Apple กำลังพัฒนา 5 ฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้การเชื่อมต่อดาวเทียมบน iPhone โดยหนึ่งในนั้นคือการใช้งาน Apple Maps ได้แม้ไม่มีสัญญาณมือถือ รวมถึงการส่งภาพผ่านดาวเทียม และเปิดให้นักพัฒนาภายนอกสามารถเพิ่มความสามารถนี้ลงในแอปของตนเองได้ในอนาคต
ตั้งแต่ปี 2022 Apple ได้เริ่มนำฟีเจอร์ Emergency SOS via Satellite มาใช้บน iPhone เพื่อให้ผู้ใช้สามารถติดต่อบริการฉุกเฉินได้แม้ไม่มีสัญญาณมือถือ และใน iOS 18 ก็ได้เพิ่มการส่งข้อความผ่านดาวเทียมทั่วไป ล่าสุดมีรายงานจาก Bloomberg ว่า Apple เตรียมขยายขีดความสามารถของการเชื่อมต่อดาวเทียมให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยมีฟีเจอร์ใหม่ดังนี้:
- Apple Maps ผ่านดาวเทียม: ใช้งานแผนที่ได้แม้ไม่มี Wi-Fi หรือสัญญาณมือถือ
- ส่งภาพผ่านดาวเทียม: จากเดิมที่ส่งข้อความได้ จะสามารถส่งภาพได้ด้วย
- เชื่อมต่อดาวเทียมแม้อยู่ในอาคารหรือมีสิ่งกีดขวาง: Apple กำลังพัฒนาเทคโนโลยี “natural usage” ที่ช่วยให้เชื่อมต่อได้แม้ไม่เห็นท้องฟ้าโดยตรง
- เปิด API ให้นักพัฒนาภายนอก: แอปอื่น เช่น Google Maps อาจรองรับการเชื่อมต่อดาวเทียมในอนาคต
- รองรับ 5G NTN ใน iPhone รุ่นใหม่: คาดว่า iPhone 18 จะสามารถเชื่อมต่อดาวเทียมผ่านเสาสัญญาณมือถือโดยตรง
อย่างไรก็ตาม Apple ยังต้องพึ่งพา Globalstar ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานดาวเทียมในการพัฒนาฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม เพื่อให้ฟีเจอร์เหล่านี้ใช้งานได้จริงใฃสำหรับคนทั่วไป
การขยายขีดความสามารถด้านการเชื่อมต่อดาวเทียมของ Apple จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมาก เปิดโอกาสในการใช้งาน iPhone ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณมือถือหรือ Wi-Fi
หาก Apple สามารถผลักดันฟีเจอร์เหล่านี้ออกมาได้จริงในรุ่นถัดไป จะกลายเป็นจุดเด่นสำคัญที่ยกมาตรฐานด้านการเชื่อมต่อของสมาร์ตโฟน Apple ให้สามารถเป็นอุปกรณ์สำหรับภาคสนามในทุกพื้นที่ได้จริงมากยิ่งขึ้น








