MediaTek ยังเดินหน้าต่อสำหรับชิปในซีรี่ส์ Helio สำหรับมือถือระดับตลาดกลางและเริ่มต้น โดยล่าสุดได้เปิดตัว Helio G200 ซึ่งเป็นชิปเซตรุ่นเน้นการเชื่อมต่อ 4G ที่มองผิวเผินอาจดูเหมือนรุ่นใหม่ แต่เมื่อพิจารณาอย่างละเอียดแล้ว กลับพบว่าสเปกโดยรวมแทบไม่ต่างจาก Helio G100 รุ่นก่อนหน้า
Helio G200 ยังคงใช้สถาปัตยกรรม octa-core แบบเดิม ประกอบด้วย Cortex-A76 จำนวน 2 คอร์ และ Cortex-A55 จำนวน 6 คอร์ โดยมีความเร็วสูงสุดเท่ากับรุ่นก่อนหน้าที่ 2.2GHz และ 2.0GHz ตามลำดับ GPU ยังคงเป็น Mali-G57 class แต่มีการปรับความเร็วเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.1GHz จากเดิม
ด้านหน่วยความจำและการเก็บข้อมูลยังเหมือนเดิม รองรับ LPDDR4X สูงสุด 4266Mbps และพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 2.2
แม้ MediaTek จะไม่ได้เปรียบเทียบ G200 โดยตรงกับ G100 แต่กลับอ้างว่าประสิทธิภาพของ G200 ดีกว่า “แพลตฟอร์มคู่แข่ง” แบบไม่ระบุชื่อ โดยอ้างตัวเลขจากการทดสอบว่าชิปตัวใหม่นี้เร็วขึ้นกว่า 35% บน AnTuTu, มีคะแนน single-core ดีกว่า 40% และ multi-core ดีกว่า 20% บน Geekbench รวมถึงประสิทธิภาพ GPU ดีขึ้น 75% และการประหยัดพลังงานในการเล่นเกมดีขึ้น 30%
ความสามารถด้านกล้องและจอยังคงเดิม Helio G200 รองรับกล้องความละเอียดสูงสุด 200MP พร้อมฟีเจอร์ Multi-frame noise reduction และระบบ 12-bit Dual Conversion Gain (DCG) สำหรับวิดีโอ HDR ส่วนหน้าจอรองรับความละเอียด Full HD+ ที่รีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz พร้อมเทคโนโลยี Intelligent Display Sync ที่ช่วยจัดการพลังงานผ่านการปรับรีเฟรชเรตแบบไดนามิก
ในส่วนการเชื่อมต่อ Helio G200 มาพร้อมโมเด็ม 4G LTE แบบฝังใน รองรับ Cat-13, Dual 4G VoLTE, 4×4 MIMO, 256QAM และแบนด์ทั่วโลก อีกทั้งยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ 4G DC SAR ที่ MediaTek อ้างว่าจะช่วยให้ใช้งานแอปโซเชียลและแชตได้ดีขึ้นในพื้นที่สัญญาณต่ำ
สรุปแล้ว แม้จะเปิดตัวในชื่อใหม่แต่ Helio G200 ก็เป็นเพียงเวอร์ชันแต่งหน้าทาปากของ Helio G100 เท่านั้น โดยมีการขยับเล็กน้อยในด้านความเร็วและพลังงาน พร้อมคำอธิบายทางการตลาดชุดใหม่จาก MediaTek
แต่ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับมือถือหรืออุปกรณ์ราคาต่ำกว่าหนึ่งหมื่นบาท ที่ยังต้องการใช้เทคโนโลยีระดับ 4G เป็นทางเลือกให้กับลูกค้า
แหล่งที่มา: Android Authority