Grounded 2 ถือเป็นหนึ่งในเซอร์ไพรส์จากค่าย Xbox ที่น่าสนใจที่สุดในงาน Xbox Games Showcase ปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกมกำลังจะเปิดให้เล่นบน PC ผ่าน Steam Early Access และบน Xbox Series X/S ผ่านระบบ Game Preview ในเดือนหน้า แต่คำถามคือทำไมถึงตัดสินใจพัฒนาเกมภาคต่อแทนที่จะอัปเดตเนื้อหาให้กับเกมภาคแรกต่อไป ?
ในการให้สัมภาษณ์กับ IGN, Marcus Morgan ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์บริหารของเกมกล่าวว่า
“เราเริ่มต้นพัฒนา Grounded บน Xbox One และเรากำลังเจอกับข้อจำกัดด้านความจุในระดับที่ว่า เราไม่สามารถเพิ่มเนื้อหาเข้าไปในเกมได้อีกแล้วจริง ๆ ถ้าเราต้องการจะเพิ่มอะไรเข้าไปอีก เราจำเป็นต้องโหลดสิ่งเหล่านั้นแบบแยกต่างหาก ซึ่งจะทำลายแนวคิดของความต่อเนื่องและความสมจริงที่เราพยายามจะสร้างขึ้นในเกม”
นอกจากนี้ ยังมีความต้องการที่จะเล่าเรื่องราวใหม่ (เนื่องจากเนื้อเรื่องของภาคแรกจบลงอย่างสมบูรณ์ดีแล้ว) และเพิ่มสิ่งที่เรียกว่า Buggies (พาหนะคล้ายแมลง) ซึ่งมีบทบาททั้งในการเดินทาง การสร้าง และการต่อสู้
“เราเคยทำต้นแบบระบบที่มีสิ่งมีชีวิตหลายชนิดใน Grounded ภาคแรกไว้แล้ว แต่ปัญหาคือเราไม่ได้ออกแบบพื้นที่ในเกมให้รองรับรูปแบบการเล่นใหม่นั้น เมื่อคุณเปลี่ยนความเร็วของการเคลื่อนที่ คุณต้องกระจายระยะห่างระหว่างจุดที่น่าสนใจ (POIs), วิธีการเดินทางในพื้นที่กลางแจ้ง, การเข้าไปในพื้นที่ภายใน, และวิธีการจัดการกับอันตรายตามธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ไม่ได้ถูกออกแบบไว้แต่ต้น ดังนั้นเราจำเป็นต้องสร้างโลกใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับแนวคิดใหม่เหล่านี้ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมเกมภาคนี้จึงมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก”
Obsidian เองก็ไม่ได้พัฒนาเกมนี้เพียงลำพัง Eidos Montreal (สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังเกม Marvel’s Guardians of the Galaxy และ Shadow of the Tomb Raider) นักพัฒนาหลายคนจากสตูดิโอ Eidos Montreal เป็นแฟนตัวยงของเกมภาคแรกและจากความชื่นชอบนั้นเอง สตูดิโอจึงมีบทบาทในการออกแบบโครงเรื่องหลักและตัวร้ายของเกมภาคใหม่
Grounded 2 มีกำหนดเปิดให้เล่นในรูปแบบ Early Access วันที่ 29 กรกฎาคมนี้ โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 29.99 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,100 บาท) แต่คาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้นเมื่อเกมถูกสร้างจนเสร็จ