Review : Midnight Murder Club เกมที่ทำให้เราทั้งขำทั้งลุ้นในความมืด

เชื่อว่าใครหลายคนก็ต้องอยากจะเล่นเกมแนว FPS แบบชิวๆกับเพื่อนกันบ้างมันจะมีไหมนะเกมที่เราจะสามารถดวลปืนแบบไอเดียแจ๋มๆได้บ้าง แต่ตอนนี้ก็มีแล้วกับ Midnight Murder Club เกมที่จะทำให้คุณดึงประสาทหู และ สัญชาติญาณออกมาใช้ ตัวเกมอัพเดทของใหม่มากมาย จะมีอะไรบ้างไปดูกัน!

เกมเพลย์เล่นง่าย ทั้งลุ้น ทั้งฮา

เกมเพลย์หลักของ Midnight Murder Club จะให้เราได้ดวลปืนกับเพื่อนในคฤหาสน์ที่มืดสนิท ทุกคนจะมีปืนลูกโม่คนละ 6 นัด เดินตามหาศัตรูที่อยู่ในคฤหาสน์ จุดสนุกของเกมนี้คือการสร้างบรรยากาศในความมืด เราจะต้องฟังเสียงของศัตรูไม่ว่าจะเป็นเสียงเดิน เสียงปืน หรือแม้แต่เสียงไมค์

แต่ถ้ามีแค่ลูกโม่กับไฟฉาคงน่าเบื่อ เกมนี้ก็ได้ซ่อนอาวุธของต่างๆไว้ตามฉากที่จะเป็นตู้กดให้เราไปเอามาได้ แต่ทุกการกระทำของ Midnight Murder Club จะตามมาด้วยความเสี่ยง ตู้จะส่งเสียง และ เปิดไฟทำให้คุณมีโอกาศถูกเก็บก่อนจะหยิบไอเท็มได้

เราสามารถเลือกจะเปิดไฟฉายเพื่อมองให้เห็นได้มากขึ้นได้ แต่นั้นก็จะทำให้ศัตรูรู้ตำแหน่เราด้วยเพราะไฟฉายเกมนี้สว่างโคตร เปิดทีเดียวรู้กันทั้งบ้าน และเกมนี้ยิงทีเดียวตายนะครับเพราะงั้นคนยิงก่อนหรือเปิดไฟมักจะเสียเปรียบ และระบบเส้นกระสุนก็ช่วยทำให้คนยิงต้องกลัวไปอีกว่าจะถูกเห็นตัวไหม

ด้วยสไตล์การเล่นที่ยังคงพึ่งฝีมือแต่ไม่ได้จริงจังขนาดนั้นทำให้แม้แต่คนที่ไม่เก่งเกมแนว FPS ก็สามารถเล่นได้ส่วนคนที่ฝึกฝีมือกับเกมอื่นมาก็สามารถสนุกได้ แถมแนะนำว่า Midnight Murder Club เหมาะแก่การเล่นกับเพื่อนมากกว่า ด้วยการผสมผสานของการเล่นซ่อนแอบ และ ดวลปืน แถมยังเปิดไมค์ด่ากัน กวนกันได้อีก ทำให้เกมนี้ทั้งลุ้นทั้งฮา

แถม Midnight Murder Club ก็ยังใจปล้ำมี Midnight Murder Club Guest Pass Edition ซื้อเกมคนเดียวชวนเพื่อนมาเล่นได้ตั้ง 4 คน! ตั้งตี้ 5 คนได้สบาย

อัพเดทโหมดใหม่เข้ามาทั้ง PvP และ PvE

ไม่ได้จบแค่ยิงกันเท่านั้นเพราะในโหมดใหม่จะมีของเล่นให้เล่นอีกเยอะ และเป็นตัวเพิ่ม Replay Value ให้กับตัวเกมอีกด้วย! โดยในโหมดใหม่อย่าง Wild Card ที่จะเริ่มด้วยการสุ่มโหมดเกม เราและเพื่อนๆสามารถสุมไพ่เข้าไปเพื่อทำให้กฏของเกมเปลี่ยนไป

ด้วยระบบไพ่แบบนี้ทำให้ในแต่ละเกมจะมีกฏที่ต่างกันออกไป บางทีก็ทำให้ตัวเกมเปลี่ยนแนวไปเลยก็มี เช่น ไพ่เปิดไฟฉายแล้ววิ่งเร็ว ไพ่ทำให้กลายเป็นตัวเล็ก ไพ่ตายแล้วระเบิด หรือไพ่ที่เปลี่ยนแผนที่ไปเลยก็มี ด้วยไพ่เหล่านี้ทำให้การเล่นแต่ละทีไม่ซ้ำซาก หรือบางทีอาจกลายเป็นความโกลาหลปนตลกไปเลย

เราอาจกลายเป็นมนุษย์จิ๋ววิ่งไปทั่วคฤหาสน์ หรือเมื่อผู้เล่นตายจะกลายเป็นระเบิดไฟทำให้ทั้งคฤหาสน์ไฟไหม้ไปหมด หรืออาจเป็นการผสมระหว่างไพ่ยิงหมดรังเพลิง และ ไพ่ยิงทะลุกำแพงทำให้อยู่ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยฝนกระสุน แถมยิ่งเราเล่นก็จะยิ่งได้ไพ่เพิ่มเอาไปปั่นเกมกันต่ออีก

นี้อาจเรียกว่าเป็นโหมดที่ดีที่สุดของเกมแล้วก็ได้ แต่มันก็มีข้อเสียอย่างนึงนั้นคือหากเรามีเพื่อนไม่ครบปาร์ตี้ เราจะได้บอทมาแทนซึ่งเราทำอะไรกับมันไม่ได้ เราเตะมันออกไม่ได้ในโหมดนี้ และ มันก็จะติดกับผู้เล่นไปตลอสร้างความไม่ยุติธรรมในการเล่น

และอีกโหมดนึงคือ GRAVEYARD SHIFT โหมด PvE ที่สามารถเล่นกับเพื่อนได้สองคนโดยกติกาจะเปลี่ยนไปตามเวลาของตอนกลางคืน ยิ่งเวลาผ่านไปจะยิ่งยากขึ้นเรื่อย โดยตัวเกมจะมอบภารกิจที่แตกต่างกันออกไปให้กับเรา บางทีก็หาของ หรืออาเป็นทำลายเสา โดยแต่ละภารกิจที่ผ่านไปเราจะโดนดีบัพมากขึ้นและมากขึ้น เช่น ศัตรูที่ถูกสังหารจะทำให้เราโดนเผยตำแหน่ง แต่เราก็สามารถเลือกบัพให้ตัวเองได้เช่นกัน

ข้อเสียหลัก ( บังคับผูก PSN / ไม่มีเพื่อนไม่สนุก )

ข้อเสียหลัก และ ใหญ่ที่สุดของเกมนี้ก็คงไม่พ้นระบบ PSN ระบบออนไลน์ของ PlayStation mี่เริ่มบังคับให้ผู้เล่นที่เล่นเกมในเครือตัวเองต้องลงชื่อเข้าใช้ มันเป็นเรื่องปกติของเกมเมอร์ชาว PC อยู่แล้วแม้กระทั้งผู้เล่นเวอร์ชั่น Guest ที่ไม่ได้มีเกมยังจำเป็นต้องสมัคร PSN เพื่อเข้ามาเล่น

รวมถึงปัญหาของการหาห้องที่นานมากๆอีกตังหาก เพราะตัวเกมมีคนเล่นไม่ค่อยเยอะ ( ประมาณ 300 ต้นๆ ) ทำให้การหาห้องเล่นแถบจะเป็นไปไม่ได้นั้นทำให้เวลาเราเล่นโหมด Wildcard ถ้าคนไม่ครบเกมก็จะใส่บอทเข้ามาทำให้ไม่สมดุลไปอีก และการ์ดบางใบไม่สามมารถใส่ซ้ำกันได้ แทนที่จะให้ผู้เล่นได้ใส่การ์ดก่อนแต่บอทดันเร่งใส่มาก่อนทำให้บางทีผู้เล่นก็ไม่สามารถใส่การ์ดที่พวกเขาต้องการได้

สรุป

Midnight Murder Club คือเกมปาร์ตี้ที่สนุก สร้างเสียงหัวเราะได้ดีโดยเฉพาะถ้าเล่นกับคนรู้จักที่เรารู้นิสัยของพวกเขามันเหมือนกับการได้กลับไปเป็นเด็กเล่นซ่อนแอบกันในห้องมืดๆ ธีมของเกมชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์แต่ว่าเกมเพลย์ของ Midnight Murder Club นั้นเบื่อง่ายมากๆ เกมนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกของการอยากกลับมาเล่นเท่าไหร่นัก แม้เราจะอยากเก็บไพ่ หรือเล่นโหมด PvE แต่เกมเพลย์หลักๆของเกมก็จะไม่เปลี่ยนไปจากเดิม คือเดินไปในห้องมืดๆ และทำภารกิจตามคอนเซ็ปของเกม แต่ด้วยตัวเกมที่ราคาไม่แพงเพียงแค่ 340 บาทแถมยังสามารถชวนเพื่อนมาเล่นได้อีก ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

แพลตฟอร์ม : Steam , PlayStation 5