OPPO เริ่มเดินหน้าโปรโมตสมาร์ตโฟนตระกูล Reno 15 อย่างเป็นทางการ ผ่านการเปิดเผยรายละเอียดด้านดีไซน์ วัสดุ ความทนทาน และหน้าจอ โดยซีรีส์นี้ประกอบด้วย Reno 15 Pro, Reno 15 Pro Mini และ Reno 15 ซึ่งถูกวางตำแหน่งให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการทั้งความพรีเมียมและความแข็งแกร่งในเครื่องเดียว
OPPO Reno 15 Pro ถูกยกให้เป็นรุ่นเรือธงของซีรีส์ มาพร้อมฝาหลังแก้วขึ้นรูปชิ้นเดียว เสริมเอฟเฟกต์ HoloFusion ให้มิติแสงเงาดูโดดเด่น มีให้เลือกสองสีคือ Sunset Gold และ Cocoa Brown พร้อมโมดูลกล้องแบบ Dynamic Stellar Ring ตัวเครื่องบางเพียง 7.65 มม. น้ำหนักประมาณ 205 กรัม ใช้เฟรมอะลูมิเนียมเกรดอากาศยาน เสริมโครงสร้าง All-Round Armour Body และ Sponge Bionic Cushioning เพื่อเพิ่มความทนทานต่อแรงกระแทก หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สี 10-bit รีเฟรชเรตปรับได้สูงสุด 120Hz ขอบจอบางเพียง 1.15 มม. ให้สัดส่วนจอต่อเครื่อง 95.5% ความสว่างสูงสุด 3,600 nits และปกป้องด้วย Gorilla Glass Victus 2
ด้าน Reno 15 Pro Mini ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์สายเครื่องกะทัดรัดแต่ยังคงความพรีเมียม ตัวเครื่องมีความหนา 7.99 มม. น้ำหนักราว 187 กรัม มีให้เลือกสี Cocoa Brown และ Glacier White ซึ่งรุ่นสีขาวมาพร้อมลวดลายริบบิ้นแบบ 3D จากเทคโนโลยี HoloFusion หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.32 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สี 10-bit รีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างสูงสุด 3,600 nits ขอบจอบางสุด 1.6 มม. ให้สัดส่วนจอ 93.35% พร้อมกระจกป้องกัน Gorilla Glass 7i และ AGC DT-STAR D+
ส่วน OPPO Reno 15 รุ่นมาตรฐาน เน้นความสมดุลของดีไซน์และแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ มีให้เลือกหลายสี ได้แก่ Glacier White, Twilight Blue และ Aurora Blue น้ำหนักประมาณ 197 กรัม ยังคงใช้โครงสร้างเสริมความแข็งแรงแบบเดียวกับรุ่นพี่ มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สี 10-bit รีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz ความสว่างสูงสุด 1,200 nits และป้องกันด้วย Gorilla Glass 7i
ทั้งสามรุ่นให้ความสำคัญกับความทนทานในระยะยาว โดยรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นครบ IP66, IP68 และ IP69 เสริมความอึดด้วยพอร์ต USB เคลือบแพลทินัมเพื่อป้องกันการกัดกร่อน รวมถึงโครงสร้าง All-Round Armour Body และ Sponge Bionic Cushioning ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกโดยไม่เพิ่มความหนาของตัวเครื่อง
แม้ OPPO จะยังไม่ประกาศวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ Reno 15 Series ถูกคาดว่าจะเปิดตัวในหลายประเทศเอเชีย รวมถึงอินเดีย ในช่วงเดือนมกราคม 2026 และจะวางจำหน่ายผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และร้านค้าทั่วไป
แหล่งที่มา : Gizmochina










