OPPO เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่สองรุ่นในตระกูล Reno 14 อย่างเป็นทางการในประเทศจีน ได้แก่ OPPO Reno 14 และ OPPO Reno 14 Pro ซึ่งมาพร้อมจุดเด่นครบครันทั้งหน้าจอ OLED ความละเอียดสูง แบตเตอรี่จุใจถึง 6000mAh และขุมพลัง MediaTek Dimensity รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ประสิทธิภาพแรงทะลุ 1.4 ล้านคะแนน AnTuTu พร้อมรองรับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นสูงสุดถึงระดับ IP69 — ระดับที่สูงกว่ามาตรฐานมือถือทั่วไป
สมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นเปิดให้พรีออเดอร์แล้วในจีน และเตรียมวางจำหน่ายจริงในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ โดยยังไม่มีข้อมูลการวางจำหน่ายในระดับสากล ณ ตอนนี้
จอ OLED คมชัด กันน้ำจัดเต็ม IP66/68/69
OPPO Reno 14 มาพร้อมหน้าจอ LTPS OLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รีเฟรชเรต 120Hz และความสว่างสูงสุด 1200nits ตัวเครื่องใช้เฟรมโลหะ พร้อมกระจกฝาหลังแบบกำมะหยี่ที่ให้ผิวสัมผัสแปลกใหม่ โดยมีให้เลือกในสี Mermaid, Half Summer Green และ Reef Black
ในขณะที่ OPPO Reno 14 Pro ขยับขึ้นไปใช้จอ OLED ขนาด 6.83 นิ้ว ความละเอียดและรีเฟรชเรตเท่ากัน แต่โดดเด่นด้วยดีไซน์ กระจกชิ้นเดียวทั้งตัวเครื่อง ที่เน้นความเรียบหรูและเสริมคุณสมบัติกันน้ำกันฝุ่น IP69 ได้ดียิ่งขึ้น รุ่นนี้มีสีพิเศษ Calla Lily Purple เพิ่มเติม พร้อมผิวแบบ iridescent ที่เปลี่ยนสีไปตามแสง
ชิป Dimensity 8350 และ 8450 แรงทะลุ 1.4 ล้านคะแนน
ภายในของ Reno 14 ใช้ขุมพลัง MediaTek Dimensity 8350 ส่วนรุ่น Pro ใช้ Dimensity 8450 ซึ่งทั้งคู่ทำคะแนน AnTuTu ได้เกิน 1.4 ล้านอย่างน่าประทับใจ ทำงานคู่กับ RAM LPDDR5X และ หน่วยความจำ UFS 3.1 โดยมีตัวเลือกความจุตั้งแต่ 12GB/256GB ไปจนถึง 16GB/1TB
กล้อง 50MP ครบชุด พร้อมซูม Periscope และ AI ช่วยแต่งภาพ
ทั้งสองรุ่นมีกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 50MP เท่ากันหมด ได้แก่ กล้องหลัก Sony + กล้อง Ultra-Wide 8MP + กล้อง Periscope ซูมได้ 3.5x และมีกล้องหน้า 50MP เท่ากันด้วย
จุดเด่นด้านการถ่ายภาพเพิ่มเติมคือฟีเจอร์ใหม่ เช่น Live Photo, การแปลงวิดีโอ 4K HDR ไปเป็น Live Photo, และเอฟเฟกต์ CCD Effect ที่ให้โทนภาพคล้ายฟิล์มถ่ายหนัง
แบตเตอรี่จุใจ 6000mAh-6200mAh ชาร์จไวสูงสุด 80W
แบตเตอรี่ของ Reno 14 ให้ความจุ 6000mAh รองรับชาร์จไว 80W ส่วน Reno 14 Pro ขยับขึ้นไปเป็น 6200mAh พร้อมรองรับทั้ง ชาร์จไว 80W แบบมีสาย และ ชาร์จไร้สาย 50W โดย OPPO เคลมว่าทั้งสองรุ่นมีระบบระบายความร้อนแบบใหม่ Nano Ice Crystal ที่นำความร้อนได้ดีกว่าแผ่นกราไฟต์ 3 เท่า
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 พร้อมผู้ช่วย Xiaobu AI
ทั้งสองรุ่นรันบน ColorOS 15 บนพื้นฐาน Android 15 รองรับฟีเจอร์ทันสมัยครบ ทั้ง Split Screen, Floating Window, การส่งภาพ Live Photo ไปยัง iPhone หรือแอปยอดนิยมในจีนอย่าง WeChat และ Xiaohongshu รวมถึงมี AI ผู้ช่วยอย่าง Xiaobu ที่ใช้เทคโนโลยีจาก DeepSeek AI เพื่อช่วยในการเขียนข้อความ, ถามตอบหน้าจอ, และค้นหาข้อมูลตามบริบท
ราคาเริ่มต้นไม่ถึงหมื่นห้า! วางจำหน่าย 23 พ.ค.นี้
OPPO Reno 14
-
12GB + 256GB: 2,799 หยวน → ประมาณ 13,900 บาท
-
16GB + 256GB: 2,999 หยวน → ประมาณ 14,900 บาท
-
12GB + 512GB: 3,099 หยวน → ประมาณ 15,400 บาท
-
16GB + 512GB: 3,299 หยวน → ประมาณ 16,400 บาท
-
16GB + 1TB: 3,799 หยวน → ประมาณ 18,900 บาท
OPPO Reno 14 Pro
-
12GB + 256GB: 3,499 หยวน → ประมาณ 17,300 บาท
-
12GB + 512GB: 3,799 หยวน → ประมาณ 18,900 บาท
-
16GB + 512GB: 3,999 หยวน → ประมาณ 19,900 บาท
-
16GB + 1TB: 4,499 หยวน → ประมาณ 22,300 บาท
ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการวางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ แต่คาดว่าเวอร์ชัน Global น่าจะตามมาในเร็วๆ นี้
OPPO Reno 14 Series ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ในแง่ของฮาร์ดแวร์และฟีเจอร์ที่จับต้องได้จริง ตั้งแต่แบตเตอรี่จุใจ ชิปแรงระดับเรือธง กล้องคุณภาพสูง ไปจนถึงดีไซน์กันน้ำ IP69 ที่หาได้ยากในสมาร์ตโฟนระดับนี้ หาก OPPO สามารถตั้งราคาน่าสนใจในตลาดโลก ก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นรุ่นยอดนิยมใหม่ในช่วงกลางปีนี้