นศูนย์รวมเกมทั้งหมดของคุณ แบ่งเป็นแท็บ Home, Arcade, Play Together และ Library เพื่อสำรวจเกมใหม่ ดูกิจกรรมล่าสุด หรือเข้าสู่เกมโปรดได้ทันที
Visual Intelligence ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่เช่นกัน สามารถใช้งานคล้าย Google Circle to Search ได้ แม้จะต้องจับภาพหน้าจอก่อน แล้วค่อยกด “Ask” หรือ “Image Search” เพื่อเลือกไอเท็มที่ต้องการค้นหา ทั้งนี้ยังสามารถแยกข้อความจากการ์ดเชิญ และผนวก ChatGPT มาให้ใช้งานร่วมด้วย
Apple Maps จะเรียนรู้เส้นทางที่คุณใช้บ่อย และเสนอทางเลือกที่เหมาะสมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Visited Places ที่ให้คุณย้อนดูร้านอาหารหรือสถานที่ต่าง ๆ ที่เคยไป
Wallet app ได้หน้าตาใหม่ของบัตรโดยสาร พร้อมแผนที่สนามบิน และแชร์สถานะเที่ยวบินหรืออุปกรณ์ติดตามตำแหน่งผ่าน Find My ได้ด้วย
สุดท้าย Apple เตรียมปล่อย iOS 26 Developer Beta ให้ใช้งานได้วันนี้ ส่วน Public Beta จะตามมาในเดือนหน้า และเวอร์ชันสมบูรณ์สำหรับผู้ใช้ทั่วไปจะเปิดให้อัปเดตในช่วงฤดูใบไม้ร่วง