Close Menu
  • Home
  • Android
    • News
    • Tips
  • Apple
    • iPad
      • News
      • Tips
    • iPhone
      • News
      • Tips
  • WINDOWS
    • News
    • Tips
  • Gaming
    • Game Review
    • PlayStation
    • Nintendo
    • Xbox & PC
    • Mobile
  • Gadget Reviews
    • Accessories
    • Devices
  • Wearable
  • EV Car
  • Miscellaneous
    • News
    • Tips
  • Tips and Tricks
  • Video
  • Cooky Policies
  • ติดต่อโฆษณา
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
  • Home
  • Android
    • Tips & Tricks
  • Apple
    • Tips & Tricks
  • Windows
    • Tips & Tricks
  • Gaming
    • Game Review
    • In Spotlight
    • PlayStation
    • Xbox & PC
    • Nintendo
    • Mobile Games
  • Reviews
    • Mobiles & Tablets
    • Game Review
    • Accessories
  • EV Car
  • Miscellaneous
แอพดิสคัสแอพดิสคัส
คุณกำลังอ่าน :Home » Your Updates » รีวิว iPhone 8 Plus: เร็วขึ้น แรงขึ้น สวยขึ้น แต่ควรเปลี่ยนหรือไม่?
Your Updates

รีวิว iPhone 8 Plus: เร็วขึ้น แรงขึ้น สวยขึ้น แต่ควรเปลี่ยนหรือไม่?

29 ตุลาคม 2017Updated:4 พฤศจิกายน 20174 Mins Read
iPhone 8 Plus Review

Apple เปิดตัว iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ไปล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสำหรับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus นั้นได้เปิดจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วน iPhone X นั้นเพิ่งที่จะเปิดให้มีการจองกันไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

iPhone 8 Plus นั้นกำลังจะจำหน่ายในบ้านเราในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 นี้ และแน่นอนว่าด้วยความที่มันเป็นผลิตภัณฑ์ iPhone ตัวใหม่ล่าสุดของตลาด ณ ตอนนี้ ดังนั้นการจะบอกว่ามันเป็น iPhone ที่ดีที่สุดในตอนนี้นั้นจึงไม่น่าจะเป็นเรื่องเกินจริงอะไร อย่างน้อยๆ ก็จนกว่าที่ iPhone X จะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ แต่เจ้า iPhone 8 Plus นั้นจะดีที่สุดและดีมากพอที่จะทำให้เราต้องยอมเสียเงินสามหมื่นกลางๆ ในการอัพเดตหรือไม่นั้น วันนี้ APPDISQUS จะพาเพื่อนๆ มาค้นหาคำตอบกันกับรีวิว iPhone 8 Plus สมาร์ทโฟนที่เร็วขึ้น แรงขึ้น สวยขึ้น และความสามารถมากขึ้นจาก Apple

ตัวเครื่องภายนอก

iPhone 8 Plus นั้นยังคงหน้าตาเดิมจาก iPhone 7 Plus เอาไว้แทบทั้งหมดเลยทีเดียว โดยหากคุณซื้อมันมาใส่เคสแล้วคงเป็นเรื่องยากมากที่จะแยกมันออกจากกันได้ แต่หากไม่ใส่ไว้ในเคส ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดนั้นคือบริเวณฝาหลังของตัวเครื่องนั่นเอง โดยฝาหลังของ iPhone 8 Plus นั้นเปลี่ยนมาใช้เป็นวัสดุที่ทำมาจากกระจกเพื่อเพิ่มความสามารถในการชาร์จไร้สายให้กับ iPhone 8 Plus (เช่นเดียวกับ iPhone 8 ด้วย) ส่วนใน iPhone 7 Plus ลงมานั้นจะเป็นฝาหลังแบบโลหะนั่นเอง

Advertisement
Advertisement
Advertisement

นอกเหนือไปจากส่วนของฝาหลังแล้ว น้ำหนักของ iPhone 8 Plus ยังมากกว่า iPhone 7 Plus แบบรู้สึกได้อีกด้วย โดย iPhone 8 Plus นั้นมีขนาด 158.4 x 78.1 x 7.5 มม. และหนัก 202 กรัม ในขณะที่ iPhone 7 Plus นั้นมีขนาด 158.2 x 77.9 x 7.3 มม. และหนัก 188 กรัม ซึ่งหากดูจากตัวเลขหน้ากระดาษแล้วอาจไม่เห็นความแตกต่างกันมากนัก แต่เมื่อถือจริงนั้นน้ำหนักทำให้เรารู้สึกได้อย่างแน่นอนว่ามันหนักขึ้นอย่างชัดเจน

iphone-8-plus-review-3.jpeg

สิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงคือสีที่ต่างไปจากเดิม ซึ่ง iPhone 8 Plus ที่อเล็กซ์ถืออยู่นั้นเป็นเครื่องสีทองที่ความทองของสีต่างจากตัวเก่าอย่างเห็นได้ชัด โดยในตัวนี้จะออกเป็นสีทองชมพู แต่ก็จะไม่ชมพูชัดเจนเหมือนที่เราเห็นในสี Rose Gold ทั้งนี้บอกยากจริงๆ ว่าสาเหตุที่สีมันดูต่างไปอย่างชัดเจนนั้นเพราะอะไร แต่ส่วนหนึ่งคาดว่าเพราะการออกแบบหลังเครื่องที่เปลี่ยนเป็นกระจกจึงทำให้สีทองที่ออกมานั้นดูแปลกตาไปจากใน iPhone รุ่น Plus ตัวอื่นๆ ที่ผ่านมาทั้งหมด

ในส่วนของหน้าจอนั้น iPhone 8 Plus และ iPhone 7 Plus แชร์หน้าจอในสเป็กที่เหมือนกันทั้งหมดเลยก็ว่าได้ โดย iPhone 8 Plus นั้นยังคงมีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว LED-backlit IPS LCD ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi) เรโชหน้าจอถึงขอบที่ 67.7% ซึ่งเป็นเหมือนกับ iPhone 7 Plus เด๊ะๆ แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปนั้นคือ iPhone 8 Plus มาพร้อมเทคโนโลยี True Tone Display จาก Apple ที่ช่วยปรับเปอร์เซ็นอุณหภูมิแสงหน้าจอให้ผู้ใช้ได้อย่างแม่นยำและสบายตานั่นเอง ซึ่งในส่วนนี้อเล็กซ์เองก็ไม่มั่นใจว่าด้วยเหตุผลอะไรที่ทำให้ iPhone 7 Plus ไม่มีเทคโนโลยี True Tone Display นี้มาด้วยนอกไปจากเรื่องของการตลาด

การจัดวางปุ่ม กล้อง และลำโพงนั้นออกแบบมาเหมือนกับ iPhone 7 Plus ทุกอย่างแบบแยกกันไม่ได้ นอกจากฟังก์ชั่นเพิ่มเติมในส่วนของผู้ใช้งานที่มีการเพิ่มให้กับ iPhone 8 Plus เช่นลูกเล่นใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับกล้องบน iPhone 8 Plus ที่มีหลากหลายและน่าใช้ขึ้นเยอะ

ประสบการณ์การใช้งาน

ประสบการณ์การใช้งานนั้นคงเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดเมื่อเราจะพูดถึงประสิทธิภาพของมือถือสักตัวหนึ่งที่กำลังรีวิวอยู่ โดย iPhone 8 Plus นั้นมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลตัวล่าสุดจาก Apple เช่นเดียวกับบน iPhone 8 และ iPhone X ซึ่งนั่นก็คือ A11 Bionic ที่เป็นซีพียู 6 หัว โดยมี 4 หัวเป็นซีพียูประสิทธิภาพสูง และอีก 2 หัวเป็นซีพียูประสิทธิภาพทั่วไป นอกจากนี้บน iPhone 8 Plus และ iPhone X นั้นยังมาพร้อมหน่วยประมวลผลช่วย M11 และ RAM ขนาด 3GB ด้วย

ตัวเลขหน้ากระดาษคงไม่สำคัญเท่าการใช้งานจริง ซึ่งก็ต้องบอกว่า iPhone 8 Plus นั้นใช้งานได้อย่างดีลื่นไหลไม่สะดุดบน iOS11 ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องอยู่แล้ว และนั่นก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลกใจอะไรกับอุปกรณ์ iOS แต่คำถามจริงๆ คือเมื่อเทียบความรู้สึกเหล่านั้นกับ iPhone 7 Plus ต่อการใช้งานจริงล่ะ? คำตอบที่ตรงไปตรงมาและชัดเจนที่สุดก็ต้องบอกว่าแทบไม่ได้รู้สึกต่างไปจากเดิมเลยทางด้านการใช้งาน ความไว และความลื่นไหล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็ไม่ใช่ปัญหาของ iPhone 7 Plus อยู่แล้ว ดังนั้นหากไม่เอาตัวเลขมาเป็นเกณฑ์ใดๆ และเอาความรู้สึกมาพูดกันล้วนๆ ก็ต้องบอกว่า “ดีเหมือนเดิม”

สิ่งที่แตกต่างไปและเห็นได้ชัดน่าจะเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอย่าง Siri ที่บน iPhone 8 Plus iOS11 นั้นตอบสนองได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก บางคำสั่งที่โดยปกติเราจะเห็น Siri ต้องใช้เวลาในการประมวลผลพอประมาณนั้น มาบน iPhone 8 Plus แทบจะเรียกได้ว่าทำงานโต้ตอบได้ทันทีโดยไม่ต้องรอประมวลผลเลย เช่นพวกคำสั่งเพิ่มบันทึกหรือนัดหมายต่างๆ ที่ตอบสนองไวมากจนรู้สึกเป็นธรรมชาติในการสื่อสารขึ้นเยอะ

ทั้งนี้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมหลักๆ นั้นคงเป็นเรื่องของ iOS11 ที่อัพเดตขึ้นมาให้ใช้งานได้หลากหลายและง่ายดายขึ้นมากกว่า ซึ่งในส่วนนี้ iPhone ตัวเก่าๆ เองที่ได้รับการอัพเดตอยู่ ถ้าไม่ติดเป็นรุ่นเก่าเกินไปนั้นก็ยังคงได้รับประสบการณ์ที่เหมือนกันกับบน iPhone 8 Plus นี้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้เกิดจากการอัพเกรดสเป็กของตัวเครื่อง iPhone 8 Plus สักเท่าไหร่นัก

เกาะประเด็น:  iOS 26 ตัด iPhone รุ่นเก่าออกจากลิสต์ รองรับเฉพาะ iPhone 11 ขึ้นไป

แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัดจากการอัพเกรดสเป็กเป็นชิปเซ็ต A11 Bionic นั้นคือเรื่องของ…การถ่ายภาพนั่นเอง

กล้องถ่ายรูป

สาเหตุของลูกเล่นกล้องและคุณภาพของภาพถ่ายที่ดียิ่งขึ้นนั้นไม่ได้มาจากการเปลี่ยนแปลงโมดูลกล้องแต่อย่างใด โดยทั้ง iPhone 8 Plus และ iPhone 7 Plus นั้นต่างก็ใช้กล้องหลังคู่ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 สำหรับเลนส์กว้าง และ f/2.8 สำหรับเลนส์แคบเพื่องานซูมภาพ 2X แบบไม่เสียความละเอียดของภาพ ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2 นั่นเอง

ความแตกต่างของกล้องระหว่าง iPhone 8 Plus และ iPhone 7 Plus หรือตัวเก่าๆ นั้นคือเรื่องความสามารถของหน่วยประมวลผล A11 Bionic ซึ่งในครั้งนี้มาพร้อม ISP (Image Signal Processer) เป็นตัวแรกของ iPhone ซึ่งทำหน้าที่ในการประมวลผลภาพในระดับพิกเซลได้ดีมากยิ่งขึ้น ตรงนี้เองที่เป็นจุดเปลี่ยนของคุณภาพของภาพถ่ายที่ถ่ายจาก iPhone 8 Plus ที่ทำได้ดียิ่งขึ้นอย่างชัดเจน

portrait-natural.jpeg
ภาพถ่ายบุคคลโหมด Natural
portrait-studio.jpeg
ภาพถ่ายบุคคลโหมด Studio
Portrait-contour
ภาพถ่ายบุคคลโหมด Contour
Stage Light
ภาพถ่ายบุคคลโหมด Stage Light
Stage Light Mono
ภาพถ่ายบุคคลโหมด Stage Light Mono

นอกจากคุณภาพรูปทั่วไปที่ดีขึ้นแล้ว หนึ่งในสิ่งที่อดพูดถึงไม่ได้เลยบน iPhone 8 Plus คือโหมด Portrait หรือการถ่ายรูปบุคคลที่มาพร้อมโหมดย่อยการให้แสงไฟแบบต่างๆ ลงไปอีกตั้งแต่ Natural Light (แสงธรรมชาติ) Studio Light (แสงสตูดิโอ) Contour Light (แสงคอนทัวร์) Stage Light (แสงเวที) และ Stage Light Mono (แสงเวทีแบบโมโนซึ่งเป็นลักษณะภาพขาวดำ) โดยทั้ง 5 โหมดย่อยนี้ยังคงเป็นเวอร์ชั่นเบต้าอยู่ในขณะที่ทดสอบ แต่ก็ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีและน่าสนใจมากทีเดียว ที่สำคัญคือถ่ายง่ายมาก ไม่ต้องเล็งให้วุ่นวายเหมือนประสบการณ์การใช้กล้องถ่ายภาพบุคคลบนมือถือเรือธงรุ่นอื่นเช่น Samsung Galaxy Note 8 และเอฟเฟ็คต่างๆ ใน Portrait Mode นั้นจะเป็นการแสดงแบบเรียลไทม์หรือเห็นจริงก่อนถ่ายเลย ไม่ได้มาทำเอาทีหลังจากการถ่ายไปแล้ว

ภาพถ่ายที่เราถ่ายด้วย Portrait Mode ทุกภาพนั้นสามารถนำมาปรับแสงในโหมดย่อย Portrait ได้ทีหลังผ่านทางแอพ Photo ของ Apple เลย โดยข้อกำหนดเดียวคือต้องเป็นรูปที่ถ่ายจาก Portrait Mode เท่านั้น

portrait-edit.jpeg
portrait-edit-2.jpeg

อีกหนึ่งอย่างที่ต้องชื่นชมคือความสามารถ Slow Sync Flash ซึ่งช่วยให้ภาพถ่ายที่ถ่ายพร้อมแฟลชออกมาดูธรรมชาติและสวยงามมากขึ้น ซึ่งในส่วนนี้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนมาก จากเดิมที่อเล็กซ์เองเป็นพวกไม่ชอบใช้แฟลชบนมือถือเลยเพราะมันให้แสงที่จ้าและไม่เป็นธรรมชาติมากและจะปิดมันเอาไว้ตลอดเวลา แต่พอได้มาลองแฟลชบน iPhone 8 Plus นั้นได้ข้อสรุปเลยว่าไม่จำเป็นต้องปิดแฟลชไว้อีกต่อไป เพราะต่อให้ iPhone 8 Plus ใช้แฟลชโดยอัตโนมัติวาบออกมา ภาพที่ได้ก็ยังคงได้แสงที่สวยตามสมควร ไม่วาบจ้าจนเกินไป ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างภาพถ่ายนี้

IPhone 8 Plus Slow Sync
ภาพถ่ายเปิดแฟลชจาก iPhone 8 Plus ที่มี Slow Sync
Note-8-flash
ภาพถ่ายเปิดแฟลชทั่วไปที่ไม่มี Slow Sync

นี่แหละคือความน่าประทับใจที่ต้องพูดถึงมากๆ ในเจ้า iPhone 8 Plus ตัวล่าสุดนี้ และหากจะมีเหตุผลใดที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมจริงๆ ในการอัพเกรด iPhone 7 Plus ที่คุณใช้อยู่มาเป็น iPhone 8 Plus ก็เห็นจะเป็นเรื่องของความสามารถในการถ่ายรูปของมันนี่ล่ะครับ

และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ iPhone 8 Plus

iphone-8-plus-1.jpeg
รูปถ่ายชั้นหนังสือ โฟกัส ROCKY
iphone-8-plus-2.jpeg
รูปถ่ายชั้นหนังสือ โฟกัส ROCKY 2X
iphone-8-plus-4.jpeg
รูปถ่ายโฟกัสประตูแดง
iphone-8-plus-3.jpeg
รูปถ่ายโฟกัสประตูแดง 2X
iphone-8-plus-5.jpeg
รูปถ่ายทั่วไป ไม่ Portrait Mode
iphone-8-plus-6.jpeg
รูปถ่าย Portrait Mode
iphone-8-plus-7.jpeg
รูปถ่ายสภาพแสงน้อย โฟกัสชุดโต๊ะ
iphone-8-plus-8.jpegiphone-8-plus-8.jpeg
รูปถ่ายสภาพแสงน้อย โฟกัสชุดโต๊ะ 2X
iphone-8-plus-9.jpeg
รูปถ่ายสภาพแสงทั่วไป 1
iphone-8-plus-10.jpeg
รูปถ่ายสภาพแสงทั่วไป 2
iphone-8-plus-11.jpeg
รูปถ่ายสภาพแสงทั่วไป 3
iphone-8-plus-12.jpeg
รูปถ่ายสภาพแสงในอาคาร

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า (กล้องเซลฟี่) ของ iPhone 8 Plus

iphone-8-plus-selfie.jpeg
กล้องหน้าในสภาพแสงกลางแจ้ง
iphone-8-plus-selfie-2.jpeg
กล้องหน้าสภาพแสงน้อย LED Flash

 

แบตเตอร์รี่

สิ่งที่หลายๆ คนกังวลกันเห็นจะเป็นเรื่องของแบตเตอร์รี่ที่มีความจุที่ลดลงจากตัว iPhone 7 Plus ไปหน่อยหนึ่ง โดยเจ้า iPhone 8 Plus นั้นมีความจุของแบตเตอร์รี่อยู่ที่ 2,691mAh โดยรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วไร้สายแบบ Qi ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ใน iPhone นั่นเอง

iphone-8-plus-battery.jpeg
แบตเตอร์รี่เตือน 20% ตอน 22:56 น.

จากการใช้งานจริงนั้น แม้แบตเตอร์รี่จะมีขนาดเล็กลงจาก iPhone 7 Plus แต่ก็ยังใช้งานอย่างเต็มที่ต่อเนื่องได้นานเพียงพอต่อหนึ่งรอบชาร์จในหนึ่งวัน โดยอเล็กซ์ได้ลองจับเวลาการใช้งานจริงดูซึ่งเริ่มถอด iPhone 8 Plus ออกจากที่ชาร์จตอนเจ็ดโมงเช้านั้นพบว่าแบตเตอร์รี่ค่อยไปแจ้งเตือนสีแดงที่ 20% ตอนเกือบๆ จะห้าทุ่มโน่นเลย โดยที่ระหว่างวันนั้นอเล็กซ์เปิดการเชื่อมต่อไว้ทั้งหมดทั้ง WiFi และ Bluetooth ซึ่งเชื่อมต่ออยู่กับ Apple Watch Series 3, AirPods และฟรอนต์รถของตัวเองอยู่ตลอดเวลา รวมไปจนถึงมีการใช้งาน GPS ในการนำทางด้วย Google Map เป็นเวลาประมาณ 20 นาทีระหว่างวันด้วย เรียกได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นเป็นที่น่าพอใจมากทีเดียว

ดังนั้นหากเพื่อนๆ กำลังกังวลว่า iPhone 8 Plus จะไม่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวันนั้น ขอให้ลืมความกังวลดังกล่าวไปได้เลย เพราะหากเพื่อนๆ มีรอบการใช้งานและการชาร์จตามปกติทั่วไปแล้ว iPhone 8 Plus สามารถใช้งานแบบฮาร์ดคอร์ได้ครอบคลุมตลอดทั้งวันอย่างแน่นอน

ควรอัพเกรดเป็น iPhone 8 Plus หรือไม่

หลังจากได้ทดสอบเจ้า iPhone 8 Plus มาเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้วเราได้ข้อสรุปว่า iPhone 8 Plus นั้นเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงที่ดีมากเป็นเบอร์ต้นของตลาด ณ ตอนนี้เลยอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานที่ยังคงทำได้ดีอย่างไม่มีอะไรให้ต้องติ หรือจะเป็นเรื่องของกล้องถ่ายภาพเองที่พัฒนาขึ้นมาจากเดิมพร้อมลูกเล่นใหม่ๆ ที่น่าสนใจเยอะแยะมากมาย แต่นี่จะเพียงพอให้คุณเสียเงินอัพเกรด iPhone ตัวปัจจุบันของคุณหรือไม่น่ะเหรอ…อันนี้คงต้องบอกว่าขอให้พิจารณาปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วยดีกว่า

หากเครื่องเดิมของคุณเป็น iPhone 7 Plus และคุณไม่ได้มีความอยากลองหรือสนใจในฟีเจอร์กล้องถ่ายรูปที่มีเพิ่มมากขึ้น อเล็กซ์คิดว่าคงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะเสียเงินเพิ่มเพื่ออัพเกรดเป็น iPhone 8 Plus ที่มีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกันเหลือเกินนี้เลยสักนิด เพราะนอกจากรูปร่างแล้ว ประสิทธิ์ภาพการใช้งานในองค์รวมนั้นก็ยังพอๆ กันในด้านความรู้สึกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากคุณสนใจฟีเจอร์กล้องและชอบในตัวเลขผลการทดสอบต่างๆ ที่มีออกมา การพิจารณาอัพเกรดฮาร์ดแวร์ไปเป็น iPhone 8 Plus นั้นก็ไม่ได้ถือเป็นเรื่องน่าเสียหายอะไรเหมือนกัน

ส่วนหากคุณใช้ iPhone รุ่นที่เก่าลงมากว่านั้น การอัพเกรดไปเป็น iPhone 8 Plus จะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งาน iPhone บน iOS11 ที่ดีมากยิ่งขึ้นจนรู้สึกได้ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน

แต่ทั้งนี้เรื่องจริงที่ว่า iPhone X เองก็กำลังจะออกมาให้ได้ซื้อหากัน พร้อมการออกแบบดีไซน์ใหม่ทั้งหมดนั้นก็ควรเป็นหนึ่งในปัจจัยการประกอบการตัดสินใจในครั้งนี้ ซึ่ง APPDISQUS เองขอแนะนำว่าหากคุณรอได้และสู้ราคาไหวก็ควรจะรอ iPhone X ออกมาแล้วค่อยอัพเกรดเลยดีกว่า เพราะนอกจากจะได้สเป็กที่ดีกว่าเจ้า iPhone 8 Plus ในเรื่องกล้องหน้าแบบ True Dept ที่นำมาใช้ในการปลดล็อก FaceID และการถ่ายภาพ Portrait ด้วยกล้องหน้าไปแล้ว คุณยังจะได้ iPhone ที่มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างชัดเจนโดยไม่ต้องพยายามมองหาความแตกต่างอีกด้วย ซึ่งความแตกต่างที่ว่านี้ควรเป็นหนึ่งในปัจจัยต้นๆ ในการตัดสินใจเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ใหม่สักเครื่องหากประสิทธิภาพการทำงานของมันแทบไม่ต่างจากฮาร์ดแวร์รุ่นก่อนหน้าอย่างในกรณีของ iPhone ในครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าผลการตัดสินใจของคุณจะเป็นเช่นไร สิ่งหนึ่งที่จะจริงแท้แน่ทรูก็คือเรื่องที่ว่า iPhone 8 Plus นั้นคือมือถือเรือธงจาก Apple ณ ปัจจุบันที่ให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีมากๆ เป็นเบอร์ต้นของตลาดสมาร์ทโฟนเหมือนเช่นเคย

Advertisement
apple iPhone 8 Plus
Google News YouTube
Share. Facebook Twitter LinkedIn Email Copy Link
Avatar photo
Alex
  • Website
  • Facebook
  • X (Twitter)
  • Instagram

อเล็กซ์ หรือ เอ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหยิบเอามือถือหรือ iPad ข้างกายตนมาจับๆ จิ้มๆ ตามประสาคนมีงานแต่ชอบเล่นเกม คุณสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและให้กำลังใจเอได้เสมอผ่านทางการคอมเมนต์ในบทความนี้

Advertisement
Advertisement
Advertisement

Related Posts

Apple

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025
Apple

iOS 26 มาแล้ว ดีไซน์ใหม่ Liquid Glass พร้อมแอปเกม สู่ยุคใหม่เต็มรูปแบบ

10 มิถุนายน 2025
Apple

WWDC 2025 เปิดฉาก! เผยโฉม iOS 26, macOS Tahoe และอนาคตซอฟต์แวร์ Apple

10 มิถุนายน 2025
Apple

iOS 26 ตัด iPhone รุ่นเก่าออกจากลิสต์ รองรับเฉพาะ iPhone 11 ขึ้นไป

10 มิถุนายน 2025
Apple

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดดูงาน Apple WWDC 2025 คืนวันจันทร์นี้

9 มิถุนายน 2025
Apple

Apple หักค่าคอมมิชชันสูง แต่สร้างรายได้มหาศาลให้ผู้พัฒนาแอป

30 พฤษภาคม 2025
What Score?
8.1
Devices

รีวิว iQOO Neo 10 เกิดมาเพื่อเกมเมอร์ สเปกแรง! จัดเต็มแม็กซ์ 7000mAh

By Noppinij5 มิถุนายน 2025288 Views
7.6
Devices

รีวิว realme C71 สมาร์ตโฟนสุดคุ้ม บางเบา สวยงาม แบตอึดที่สุดในรุ่น

By Noppinij4 มิถุนายน 2025
8.4
Your Updates

รีวิวหัวชาร์จ CUKTECH AD1003 120W ชาร์จเร็วครบ! ทุกเรือธงแบรนด์จีน

By Noppinij14 พฤษภาคม 2025
48
Xbox & PC World

Review : Scarred เกมสยองขวัญจากสิงคโปรที่ยังขาดความน่ากลัว

By Teethasade Isarankura Na Ayudhaya6 พฤษภาคม 2025

On AppDisqus Channel

3 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาดดูงาน Apple WWDC 2025 คืนวันจันทร์นี้

Follow Us
  • Facebook
  • Twitter
  • YouTube
  • TikTok
Latest
Your Updates

เทคโนโลยีทะลุขีดจำกัด! สมองคอมพิวเตอร์บางระดับอะตอม ไร้ความหนาแบบ 2D มาแล้ว

By Noppinij15 มิถุนายน 2025

Sony ปลดล็อกภูมิภาค Steam สำหรับเกม PlayStation ที่พอร์ตลงแล้ว

14 มิถุนายน 2025

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025

iOS 26 ส่องฟีเจอร์ใหม่ที่ Android เคยมีมาก่อนแล้วหลายปี

14 มิถุนายน 2025

แท็บเล็ตเกมมิ่งรุ่นเล็ก Redmi K Pad โผล่บน Geekbench ใช้ชิป Dimensity 9400+ พร้อม Android 15

14 มิถุนายน 2025
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
Your Updates

เทคโนโลยีทะลุขีดจำกัด! สมองคอมพิวเตอร์บางระดับอะตอม ไร้ความหนาแบบ 2D มาแล้ว

15 มิถุนายน 2025
Gaming

Sony ปลดล็อกภูมิภาค Steam สำหรับเกม PlayStation ที่พอร์ตลงแล้ว

14 มิถุนายน 2025
Apple

iOS 26 แปลภาษาสดได้ในสายสนทนา พร้อมทำงานได้แบบออฟไลน์

14 มิถุนายน 2025
Android

iOS 26 ส่องฟีเจอร์ใหม่ที่ Android เคยมีมาก่อนแล้วหลายปี

14 มิถุนายน 2025
แอพดิสคัส
Facebook X (Twitter) Instagram YouTube TikTok
  • Home
  • ติดต่อโฆษณา
  • Cookies Policy & Settings
© 2025 APPDISQUS.COM APPDISQUS : A Source You Can Trust.

Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ ดูเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าคุกกี้อนุญาตทั้งหมด
ตั้งค่าความยินยอม

Privacy Overview

AppDisqus.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานในขณะที่คุณกำลังอ่านและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ โดยในบรรดาคุกกี้เหล่านี้ คุกกี้ประเภทข้อมูลที่จำเป็นนั้นจะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ส่วนตัวของคุณเองที่ใช้สำหรับการเข้าชมเว็บไซต์เนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าคุกกี้เหล่านี้เป็นคุกกี้ที่จำเป็นเพื่อให้เว็บไซต์สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ นอกจากนี้เรายังใช้คุกกี้บุคคลที่สามเพื่อให้เราสามารถวิเคราะห์และเข้าใจการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ของคุณมากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้เหล่านี้จะถูกจัดเก็บเอาไว้บนอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น และจะจัดเก็บได้ก็ต่อเมื่อคุณได้การอนุญาต ทั้งนี้คุณสามารถจัดการกับการตั้งค่าคุกกี้ของคุณได้เสมอผ่านทางเมนูการตั้งค่านี้

อย่างไรก็ตาม การปิดการใช้งานคุกกี้บางประเภทอาจทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ส่งผลต่อประสบการณ์การใช้งานของคุณได้
ข้อมูลจำเป็น
Always Enabled
คุกกี้บางประเภทนั้นจำเป็นที่จะต้องนำมาใช้งานเพื่อทำให้เว็บไซต์สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ครบฟังก์ชั่นกับผู้ใช้งานได้ โดยคุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เราคงเซ็สชั่นการเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณเอาไว้ ตลอดจนป้องกันสิ่งต่างๆ ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งานเว็บไซต์ AppDisqus.com ทั้งนี้ คุกกี้ประเภทนี้จะไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานแต่อย่างใด ยกตัวอย่างเช่น คุกกี้ประเภทนี้จะใช้เพื่อให้คุณสามารถเข้าสู่ระบบและคงสถานะการเข้าระบบของคุณบนเว็บเว็บไซต์เราเอาไว้ได้นั่นเอง
CookieDurationDescription
AWSALBCORS7 daysAmazon Web Services ใข้คุกกี้นี้เพื่อเป็นการใช้งานฟังก์ชั่น load balancing หรือการกระจายโหลดเซิร์ฟเวอร์
cf_use_obpastCloudflare ใช้คุกกี้นี้เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพความรวดเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์ เพื่อประสบการณ์การใช้งานของผู้เข้าชม
cookielawinfo-checkbox-analytics11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ข้อมูลสถิติ"
cookielawinfo-checkbox-functional11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ฟังก์ชั่นการทำงาน"
cookielawinfo-checkbox-necessary11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "จำเป็น"
cookielawinfo-checkbox-others11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "อื่นๆ"
cookielawinfo-checkbox-performance11 monthsคุกกี้นี้จัดเก็บความยินยอมของผู้ใช้งานให้กับคุกกี้ในหมวดประเภท "ประสิทธิภาพ"
JSESSIONIDsessionคุกกี้ JSESSIONID ถูกใช้โดย New Relic เพื่อเป็นการเก็บไอดีจำเพราะในการเข้าใช้งานของผู้ใช้งานเพื่อให้ New Relic สามารถติดตามและตรวจนับเซ็ตชั่นการเข้าใช้งานเว็บไซต์ได้
viewed_cookie_policy11 monthsคุกกี้นี้ใช้เพื่อเป็นการเก็บความยินยอมในการอนุญาตให้จัดเก็บและใช้งานคุกกี้ของผู้ใช้งาน โดยไม่มีการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ของผู้ใช้งานแม้แต่น้อย
ข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงาน
คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลเพื่อฟังก์ชั่นการทำงานที่อาจไม่ได้จำเป็นที่สุดบนหน้าเว็บไซต์ AppDisqus.com ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่นการฝังสื่อประเภทวิดีโอและปุ่มการแชร์บทความไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ บนเว็บไซต์เป็นต้น
ข้อมูลประสิทธิภาพ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจในประสบการณ์การทำงานของเว็บไซต์ต่อผู้ใช้งาน เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลสถิติ
คุกกี้ประเภทนี้จะจัดเก็บข้อมูลประเภทสถิติ เช่นตัวเลขผู้เข้าชมเว็บไซต์ ตัวเลข UIP หรือผู้ใช้งานที่นับต่อ IP ข้อมูลหน้าเว็บไซต์ที่ถูกเข้าถึงบ่อยที่สุด ข้อมูลแหล่งที่มาของการเข้าถึง และอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน โดยข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของเว็บไซต์เราได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนชี้ให้เห็นว่าเราควรปรับปรุงในเรื่องใดเพื่อประสบการณ์ที่ดีขึ้นของผู้ใช้งาน
CookieDurationDescription
_ga_CE4TLMWX4S2 yearsคุกกี้ถูกติดตั้งโดย Google Analytics เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
_gid1 dayติดตั้งโดย Google Analytics โดย คุกกี้ _gid นี้ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของผู้เข้าชม ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ในการจัดทำสถิติสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย โดยข้อมูลที่เก็บนั้นยกตัวอย่างเช่นจำนวนผู้เข้าชม แหล่งที่มา และหน้าที่ผู้เข้าชมเปิดอ่านโดยไม่เปิดเผยตัวตนของผู้เข้าชม
ข้อมูลเพื่อการโฆษณา
คุกกี้ประเภทโฆษณาจะช่วยให้เราสามารถเผยแพร่โฆษณาที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการของผู้เข้าชมเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น โดยคุกกี้ประเภทนี้จะติดตามการใช้งานในเว็บไซต์ AppDisqus เท่านั้นเพื่อการเผยแพร่โฆษณาได้อย่างตรงความต้องการของผู้ใช้งานต่อไป
CookieDurationDescription
IDE1 year 24 daysคุกกี้จาก Google DoubleClick IDE นี้ติดตั้งโดย Google เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อกำหนดมาตรฐานในการเลือกโฆษณาที่ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมาแสดงบนหน้าเว็บไซต์
test_cookie15 minutesคุกกี้นี้ถูกติดตั้งโดย Doubleclick.net (Google) เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าบราวเซอร์ที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์ใช้งานอยู่รองรับคุกกี้หรือไม่
VISITOR_INFO1_LIVE5 months 27 daysคุกกี้นี้ถูกใช้งานโดย Youtube เพื่อตรวจสอบแบนด์วิดธ์ที่ผู้ใช้งานใช้ในการเปิดดูวิดีโอ เพื่อเป็นการระบุเวอร์ชั่นของตัวเล่นวิดีโอว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือเก่า
YSCsessionคุกกี้ YSC ถูกติดตั้งและใช้งานโดย Youtube โดยใช้เพื่อเป็นการดึงเอาข้อมูลวิดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ขึ้นมาแสดงในหน้าที่ดึงเอาวิดีโอนั้นๆ มาแสดง
yt-remote-connected-devicesneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt-remote-device-idneverYoutube ติดตั้งคุกกี้นี้เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลการตั้งค่าการเล่นวิดีโอของ Youtube บนเว็บไซต์นี้เพื่อใช้ในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
yt.innertube::nextIdneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
yt.innertube::requestsneverคุกกี้จาก Youtube ประเภทนี้ใช้สำหรับการสร้างเลขไอดีจำเพาะเพื่อเก็บข้อมูลของวิดีโอที่ผู้เข้าชมเพิ่งรับชมไปในเว็บไซต์นี้
ข้อมูลอื่นๆ
คุกกี้ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ได้มีการระบุหมวดหมู่ประเภทเอาไว้ แต่อาจมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์
SAVE & ACCEPT
Powered by CookieYes Logo