Meta Ray-Ban Display แว่นตาอัจฉริยะจอติดเลนส์มาแล้ว! จะเปลี่ยนโลกได้จริงดิ?
ทุกคนนน! มีข่าวร้อนๆ มาเสิร์ฟอีกแล้ว! สายเทค สายแกดเจ็ตนี่ต้องตื่นตัวเลย เพราะว่ามีเรื่องหลุดโลกจาก Meta มาให้เราได้ว้าวกันอีกแล้วครับ! ก่อนงาน Meta Connect จะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ดันมีคลิปวิดีโอแว่นตาอัจฉริยะรุ่นใหม่ของ Meta ที่ร่วมพัฒนากับ Ray-Ban หลุดออกมาให้เห็นกันจะๆ ตาเลยครับคุณผู้อ่าน!
และที่สำคัญกว่านั้นคือ… เจ้าแว่นตัวนี้มันมี ‘จอแสดงผล’ ฝังอยู่ในเลนส์ด้วยครับ! ใช่แล้วครับ! อ่านไม่ผิด! จอแสดงผลบนเลนส์! จะล้ำไปไหนเนี่ยยยย!
Meta Ray-Ban Display คืออะไร? มาดูฟีเจอร์เด่นๆ กัน!
จำ Meta Ray-Ban Stories รุ่นก่อนหน้านี้ได้ใช่ไหมครับ? ที่ถ่ายรูปถ่ายวิดีโอได้น่ะ อันนั้นก็ว่าเจ๋งแล้วนะ แต่คราวนี้ Meta เขาไปอีกขั้นครับพี่น้อง! แว่นรุ่นใหม่นี้ถูกเรียกว่า “Meta Ray-Ban Display” ซึ่งชื่อก็บอกโต้งๆ อยู่แล้วว่ามันมีจอแสดงผล
- จอแสดงผลบนเลนส์ (Heads-Up Display – HUD): นี่แหละคือพระเอกของงาน! จากวิดีโอที่หลุดออกมา มันแสดงให้เห็นว่าข้อมูลบางอย่างจะถูกฉายขึ้นมาบนมุมเลนส์ อาจจะเป็นการแจ้งเตือน, แผนที่นำทางแบบเรียลไทม์ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น ลองนึกภาพดูสิครับว่ามันจะเจ๋งแค่ไหน เวลาเดินไปไหนมาไหนแล้วมีข้อมูลเด้งขึ้นมาตรงหน้าโดยไม่ต้องหยิบมือถือ!
- ดีไซน์ที่ดูหนาขึ้นเล็กน้อย: แน่นอนว่าการยัดเทคโนโลยีล้ำๆ อย่างจอแสดงผลเข้าไปในแว่นตา มันก็ต้องมีผลกับการออกแบบบ้าง จากภาพที่เห็นในคลิป แว่นรุ่นนี้อาจจะดูหนาขึ้นกว่ารุ่นเดิมเล็กน้อย แต่ก็ยังคงความคูลของดีไซน์ Ray-Ban ไว้อยู่นะ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะมันต้องมีพื้นที่สำหรับแบตเตอรี่และฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม
- ต่อยอดจากรุ่นเดิม: เป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดจากรุ่น Stories ที่เน้นการถ่ายภาพและวิดีโอ มาสู่การให้ข้อมูลแบบอินเทอร์แอคทีฟมากขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่า Meta เอาจริงเอาจังกับการสร้าง Metaverse และอุปกรณ์ AR (Augmented Reality) มากแค่ไหน
อนาคตของแว่นตา AR: มองเห็นโลกแบบใหม่ หรือแค่ของเล่นแพง?
การมีแว่นตาที่มีจอแสดงผลนี่มันเปิดประตูสู่โลกใหม่ๆ เยอะมากเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นการนำทางที่ไม่ต้องก้มมองมือถือ, การรับการแจ้งเตือนสำคัญๆ โดยไม่รบกวนคนรอบข้าง, หรือแม้กระทั่งการเรียนรู้และทำงานที่ได้ข้อมูลซ้อนทับอยู่บนโลกจริง มันคือภาพที่เราเคยเห็นในหนังไซไฟไงครับ!
สำหรับในบ้านเราเนี่ย ถ้ามันใช้งานง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และราคาเข้าถึงได้ ผมว่าคนไทยน่าจะตื่นเต้นกับมันนะ โดยเฉพาะสายเดินทางที่ต้องดูแผนที่บ่อยๆ หรือคนที่ต้องรับแจ้งเตือนจากโซเชียลมีเดียตลอดเวลา อันนี้แหละคือเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์! มันอาจจะกลายเป็นอุปกรณ์ชิ้นที่สามที่คนต้องมีติดตัว นอกเหนือจากมือถือและสมาร์ทวอทช์ก็เป็นได้
ความท้าทายที่ Meta ต้องเจอ: แบตหมดเร็ว, แพง, หรือคนไม่กล้าใส่?
แต่แน่นอนว่าเทคโนโลยีแบบนี้มันก็ไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ อย่างเดียว มันก็มาพร้อมกับความท้าทายหลายอย่างเลยครับ:
- แบตเตอรี่: การมีจอแสดงผลจะทำให้แว่นกินแบตเตอรี่มากขึ้น จะทำยังไงให้ใช้งานได้นานพอในแต่ละวัน นี่คือโจทย์ใหญ่เลยสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
- ราคา: แน่นอนว่าของใหม่ ของล้ำแบบนี้ ราคามักจะแพงหูฉี่ ถ้าตั้งราคาแพงเกินไป ก็จะจำกัดกลุ่มผู้ใช้ให้แคบลงไปอีก
- ความเป็นส่วนตัว: แว่นตาที่บันทึกภาพได้แล้วยังแสดงข้อมูลได้อีก จะมีประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก คนจะรู้สึกปลอดภัยที่จะใส่แว่นแบบนี้ออกไปในที่สาธารณะไหม?
- การยอมรับทางสังคม: คนส่วนใหญ่จะกล้าใส่แว่นที่มีจอแสดงผลออกมาเดินตามท้องถนนในชีวิตประจำวันไหม? หรือมันจะดูแปลกแยกจนคนไม่กล้าใช้กันนะ?
ความเห็นส่วนตัว: แว่นอัจฉริยะจะปังในไทยได้ยังไง?
ส่วนตัวผมนะ ผมว่ามันเป็นก้าวที่ใหญ่มากของ Meta ที่ผลักดันเทคโนโลยี AR เข้ามาใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับตลาดในไทยเนี่ย การจะทำให้คนส่วนใหญ่ยอมรับและหันมาใช้แว่นตาอัจฉริยะอย่างแพร่หลาย ยังต้องใช้เวลาและต้องแก้โจทย์หลายอย่างมากๆ เลยครับ ทั้งเรื่องราคาที่ต้องสมเหตุสมผล, การใช้งานที่ต้องง่ายและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนไทยจริงๆ, รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในการใช้งานด้วย
แต่ถ้า Meta ทำได้นะ… มันจะเปลี่ยนวิธีการที่เราปฏิสัมพันธ์กับโลกดิจิทัลไปตลอดกาลเลยล่ะครับ! ลองคิดดูสิ ไม่ต้องก้มหน้าดูมือถืออีกต่อไปแล้ว แต่ข้อมูลต่างๆ มันมาอยู่ตรงหน้าเราเลย จะเจ๋งขนาดไหน!
สรุปและสิ่งที่ต้องจับตาดูในงาน Meta Connect!
ข่าวหลุดนี้มันทำให้เราตื่นเต้นมากๆ และยิ่งทำให้อยากรู้ว่าในงาน Meta Connect ที่กำลังจะมาถึงนี้ ทาง Meta จะเปิดตัวเจ้าแว่น Ray-Ban Display ตัวนี้อย่างเป็นทางการพร้อมฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ อีกบ้าง และที่สำคัญคือจะเคาะราคาเท่าไหร่! ต้องจับตาดูกันให้ดีๆ เลยครับ เพราะนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเทรนด์ใหม่ที่จะเปลี่ยนโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็เป็นได้!
ที่มา: 9to5google.com