วงการเกมนั้นก็อยู่มานานแสนนานทำให้มีโมเมนต์ตำนานมากมายที่กลายเป็นเรื่องตลกไม่ว่าจะเป็นความปั่นของเหล่า Gamer หรือเกมที่พังอาจเป็นบทพูดตัวละคร โมเมนต์ที่มีคนพูดถึงอยู่เยอะ เรารวบรวมโมเมนต์แบบบนั้นมาให้แล้ว!
ในบทความนี้
1.Leeroy Jenkins!!
เหตุการณ์นี้เริ่มต้นจากวิดีโอที่กลุ่มผู้เล่นในเกม World of Warcraft กำลังวางแผนกันอย่างจริงจังเพื่อเข้าไปในดันเจี้ยน “Upper Blackrock Spire” โดยมีการประชุม แบ่งหน้าที่ และคำนวนโอกาสรอดแบบละเอียด แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังวางแผนอยู่นั้น ผู้เล่นคนหนึ่งชื่อ Leeroy Jenkins (ซึ่งเป็นชื่อของตัวละครในเกม) ได้ตะโกนชื่อของตัวเองเสียงดังว่า “LEEROOOOOOY JENKINS!” แล้ววิ่งเข้าไปคนเดียวโดยไม่สนใจแผนที่วางไว้ ทำให้ทุกคนต้องรีบตามเข้าไปและจบลงด้วยการที่ทุกคนในทีมตายหมด ซึ่งทำให้เกิดทั้งเสียงหัวเราะและความหงุดหงิดในทีม
2. I used to be an adventurer like you, then I took an arrow in the knee
“ฉันเคยเป็นนักผจญภัยเหมือนเธอ จนกระทั่งโดนลูกธนูปักที่หัวเข่า” เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินมีมนี้มาก่อนแน่นอนโดยที่มามันมาจาก ในเกม Skyrim ประโยคนี้ถูกพูดซ้ำ ๆ โดย เหล่า NPC ยาม ที่อยู่ในเมืองต่าง ๆ ทั่วทั้งเกม ซึ่งมันกลายเป็นเรื่องตลกในหมู่ผู้เล่น เพราะ NPC พูดประโยคนี้บ่อยเกินไปจนกลายเป็น “มุกซ้ำ” กรอกหูผู้เล่นตลอดการเล่นทำให้ผู้เล่นติดเอามาพูดบนโลกออนไลน์
3.“The Cake is a Lie”
“The Cake is a Lie” เป็นวลีมีมที่โด่งดังมาจากเกม Portal (2007) ซึ่งพัฒนาโดย Valve Corporation ภายในเกมนี้ ตัวเอกที่ชื่อ Chell ต้องแก้ปริศนาและผ่านด่านทดลองต่าง ๆ โดยมีปัญญาประดิษฐ์ชื่อ GLaDOS คอยบอกว่าจะมี “เค้ก” เป็นรางวัลหากเธอผ่านการทดสอบทั้งหมดแต่ เมื่อผู้เล่นสำรวจบางจุดในเกม จะพบห้องลับที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือบนผนังว่า “The cake is a lie.” ซึ่งเป็นการบอกเป็นนัยว่า “เค้ก” ที่ GLaDOS สัญญานั้นไม่เคยมีอยู่จริงเลยตั้งแต่แรก
4.Press F to Pay Respects
ต้นกำเนิดจากเกม Call of Duty: Advanced Warfare (ปี 2014) ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความไว้อาลัยที่ดูแปลก ๆ” และกลายเป็นมีมแนวประชดประชันบนอินเทอร์เน็ต ในช่วงหนึ่งของเกม มีฉากงานศพของเพื่อนทหารที่เสียชีวิต โดยผู้เล่นจะถูกบังคับให้กดปุ่ม Fเพื่อ “แสดงความเคารพ” ต่อผู้ตาย ข้อความบนหน้าจอในขณะนั้นคือ Press F to Pay Respects ปัญหาคือ มันเป็นฉากเศร้าจริงจัง แต่ระบบเกมกลับทำให้รู้สึกเหมือน “กดปุ่มเพื่อผ่านเหตุการณ์ตามสคริปต์” มากกว่าการร่วมไว้อาลัยอย่างมีความหมาย ทำให้ผู้เล่นจำนวนมากรู้สึกว่า “ดูฝืน ดูประดิษฐ์” และกลายเป็นเรื่องตลกโดยไม่ได้ตั้งใจ
5. Nuclear Gandhi
“Nuclear Gandhi” คือหนึ่งในมีมระดับตำนานของวงการเกม โดยเฉพาะในเกมแนววางแผนอย่าง Sid Meier’s Civilization ซึ่งเกี่ยวกับบุคคลชื่อดังอย่าง มหาตมะ คานธี (Mahatma Gandhi) ที่ในโลกจริงขึ้นชื่อเรื่องสันติภาพและอหิงสา แต่ในเกมกลับกลายเป็นผู้นำที่ กดนิวเคลียร์ใส่ชาวบ้านอย่างบ้าคลั่ง ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นเลือกใช้ระบอบประชาธิปไตยในเกม ซึ่งจะ ลดค่า Aggression ลง 2 ระดับ
และเมื่อคานธีอยู่ที่ระดับ 1 อยู่แล้ว พอลดลงอีก 2 มันจะกลายเป็น ค่าติดลบ เช่น -1 แต่เนื่องจากระบบของเกมใช้ตัวแปร แบบจำนวนเต็มไม่ติดลบ (unsigned integer) ค่าที่ติดลบนี้จึง “วนกลับ” ไปยังค่าที่สูงที่สุดในระบบ เช่น 255 ทำให้คานธีกลายเป็นผู้นำที่ “บ้าสงคราม” ที่สุดในเกมโดยไม่ตั้งใจ